ใยสังคมประชาธิปไตยของไทยมีแต่ความเกลียดชัง

ประชาธิปไตยที่ผมรู้จักมันคือระบอบทางเลือกที่สะท้อนถึงการปกครองโดยเสียงข้างมาก มีจุดดุลภาพที่ชัดเจนระหว่างความต้องการของประชาชนหรือผลประโยชน์ของประชาชนกับแนวทางการบริหารจัดการอำนาจรัฐ

ที่มาของอำนาจอธิปไตยอาจมาจากหลากหลายแนวทาง แต่ทางต้องไปบรรจบกันตรงผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ มิใช่องค์กร พรรคการเมือง หรือกลุ่มบุคคลใด

ตราบใดที่ยังเห็นหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของเมืองไทยยังพาดหัวข่าวหากินกับเรื่องคนไหว้จอมปลวก ไหว้สัตว์ประหลาดพืชพิการ ประชาธิปไตยของไทยก็คงยังเป็นไปอย่างที่เห็น  กล่าวคือมีคนสามารถใช้ความอ่อนด้อยทางการศึกษาและความอ่อนด้อยในโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารมาสร้างเงื่อนไขจอมปลอม หลอกลวงให้สำคัญผิดในภาพมายาแห่งประชาธิปไตยที่เน้นแค่การฉายภาพให้ประชาชนหยุดอยู่แค่รูปแบบ ว่ามีการเลือกตั้งแล้ว มีพรรคการเมืองแล้ว  ก็เสร็จจบลงกันตรงนั้น

และเมื่อพวกเขาประมูลอำนาจได้มาพวกเขาก็เริ่มกีดกันขบวนการการมีส่วนร่วมภาคประชาชนต่อระบอบประชาธิปไตยเริ่มกีดกันกระบวนการตรวจสอบภาคประชาชน  ปิดกั้นการนำเสนอข่าวสารที่จะติดตามการทำงานของเหล่านักการเมืองเหล่านั้น  ข่าวเรื่อง ส.ส. โดดสภา  สภาล่ม  ส.ส.ไม่ทำหน้าที่ในฐานะผู้แทนของปวงชนแต่กับไปทำหน้าที่เป็นลิ่วล้อให้แก่นายทุนพรรคหรือบุคคลผู้มีบารมี  ภาพคล้ายเป็นส.ส.สังกัดคอกมีหน้าที่คอยรับคำสั่งจากนายใหญ่มากกว่าเป็นส.ส.ผู้แทนของปวงชน

ในเมืองไทยภาพการรวมตัวกันจัดตั้งพรรคการเมืองมันเป็นภาพแก๊งการเมืองที่อยู่ในสังกัดใครเสียมากกว่า  แก๊งการเมืองพอรวมตัวกันอยู่ในคอกอย่างหลวมๆ สุดท้ายก็ถูกเรียกว่าเป็นพรรคการเมือง  ลวงตาให้ผู้คนที่เข้าถึงข้อมูลข่าวสารน้อยเกิดความศรัทธาเลื่อมใสจากนโยบายลดแลกแจกแถมเพื่อเอาใจชาวบ้าน

แก๊งการเมืองจึงกลายร่างเป็นพรรคการเมืองเพียงชั่วเพียงข้ามคืน  เหล่านักเลงผู้รับเหมาผู้กว้างขวางก็เดินเรียงหน้ากันลงมาแปลงร่างกลายเป็นผู้แทนอันทรงเกียรติชั่วคืนในพริบตาเช่นเดียวกัน  ได้รับการเลือกตั้งแล้วก็ผูกเนคไทใส่สูตรมีบริวารเดินล้อมหน้าล้อมหลังดูโก้หรู แสดงท่าว่าข้านี่คือคนของประชาชน ขึ้นเครื่องบินฟรี เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศฟรี ทำอะไรก็ได้รับอภิสิทธิในฐานะตัวแทนของประชาชน

ไม่นานนักแก๊งการเมืองทั้งหลายเหล่านั้นก็เริ่มสำแดงเดช แอบอ้างความเป็นสถาบันพรรคการเมืองที่ได้มาชั่วข้ามคืนมานั่งต่อรอง ยื้อยุดฉุดกระชากเก้าอี้แห่งผลประโยชน์คือตำแหน่งในฝ่ายบริหารและตำแหน่งในคณะกรรมาธิการ..ลงทุนไปเท่าไหร่ก็มาเอาคืนกันได้ตรงนี้  ขณะที่ฝ่ายที่ประมูลอำนาจเหล่านั้นมาไม่ได้ก็เริ่มออกลาย  ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อล้มอำนาจของอีกฝ่ายกันในทุกวิถีทาง  ทำกันตั้งแต่สร้างมุ้งเล็กมุ้งใหญ่เข้าต่อรองเก้าอี้อำนาจ  หนักไปกว่านั้นก็เล่นบทเผาเครื่องผ่ายตรงข้าม  เผายังไม่สำเร็จก็ออกมาตั้งกลุ่มตั้งแก๊งกันข้างถนน เผาบ้านเผาเมืองให้มันรู้แล้วรู้รอดกันไปเสียเลย เข้าทำนองว่าข้าไม่ได้เอ็งก็อย่าหวังว่าจะเสวยสุขกันได้เลย...พฤติกรรมดังกล่าวปรากฏกันทุกแก๊ง

พวกที่สู้การโหวดในสภาไม่ได้ก็ออกมาหาสาเหตุมืดยัดเยียดให้อีกฝ่ายเป็นสัตว์ประหลาดในระบอบประชาธิปไตยไปเสียเช่น หาว่าเป็นเผด็จการรัฐสภาบ้าง เป็นพวกอำมาตยาธิปไตยบ้าง...กลุ่มลิ้วล้อที่มีแนวคิดรุนแรงบางก๊วนที่ต้องการรางวัลจากผลการต่อสู้ก็ถึงกับออกไปเคลื่อนไหวกันข้างถนน  คุกคาม รุนแรง ต่างความแตกร้าว จนประชาธิปไตยของไทยมีแต่ภาพของความรุนแรงและความเกลียดชังของผู้ที่เห็นต่างภายในชาติ...

วันนี้ถึงขั้นเปิดแนวรบขั้นแตกหัน หันมาจุดไฟเผาบ้านตัวเองกันบ้างแล้ว แนวรบเริ่มขยายตัวออกไปอย่างกว้างขวาง มีการจัดตั้งกลุ่มกองเชียร์ สมุน สาวก แสวงหาแนวร่วมจากประชาชนทุกกลุ่ม  

จากแค่เห็นต่างก็เริ่มมีการใช้กำลัง แบ่งแยกเขตการปกครองว่าเป็นเขตของฉันของเองเป็นนัย เปิดแนวรบด้านสื่อ เปิดแนวรบในโลกไซเบอร์ และที่กำลังจะตามมาก็คือถึงขั้นติดอาวุธพร้อมเปิดสงครามกลางเมือง(ตามที่ทหารนอกแถวบางคนออกมาพูด)  และเริ่มย่ามใจถึงขนาดเปิดตัวเองโดยรวมหัวกับผู้นำนักเลงข้างบ้านที่เคยเป็นศัตรูเก่าของไทยสร้างเรื่องแต่งนิยายที่จะทำสงครามจิตวิทยากับไทย  ประกาศพร้อมเผชิญหน้ากับรัฐบาลไทยในทุกด้าน

เกลียดมากกับการสบคมคิดกับต่างชาติถึงกับกล้าให้เขาออกมาทำลายเกียรติภูมิของชาติตนเอง มีที่ไหนในโลกที่ผู้นำของประเทศหนึ่งเรียกร้องให้โค่นผู้นำอีกประเทศหนึ่งเพื่อให้เพื่อนของตัวเองกลับมาเป็นใหญ่ ?  มีที่ไหนที่พรรคฝ่ายค้านของประเทศหนึ่งไปจับมือกับผู้นำของอีกประเทศหนึ่งเพื่อล้มล้างรัฐบาลของประเทศตัวเอง ?

เกลียดมากกับคำหากินที่นักการเมืองโดยเอาประชาชนมาแบ่งชนชั้นวรรณะกันเป็นคนชั้นกลาง เป็นคนชั้นรากหญ้ารากฝอย เพื่อหวังผลทางการตลาด  เอาความอ่อนแอทางรายได้และการการศึกษาของพี่น้องร่วมแผ่นดินมาเป็นเครื่องมือสร้างฐานที่มั่นทางการเมือง

และเกลียดมากที่ความผลประโยชน์ส่วนตนมาเป็นตัวตั้ง  ถึงกับกล้าลงทุนสร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยได้ถึงขนาดนี้  เขาพร้อมที่จะทำทุกอย่างเพื่อ...อะไร ?...เพื่อระบอบประชาธิปไตย...เพื่อความถูกต้อง....เพื่อความสะใจ....เพื่อผลประโยชน์ของชาติ หรือเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มแก๊งของตัวเอง ?

แก้ไขเมื่อ 19 ธ.ค. 52 08:42:02

จากคุณ	: ไทยพันธุ์แท้
เขียนเมื่อ	: 19 ธ.ค. 52 08:40:30 A:118.172.217.254 X: