ถึง(ก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง) นิธิ เกี่ยวกับบทความที่เขียนถึงท่านอดีตนายกฯสมัคร [คุณไม่อาย แต่ผมอายแทนครับ]

แม้แต่ตัวคุณสมัครเองก็ได้รับความนิยมยกย่องน้อยลงไปมาก สมัยหนึ่ง คุณสมัครพูดอะไรก็ตาม อัดเทปไปขายก็มีคนซื้อกันเหมือนเทน้ำเทท่า แต่บัดนี้คำอภิปรายของคุณสมัครในสภาแทบจะหาคนฟังไม่ได้ ผิดจากคุณเฉลิม อยู่บำรุงหรือคุณสุเทพ เทือกสุบรรณ₁ หากคุณทักษิณ ชินวัตร ไม่ไปเชิญมาเป็นหัวหน้าพรรคจนทำให้คุณสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา คุณสมัครก็จะลับหายไปจากวงการเมืองไทยอย่างเงียบเชียบ₂ ผมคิดว่า คุณทักษิณเองเข้าใจผิด คือคิดว่าชื่อสมัคร สุนทรเวช จะทำให้พรรคพลังประชาชน ได้รับหลักประกันอันมั่นคงเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ก็ล้มเหลวอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว₃

บังเอิญไปอ่านเจอบทความชิ้นหนึ่งของคุณนิธิที่เขียนเกี่ยวกับท่านอดีตนายกสมัคร (7 ธ.ค.) มาโพสต์ในฟดก.
โดยมี อ.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ได้ออกมาตอบโต้บทความนี้ในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับคุณสมัครเท่าใดนัก
ถ้าใครสนใจอ่านประเด็นโต้ของ อ.สมศักดิ์ เกี่ยวกับบทความนี้ ก็สามารถไปตามหาอ่านกันได้

แต่ที่ผมสนใจคือข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับท่านสมัครที่ถูกบิดเบือนในบทความชิ้นนี้ของคุณนิธิ
และผมคงไม่ต้องมองย้อนประวัติศาสตร์ไปไกลตัว เอาแค่เหตุการณ์ใกล้ตัวผม
ย้อนกลับไปเพียงแค่ไม่กี่ปีก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยายน 2549
ที่ผมสามารถหยิบยกมาใช้อ้างอิงเป็นหลักฐาน เพื่อชี้แจงถึงข้อเท็จจริงว่า
ในบทความของคุณนิธิมีข้อความไม่ถูกต้องอย่างไรในประโยคที่ผมยกมาประกอบ (ตัวเอียง)

ประเด็นที่ 1
"คำอภิปรายของคุณสมัครในสภาแทบจะหาคนฟังไม่ได้"

ถ้าคุณนิธิเองไม่สามารถหาแหล่งอ้างอิงที่เชื่อถือได้ มาใช้ยืนยันเพื่อเป็นหลักฐานได้
การเขียนบทความชิ้นนี้ นอกจากไม่เป็นเพียงการนั่งเทียนเขียนหลอกตัวเองแล้ว
บทความชิ้นนี้ยังถือเป็นบทความที่ลดภูมิปัญญาของตนเองในสายตาผู้อ่านอีกด้วย

สถานการณ์การเมืองที่อยู่ในภาวะที่ไม่ปกติในขณะนั้น ความขัดแย้งมีอุณหภูมิทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ
พนักงานสหภาพรัฐวิสาหกิจบางแห่งที่เข้าร่วมม้อบพันธมิตรเริ่มมีการนัดหมายประท้วงหยุดงาน
การหยุดงานไม่เพียงแต่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน แต่ยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจให้กับประเทศ
จนกระทั่งการชุมนุมประท้วงเลยเถิดบานปลาย เกินการควบคุมถึงขั้นมีการทำผิดกฎหมายบ้านเมือง
ม้อบพันธมิตรได้บุกสถานี NBT ยึดทำเนียบ อย่างไม่คาดฝัน ซึ่งไม่มีปัญญาชนอารยะประเทศไหนเขาทำกัน

ดังนั้นไม่เพียงแค่การอภิปรายและการตอบกระทู้สดในสภาของคุณสมัคร ที่หลายฝ่ายจะให้ความสนใจ
การให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนประจำวันก็ยังสามารถนำมาสร้างเป็นประเด็นข่าวพาดหัวกันรายวัน
รายการวิเคราะห์เหตุบ้านการเมืองต่างๆ ที่จัดตามสถานีวิทยุ โทรทัศน์ ตามสถานีต่างๆ
ต่างพร้อมใจกันจัดรายการวิพากษ์รุมยำรัฐบาล เสมือนหนึ่งเป็นกระบอกเสียงให้พันธมิตรก็ไม่ปาน

สำหรับเรื่องอดีตนายกฯสมัครพูดอภิปรายในสภาหรือพูดแล้วไม่มีคนฟังนั้น ผมขอยกตัวอย่างที่มองเห็นภาพง่ายๆ
คือการนำรายสนทนาประสาสมัครมาเปรียบเทียบวัดกระแสในเรื่องผู้ชมหรือผู้ฟังกับรายการคุณอภิสิทธิ์ในปัจจุบัน
ทุกเช้าวันอาทิตย์นอกจากผู้สนับสนุนพรรคพลังประชาชนและรัฐบาลจะเฝ้าติดตามรายการสนทนาประสาสมัคร
ยังมีนักวิชาการ นักธุรกิจ สื่อมวลชนทุกแขนงไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์ วิทยุ และหนังสือพิมพ์ ที่ให้ความสนใจ
รวมถึงพันธมิตรและพรรคฝ่ายค้านเองที่ยังเป็นขาประจำ นั่งเฝ้ามอนิเตอร์รายการนี้ทุกเช้าวันอาทิตย์

ตัวนายสาทิตย์ยังเคยออกมายอมรับผ่านสื่อว่าเรตติ้งรายการของคุณอภิสิทธิ์สู้ของอดีตนายกฯไม่ได้
แม้รายการของคุณอภิสิทธิ์จะใช้สารพัดเครื่องมือทางการตลาด ใช้ดาราพิธีกรมาร่วมดันรายการ
เปลี่ยนสถานที่ก็แล้ว เปลี่ยนรูปแบบรายการก็แล้ว ก็ไม่สามารถเรียกคนดูให้มาติดตามชมได้
วิธีการที่น่าหัวร่อถึงขนาดส่งเทียบเชิญชวน วีระ แกนนำเสื้อแดงไปเป็นพิธีกรก็เคยทำกันมาแล้ว

สุดท้ายยังไม่นับรวมถึงกิจวัตรประจำวันที่ท่านอดีตฯนายกสมัครทำในแต่ละวันที่สื่อมวลชนให้ความสนใจ
จับตามองในทุกท่วงทา นำเสนอในทุกอริยาบท เฝ้าติดตามไปในทุกย่างก้าวอย่างไม่ให้คลาดสายตา
ไม่เว้นแม้แต่การเดินจ่ายตลาดเหรือการเข้าห้องสุขาถ่ายทุกข์เบาทุกข์หนัก
เรียกได้ว่าเฝ้ากันตั้งแต่หน้าบ้านยันถึงหน้าส้วมกันเลยทีเดียว เหมือนเกมแมวไล่จับหนูก็ไม่ผิด

แม้กระทั่งเรื่องการรับประทานอาหารว่างขนมขบเคี้ยวหรือการรับประทานของหวาน ขนมเค้ก น้ำแดง
ยังถูกสส.ฝ่ายค้านบางท่านใช้วิชาชีพหยิบยกมาเป็นประเด็นโจมตีทางการเมืองอย่างไร้จรรยาบรรณก็มีมาแล้ว

ประเด็นที่ 2
"หากคุณทักษิณ ชินวัตร ไม่ไปเชิญมาเป็นหัวหน้าพรรคจนทำให้คุณสมัครได้เป็นนายกรัฐมนตรีในเวลาต่อมา
คุณสมัครก็จะลับหายไปจากวงการเมืองไทยอย่างเงียบเชียบ"

ข้อความดังกล่าวข้างบนนี้ น่าจะทำให้คุณนิธิกลายเป็นพวกอนุบาลทางการเมือง
หรือไม่ก็เป็นพวกหลงยุคตกขอบ จงใจบิดเบือนข้อมูลเพียงเพื่อทำให้ผู้ถูกกล่าวถึงในบทความดูด้อยตามที่ตนเองคิด

ด้วยข้อเท็จจริงหลังจากท่านอดีตนายกฯ พ้นตำแหน่งจากการครบวาระในตำแหน่งผู้ว่ากทม.
ซึ่งเป็นผู้ว่ากทมฯที่ได้รับเลือกเข้ามาด้วยคะแนนเสียงที่มากที่สุดตั้งแต่มีการเลือกตั้งผู้ว่ากทมฯเป็นต้นมา
ในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา ปี พ.ศ. 2549 ท่านสมัครได้ร่วมลงสมัครเลือกตั้งสภาชิกวุฒิสภา
และได้รับเลือกเป็นสว.ด้วยคะแนนเสียงเป็นอันดับ 2 ของประเทศ รองจาก ร.ต.อ.นิติภูมิ นวรัตน์
ที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับที่ 1 แต่คุณนิติภูมิ ยังไม่ทันได้รับการรับรองตำแหน่งสว. จากกกต.
ก็เกิดเหตุรัฐประหารในวันที่ 19 กันยายน 2549 เสียก่อน จึงทำให้ท่านสมัครไม่มีโอกาสได้ปฏิบัติหน้าที่ใดๆ ในฐานะสว.

หลังจากเหตุการณ์รัฐประหาร ท่านสมัครได้จัดรายการโทรทัศน์ดำเนินรายการที่มีเนื้อหาทางการเมือง
เพื่อนำเสนอข่าวสารอีกด้านหนึ่งที่สื่อกระแสหลักในขณะนั้นไม่ยอมนำเสนอข่าวสารให้ครบถ้วน
ครั้งสุดท้ายก่อนรัฐบาลพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ถูกรัฐประหารยึดอำนาจไม่กี่วัน
ท่านสมัครยังได้ขึ้นปราศรัยเปิดตัวที่เมืองทองธานีในฐานะผู้จัดรายการท่ามกลางประชาชนกว่า 2 หมื่นคน

ประเด็นที่ 3
"ผมคิดว่า คุณทักษิณเองเข้าใจผิด คือคิดว่าชื่อสมัคร สุนทรเวช จะทำให้พรรคพลังประชาชน
ได้รับหลักประกันอันมั่นคงเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ แต่ก็ล้มเหลวอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว"

ความไม่จงรักภักดีเป็นข้อกล่าวหาที่ร้ายแรงซึ่งพันธมิตรและคณะรัฐประหารในขณะนั้น
นำมาใช้เป็นเงื่อนไขหนึ่งในการเข้ายึดอำนาจบริหารการปกครองของรัฐบาลทักษิณ
และใช้เป็นข้อกล่าวหาในการโจมตีฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ทางการเมือง (ฝ่ายที่สนับสนุนคุณทักษิณ)
มีการใช้อำนาจทุกรูปแบบ ทุกวิถีทางในการสะกั้นไม่ให้พรรคพลังชนได้รับการเลือกตั้ง

แต่ท้ายที่สุด ผลการเลือกตั้ง พรรคพลังประชาชนที่มีนายสมัคร สุนทรเวช เป็นหัวหน้าพรรค
ได้รับการไว้วางใจจากประชาชนทั้งประเทศเลือกเข้ามาเป็นพรรคที่มีเสียงข้างมากที่สุด
อย่างที่พันธมิตร คณะรัฐประหาร รวมถึงพรรคพลังประชาชนเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน
ย่อมถือเป็นหลักประกันอันมั่นคงเกี่ยวกับความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ได้ล้มเหลวอย่างที่นิธิเขียนไว้ แต่ผลกลับเป็นตรงกันข้ามอย่างที่ทราบกันอยู่แล้ว

ไม่มีประชาชนคนไทยคนใดที่จะเลือกคนไม่จงรักภักดีเข้ามาบริหารบ้านเมือง

จวบจนวาระสุดท้ายของชีวิต ท่านอดีตนายกรัฐมนตรีสมัคร สุนทรเวช สิ้นลมหายใจ ถึงแก่อสัญกรรม ท่านก็ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานโกศแปดเหลี่ยม น้ำหลวงอาบศพ และเครื่องอัฐบริขารทั้งหมด และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับศพไว้ในพระบรมราชานุเคราะห์ และพระราชทานพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรม 7 คืน และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานน้ำหลวงอาบศพนายสมัคร ณ ศาลาบัณณรศภาค วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม

อ้างอิง
http://webboard.mthai.com/5/2006-09-16/267449.html
http://dek-d.com/board/view.php?id=561624
http://www.ryt9.com/s/prg/237953
http://boybdream.com/manager-news-content2.php?newid=17170
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20090630/55870/%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%9A%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%8D-%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A3%E0%B8%B0-%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2.html

จากคุณ	: สิงห์สนามหลวง
เขียนเมื่อ	: 8 ธ.ค. 52 12:55:19 A:58.8.194.95 X: