ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นก็ต้องบอกว่า ผมก็เป็นอีกคนหนึ่งที่พลาดงานนี้ เนื่องจาก เวลาในการจัดงาน ก็ไม่รู้ว่า บุคคลที่ไม่ได้เรียน หรือทำงาน ที่ธรรมศาสตร์ จะไปทันการสัมมนาครั้งนี้ได้อย่างไร... ยังไงก็ขอบคุณทางเว็บประชาไท ที่ถอดความมาให้แบบเต็มๆครับ... เรื่องเนื้อหา ผมต้องขอคอมเมนท์หัวข้อเกี่ยวกับ " ความยุติธรรม " ที่ทาง อ.วรเจตน์ บรรยายก่อน เนื่องจากค่อนข้างเห็นขัดแย้ง ผมมองว่าการแยกประเภทของความยุติธรรมออกเป็นชนิดๆ มันดูเป็นอะไรที่ไม่ใช่มาตรฐาน และไม่ได้ช่วยอะไรมากไปกว่าการแบ่งหมวดหมู่เท่านั้น และยังดูขัดแย้งด้วยว่า เราพยายามจะนำตัวบ่งชี้แบบแน่ชัดตายตัว มาใช้กับสิ่งที่เป็น " อัตวิสัย " แล้วแต่คนคิด โดยส่วนตัวแล้ว ผมว่า " ความยุติธรรม " อาจไม่สามารถให้นิยามได้โดยแท้จริง เป็นเพียงความรู้สึก อย่างที่ทาง อ.วรเจตน์ ว่าไว้ แต่มันมีตัวบ่งชี้อยู่ครับ... นั่นคือ " กระแสของประชาชน " เราอาจไม่สามารถบอกได้ว่า การกระทำแบบไหนเรียกว่า ยุติธรรม ร้อยคนก็ร้อยความเห็น แต่เมื่อเราดูที่กระแสของประชาชน อาจไม่แม่นยำ 100% แต่เราสามารถดู " แนวโน้ม " ได้ครับว่า การกระทำแบบไหนใกล้เคียงกับความอยุติธรรมมากขึ้นไปทุกทีแล้ว... การกระทำใดๆที่ " ก้ำกึ่ง " กระแสของประชาชนก็จะไม่ชัดเจน แต่ถ้าคุณกระทำสิ่งที่ " ล้ำเส้น " ไปแล้ว มันจะสะท้อนออกมาเองครับ... มันอาจไม่ใช่ตัววัดที่ดีที่สุด เพราะอาจขึ้นอยู่กับหลายสิ่ง เช่นภาพพจน์ ความนิยมทางการเมือง ธรรมเนียมปฏิบัติ ฯลฯ ทำให้เส้นแบ่งตรงนี้อาจโน้มเอียงหรือไม่เด่นชัด แต่เมื่อคุณทำสิ่งที่ละเมิดความยุติธรรมไปมาก กระแสของประชาชนมันจะฟ้องออกมาแบบที่ไม่ต้องวิเคราะห์ใดๆทั้งสิ้น สุดท้าย ก็เลยจะเรียนถามท่านผู้ยิ่งใหญ่ในกระบวนการยุติธรรมทั้งหลายว่า... " ท่านเคยสังเกตกระแสของประชาชนที่ตอบสนองต่อการกระทำของพวกท่านหรือไม่ ? " หรือเห็นเป็นเพียงเสียงนกเสียงกา และเชื่อมั่นเพียงอย่างเดียวว่าสิ่งที่ออกจากสมองและลมปากของพวกท่าน เป็นความยุติธรรมอย่างถึงที่สุดแล้ว... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 00:43:41 A:124.121.245.217 X:

ความคิดเห็นที่ 2 แต่มันมีตัวบ่งชี้อยู่ครับ... นั่นคือ " กระแสของประชาชน "  <<< ผมไม่เห็นด้วยครับ เพราะประชาชนสามารถถูกปลุกปั่นโดยเดมาก็อกได้ง่าย และมีวาทะอื่น ๆ ที่ทำให้บิดเบี้ยววิจารณญาณของประชาชนได้ง่าย ดูสมัยตอนคดีซุกหุ้นก็ได้ครับ เพราะปล่อยให้ กระแสของประชาชน มามีอิทธิพลต่อคำตัดสินนี่แหละครับ นักวิชาการเขาถึงวิพากษ์วิจารณ์ศาลกันให้ขรม (ขนาดอ. วรเจตน์ยังไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของศาลฉบับนั้นเลย) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 00:55:33 A:10.9.23.219 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 3 ^ ^ ผมมิได้ต้องการให้ กระแสของประชาชน มามีผลต่อการตัดสินของศาลครับ... อ่านให้ดีๆ ผมต้องการให้มันเป็นตัว feedback ผลการตัดสินของศาลต่างหาก เช่น คดีซุกหุ้น ก่อนตัดสิน ประชาชนอาจบอกว่า " ให้โอกาส " แต่ถ้าสมมติว่า ตัดสินว่าผิด ไปแล้วเกิดผลอย่างไร... ประชาชน รับได้ จำใจรับ หรือเกิดความกังขา นี่คือสิ่งที่ต้องมาดูกัน... ในความคิดของประชาชนนั้น บางทีอาจเกิดการปนกันระหว่างหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ แต่ถ้าศาลได้ตัดสินตามหลักกฎหมายให้ไม่เกิดข้อกังขาใดๆ ประชาชนที่อยากให้ศาลใช้หลักรัฐศาสตร์มาตัดสิน เขาจะไม่อยู่ในสภาพที่บอกได้ว่า " ไม่ยุติธรรม " ครับ... แล้วเป็นเรื่องที่น่าตลกนะครับ ถ้าบอกว่า " วิจารณญาณของประชาชนถูกบิดเบือนได้ง่าย " ในเมื่อศาล มันก็คือ ประชาชน เหมือนกัน... ศาลถูกบิดเบือนได้หรือไม่ ??? จากอำนาจที่ไม่ใช่ประชาชนนี่ล่ะ... คำถามนี้คำตอบก็คงรู้ๆกันอยู่แล้ว... แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 01:49:33 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 01:38:44 A:124.121.245.217 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ใครมีความเห็นเกี่ยวกับหัวข้อบรรยายอื่นๆเพิ่มเติมได้ครับ จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 01:41:19 A:124.121.245.217 X:

ความคิดเห็นที่ 5 กระแสของประชาชน ศาลท่านก็เอามาพิจารณาครับ แต่เ็ป็นกรณีไป ส่วนใหญ่แล้ว เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง เช่นกรณีสนธิลิ้มครั้งแรก หรือกรณีของวัดพระธรรมกาย เป็นต้น พอเอาำคำว่าแล้วแต่กรณีไปมาพิจารณานี่แหละครับ ที่เป็นตัวปัญหา เพราะตรงนี้มีอคติมาปน ศาลทุกคนเรียนหนังสือเหมือนกัน สถาบันเดียวกันด้วยซ้ำ อ่านหนังสือเล่มเดียวกัน กฏหมายฉบับเดียวกัน แต่เห็นไม่เคยตรงกัน ผมก็เลยไม่ค่อยจะเข้าใจ เพราะเรียนสายวิทย์ ที่สุดเลยคือ ทำอะไรก็ไม่ผิดนั่นแหละ ทำให้อหังการ คิดว่าถ้ามีเหตุผลรองรับก็ถือว่าใช้ได้ ซึ่งในทางปฏิบัติแล้วไม่บูรณาการ แต่สุดท้ายแล้วปัญหาคือตราชั่งเอียงนั่นแหละ ที่เป็นปัญหาหลัก เพราะมันชัดเกิน ทำไมถึงชัด คดีเนวิน ชัดที่สุด เพราะนึกไม่ออกว่าทำไมเนวินถึงยอมทิ้งคุณทักษิณมาช่วยท่าน(รักษาการ)นายกอภิสิทธิ์ จึงต้องอ๋อเมื่อผลออกมา แต่คดีทีดินรัชดา ทักษิณผิดจริงครับ เป็น conflict of interest ซึ่งผมงงว่าทีมกฏหมายท่านทำไมถึงปล่อยให้เซ็นต์ไปได้ หรืออีกทางคือทำไมฝ่ายจัดการประมูลไม่ตีตกไปก่อนเพราะมันชัดว่าเป็นเมียนายก แปลกดี จากคุณ : คนไทย (Peeting) เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 03:02:01 A:124.169.127.9 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ผมว่า อ.วรเจตน์ต้องการสะท้อนว่า จะตัดสินอย่างไร มันต้องมีเส้นที่เป็นเส้นตรง อ.เคยพูดถึงกรณีนายสมัคร สุนทรเวท กับ จรัล ภักดีธนากุลไว้น่าสนใจ ว่า ถ้านายสมัคร ถูกตัดสินกรณีลูกจ้าง ทำไม จรัล ไม่โดน.......นี่คือสิ่งสะท้อนว่า ทำไมประชาชนถึงรู้สึกถึงความไม่เท่าเทียมที่ได้รับ ทำให้รู้สึกว่าไม่สามารถพึ่งกระบวนการยุติธรรมได้ เพราะมันเอียงไปเอียงมา กฏหมายใช้ได้กับคนบางพวกเท่านั้น... ส่วนเรื่องกระแสของประชาชน ก็ต้องดูว่า ก่อนหรือหลังคำตัดสิน....ตัวผมเองนั้นเห็นว่า กระแสของสังคม เป็นแรงกดดันเพื่อหวังผลแห่งการตัดสิน แต่ถ้าผู้พิพากษาตัดสินตามตัวบทกฏหมาย อย่างยุติธรรมและเป็นไปตามหลักนิติรัฐแล้ว กระแสแม้จะต่อต้านเช่นไร แต่เหตุผลแห่งการต่อต้านนั้นจะอ่อนไปเอง...เพียงแต่ประเด็นหรือปัญหาในข้อข้องใจของคดีต่างๆ ต้องได้รับการชี้แจงและเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา กรณีีที่ดินของทักษิณชินวัตรนั้น...ส่วนตัวผมเห็นว่า ก่อนการประมูลนั้น ก็ได้สอบถามนักกฏหมาย และแม้แต่บริษัทประมูล รวมไปถึงการดูกฏหมายเรื่องนี้แล้วเช่นกัน conflict of interest แต่ผมจำได้ว่า บริษัทนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของรัฐบาล รู้สึกจะเป็นกองทุนฟื้นฟูอะไรหรือเปล่าผมจำไม่ได้ ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของธ.แห่งประเทศไทย ซึ่งก็ไม่ได้อยู่กับก.คลังอยู่ดี และก็ไม่ได้อยู่ภายใต้การกำกับดูของรัฐฯอยู่ดี จึงไม่น่าจะเข้ากับข้อกฏหมาย......(บางคนถึงกับร้องเรียนว่า อย่างนี้ นายกก็คงซื้ออะไรไม่ได้...จากห้างก็ไม่ได้ เพราะบริษัทของห้างอาจขึ้นอยู่กับกระทรวงพานิชย์)แต่จนแล้วจนรอดก็โดนอยู่ดี ทำให้ผมคิดว่า ต่อไปคงต้องส่งเรื่องให้ศาลตัดสินก่อนทำอะไรลงไปแล้ว(คิดเล่นๆว่า ผมวางแผนต่างๆ แล้วมีผู้เสียชีวิต จากแผนของผม ผมจะผิดไหม คงต้องเขียนแผนต่างๆ แล้วส่งศาลพิจารณาคดี ก่อนลงมือทำ...) ข้อมูลรายละเอียดบางอย่าง ผมจำไม่ได้ หากมีผู้ใดจำได้ ช่วยแก้ไขด้วยครับ.. จากคุณ : nice bad boy เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 05:27:15 A:220.244.36.30 X:

ความคิดเห็นที่ 7 กรณี ที่ดินรัชดา ไม่อยากจะสาวให้ยาวเพราะเป็นเรื่องที่เคยมีการถกกันไว้นานแล้ว และมากพอควร แต่ประเด็นที่ผมมอง แบบชัดที่สุด คือ แม้แต่ศาล ยังเห็นต่างกัน 5/4 ลองสมมุติง่ายๆว่า คุณทักษิณเคยสอบถาม ผู้พิพากษาเสียงข้างน้อยแล้ว ท่านเหล่านั้นก็ต้องให้ความเห็นไปในแนวทางที่พิพากษา ใช่หรือไม่ ??? ท้ายสุด ก็มีคนตั้งข้อสังเกตว่า ทำไม่ไม่มีประเด็นเรื่อง การรอลงอาญามาพิจารณา ??? ถามคนที่เห็นว่า คุณทักษิณ ผิด คุณคิดว่า เขามีเจตนาจะทำผิดในกรณีนี้หรือไม่   ??? แม้ต้องเคารพคำตัดสิน แต่หลักการทางกฏหมายก็มีอยู่ทำให้มีคนตั้งขอสังเกตในคดีนี้อีกนานครับ จากคุณ : รสกร เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 08:56:26 A:10.2.4.9 X:115.31.143.71

ความคิดเห็นที่ 8 rep 5 ผมคิดว่า คุณยึดติดกับ " ตัวบ่งชี้ " ทางวิทยาศาสตร์มากไปครับ... ( เห็นบอกว่าเรียนสายวิทย์มา ) จริงอยู่ที่ผู้พิพากษาอาจเรียนจบจากสถาบันเดียวกัน ใช้หนังสือเล่มเดียวกัน หรือแม้แต่อาจมีอาจารย์สอนคนเดียวกัน แต่ไม่จำเป็นครับ... ที่จะต้องตัดสินเหมือนกัน เพราะเรื่องเหล่านี้ บางทีมันไม่สามารถแยกแยะระหว่าง ถูก - ผิด ดี - ชั่ว ได้อย่างเด็ดขาด เพราะเส้นแบ่งมันคลุมเครือ เรื่องเหล่านี้มันไม่ใช่ 1 + 1 = 2 หรือว่า ความเร็ว x เวลา = ระยะทาง ครับ การตัดสินสิ่งที่เกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ มันไม่ได้ง่ายและเถรตรงขนาดนั้น อย่าง นาย ก. ทำผิด พิสูจน์แล้วว่าทำจริง แต่ทำไปเพราะอะไร... มีแรงจูงใจอย่างไร... มันมีแง่มุมให้คิดได้อีกมาก และศาลแต่ละคนก็มีความคิดวิจารณญาณไม่เท่าเทียมกัน แต่แน่นอนครับ... ความยุติธรรมที่บูดๆเบี้ยวๆเช่นปัจจุบัน คงจะเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ประชาชนคิดไปในทางเดียวกันว่า " การตัดสินนั้นยุติธรรมแล้ว " จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 09:17:31 A:124.120.6.215 X:

ความคิดเห็นที่ 9 มาดูที่ คดีที่รัชดา จะบอกว่า ชัดเจนว่าทักษิณผิด หรือทีมกฎหมายทำไมปล่อยเซ็น หรือว่าทำไมกรรมการกองทุนยอมขายให้ มันไม่ได้หรอกครับ... ดูง่ายๆเลย... ขนาดคำตัดสินของศาลยังออกมาเป็นว่า 5 - 4 ทักษิณผิด ขนาดว่าศาลยังเห็นต่างขนาดนี้ แล้วทีมกฎหมายของทักษิณ หรือกรรมการกองทุนจะสามารถแยกแยะได้หรือ... นี่ล่ะครับ... ความคลุมเครือของการตัดสินที่มีส่วนเกี่ยวกับพฤติกรรมของมนุษย์ แล้วลองคิดเล่นๆดูว่า สมมติเปลี่ยนตัวศาลที่ตัดสินไป 1 คน และคนที่เข้ามามีความเห็นว่าไม่ผิด กลายเป็นว่า ทักษิณ ไม่ผิดครับ... เส้นแบ่งของการโดนจำคุก 2 ปี กับไม่มีความผิดใดๆทั้งสิ้น อยู่ที่เพียงแค่จำนวนผู้พิพากษา 1 คนเท่านั้นหรือ ? แล้วมาตรฐานของคดีนี้อยู่ที่ไหนกัน ? โดยปกติแล้ว การตัดสินในสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน ที่เขาจะทำคือ 1. ทำให้มันชัดเจนขึ้น หรือ 2. ยกผลประโยชน์ให้ผู้ถูกกล่าวหา การดันทุรังตัดสินรุนแรงไปทั้งๆที่ยังไม่มีความชัดเจนเกิดขึ้น ย่อมทำให้เกิดความ " กังขา " ในความคิดของประชาชนอย่างมากด้วยเช่นกัน... จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 09:28:02 A:124.120.6.215 X:

ความคิดเห็นที่ 10 จริง ๆ เรื่องคดีที่ดินรัชดา กับคุณ SaVor นี่เหมือนของคู่กันเลยนะครับ ขนาดตั้งกระทู้ไม่เกี่ยวกับคดีที่ดิน ฅนอื่นที่มาให้ความเห็นก็ยังอุตส่าห์ลากไปเรื่องนั้นได้ (ฮา) ถามนอกประเด็นเล็กน้อย ถ้าคดีที่ดินรัชดา ศาลตัดสินว่าคุณทักษิณผิดจริง แต่ไม่ลงโทษเลย ให้รอลงอาญา คุณ SaVor คิดเห็นประการใดครับ? (ส่วนตัวผมไม่ติดใจกับคำตัดสินว่าผิด-ไม่ผิด แต่ติดใจบทลงโทษมากกว่าครับ) สำหรับเรื่องที่บอกว่า ศาลเป็นประชาชนเหมือนกัน อันนั้นไม่เถียงครับ อาจจะผิดพลาดได้ มีอคติได้ แต่ศาลก็เป็น profession นะครับ ถ้าตัดสิน อย่างไรก็ต้องมีเหตุผลอธิบาย (ถูกใจไม่ถูกใจก็อีกเรื่อง) แต่กระแสของประชาชน มันมักไม่ต้องมีเหตุผลมาอธิบาย (ดูตอนเลือกตั้งก็ได้ครับ จะโหวตด้วยเหตุผลอะไร ห่วยแตกหรือดีแค่ไหน ก็มีหนึ่งเสียงเท่ากัน) แล้วด้วยความเป็น profession นี่แหละ เราถึงต้องพึ่งศาล (เหมือนไปหาหมอ จะเชื่อหมอว่าควรรักษาอย่างไร หรือ จะไปถามเพื่อน ๆ รอบตัวแล้วให้โหวตละครับ?) จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 16:49:07 A:10.9.23.178 X:202.28.179.4

ความคิดเห็นที่ 11 ถ้าคดีที่ดินรัชดา ตัดสินออกมาเป็นว่า " รอลงอาญา " สำหรับผมคงคิดว่า พอใจกับคำตัดสินแค่ 50% ครับ... เพราะจะขจัดส่วนที่เป็นว่า " เรื่องคลุมเครือ แต่คุณตัดสินเอาเด็ดขาด " ไปได้ แต่ในความเห็นผม กรณีนี้มันไม่ควรเชื่อมโยงไปที่ผลประโยชน์ทับซ้อนได้เลย และถ้าเอากรณีนี้เป็นบรรทัดฐาน ก็คือต่อไปนายกทำสัญญาอะไรๆกับรัฐ ต้องขึ้นศาลแล้วให้ตัดสินรอลงอาญา แบบนี้ก็ไม่ต้องทำอะไรกันพอดี แย่เหมือนกันครับ... ศาลเป็นมืออาชีพ ใช่ครับ... แต่ทีนี้เรากำลังพูดถึงเรื่อง " ความยุติธรรม " ที่มันเป็นสิ่งที่เป็นนามธรรม จับต้องไม่ได้ อย่างยกตัวอย่างมาเรื่องหมอกับคนไข้ แบบนี้มันมีตัววัดที่เด่นชัดเลยครับ ไม่ว่าคนไข้จะเชื่อหมอหรือไม่เชื่อหมอ สิ่งที่จะสะท้อนออกมาให้เห็นก็คือ " อาการของคนไข้ " ดีขึ้นหรือแย่ลง อันนี้ชัดเจนมาก ไม่ต้องการความเห็นของใครเลย... แต่ความยุติธรรมมันเป็นเรื่อง อัตวิสัย ครับ หลายคนอาจคิดไม่เหมือนกัน ดูง่ายๆว่าขนาดการตัดสินของศาล ยังให้คณะตุลาการลงคะแนนกันเลย การที่จะบอกว่า ศาลเป็นมืออาชีพ แล้วสิ่งที่ถูกตัดสินโดยศาลจะต้องยุติธรรมเสมอ อันนี้คิดผิดแบบมหันต์ครับ... ขนาดอาชีพหมอเองทำงานที่มีตัวบ่งชี้ที่แน่ชัด ยังตัดสินใจผิดพลาดกันบ่อยๆเลย ดังนั้นสิ่งที่จะสะท้อนออกมาให้เห็นหลังจากการตัดสินว่า ทำไปโดยยุติธรรมดีแล้วหรือไม่ ? ผมมองว่า " กระแสของประชาชน " ในภายหลัง จะเป็นสิ่งที่สะท้อนภาพออกมาได้ชัดเจนที่สุดครับ... แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 17:10:16 จากคุณ : SaVor เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 17:09:36 A:124.120.6.215 X:

ความคิดเห็นที่ 12 ความเห็นที่ 10 คุณ ราดหน้า (masatha) "...แต่กระแสของประชาชน มันมักไม่ต้องมีเหตุผลมาอธิบาย (ดูตอนเลือกตั้งก็ได้ครับ จะโหวตด้วยเหตุผลอะไร ห่วยแตกหรือดีแค่ไหน ก็มีหนึ่งเสียงเท่ากัน)..." คุณเอาอะไรมาตัดสินครับ ว่า การตัดสินใจเลือกในพรรคการเมือง อันไหนห่วยแตก หรือ อันไหนดี แค่สิ่งที่คุณพูดออกมา ก็แสดงถึงทัศนคติที่ดูถูกคนแล้วครับ จากคุณ : Springfield เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 20:17:24 A:125.25.2.210 X: