Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ปปช.ตั้งกรรมการสอบผู้พิพากษาศาลอยุธยา...ที่ออกหมายจับสุนัยหมิ่นทักษิณ  

วันที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553 เวลา 20:35:22 น.  มติชนออนไลน์

ก.ต.ออกโรงแจง"ป.ป.ช."ไร้อำนาจเรียก"ผู้พิพากษา"สอบระหว่างคดีอยู่ในศาล "วิชัย"ยันไม่ได้ก้าวล่วง

ก.ต.ป้องผู้พิพากษาอยุธยา ระบุ "ป.ป.ช." ไม่มีอำนาจเรียกศาลสอบระหว่างคดีอยู่ในชั้นศาล ชี้เป็นการใช้อิทธิพลโดยมิชอบ ข่มขู่กดดัน กระทบความเป็นอิสระศาล ป.ป.ช.ปัดก้าวล่วง แจงไม่ได้กล่าวหาทุจริต แค่สงสัยไม่ทำตามขั้นตอนกฎหมาย เล็งหาจังหวะชี้แจง ปธ.ศาลฎีกาให้เข้าใจ


ความคืบหน้ากรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งอนุกรรมการสอบสวน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ รอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา , พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา และนายอิทธิพล โสขุมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ทั้งหมดยศและตำแหน่งขณะนั้น) กล่าวหากระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม กรณีร่วมกันขอและอนุญาตให้ออกหมายจับนายสุนัย มโนมัยอุดม อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต่อมาวันที่ 7 มกราคม 2553 นายอิทธิพล ได้ยื่นเรื่องต่อคณะกรรมการตุลาการขอแนวทางปฏิบัติในกรณีที่ได้รับหมายเรียกไปให้ถ้อยคำที่สำนักงานป.ป.ช.นั้น


ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ว่า คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.) มีหนังสือตอบกลับถึงนายอิทธิพล โสขุมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่สอบถามกรณีที่ป.ป.ช. มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกล่าวหากระทำผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่  หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ในการออกหมายจับและอนุญาตให้ออกหมายจับนายสุนัย มโนมัยอุดม  อดีตอธิบดี กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ผู้ต้องหาคดีหมิ่นประมาท พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโดยฝ่าฝืนกฎหมายเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่ผู้ต้องหา



ทั้งนี้ กต.ได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม กต. ครั้งที่ 3/2553 เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2553 ว่า กต.พิจารณาข้อหารือแล้วมีมติเห็นว่า  ท่าน(นายอิทธิพล) มีสิทธิชี้แจงเป็นหนังสือต่อคณะอนุกรรมการไต่สวนของ ป.ป.ช. และขอไปให้การในชั้นศาลได้


นอกจากนี้ ก.ต. ยังให้สำนักงานศาลยุติธรรม ทำหนังสือแจ้งไปยัง ป.ป.ช.ว่า  ก.ต. ได้พิจารณาประเด็นปัญหาดังกล่าวแล้วเห็นว่า ผู้พิพากษามีดุลพินิจอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี ซึ่งเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญและกฎหมายบัญญัติไว้ โดยไม่อาจมีการแทรกแซงหรือก้าวล่วงจากหน่วยงานหรือบุคคลใด รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาในการพิจารณาออกหมายจับตามประมวลกฎหมายอาญาพิจารณาความอาญาด้วย หากคู่ความไม่เห็นพ้องด้วยกับดุลพินิจของผู้พิพากษาในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี รวมถึงคำสั่งของศาลในเรื่องใดๆ ในระหว่างการพิจารณาคดี คู่ความย่อมสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ ฎีกา คำสั่งดังกล่าวของศาลต่อไปได้


"การกระทำใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการใช้อิทธิพลโดยมิชอบ การชักนำ การกดดัน การข่มขู่ หรือการแทรกแซง ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมจากบุคคลหรือองค์กรใดที่จะมีผลต่อการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของผู้พิพากษาจึงไม่พึงกระทำโดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการไต่สวนผู้พิพากษาในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษาคดี ในขณะที่ประเด็นข้อพิพาทของคดียังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาล รวมทั้งหลักประกันความเป็นอิสระของผู้พิพากษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 และหากผลการดำเนินการของ ป.ป.ช. ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร ขอให้แจ้งสำนักงานศาลยุติธรรมทราบด้วย" ก.ต.ระบุ


ขณะที่ นายวิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการศาลยุติธรรม กล่าวว่า สำนักงานศาลยุติธรรม คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรม (กบศ.) ได้ติดตามเรื่องราวอย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด และ ก.ต.ได้ประชุมพิจารณาแล้วมีความเห็นว่า ผู้พิพากษามีดุลพินิจอิสระในการพิจารณาพิพากษาคดี ซึ่งเป็นไปตามในบทบัญญัติที่รัฐธรรมนูญ และกฎหมายบัญญัติไว้ ไม่อาจมีการแทรกแซง หรือก้าวล่วงจากหน่วยงานหรือบุคคลใด รวมถึงการใช้ดุลพินิจของผู้พิพากษาในการพิจารณาออกหมายจับ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาด้วย หากคู่ความไม่เห็นพ้องด้วยกับคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลย่อมสามารถใช้สิทธิอุทธรณ์ หรือฎีกาได้


นายวิรัช กล่าวว่า  การกระทำใด ๆ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยอ้อมจากบุคคลหรือองค์กรใดที่จะมีผลกระทบกระเทือนต่อการพิจารณาพิพากษาอรรถคดีของผู้พิพากษาจึงไม่พึงกระทำ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งการไต่สวนผู้พิพากษาในลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาพิพากษาคดีในขณะที่ประเด็นข้อพิพาทแห่งคดียังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล  รวมทั้งหลักประกันความเป็นอิสระของผู้พิพากษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550



ดังนั้นเพื่อความเข้าใจที่ถูกต้องในบทบาทอำนาจหน้าที่ของผู้พิพากษาศาลยุติธรรม  สำนักงานศาลยุติธรรม จึงได้มีหนังสือแจ้งคณะกรรมการ ป.ป.ช. ดังเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น  และจะดำเนินการหามาตรการที่เหมาะสมในการปกป้องคุ้มครองดูแลผู้พิพากษาให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเป็นอิสระ เป็นกลาง และเป็นธรรม มิให้บังเกิดความหวั่นไหว โดยยึดมั่นหลักการ ปราศจากอคติทั้งปวง เพื่อเป็นหลักประกันพื้นฐานในการสร้างความยุติธรรมให้แก่คู่ความและประชาชนอย่างเสมอภาคเท่าเทียมกัน


ด้านนายวิชัย วิวิตเสวี กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงการตั้งอนุกรรมการไต่สวนนายอิทธิพล สุโขมา ผู้พิพากษาศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอีก 2 นาย ว่า ไม่ใช่การก้าวก่ายอำนาจระหว่างกัน ของศาลกับองค์กรอิสระ เพราะคณะกรรมการป.ป.ช.ก็ตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปตามกฎหมาย ที่สำคัญเป็นเพียงการสอบสวนข้อเท็จจริงเบื้องต้นเท่านั้น ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับใคร ไม่ว่า จะเป็นตุลาการหรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงยังไม่รู้ว่ามีใครผิดหรือไม่ผิดอะไร



สาเหตุที่ตั้งคณะกรรมการไต่สวนนายอิทธิพลด้วย เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามระเบียบว่าด้วยการออกหมายจับ ทั้งที่นายสุนัยได้คัดค้านการออกหมายจับดังกล่าวแล้ว แต่นายอิทธิพลไม่ฟัง ยังอนุมัติให้ออกหมายจับ จึงสงสัยว่า นายอิทธิพลอาจไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการออกหมายจับทั้งที่เป็นกฎหมายที่บังคับเด็ดขาด


"ยืนยันว่าไม่ได้ไต่สวนเรื่องจากทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หากเจ้าหน้าที่ตำรวจขอออกหมายจับ แต่ศาลไม่อนุมัติออกให้ ก็จะไม่ถือว่า มีความผิด เพราะยังไม่เกิดความเสียหาย แต่เมื่อศาลอนุมัติออกหมายจับนายสุนัย คณะกรรมการป.ป.ช.จึงต้องตั้งอนุกรรมการไต่สวน เพราะสงสัยว่า ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย หลังจากนี้ผมจะหาโอกาสไปพบกับนายสบโชค สุขารมณ์ ประธานศาลฎีกา ที่สนิทสนมกัน เนื่องจากผมเคยเป็นผู้พิพากษามาก่อน เพื่อชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นให้นายสบโชคฟังว่า เป็นเทคนิคทางกฎหมาย เชื่อว่า ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างองค์กร"นายวิชัย กล่าว



นายวิชัยกล่าวว่า  ไม่เชื่อว่าจะเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวทำให้เหตุการณ์บานปลาย ส่วนนายอิทธิพลก็เป็นลูกศิษย์ ถ้าเจอหน้าก็จะอธิบายให้ฟังว่า ขั้นตอนการทำงานของป.ป.ช.เป็นอย่างไร การตั้งอนุกรรมการไต่สวน เพราะสงสัยว่าไม่ทำตามกฎหมาย แต่ยังไม่มีการชี้ว่าใครผิดใครถูก



ที่จ.พระนครศรีอยุธยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พนักงานสอบสวนคดีดังกล่าว พบว่า พ.ต.อ.ธาตรี ตั้งโสภณ รอง ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เกษียณอายุราชการไปแล้ว ส่วน พ.ต.ท.ณรงค์ฤทธิ์ วาพันสุ ยังดำรงตำแหน่งรอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา


รายงานข่าวแจ้งว่า ยืนยันว่าการดำเนินการของพนักงานสอบสวน สภ.วังน้อย ดำเนินการทุกอย่างชอบด้วยกฎหมาย และตรงตามระเบียบทั้งหมด โดยมีการสอบพยานมากถึง 17 ปาก อีกทั้งกว่า จะเสนอออกหมายจับ ได้มีความพยายามที่จะติดต่อนายสุนัย หลายขั้นตอน รวมระยะเวลากว่า 4 เดือน นับจากเริ่มติดต่อครั้งแรกด้วยวาจา การทำหนังสือ และออกหมายเรียกอีก 3 ครั้ง จนถึงขั้นตอนออกหมายจับดังกล่าว

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1265980653&grpid=00&catid=00

จากคุณ : TSC
เขียนเมื่อ : 12 ก.พ. 53 21:36:30 A:124.121.41.188 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com