 |
ความคิดเห็นที่ 11 |
ถ้าเอาตามสำนวนฟ้องของอัยการสูงสุดเขาว่าไว้ดังนี้นะ
โดยปรากฏว่าในวันที่ 23 มกราคม 2549 ได้มีการขายหุ้นบริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นฯ จำนวน 1,149,490,150 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 48 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด โดยที่ผู้ถูกกล่าวหาและคู่สมรสเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง แต่ใช้ชื่อนายพานทองแท้ น.ส.พินทองทา น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายบรรณพจน์ ถือหุ้นแทน ให้แก่กลุ่มเทมาเส็กของประเทศสิงคโปร์ โดยมีบริษัท ซีดาร์โฮลดิ้งส์ จำกัด และบริษัท แอสแพนโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างด้าว เป็นผู้ซื้อ เป็นจำนวนเงินสุทธิหลังจากหักค่าใช้จ่ายแล้วรวม 69,722,880932.05 บาท ซึ่งตั้งแต่ปี 2546-2548 บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่นฯ ได้จ่ายเงินปันผลตามหุ้นจำนวนดังกล่าวรวมเป็นเงินจำนวนทั้งหมด 6,898,722,129 บาท รวมเป็นเงินที่ได้รับจากหุ้นดังกล่าวทั้งหมดจำนวน 76,621,603,061.05 บาท
ดังนั้น เงินจำนวนดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์สินที่ได้มาเนื่องจากการกระทำที่เป็นการ ขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนบุคคลและประโยชน์ส่วนรวม และเป็นกรณีที่ได้ทรัพย์สินมาโดยไม่สมควร สืบเนื่องมาจากการปฏิบัติหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่อันเป็นการร่ำ รวยผิดปกติ จึงส่งเรื่องให้อัยการสูงสุด เพื่อยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาฯ ขอให้ศาลสั่งให้ทรัพย์สินจำนวน 76,621,603,061.05 บาท ตกเป็นของแผ่นดิน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วย ป.ป.ช. พ.ศ.2542 มาตรา 80
จากคุณ |
:
thyrocyte
|
เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ย. 52 15:35:27
A:124.121.42.56 X:
|
|
|
|
 |