 |
ความคิดเห็นที่ 6 |
จขกท.ไม่ควรชาตินิยมแบบกีดกันคนอื่น เพราะคนอื่นเขาก็จะกีดกันเราได้เช่นกัน หากเราต้องการมีที่ยืนในโลกใบนี้เราต้องคิดแบบโลกาภิวัฒน์แข่งขันกับคนอื่นได้ทั้งโลก ทุกคน ทุกชาติ ทุกธุรกิจ มีจุดแข็งและจุดอ่อน เราจะต้องเอาจุดแข็งของเราไปตีตลาดโลก ปรับปรุงป้องกันจุดอ่อนของเราไม่ให้ถุกคนอื่นทะลุทะลวง หากเราจะใช้การปกป้องแบบ"กีดกันทางการค้า"โลกทุกวันนี้ทำไม่ได้แล้วครับ
จขกท.ทราบหรือไม่ว่านับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นไป พิกัดอัตราภาษีศุลกากรในอาเซียนเราจะเป็น 0 (ศูนย์)แล้วครับ เช่น สินค้าจากไทยไปขายมาเลย์ สินค้ามาเลย์ขายเมืองไทย ฯลฯ ไม่ต้องเสียภาษีศุลกากรกันแล้ว แม้จะเริ่มต้นปลอดภาษีไ่ม่กี่ชนิดแต่จะทะยอยปลอดภาษี 100% ในอีกไม่กี่ปี
ผมไม่เห็นว่ารัฐบาลนี้ประกาศป่าวร้องให้ผู้ผลิต เกษตรกร ผู้บริโภครู้และเตรียมตัวเผชิญกับความผันผวนของราคาสินค้าส่งออก-นำเข้า หรือผันผวนกับราคาข้าว ราคาน้ำมันปาล์มฯลฯ ซึ่งคนไทยเรามีทั้งผลดีและผลเลว แล้วแต่เราจะอยู่ในประเภทสินค้าใด เช่น ความเห็นผมส่วนตัวการขายข้าวสารน่าจะดี แต่น้ำมันปาล์มท่าจะแย่ อย่ามัวแต่ไล่ล่าทักษิณเพียงอย่างเดียว หันมาปลุกเร้าคนไทยให้เตรียมเผชิญหน้ากับ AFTA บ้าง!!!
เรื่อง Tesco Lotus ขอสรุปสั้นๆดังนี้ครับ-
1. กลุ่ม ซี พี ต้องการเปลี่ยนธุรกิจ( diversify )จากภาคการผลิตไปทำธุรกิจอื่นบ้าง เช่น ค้าปลีก โทรคมนาคม ฯลฯ จึงได้ตั้งร้านSuper Store ชื่อ Lotus Superstore ขึ้นโดยเริ่มต้นสาขาแรกที่ศูนย์การค้าซีคอน สแควร์ ถ.ศรีนครินทร์ แล้วขยายสาขาแตกหน่อๆไปทั่วไป รวมทั้งไปเปิดที่เมืองจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย
2.Lotus Super Store เริ่มต้นกลุ่ม ซี พี ว่าจ้างให้ทีมงานของ Wal-Mart Super center มาเป็นผู้วางระบบและบริหาร ซึ่งระบบการบริการแบบอเมริกันค่อนข้างจะโหด มันส์ แต่ไม่ฮามาก เพราะเน้น Productivity สูงสุด พนักงานเงินเดือนสองหมื่นอาจจะได้เงินเดือนแสนทันทีหากแสดงฝีมือว่าทำงานมีประสิทธิภาพมาก แล้วพร้อมจะลดเหลือหมื่นห้าเช่นกันหากประสิทธิภาพลดลงเหว อัตราการลาออกและการถูกให้ออกของคนสูงลิ่ว แต่กิจการเจริญเติบโตก้าวกระดดด
3.ฟองสบู่เศรษฐกิจแตกในปี 2541 ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่ของไทยฉิ..หายเกือบหมดครับ ไม่ว่าจะเป็น Lotus, Big C, Carrefoure, Tops,Robinson ก็ไปไม่รอดเพราะมุ่งขยายสาขาปูพรมยึดพื้นที่จนขาดเงินสด(Cash Flow) หากไม่หาเงินมาเพิ่มก็ต้องล้มละลาย กลุ่ม ซี พี จึงตัดสินใจขาย Lotus Super Store ให้แก่ TESCO ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกของอังกฤษ (ส่วนกลุ่มเซ็นทรัลขาย Big C ให้ Casino Group ฝรั่งเศส, กลุ่มเซ็นทรัลขายหุ้น 50%ของตัวเองใน Carrefoureให้ Carrefoure Group ฝรั่งเศส, กลุ่มเซ็นทรัลขายหุ้น 50% ของตนเองใน TOPS Supermarket ให้ Ahold Group เนเธอแลนด์ แต่ปัจจุบัน Ahold Group เนเธอแลนด์เจ๊ง กลุ่มเซ็นทรัลจึงจำใจซื้อหุ้นกลับมา 100%และในอีกไม่กี่ปีจะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ เพราะ Ahold ให้ใช้ชื่อการค้า TOPS ไม่กี่ปี แบ็งค์ต่างประเทศเจ้าหนี้ยึดห้างโรบินสันจากกลุ่มเซ็นทรัลแต่ว่าจ้่าง Central Retail Corporation บริหารต่อ แต่ตอนนี้กลุ่มเซ็นทรัลใช้หนี้หมดและซื้อหุ้นคืนมาทั้งหมดแล้ว)
4.TESCO เข้าบริหารและเป็นเจ้าของ Lotus แบบกลัวๆกล้าๆเพราะขนาดพื้นที่และมีสาขามากเลยใช้ชื่อควบว่า TESCO Lotus จนถึงบัดนี้(ในประเทศอังกฤษ เวียตนาม มาเลย์เซีย และทุกๆประเทศจะใช้แต่ชื่อ TESCO อย่างเดียว ประการสำคัญก็คือ TESCO โชคดีที่ซื้อ Lotusของกลุ่มซี พี เพราะได้Know how การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพของ Wal-Mart, USA ที่พัฒนามาแล้วโดยไม่ต้องซื้อหา ดังนั้น TESCO Lotus ในประเทศไทยจึงเป็นต้นแบบทางการบริหารจัดการ Super Store ขนาดใหญ่ให้ TESCO นำกลับไปปรับปรุงในประเทศอังกฤษและประเทศอื่นๆได้ดี
5. จขกท.ทราบไหมว่า 7-11 ของ C P All ที่เราซื้อของกันนั้น ระบบทั้งหมดที่เขาใช้พัฒนาขึ้นในเมืองไทยทั้งสิ้นและดีกว่าเจ้าของยี่ห้อใน USA และในญี่ปุ่นอีกครับ ความจริง C P all ควรเลิกใช้ยี่ห้อ 7-11 เหมือน Minor Food เลิกใช้ยี่ห้อ Pizza Hut มาสร้างยี่ห้อ Pizza Company ของตัวเองก็ขายได้ดีพอๆกับยี่ห้อที่ซื้อมา แต่ประหยัดค่าส่งส่วย Brand ให้ฝรั่งไปเยอะแยะเลยครับ
แก้ไขเมื่อ 14 ธ.ค. 52 20:35:46
จากคุณ |
:
พาชื่น
|
เขียนเมื่อ |
:
14 ธ.ค. 52 17:34:29
A:125.25.176.146 X:
|
|
|
|
 |