Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เมื่อ "สายล่อฟ้า" จากไทยรัฐ...เห็นว่า ...ยังไร้ความหวัง...  

รัฐบาลเดินหน้านโยบายแก้หนี้นอกระบบโดยจะปลดหนี้ให้รายละ 200,000 บาท
โดยให้ 4 หน่วยงานเข้ามาร่วมโครงการคือ คลัง มหาดไทย ยุติธรรมและตำรวจ ซึ่งจะให้บุคคลที่เป็นหนี้มาขึ้นทะเบียนตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา

ว่าที่จริงนโยบายนี้มีการดำเนินการในรัฐบาล "ทักษิณ" มาแล้ว แต่ไม่ประสบ
ผลสำเร็จ ซึ่งมีผู้มาลงทะเบียนคนจนเพื่อขอความช่วยเหลือ 8 ล้านคน ปรากฏ
มีหนี้สิน 5 ล้านราย หนี้นอกระบบราว 200,000 คน ปรากฏว่าช่วยเหลือได้แค่
100,000 คน ใช้เงินไป 6,000 ล้านบาท

ในสภาพความเป็นจริงแล้ว นโยบายประชานิยมนี้แม้จะช่วยประชาชนได้บางส่วน แต่ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาที่แท้จริงได้

เมื่อปรากฏว่าประชาชนยังเป็นหนี้สินนอกระบบอีกมาก คนที่ได้รับความช่วยเหลือ
ก็กลับมาเป็นหนี้อีก ก็เลยเกรงกันว่าเป็นการเอาเงินไปละลายแม่น้ำเสียมากกว่า

การที่รัฐบาลชุดนี้หยิบยกขึ้นมาปัดฝุ่นอีกครั้ง ก็มุ่งหวังให้เป็นนโยบายประชานิยม
เช่นเดียวกัน แต่จัดรูปแบบให้ต่างออกไป รวมถึงจะมีการแก้ไขกฎหมายเพื่อมุ่งเอาผิดนายทุนเงินกู้ที่คิดดอกสูงกว่ามาตรฐาน ทำให้คนจนมีปัญหาดอกท่วมมาตลอด

นอกจากนั้น หากไม่ใช้เงินตามเงื่อนไขก็จะใช้วิธีการทวงหนี้โหดจนเป็นข่าวบ่อยๆ
ในระยะนี้ หรือลูกหนี้ทนไม่ไหวก็ก่อเหตุเป็นการตอบโต้นายทุนบ้าง

นี่เป็นสภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย

แน่นอนว่า นโยบายนี้จะช่วยชาวบ้านได้ส่วนหนึ่ง แต่เชื่อว่ามันก็จะกลับมาสู่วังวนเก่าๆ หากรัฐบาลยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาความยากจนอันเป็นพื้นฐานของปัญหาในลักษณะ
ที่ยั่งยืนและตรงจุด ไม่ใช่การหาเสียงกันชั่วครั้งชั่วคราวอย่างที่ผ่านมา

การศึกษา การสร้างงาน การพัฒนาในแต่ละภาคจะต้องมีโมเด็ลที่เป็นรูปธรรม
และต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนว่ายังไม่มีรัฐบาลไหนมีนโยบายที่ชัดเจน จับต้องได้ว่า
สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างจริงจัง

เพราะถ้ารัฐบาลไม่สามารถกำหนดนโยบายอย่างที่ว่ามาแล้วได้ ก็คงมิอาจแก้ไขปัญหาความยากจนถาวรได้เช่นกัน

ในทางตรงกันข้าม จากผลสำรวจขององค์กรเพื่อความโปร่งใสระหว่างประเทศ ปรากฏว่าประเทศไทยมีการทุจริตคอรัปชันมากขึ้น จากคะแนนเต็ม 10 ได้แค่
3.4 คะแนน อยู่ในอันดับที่ 84 จาก 180 ประเทศ จากการสำรวจเมื่อปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ในอันดับที่ 80

นั่นแสดงว่ามีการคอรัปชันกันมากขึ้น

สำหรับประเทศที่อยู่ในอันดับต้นๆก็คือ นิวซีแลนด์ เดนมาร์ก และสิงคโปร์  ซึ่งสามารถรักษามาตรฐานในการไม่โกงไม่กินได้เป็นอย่างดี

ด้านหนึ่งประชาชนส่วนใหญ่ยังยากจน แต่อีกด้านหนึ่งนัก การเมือง ข้าราชการกลับ
ร่ำรวยเหลือล้น ทั้งๆที่เงินเดือนซึ่งเป็นรายได้หลักไม่ได้มากมายอะไรนัก  และก่อนที่จะเข้ามาสู่แวดวงการเมืองก็ไม่ใช่เศรษฐีหรือมีเงินทองเหลือล้น

การทุจริตคอรัปชันจึงเป็นปัญหาใหญ่ที่คู่ขนานกับความยากจน แม้แต่รัฐบาลชุดนี้ที่นายกฯมีความซื่อสัตย์ประกาศจะจัดการกับคอรัปชัน แต่เอาเข้าจริงก็ยังฟาดกันนัว กินเล็กกินน้อยก็เอา โครงการชุมชนเพียงพอ โครงการไทยเข้มแข็ง แค่เริ่มต้นก็ส่งกลิ่นฉาวไปทั่ว

ปัญหาของประเทศนี้มันจึงอยู่ที่นักการเมืองและระบบราชการนี่แหละ

หากรัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศด้วยความคิดที่จะถอนทุน แต่ไม่มีนโยบายที่จะแก้ไขปัญหาหรือพัฒนาประเทศอย่างเป็นรูปธรรม

ไม่มีทางหรอกครับ...ที่จะทำให้บ้านเมืองนี้ดีขึ้นมาได้.

"สายล่อฟ้า"

http://www.thairath.co.th/column/pol/gladai/48034

จากคุณ : sao..เหลือ..noi
เขียนเมื่อ : 21 พ.ย. 52 20:34:33 A:58.8.170.237 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com