ความคิดเห็นที่ 1 .        นายมาร์ค ชนะการโหวตการเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551                 ตัวเลขอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2551-30 กันยายน 2552 ระยะ 9 เดือนครึ่ง รัฐบาลนายมาร์คกู้โดยตรงมาถลุงไปแล้ว 451,781 ล้านบาท                 ตัวเลขอย่างไม่เป็นทางการ ตั้งแต่ 17 ธันวาคม 2551-ปัจจุปัน ระยะประมาณ 1 ปี รัฐบาลนายมาร์คกู้โดยตรงมาถลุงไปแล้ว 631,000  ล้านบาท        ถ้าถามแค่ยอดเงินกู้พอตอบได้ครับ แต่ถ้าถามลึกไปถึงดอกเบี้ยไม่ทราบครับ เพราะ เงินกู้มีหลายก้อนต่างกรรมต่างวาระและเงื่อนไขการกู้ก็ต่างกัน มีตั้งแต่ต่ำสุด 1.4 % ต่อปี (กู้สร้างรถไฟบางซื่อ-รังสิต) ถึงสูงสุด 5.25 % ต่อปี (พันธบัตรช่วยชาติ) จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 17:21:13 A:222.123.171.50 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ชัดเจนดีนะคะ เหนื่อยแทนท่านทักษิณนะ ที่จะต้องตามมาจัดการภาระหนี้ จากคุณ : ไฮเดรนเยีย เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 17:28:12 A:113.53.30.31 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ในข้อเท็จจริงเรื่องเงินกู้ 8 แสนล้านบาทนั้นรัฐบาลเสนอเป็นกฏหมาย 2 แบบครับ ฉบับแรกเป็น - พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 4 แสนล้านบาท - อีกฉบับทำเป็น ร่างพรบ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินอีก 4 แสนล้านบาท ปรากฏว่าเฉพาะแต่พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน 4 แสนล้านบาทเท่านั้นที่ผ่านสภาทั้งสองออกมาเป็นกฏหมาย มีผลใช้บังคับ และทำให้รัฐบาลมีอำนาจกู้เงินได้ตามนั้นคือ 4 แสนล้านบาท ส่วน ร่าง พรบ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน อีก 4แสนล้านบาทไม่ผ่านวุฒิสภา และรัฐบาลยังไม่ได้เสนอเข้าไปใหม่ สรุป ตอนนี้รัฐบาลมีอำนาจในการกู้เงินเพิ่มพิเศษแค่ 4 แสนล้านบาท ตามอำนาจในพรก. ไม่ใช่ 8 แสนล้านบาทอย่างที่ คนส่วนใหญ่เข้าใจ แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 17:37:56 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 17:35:38 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 4 ในจำนวนเงิน 4 แสนล้านบาทที่รัฐบาลมีอำนาจในการกู้ตามพรก.ดังกล่าวนั้น รัฐบาลจะเอามาใช้ 2 ส่วน คือใช้เพื่อสนับสนุนโครงการไทยเข้าแข็ง และอีกส่วนเอามาใช้เพื่อหมุนเวียนเงินคงคลังครับ ในปลายเดือนกันยายน 2552 มีการกู้เงินจากพรก.นี้ไปได้เพียง 8 หมื่นล้านบาทเท่านั้น โดยเงิน 3 หมื่นล้าน บาทนำไปเข้าโครงการไทยเข้มแข็งที่เพิ่งเริ่มมีการทยอยเบิกจ่ายกันเข้ามา และอีก 5หมื่นล้านบาทเข้าคลัง ตามเอกสารประกอบแผนการบริหารหนี้สาธารณประจำปี 2553 หน้า 4 ดังนี้ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 17:42:31 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 5 แต่ตามข้อเท็จจริง เงินที่จะใช้ในโครงการไทยเข้มแข็งเพื่อเบิกจ่ายจากพรก. 4 แสนล้านบาทนั้น ในเวลานี้มียอดโครงการที่ผ่านการอนุมัติเพียง 199,960 ล้านบาทเท่านั้น หากรวมกับยอดเงินที่ จะกู้ให้แก่คลังอีก 50,000 ล้านบาท ก็จะเป็นเงิน 249,960 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดเงินใน คห. ข้างบน 8 หมื่นล้านบาท ก็เท่ากับว่ารัฐบาลจะมีการกู้เงินจริง  329,960 ล้านบาทเท่านั้น ไม่ถึง 4 แสนล้านบาท ตามที่พรก.ให้อำนาจ และไม่ถึง 8 แสนล้านบาท ตามที่เล่าลือกัน แต่ตัวเลขการกู้เงินอาจลดลงหรือเพ่มขึ้นได้ตามสภาวะที่แท้จริง แต่การกู้เงิน 8 แสนล้านบาทนั้น ไม่มีจริง หากจะมีเงินกู้ ก็จะเป็นเงินกู้ตามปกติของการกู้ในงบประมาณ แต่ไม่ใช่เงินกู้ที่มาจาก โครงการกู้ 8 แสนล้านบาทที่รัฐบาลพยายามทำ โดยออก พรก. และร่างพรบ. ดังที่อธิบายไว้นั้นแล้ว จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 17:48:53 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 6 การกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างคมนาคมตามโครงการไทยเข้มแข็งนั้น มีรายละเอียดตามรายการข้างล่างนี้ จะสังเหตุเห็นว่า ไม่มีรายการรถไฟสายสีแดง บางซื่อ-รังสิต เพราะโครงการรถไฟสายสีแดงนี้ มาร์คได้เงิน กู้จากญี่ป่นมาตั้งแต่ต้นปี 2552 แล้ว (โดยเป็นเงินกู้ที่ไม่ได้เกียวพันกับโครงการไทยเข้มแข็งหรือเงินกู้ 4 แสนล้านบาทหรือ 8 แสนล้านบาทที่มีคนเข้าใจเดิม) จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:00:44 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 7 โดยสรุป รัฐบาลจะทำการกู้เงินได้นั้นในเวลานี้อาศัยกฏหมาย 2 ฉบับ คือ -กฏหมายเก่า เป็นกฏหมายที่กำหนดวงเงินกู้ไว้ตามเกณท์ของงบประมาณร่ายจ่ายแต่ละปี ซึ่งทุกรัฐบาลใช้ และจำมีการบริหารจัดการการกู้เงินให้เป็นงวดๆ เพื่อไม่ให้เกินกรอบกฏหมายนี้ โดยจะเลี่ยการกู้ไป - กฏหมายใหม่ ใน่นี้คือ พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงิน 4 แสนล้านบาท ยอดหนี้ที่ปรากฏอยู่ที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณนั้น มาจกาหนีเก่า และหนี้ใหม่ และหนี้ใหม่นั้น จะมีทั้งหนี้ที่เกิด จากการกุ้ตามพรบ.ที่กำหนดกรอบวงเงินการกู้ไว้เดิม และ ตาม พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังในการกู้เงิน จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:04:42 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 8 สำหรับดอกเบี้ยของเงินงวดแรกที่กู้ในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 8 หมื่นล้านบาทนั้น ยังหาเอกสารที่แยกรายการ นี้ออกมาจากรายการการกู้อื่นๆรัฐบาลกู้เป็นประจำมาแต่ก่อน ยังหาไม่พบ หากหาเจอจะนำมาให้ดุอีกที ในภายหลัง จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:09:52 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 9 5555 กู้ๆๆๆ เข้าไป กู้ให้สะใจ ไอ่เปรตกู้ จากคุณ : riwjin เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:10:24 A:118.174.102.192 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ตัวอย่างการจ่ายดอกเบี้ยและเงินต้นคืนในปีงบประมาณก่อนๆจะเป็นเช่นแบบนี้ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:15:35 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 11 .            สอดไม่เข้าเรื่อง อย่าเอาข้อมูลเลอะๆเทอะมาแสดงให้สับสนครับ            นายมาร์ค ชนะการโหวตการเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2551 และโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2551                        ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 3,471,345 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.13  ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,134,734 ล้านบาท                        ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2552อยู่ที่ 4,001,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.55  ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,586,513 ล้านบาท            คงไม่ต้องอธิบายให้มากความมั๊งครับ จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:19:30 A:222.123.171.50 X:

ความคิดเห็นที่ 12 #11 ต้องบอกว่า ของคุณ thyrocyte เป็นแค่ส่วนนึง ใช่มั๊ยครับ ? จากคุณ : geefa เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:46:03 A:58.8.84.31 X:

ความคิดเห็นที่ 13 อ้าว ตกลงอะไรกันนี่ครับ จากทนาย ปชป #8 thyrocyte สำหรับดอกเบี้ยของเงินงวดแรกที่กู้ในปีงบประมาณ 2552 จำนวน 8 หมื่นล้านบาทนั้น ยังหาเอกสารที่แยกรายการ นี้ออกมาจากรายการการกู้อื่นๆรัฐบาลกู้เป็นประจำมาแต่ก่อน ยังหาไม่พบ หากหาเจอจะนำมาให้ดุอีกที ในภายหลัง กับ #11 ท่าน บุรุษหน้าเหล็ก ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2551 อยู่ที่ 3,471,345 ล้านบาท หรือร้อยละ 38.13  ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,134,734 ล้านบาท                       ยอดหนี้สาธารณะคงค้าง ณ วันที่ 30 กันยายน 2552อยู่ที่ 4,001,942 ล้านบาท หรือร้อยละ 45.55  ของ GDP เป็นหนี้ที่รัฐบาลกู้โดยตรง 2,586,513 ล้านบาท           คงไม่ต้องอธิบายให้มากความมั๊งครับ ----------------------------------------------------------------------------- กำลังรอคำตอบที่"ถูกต้องนะครับ"อยู่ครับ แต่เอาเป็นว่า ต่ำสุดจากทั้งสองท่านคือที่ 80,000ล้าน ตั้งแต่ ก.ย.ถึงธ.ค.ประมาณ 3 เดือน ที่ดอกเบี้ยต่ำสุด 1.4%ต่อปี ก็ตกไม่ต่ำกว่า 240ล้านบาท ผลประกอบการ(ขาดทุน)ของรัฐบาลนายมาร์คที่ผ่านไป 9 เดือนแล้ว ที่ยังได้รับความชื่นชมจากโพลสายฟ้าแลบ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 18:46:42 A:10.10.4.117 X:219.93.228.146

ความคิดเห็นที่ 14 คนสอดอย่างไม่รู้จริงคือ  บุรุษหน้าเหล็ก ครับโชว์ความเปิ่นออกมาเหมือนเคย อย่างที่ผมย้ำตามที่จขกท.ถาม เกี่ยวกับเงิน 8 แสนล้านบาทนั้น รัฐบาลสามารถกู้ได้แค่ 4 แสนล้านบาท ตัวเลขที่ บุรุษหน้าเหล็ก ได้มั่วยกมานั้น มาจากการกู้ตามปกติทั่วไปของรัฐบาลครับ รัฐบาลทุกยุคทุกสมัยกู้กันทั้ง มีเงินกู้ 8 แสนล้านเข้ามาปนบางส่วน เท่านั้น ไม่ใช่ทั้งหมดที่คุณยกตัวเลขมาโชว์ แต่จขกท.ถามถึง 8 แสนล้านบาท ก็ควรตอบให้ตรงตามประเด็นที่ถาม 8 แสนล้านบาท และผมยืนยันในข้อเท็จจริงว่า รัฐบาลไม่สามารถกู้ได้ 8 แสนล้านตามที่เดิมมีเป้าหมาย เพราะ ร่าง พรบ.ไม่ผ่านครับผม ตามกฏหมายปัจจุบันรัฐบาลกู้เพิ่มพิเศษได้แค่ 4 แสนล้านเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 21:17:08 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:03:43 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 15 กู้มาโกงอีกตะหาก ระวังลูกหลานมันจะด่าเอา นักการเมืองพันธุ์ชั่วๆ จากคุณ : พีทีดี เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:27:04 A:61.90.99.132 X:

ความคิดเห็นที่ 16 ขอแนะนำบุรุรษหน้าเหล็กกลับไปทบทวนให้ดีๆก่อนออกมาตอบ เรื่องที่จขกท.สอบถามเป็นเรื่อเงิน 8 แสนล้านบาท ไม่ใช่การกู้เงินตามปกติที่รัฐบาลทำกันอยู่แล้ว ที่คุณยกมานะ คือยอดการกู้เงินทั่วไป แต่เงิน 8 แสนล้านที่มีการพูดมาตั้ง แต่ต้นปีนะ รัฐบาลพยายามจะกู้โดยออกกฏหมายเป็น 2 แบบ ผ่านมาแค่ฉบับเดียว ตามนี้ http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/policy/20090511/40983/%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%AF%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%AA%E0%B8%A0%E0%B8%B2%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%81.%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%998%E0%B9%81%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99.html จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:27:08 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 17 บุรุรษหน้าเหล็กกลับไปทบทวนให้ดีๆครับ กฏหมายที่ผ่านออกมามีฉบับเดียวคือ พรก.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้ เป็นเงิน 4 แสนล้านบาท ส่วนร่าง พรบ.ที่ขอกู้อีก 4 แสนล้านบาทไม่ผ่านวุฒิสภา และรัฐบาลไม่ได้เสนอเข้าไป ใหม่ กฏหมาย นี้ ออกมา พค.2552 เป็นเวลาเพียงแค่ 4 เดือนก็จะสิ้นปีงบประมาณแล้ว จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:30:41 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 18 บุรุรษหน้าเหล็ก ต้องแยกแยะภาษาไทยให้ดีๆ กระทู้นี้จขกท.สอบถามเรื่องเงิน 8 แสนล้านบาท ไม่ได้สอบถาม ยอดการกู้ทั่วไป ซึ่งปกติรัฐบาลทุกรัฐบาลจะมียอดการกู้เงินกันทุกรัฐบาลอยู่แล้ว เฉพาะแต่ในส่วน 8 แสนล้านบาทนี้ รัฐบาลจะกู้ได้เพียง 4 แสนล้านบาท และกู้ไปจริงๆแล้วแค่ 8 หมื่นล้านบาทใน ปีงบ 2552 ยอดเงินกู้ที่คุณยกมานั้น เป้นยอดเงินกู้ตามพรบ.งบประมาณปกติ เป็นส่วนใหญ่ มีเกี่ยวกับเงิน 8 แสน ล้านบาทที่มีการกล่าวขวัญ เป้นเพียงบางส่วนเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 21:13:40 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:33:21 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 19 เพราะฉนั้นหากคุณไม่สามารถยแกแยะข้อมูลได้ตรงกับเรื่องกระทู้จริงๆ ก็อย่าสอดเข้ามาให้เกิดความสับสนครับ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:35:01 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ลุงขอสอด ( แบบคนไม่ใช้อารมณ์ แต๋วไม่แตก) แล้วลุงจะเชื่อข้อมูลของใครดีล่ะ ? ระหว่าง บุรุษหน้าเหล็ก  กับ thyrocyte จะเชื่อใครดี ไอ้ลุงก็เรียนมาน้อยซะด้วย มึน !! แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 19:44:04 จากคุณ : ลุงปู๋หลู๋ เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:43:29 A:192.168.1.111 X:118.172.126.166

ความคิดเห็นที่ 21 #17 คุณ thyrocyte คุณมีเจตนาอะไรไม่ทราบครับ กับประโยคนี้ กฏหมาย นี้ ออกมา พค.2552 เป็นเวลาเพียงแค่ 4 เดือนก็จะสิ้นปีงบประมาณแล้ว เทียบกับข้อความที่วงไว้ "การกู้เงินตามวรรคหนึ่ง ให้มีมูลค่ารวมกันไม่เกินสี่แสนล้านบาท และให้กระทำได้ภายในกำหนดเวลาไม่เกินวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๓" แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 19:58:44 จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 19:56:56 A:10.10.4.117 X:202.56.85.195

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ จขกท.กฏหมาย นี้ ออกมา พค.2552 เป็นเวลาเพียงแค่ 4 เดือนก็จะสิ้นปีงบประมาณแล้ว ย่อมแสดงว่ายอดเงินกู้ที่บุรุษหน้าเหล็กยกมาอ้างว่า รวมแล้วได้ 4 แสนล้านบาทก็ดี หรือ 6 แสน ล้านบาทก็ดีนั้น มันไม่ได้มาจากการกู้เงินตามโครงการ 8 แสนล้านบาทนี้ แต่มาจากการกู้เงินตาม พรบ.งบประมาณที่ผ่านสภาไปตั้งแต่ ตค.2551 ในสมัยสมชาย และปรับปรุงแก้ไขสมัยมาร์คเมื่อ กพ.2552 ไม่ได้เกี่ยวกับเงิน 8 แสนล้านบาทที่คุณสอบถามครับ เพราะเป็นไปไม่ได้ที่มีจะมีการกูเงินขนาดนั้นในเวลา 4 เดือน และหากคุณตรวจสอบไปที่ธนาคาร แห่งประเทศไทยก็จะพบว่า รัฐบาลทยอยกู้เงินเข้ามาเป็นระยะตลอด ตั้งแต่ตค.2551 ต้นปีงบนี้ มาจนปัจจุบัน ทั้งหมดเป็นไปตามพรบ.งบประมาณ ปี2552 แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 20:03:46 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:01:12 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 23 OK ครับ ขอบคุณสำหรับคำชี้แจง สมกับฉายาที่เป็นทนาย ปชป แต่ขอเรียนตามตรง ว่าอย่าพลาดนะครับ เพราะในห้องนี้พร้อมกระทืบซ้ำคุณอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 20:18:08 จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:16:20 A:10.10.4.117 X:219.93.228.146

ความคิดเห็นที่ 24 โดยปกติ หากไม่นับเงินกู้ 8 แสนล้าน(ที่ต่อมารัฐบาลจะกูได้จริงแค่ 4 แสนล้านนั้น) รัฐบาลเองก็สามารถกู้เงินได้จาก พรบ.งบประมาณปี 2552 อยู่แล้ว โดยพรบ.งบปี 2552 นี้ออกมาในสมัยรัฐบาลสมชาย แต่รัฐบาลมาร์คมาปรับยอดวง เงินกู้ให้สูงขึ้นมาอีก แต่ทั้งหมดนี้ ก็ไม่เกี่ยวกับ พรก.พรบ กู้ที่รัฐบาลเสนอไป 8 แสนล้านบาทนั้น มันคนละกฏหมาย จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:17:43 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 25 กระทู้นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นด้วยกับโครงการใหม่ของรัฐบาลตามที่คุณไทโร ฯ พูดถึงใน คห.ที่ 4 อันได้แก่ "โครงการไทยเข้าแข็ง"  ซึ่งผมขอสนับสนุนให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องไปทุก ๆ ปี เพราะหากถ้า "ไทยเข้าแล้วไม่แข็ง"  มันจะเป็นปัญหาลุกลามต่อไปอย่างคาดเดาผลร้ายไม่ได้ ดัชนีชี้นำความสุขของคนไทยจะดิ่งลงต่ำอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ...  ผมอนุมัติ!!   เอาไปเลยอีก 8 แสนล้าน ...   . จากคุณ : มหาชำร่วย (ยุคที่2..มหาReload) เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:53:25 A:124.120.140.69 X:

ความคิดเห็นที่ 26 แหม ท่านมหาฯ จะเปลี่ยนกระทู้ผมเป็นเรท R หรือครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:06:47 A:10.10.4.117 X:219.93.228.146

ความคิดเห็นที่ 27 ความคิดเห็นที่ 23     OK ครับ ขอบคุณสำหรับคำชี้แจง สมกับฉายาที่เป็นทนาย ปชป แต่ขอเรียนตามตรง ว่าอย่าพลาดนะครับ เพราะในห้องนี้พร้อมกระทืบซ้ำคุณอยู่แล้ว แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 20:18:08 จากคุณ : kriengchai   เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 20:16:20 A:10.10.4.117 X:219.93.228.146   ------------------------------------------------------------------------------- จะขอแจ้งว่า - ขอบคุณครับที่เป็นห่วง ผมทราบดีว่าหากผมพลาดต้องถูกคนใส่ที่เสื้อแดงรุมแน่ๆ แต่คนเสื้อเองจะโพสต์ผิดๆถูกๆ อย่างไรก็ได้ใช่หรือไม่ ไม่ต้องกังวลใจใช่ไหมว่าจะมีใครกระทืบซ้ำ - อีกสักพักผมต้องออฟไลน์ไปตามปกติแล้ว คงตอบอะไรไม่ได้มากหากมีข้อสอบถาม แก้ไขเมื่อ 20 ธ.ค. 52 21:11:12 จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:07:29 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 28 อนึ่ง ข้อมูลของบุรุหน้าเหล็กในคห.1 ผมยังไม่ได้ตรวจสอบให้ แต่เชื่อว่าหากจะพูดถึงหนี้โดยรวมที่ไม่เจาะจงเงิน 8 แสนล้าน (ที่จะกู้ได้จริงๆแค่ 4 แสนล้าน) ก็คงจะไม่คลาดเคลื่อน แต่หากจะอ้างว่านี้เป็นผลของการกู้จากเรื่อง เงิน 8 แสนล้านบาทต้องขอค้านว่าไม่ใช่ แต่น่าจะเป็นผลจากการกู้ด้วยกฏฆมายตามนี้มากกว่า - ตั้งแต่ 17 ธค. 2551-30 กย 2552 กู้ไป 451,781 ล้าน ด้วยพรบ.งบประมาณร่ายจ่ายปี 52 ราว 347,000 ล้านบาท + ด้วย พรก.ที่ออกใหม่อีกราว กว่าแสนล้านบาท (แต่ตัวเลขที่มีการแถลงตามเอกสารข้างต้นแจ้งว่า 8 หมื่นล้านบาท) - ตั้งแต่ 17 ธค. 2551-ปัจจุบัน กู้ไป  631,000  ล้าน  ด้วยพรบ.งบประมาณร่ายจ่ายปี 52 ราว 347,000 ล้านบาท + พรบ.งบประมาณร่ายจ่ายปี 53 + ด้วย พรก.ที่ออกใหม่อีกราว แสนกว่าล้านบาท (ไม่น่าจะถึงสองแสนล้าน โดยไม่น่าจะถึง 2 แสนล้าน เพราะโครงการที่ได้รับอนุมัติไปมีเพียง 199,000 ล้านบาท) ไปก่อนละครับ จากคุณ : thyrocyte เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 21:08:57 A:124.122.4.188 X:

ความคิดเห็นที่ 29 อ้อ ท่าน thyrocyte กรุณาอย่าได้เข้าใจผิดครับ ผมก็พร้อมที่จะรุมยำคุณด้วยครับ คุณเป็นฝ่ายเสียงข้างน้อย ก็ต้องถูกฝ่ายเสียงข้างมากกินโต๊ะเป็นธรรมดาครับ จากคุณ : kriengchai เขียนเมื่อ : 20 ธ.ค. 52 22:49:06 A:10.10.4.117 X:219.93.228.146

ความคิดเห็นที่ 30 มีเถียงแพ้แล้วขู่ซ้ำด้วยนะครับ แปลกดีครับ นาน ๆ เจอที ปกติจะเจอ ข้อมูลตัวเองผิด เลยออกมาขอโทษ และขอบคุณ จากคุณ : ราดหน้า (masatha) เขียนเมื่อ : 21 ธ.ค. 52 19:49:58 A:10.9.23.219 X:202.28.169.166

ความคิดเห็นที่ 31 เค้าถึงว่านายมาร์คนี่ถนัดกู้จริงๆ จะ 4 แสนหรือจะ 8 แสน ยอดกู้ก็มโหราฬอยู่ดี จากคุณ : subzero เขียนเมื่อ : 22 ธ.ค. 52 14:48:17 A:202.95.76.158 X:

ความคิดเห็นที่ 32 .               ต้องสรุปเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด               พรรคประชาธิปัตย์ มีแผนสำหรับกู้เงิน คือ                         แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 1 วงเงิน 116,700 แสนล้านบาท                         แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะที่ 2 วงเงิน  1,431,000 ล้านบาท               รวมเงินกู้ทั้งสิ้น 1,547,700 ล้านบาท ทำให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP ณ สิ้นปี 2556 อยู่ที่ระดับร้อยละ 60.8 เกินกว่าที่พระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ พ.ศ. 2548 กำหนดไว้ ถึงแม้จะมีพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2551 ในยุคขิงแก่ ก็ยังไม่เพียงพอ               ดังนั้นจึงต้องมีการออกพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างความมั่นคงทางเศรษฐกิจ พ.ศ. 2552 ออกมา              ในความเป็นจริงไม่ใช่พรรคแมงสาปต้องการกู้ 800,000 ล้านครับ แต่ส่วนที่อยู่ในกรอบของพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ  พรรคแมงสาปกู้ไปหมดแล้ว และเริ่มแทะเล็มส่วนที่นอกกรอบพระราชบัญญัติการบริหารหนี้สาธารณะ  โดยใช้การออกพระราชกำหนดครับ              ดังนั้นกรุณาอย่าแกล้วเซ่อว่า พรรคแมงสาปแค่กู้ในกรอบของออกพระราชกำหนดฯเท่านั้นครับ ................. คนในเว๊ปนี้ส่วนใหญ่ฉลาด ไม่ใช่โง่งมครับ จากคุณ : บุรุษหน้าเหล็ก เขียนเมื่อ : 23 ธ.ค. 52 18:33:34 A:117.47.160.155 X: