 |
ขอสรุปเลยว่า ทางการไทยตั้งใจจับคุณทักษิณกลางอากาศ
|
|
ตามข่าวสารที่ค่อยๆ ทยอยออกมาจนถึงวันนี้ ค่อนข้างน่าเชื่อถืออย่างมากว่า ทางการไทยมีการสั่งการให้เครื่องบินรบ ไปบังคับให้เครื่องของคุณทักษิณลงจอด ถ้าบินเข้ามาในน่านฟ้าของไทย ถามว่าทำไมจึงเชื่อเช่นนั้น ถ้าใครได้ตามข่าวสาร รวมกับการอ่านกระทู้ในพันทิปนี้ น่าจะพอจำได้ ผมขอสรุปเป็นข้อๆ ไล่ตามลำดับเหตุการณ์พอสังเขป ดังนี้
1. มีกระทู้ในนี้ ก่อนที่คุณทักษิณจะกลับ 3-4 วัน บอกว่า มีผู้ที่นิยมชมชอบเสื้อเหลืองแถวบ้านแก เล่าว่าจะมี F-16 ไปไล่ยิง หรือจับเครื่องคุณทักษิณ ตอนนั้นทุกคนก็คิดว่า สาวกคนนี้บ้าแน่ๆ (ผมหากระทู้ไม่เจอแล้ว ใครเคยอ่าน ช่วยยืนยันด้วย)
2. ต่อมาทางการกัมพูชาเชิญเลขาฑูตกลับ เนื่องจากเป็นบุคคลไม่พึงประสงค์ ปฏิบัติการในกิจการที่ไม่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ ในวันเดียวกันนี้คุณกษิต บินกลับจากสิงคโปร์ทันที และแถลงตอบโต้กับพูชาไปนิดหน่อยในวันนั้น แต่ไม่มีใครทราบข้อเท็จจริงของการเชิญกลับ เดากันในตอนนั้นว่าอาจจะเนื่องจากไทยระงับข้อตกลง หรือจะยกเลิก MOU
3. คล้อยหลังเพียงวันเดียว คุณศิวรักษ์ก็โดนจับ เนื่องจากสำเนาเอกสารเส้นทางการบินของคุณทักษิณ เพื่อจะส่งให้กับทางการไทย โดยผ่านเลขาฑูตที่เชิญกลับไปเมื่อวาน ตอนนั้นทุกคนคิดว่าโดนจับพร้อมหลักฐานในขณะที่ทำผิด เลยยังสับสนว่าแล้วจะส่งใหเลขาฑูตได้อย่างไร
4. รัฐบาลปฏิเสธโดยสิ้นเชิงถึงความเกี่ยวข้องกับการจารกรรมเอกสาร และอ้างว่าเป็นเอกสารที่เปิดเผย ไม่จำเป็นต้องขโมย เพราะทราบดีอยู่แล้วถึงเส้นทางการบิน
5. คุณสุเทพปฏิเสธถึงแผนการจับคุณทักษิณกลางอากาศ เพราะ ไม่อนุญาตให้เครื่องดังกล่าวผ่านน่านฟ้าในขากลับ และรู้รายละเอียดเครื่องบินดีอยู่แล้ว เพราะทราบตั้งบินผ่านไปกัมพูชาครั้งแรก
6. ต่อมา มีการนำเสนอข้อมูลคุณศิวรักษ์ว่า รู้จักกับเลขาฑูตเป็นการส่วนตัว และในคืนก่อนโดนจับ ก็ออกจากที่พัก ไปที่ทำงานกลางดึก ส่วนที่โดนจับนั่นเพราะกลับเข้ามาทำงานในเช้าของอีกวันหนึ่ง
7. คุณทักษิณเดินทางกลับ โดยไม่มีข่าวว่าเปลี่ยนเครื่องบิน หรือเส้นทางที่จะใช้กลับว่าผ่านทางไหน
8. มีกระแสข่าวส่วนหนึ่งกล่าวว่า คุณศิวรักษ์ใช้ลูกน้องชาวกัมพูชาแฟกซ์ข้อมูล แล้วลูกน้องเลยแจ้งไปที่หัวหน้า หรือตำรวจ ข่าวนี้ไม่ได้รับยืนยัน
9. คุณจตุพร บอกว่าทางการมีหลักฐานที่ค่อนข้างแน่ชัดว่าจะมีการจารกรรมเอกสาร และยังบอกอีกว่ามีเทปบันทึกเสียงการสั่งการ ซึ่งต่อมา รมต.การต่างประเทศกัมพูชาปฏิเสธว่าที่ตนไม่มี แต่หน่วยงานอื่นไม่รู้
10. คุณกษิตแถลงว่าไม่มีการสั่งการดังกล่าว แต่ถ้าจตุพรนำมาเปิด จะฟ้องร้องฐานแอบดักฟัง (แกพูดแบบนี้จริงๆ)
11. ทีมโฆษก พท. แถลงว่า มีคำสั่ง (อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร) ให้เครื่อง F-16 และ F-5 อย่างละสองลำ บินลาดตะเวียนในน่านฟ้าไทย ตามข้อมูลที่ออกมา พบว่ามีเส้นทางการบินขนานไปกับเครื่องบินของคุณทักษิณ ซึ่งบินอยู่นอกอาณาเขตน่านฟ้าของไทย
12. คุณสุเทพกล่าวในลักษณะยอมรับว่ามีการสั่งการจริง และมีอำนาจที่จะกระทำการดังกล่าวด้วย ตามกฏหมายมาตรใด มิได้กล่าว (บอกให้หาเอง) และทำหนังสือแจ้งมิให้เครื่องคุณทักษิณบินเข้าน่านฟ้าไทยอีกด้วย
13. ทอ. ปฏิเสธถึงปฏิบัติการไล่จับดังกล่าว บอกแต่เพียงว่าเป็นการบินลาดตระเวน และซ้อมรบตามปกติ ส่วนการดำเนินการกับเครื่องบินที่ลุกล้ำน่านฟ้า จะต้องเริ่มจากมาตรการเบาไปหาหนัก
ทั้งหมดเท่าที่สรุปมา คิดว่าไม่ตกหล่นรายละเอียดสำคัญอะไร (เพิ่มเติมได้ครับ) คราวนี้เป็นข้อสังเกตบ้างล่ะ เพราะจากเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นที่แน่ชัดว่าทางการไทยทราบดีว่าคุณทักษิณ เดินทางโดยใช้เครื่องบินอะไร แต่มาทราบรหัสของเครื่องบินก็ตอนบินผ่านครั้งแรก ดังนั้นคุณสุเทพเลยสามารถทำหนังสือไปแจ้งได้ว่าจะไม่ให้เครื่องลำไหนผ่านน่านฟ้า เพราะ นักบินต้องรายงานรหัสเครื่องเพื่อขอผ่าน แต่ในอีกทางหนึ่งก็สั่งให้เครื่องบินรบบินลาดตะเวน ในช่วงเวลาเดียวกันกับที่เครื่องคุณทักษิณบิน
โดยปกติ ถ้ามีเครื่องบินไร้สัญชาติ หรือไม่ยอมรายงานสถานะ ทางการมีสิทธิเต็มที่ที่จะขอให้เครื่องบินลงจอด ณ ที่ใดที่หนึ่งตามที่ทางการกำหนด หากเครื่องดังกล่าวไม่ปฏิบัติตาม ก็อาจจะส่งเครื่องบินรบไปขู่ หรือร้ายแรงถึงขั้นยิงตก แต่คุณสุเทพกลับมีหนังสือสั่งการไปทั้งสองที่ ทางหนึ่งก็คือไม่ให้เข้า ทางที่สองคือไปลาดตระเวน มันเลยขัดๆ กัน เพราะ ถ้าไม่ให้เข้า แล้วสั่งให้ไปลาดตระเวนทำไม นอกจากว่าเครื่องบินคุณทักษิณฝ่าฝืนคำสั่งขอบินเข้ามา แต่นี่กลับเป็นคำสั่งที่รู้ล่วงหน้าถึงเส้นทางการบิน และเวลาทำการบินของเครื่องคุณทักษิณ มันจึงได้มีคำสั่งที่สอง เผื่อว่าจะดักจับได้
ที่สำคัญคือ แล้วคุณสุเทพรู้กำหนดการบินเครื่องคุณทักษิณได้อย่างไร เพราะ เป็นข้อมูลที่เปิดเผยก็จริง แต่เขาเปิดเผยในหน่วยงานของเขา ซึ่งไม่ได้อยู่ในประเทศไทย มันก็ดูเหมือนจะมีความเชื่อมโยงอยู่บ้างระหว่างการจารกรรมเอกสารการบิน กับการสั่งการให้มีการลาดตระเวน
อย่างไรก็ตามยังมีปมอีกหลายอย่างที่รอการเปิดเผย โดยเฉพาะหลักฐานที่ทางกัมพูชามี คืออะไร, คำสั่งที่ออกมาเป็นไปตามกฏบัตรการบินหรือไม่ และเลขาฑูตที่ถูกเชิญกลับหายไปไหน
ถึงกระนั้นจากที่ประมวลข้อมูลทั้งหมดแล้ว ค่อนข้างน่าเชื่อได้ว่าทางการไทยมีแผนที่จะใช้เครื่องบินรบ ดักจับ และบังคับให้เครื่องคุณทักษิณลงจอด แต่ผิดแผนตั้งแต่คุณศิวรักษ์โดนจับ เลยไม่มั่นใจว่ากำหนดการบินที่ (น่าจะ) ได้รับมาแล้ว ยังถูกต้องหรือป่าว เลยต้องมีคำสั่งให้ลาดตะเวนเผื่อไว้ก่อน แต่เครื่องคุณทักษิณก็ไม่ได้เข้ามาในน่านฟ้าไทย เลยทำอะไรไม่ได้ คงต้องตามต่อไปอีกนิดว่า ข้อมูลอะไรจะเผยออกมาอีก
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 52 23:48:23
แก้ไขเมื่อ 22 พ.ย. 52 23:47:17
| จากคุณ |
:
อิสระจำกัด 
|
| เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ย. 52 23:44:17
A:218.160.157.144 X:
|
|
|
| |
