เส้นทาง เดิน เพลินดี เส้นทาง กอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เส้นทาง กษิต ภิรมย์ ...วิเคราะห์..มติชน

ถามว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้มีความดำริที่จะโยก นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จากรองนายกรัฐมนตรีมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

เพราะ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เชี่ยวชาญในงาน กระนั้นหรือ

เพราะโดยศักย์แห่งตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีที่บุคคลระดับ นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ เคยเป็น จึงสมควรที่จะเอาบุคคลระดับรองนายกรัฐมนตรีที่มีความสามารถอย่าง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ มา กระนั้นหรือ

อาจใช่ และอาจไม่ใช่

ปัจจัยที่สำคัญเป็นอย่างมาก ปัจจัยหนึ่งยังเนื่องจากความเต็มใจและสมัครใจของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ที่จะยอมรับการแปรเปลี่ยน

แปรเปลี่ยนจาก รองนายกรัฐมนตรี มาเป็น เลขาธิการนายกรัฐมนตรี

คล้ายกับเป็นการยอมรับเพราะว่าตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรีมีความสำคัญ ทำงานใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรี เป็นเสมือนประตูบานใหญ่กลั่นกรองงานก่อนถึงมือของนายกรัฐมนตรีคนที่ละเอียดลอออย่าง นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จึงมีความเหมาะสม

เป็นเช่นนั้นจริงละหรือ

หากอ่านเกมการโยก นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จากรองนายกรัฐมนตรีมาเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทะลุ ก็จะเข้าใจถึงเหตุผลที่ลึกซึ้งและเป็นจริงมากยิ่งขึ้นของการปรับ ครม.ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า

ประการหนึ่ง เพราะว่า นายนิพนธ์ พร้อมพันธุ์ ลาออกจากตำแหน่ง ประการหนึ่ง เพราะว่ามีความจำเป็นที่จะโยก นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จากรองนายกรัฐมนตรีเข้ามาแทนที่

ประการหนึ่ง เพราะว่ามีรัฐมนตรีหลายคนต้องคำวินิจฉัยของ ป.ป.ช.เรื่องคุณสมบัติ

กระนั้น เหตุผลหนึ่งซึ่งมีความลึกซึ้งมากยิ่งกว่าก็คือ ฝ่ายค้านจะต้องยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจภายในเดือนมกราคม 2553 นี้อย่างแน่นอน

ต้องยอมรับว่าเป้าหมายหนึ่งก็คือ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

เพราะว่าในตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ ไม่เพียงแต่จะควบคุมและกำกับ หากยังแต่งตั้ง นายประโภชน์ สภาวสุ น้องชายเข้าดำรงตำแหน่งสำคัญในโครงการชุมชนพอเพียงอันอื้อฉาว

อื้อฉาวเพราะกลิ่นของการล็อคสเปคที่ไม่สอดรับกับความต้องการของชุมชน

การย้าย นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ จากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีไปยังตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จึงเท่ากับเป็นการหนีจากกรงเล็บอันมาจากญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ตรงนี้ต่างหากคือเหตุผลแท้จริงแห่งการปรับ ครม.ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์

ถามว่านอกเหนือจาก นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ แล้วมีรัฐมนตรีในโควต้าพรรคประชาธิปัตย์คนใดที่จะตกเป็นเป้าของญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ

ตอบได้เลยว่า นายกษิต ภิรมย์

ปัญหาของ นายกษิต ภิรมย์ มีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นกับรัฐบาล กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มากยิ่งกว่าปัญหาของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ เสียอีก

รอยแผลที่แปดเปื้อน นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ อาจเป็นเรื่องของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

ขณะที่รอยแผลที่จะถูกราดด้วยน้ำเกลือระหว่างดำเนินญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจ นายกษิต ภิรมย์ มีความสัมพันธ์กับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อย่างมิอาจปฏิเสธได้

รู้ทั้งรู้ว่า นายกษิต ภิรมย์ มีเรื่องค้างคาใจกับ สมเด็จฯฮุน เซน ก็ยังแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

รู้ทั้งรู้ว่า นายกษิต ภิรมย์ มีส่วนร่วมในการยึดทำเนียบรัฐบาล ในการยึดสนามบิน ก็ยังแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ

เพียงเพื่อจะอาศัย นายกษิต ภิรมย์ มาไล่บี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริง ไม่ว่าการยึดพาสปอร์ต ไม่ว่าการเกาะติดเส้นการเดินทางของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่กระทรวงการต่างประเทศดำเนินมาตลอด 1 ปีเต็ม กลับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยในทางเป็นจริง

ตรงกันข้าม กลับทำให้ นายกษิต ภิรมย์ กลายเป็นสายล่อฟ้าภายในรัฐบาล

จําเป็นต้องจับตาดูเส้นทางทางการเมืองของ นายกษิต ภิรมย์ ให้จงดี

นั่นก็คือ จะยังเกาะแน่นอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือว่าจะดำเนินไปในแนวเดียวกับของ นายกอร์ปศักดิ์ สภาวสุ

คำตอบมิได้อยู่ในสายลม หากแต่อยู่ที่ความจริงในการปรับ ครม.
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01col02041252&sectionid=0116&day=2009-12-04

จากคุณ	: sao..เหลือ..noi
เขียนเมื่อ	: 4 ธ.ค. 52 20:51:05 A:58.8.168.131 X: