PANTIP.COM : P8608984 กรณีรัฐบาลกัมพูชา ยกเลิกการกู้เงินจำนวน 1,400 ล้านบาท จากประเทศไทย ท่านคิดอย่างไร [การเมือง]

ความคิดเห็นที่ 9

ต้นเหตุเรื่องนี้เกิดจากท่าน สุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงต้องการสำแดงภูมิปัญญาด้านการต่างประเทศ โดยเช้าหลายวันก่อนท่านแถลงกับนักข่าวว่าเรื่องเงินกู้ที่ช่วยเหลือสร้างทางจากพรมแดนไทยไปยังแหล่งท่องเที่ยวของเขมรนั้น เราขอชลอไว้ก่อน

นัยะที่ท่านแถลงตอนนั้นคิดว่าภูมิใจอย่างเต็มที่ ว่าคราวนี้ไอ้ฮุนเซ็นเอ๋ย...แกช้ำในแน่ๆ รู้จักเทพเทือกน้อยเกินไป(...ฮา)

ลืมคิดไปว่าโครงการถนนนั้นรัฐบาลไทยชุดก่อน (ชุด พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี)เป็นผู้สนับสนุนให้เขมรสร้างเพื่อนประเทศไทยเรา มาจากยุทธศาสตร์การเป็น HUB ทางการท่องเที่ยวของประเทศไทยเอง คือเราต้องการให้ กทม.โดยสนามบินสุวรรณภูมิเป็นที่รวมของนักท่องเที่ยวที่บินมาจากทั่วโลกแล้วค่อยกระจายเดินทางไปเขมร ไปพม่า ไปลาว ไปเวียตนาม แม้กระทั่งไปอินเดียและบังกลาเทศ เราต้องการสร้างสนามบินสุวรรณภูมิให้ใหญ่โต สมบูรณ์พรั่งพร้อม ก็เพื่อจูงใจสายการบิน จูงใจบริษัททัวร์ จูงใจนักท่องเที่ยวให้ใช้เป็นสนามบินศูนย์กลางหรือ HUB ของการเดินทาง รวมทั้งสร้างให้มโหฬารและพรั่งพร้อมเป็นการกีดกันไม่ให้ประเทศอื่นสร้างขึ้นมาแข่งขันภายใน 10-20 ปีนี้

(ยุทธศาสตร์แบบนี้กลุ่มเซ็นทรัลก็ใช้ในการสร้างศูนย์การค้าให้ใหญ่โตมโหฬารพรั่งพร้อมที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเดอะ มอลล์ หรือคู่แข่งกลุ่มอื่นสร้างให้ใหญ่โตกว่าเข้ามาแข่งขันในห้วงเวลาที่เขาต้องหารายได้เพื่อนถอนทุน ซึ่งได้ผลเพราะช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาทาง เดอะ มอลล์ ทั้งๆที่มีที่ดินอยู่ก่อนแล้วแถวโชตนา ทำ Feasibility Study แล้วหลายรอบ ยังไม่กล้างลงทุนสร้าง ในขณะกลุ่มเซ็นทรัลกลับประกาศสร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา แห่งที่ 2 ในจังหวัดเชียงใหม่อีกและประกาศสร้างศูนย์การค้าเซ็นทรัล พลาซา เชียงราย ขึ้นเพื่อล้อมกรอบตีกันคู่แข่งเจ้าอื่น....นี่คือแนวการจัดการของผู้ทำงานบริหารขนาดใหญ่ครับ)

เพื่อเสริมให้เป็น HUB ทางการท่องเที่ยวของไทยจริงๆ เราก็ต้องอำนวยความสดวกให้แก่นักท่องเที่ยว ถนนหนทาง สนามบิน ก็เป็นสิ่งอำนวยความสดวกอย่างหนึ่ง รัฐบาลสมัยนั้นเห็นว่าถนนในเขมรเดินทางลำบากมาก นักท่องเที่ยวไป-มาไม่สดวก อาจจะบินไปลงและพักโรงแรมแย่ๆในเขมรเองแล้วค่อยเที่ยว จะทำให้ไทยเสียโอกาสได้เงินตราน้อย รวมทั้งภูมิภาคนี้ไม่มีโอกาสได้นักท่องเที่ยวระดับเศรษฐีและมหาเศรษฐี จึงสมควรให้เงินกู้แก่เขมรเพื่อสร้างและปรับปรุงถนนเข้าแหล่งท่องเที่ยวให้สดวกขึ้น โดยบริษัทก่อสร้างของไทยอีกนั่นแหละที่จะเป็นผู้ประมูลก่อสร้างได้

นี่คือเรื่องของการให้เงินกู้สร้างถนนแก่เขมรเพื่อประโยชน์ของธุรกิจการท่องเที่ยวและ HUB ทางการบินของประเทศไทยเอง!!!!

เป็นการบริหารงานโดยไม่คิดอะไรเพียง"ชั้นเดียว" คือทุกฝ่ายต้องชนะ(Win Win)แล้วจะไม่มีใครต่อต้าน เพราะเขมรได้ถนนใหม่สัญจรสดวก ประชาชนจะชื่นชมฮุนเซ็นว่าเป็นนักพัฒนา(...ฮา) ประชาชนชาวเขมรมีรายได้เพิ่ม รัฐบาลฮุนเซ็นจะมั่นคงมากยิ่งๆขึ้น(ฮุนเซ็นชอบ) ไทยได้ดอกเบี้ยเงินกู้ บริษัทก่อสร้างไทยได้งานได้กำไร ธุรกิจการท่องเที่ยวไทยได้เงินตรา สนามบินไทยได้ค่า Landing Fees เพิ่มมากขึ้น โรงแรมของไทยได้อัตราเข้าพักเพิ่มขึ้นและจำนวนวันเข้าพักของลูกค้ายาวนานขึ้น บริษัท CP ขายไก่และขายไข่ได้มากขึ้น เกษตรกรไทยขายผัก หมู ปลา เนื้อได้มากยิ่งๆขึ้น ฯลฯ

มีแต่ ฯพณฯ ท่านสุเทพ ท่านอภิสิทธิื ท่านกษิต ที่ไม่เคยทำงานบริหารขนาดใหญ่กว่าร้านข้าวแกงมาก่อน โชควาสนาดีมีผีช่วยให้บริหารประเทศชาติ จึงคิดเรื่องซับซ้อนขึ้นมานิดหน่อยเช่นนี้ไม่ได้ ??

เราเคยให้เงินกู้ช่วยเหลือสร้างสนามบินที่เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ซึ่งเป็นสนามบินขนาดเล็กที่ไม่ใช่คู่แข่งของสุวรรณภูมิ โดย บริษัท อิตาเลียนไทยจำกัด(มหาชน) ประมูลก่อสร้างได้และสร้างเสร็จเปิดบริการไปแล้วก็ด้วยเหตุผลเดียวกัน

สมัยรัฐบาล พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ท่านมองว่าการปราบชาวพม่า ชาวเขมร ชาวลาว หลบหนีเข้ามาหางานทำในเมืองไทยนอกจากใช้งบมากมายไม่รู้จบ พวก NGO กล่าวประนามอยู่เรื่อยๆและเป็นช่องทางให้ จนท.ไทยทุจริตแล้ว ยังเป็นการดูถูกศักดิ์ศรีเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ที่พี่น้องชาติเื่พื่อนบ้านเหล่านี้หลบหนีเข้ามารับจ้างในเมืองไทยด้วยค่าแรงต่ำ มีชีวิตเป็นอยู่ลำบาก ยังเผยแพร่เชื้อโรคร้ายแรงประหลาดๆแก่คนไทย แล้วยังก่ออาชญากรรมสะเทือนขวัญ ก็เพราะที่บ้านตัวเองไม่มีแหล่งทำงาน ทำให้ไม่มีรายได้ เมื่อไม่มีรายได้ชีวิตก็ขาดแคลนทุกปัจจัย หันมามองดูคนไทยที่อยู่ข้างบ้านก็สมบูรณ์พูนสุขพร้อม(แต่ทะเลาะกันฉิบหา....ฮา)

เราจึงกลายเป็นคนรวยอยู่ท่ามกลาง(ขอประทานโทษ)ชุมชนแออัด จึงควรแก้ปัญหาโดยให้ประชาชนของเพื่อนบ้านได้มีงานทำในโรงงาน ในฟาร์ม ในกิจการค้าของคนไทยที่ไปตั้ง(ใช้ทรัพยากร)ในประเทศนั้นๆ

เป็นการช่วยเขาเพื่อป้องกันตัวเราเองนั่นแหละ!!!!

ท่านเคยสงสัยไหมว่าทำไมชาวมาเลย์เซียจึงไม่หลบหนีเข้ามาหางานทำในเมืองไทยเหมือนประเทศเพื่อนบ้านด้านอื่น?

ก็เพราะเขาร่ำรวยเศรษฐกิจดีกว่าเรา การศึกษาดีกว่าเรา ชีวิตความเป็นอยู่ดีกว่าในเมืองไทย จึงมีแต่คนไทยชายแดนหลบหนีไปหางานทำหรือค้าขายในประเทศนั้น

การใช้นโยบายในสมัยอดีตนายกฯ พตท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร นอกจากสะกัดกั้นไม่ให้คนของเขาหนีมาทำงานในประเทศไทยเราแล้ว นักธุรกิจไทยยังได้ขยายการลงทุน ขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำให้ยอดการขายเพิ่มขึ้นแล้วได้อาศัยส่งสินค้าแบบไม่มีภาษีไปขายต่างประเทศ(ตามข้อตกลง FTA และข้อตกลงตลาดร่วมอาเซียน แม้เราไม่ออกไปผลิตเอง ชาติอื่นก็ไปลงทุนผลิตแล้วส่งเข้ามาขายตีตลาดในประเทศเราในหลักการเดียวกัน ทำให้เรามีปัญหาเพิ่มมากยิ่งๆขึ้นไปอีก)อาศัยส่งกลับเข้ามาขายในเมืองไทยที่ต้นทุนถูกลงกว่าผลิตในประเทศ แม้จะต้องแข่งขันกับสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยแต่เป็นการแข่งขันของสินค้าไทยกันเอง เงินตราไม่รั่วไหลสู่กระเป๋าเงินของชาติอื่น!!

ด้วยวิธิการนี้คนของเพื่อนบ้านจึงมีงานทำ(ไม่หนีมาหางานในเมืองไทย) เขามีเงินใช้เพิ่มมากขึ้น(สามารถอุดหนุนสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ธุรกิจไทยโตขึ้น คนไทยร่ำรวยขึ้น ลดการต่อต้านในการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในประเทศไทยของ NGO) เมื่อประเทศเพื่อนบ้านเศรษฐกิจเจริญขึ้นและขยายใหญ่โตขึ้น ประชาชนอยู่ดีกินดีขึ้น การเมืองและการปกครองของเขามีความมั่นคง รัฐบาลเขาก็ชื่นชอบไทย(แทนที่จะเกลียดแบบยุคปัจจุบัน) ทุกฝ่ายจึง Win Win

แต่น่าเสียดายที่รัฐบาล ปชป มาแปรประเทศเพื่อนบ้านให้เป็นสนามรบไปเกือบทุกด้าน ประเทศไทยจึงเป็นชาติที่เพื่อนบ้านไม่คบและเราไม่คบเพื่อนบ้าน แม้แต่พม่าก็ยังไม่ออกวีซ่าให้นายกฯ อภิสิทธิ์ บินไปเยือนแนะนำตัวเลย เราไปชื่นชมไปเอาใจ ไปสอพลอ พวกบ้านอยู่ไกล เช่น อเมริกา อังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เราไม่เคยได้ดุลย์การค้าเขาเลย เรามีแต่เสียเงินซื้อสิ่งของจากเขาเหล่านั้่นมาตลอด เขาว่าซูจีดี เราก็ดีด้วย เขาว่าพม่าเลว เราก็ว่าเลยตามด้วยช่วยกระพือ

พอแล้ว เขียนไปก็ไลฟ์บอย ครับ
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 52 14:58:15

จากคุณ : พาชื่น

เขียนเมื่อ : 1 ธ.ค. 52 14:37:53 A:58.8.11.121 X: