ความคิดเห็นที่ 1 กลอนที่ตีความได้หลายทิศทางถือว่ามีคุณสมบัติที่ดีนะคับ อิอิ อย่างหนึ่งคือ ประเทศไทยยังอยู่ในกะลาครอบที่มีคนถือปืนบ้าอำนาจเป็นใหญ่ การถูกปิดหูปิดตา ความไม่รู้ การข่มขู่ให้กลัวในที่มืด สิ่งที่มองไม่เห็น ยังคงมีอิทธิพลล้นฟ้า แตถ้าเปิดกะลาออกรับแสงสว่าง เมื่อเห็นทุกสิ่งจะแจ้ง เขาก็เป็นแค่คนถือปืนหลงอำนาจคนหนึ่งก็เท่านั้น ไม่มีไสยศาสตร์เหนือธรรมชาติอะไร หลายครั้งที่เราพยายามแง้มออกไปแต่เราก็ถูกปิดครอบกลับมาอีก ประเทศจึงไม่ก้าวหน้าไปไหนวนเวียนอยู่อย่างนี้ ในแสงแดดอาจต้องมีใครร้อนกันบ้าง แต่ถ้าไม่มีแสงแดดก็ไม่มีสายรุ้ง ถ้าไม่ออกจากกะลาก็ไม่เห็นโลกกว้างว่าเขาไปถึงไหนกันแล้ว ที่แน่ๆ ประชาธิปไตยยังไม่ตาย อยู่ข้างนอกนั่น ดวงสีแดงแจ๋เชียว จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 11:04:02 A:203.144.180.65 X:

ความคิดเห็นที่ 2 ในโลกกว้างสว่างแสงสุรีย์ส่อง ลำแสงผ่องต้องกายให้ใสแจ่ม จริตเจิดบังเกิดกล้ากว่าเดือนแรม ย่อมแต่งแต้มแย้มการเป็นงานดี ได้ขับเคลื่อนเลื่อนกายไปข้างหน้า มิอ่อนล้าพารุ่งมุ่งสู่ศรี สู่โลกกว้างสว่างแจ้งแสงสุรีย์ ทุกชีวีมีเกิดล้ำเลิศคุณ อนิจจากะลาเก่าคอยเข้าครอบ ให้คนหมอบกรอบอมาตย์จัดเกื้อหนุน คอยขัดเงาเกลากะลาว่าทรงคุณ ให้วนหมุนกูลเกื้อเพื่อกะลา เอาเด็กน้อยดอยเต่าเข้าย่ำย่อง มิให้แสงแจ้งส่องต้องดวงหน้า คอยปิดแสงสว่างสวยด้วยวาจา ให้หัวคิดติดกะลาน่าอับอาย ................................................................ คารวะท่าน KAVINT ขอรับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 11:50:46 จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 11:47:07 A:125.24.197.8 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ...แม้สิ้นแสง สุริยง ที่ดงไม้ ยังยิ้มได้ ที่เห็นแสง จากปลายฟ้า ยิ้มทั้งยิ้ม รู้ทั้งรู้ ปาดน้ำตา     สุดเวทนา ประเทศไทย...ในหมู่มาร จากคุณ : ป.ปาแปง เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 13:27:36 A:117.47.212.199 X:

ความคิดเห็นที่ 4 555 55 555 ใช้กะลาดับตะวันขันจิงเหวย คุณKAVINTเก่งจังช่างเปรียบเปรย เป็นกลอยเผยฝีมือระบือนัก ยามเหนี่ยวไกไปหนึ่งได้ถึงสาม คือความงามเยือกเย็นเห็นประจักษ์ ก็เผยโฉมปักษาวายุภักษ์ ร้อยเสียงรักเริงร่ากินวายุ ฯ อยากให้กิ๊ฟแต่กิ๊ฟหมด แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 53 15:32:36 จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 25 ก.พ. 53 15:31:11 A:203.130.138.66 X:

ความคิดเห็นที่ 5 คารวะท่านเสกคาถา กลอนดีจริงคับ สื่อความคิดความหมายได้คมชัดเห็นภาพเลย ไม่ได้เข้าตั้งกระทู้ที่ห้องกวีการเมืองนานอยู่ สมาชิกรุ่นปัจจุบันนี้ฝีปากยอดเยี่ยมทุกท่านจริงๆ ไม่มีใครสามารถดับดวงอาทิตย์ ได้แต่ปิดตาตนบนความเขลา เหยียบประชาธิปไตยไว้ใต้เท้า แล้วนึกเอาว่าชนะประกาศชัย กลางเมฆฝนหม่นฟ้าพายุร้าย ดวงตะวันไม่เคยหายไปแห่งไหน "เมื่อแผ่นฟ้าสีทองผ่องอำไพ" แสงประชาธิปไตยจะกลับมา ------------------------- ...แม้สิ้นแสง สุริยง ที่ดงไม้ ยังยิ้มได้ ที่เห็นแสง จากปลายฟ้า ยิ้มทั้งยิ้ม รู้ทั้งรู้ ปาดน้ำตา     สุดเวทนา ประเทศไทย...ในหมู่มาร คุณป.ปาแปง ประเทศชาติเป็นของประชาชน เราถูกปล้นโดยรถถังกำลังทหาร ผู้ยิ่งใหญ่เหนือทุกรัฐบาล รับประทานเครื่องจีทีอ้วนพีเชียว -------------------------------- คุณศาลายา เรื่องปักษาวายุกวนสุโค่ย ยังเห็นโวยวายสาดน่าหวาดเสียว ตอนแรกกะตอบทู้โน้นทู้เดียว คิดอีกทีอย่าเชียวเดี๋ยวเขางอน บอกไม่อ่งไม่อ่านพาลไปหญ่าย กด Enter แหลกจนกลายกระทู้หลอน คนอยากอ่านความเห็นประเด็นร้อน ต้องลำบากลากลงก่อนขี้งอนจริ๊ง --------------- แก้ไขเมื่อ 26 ก.พ. 53 00:19:22 จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 00:10:12 A:203.144.180.65 X:

ความคิดเห็นที่ 6 08.46 น. ๏ โขกกะลา คากระโหลกรู้ ................ กระแส-ไฟ ฟ้า-จ่าย ฝ่ายจ้าใน ........................... จิตแจ้ง เนียนทั่ง นั่งเทียนไข ........................ ไฟเพ่ง กสิณแล จิตร่อน จ้อนฤทธิ์แร้ง ........................ ล่อนจ้อนหัวโกร๋น ๏ พล๊อก โดน โพลน Doc. ล้าน .......... เลี่ยนแหล ลานเกศ เลศน์กานท์ แฉ ................... ชัดด้าน ดื้ออับ ดับอื้อ แกล .......................... มืดม่าน แลอับ หลับแอร์บ้าน ........................ ติดห้องหอเห็น ๏ ตะวันเด่น ตระเวณดั้น ออก ............. หาธรรม-ชาติใด เขลอะที่ ขี้เท่อคลำ .......................... มั่วชี้ จันทร์อาทิตย์ จิตอาถรรพ์ทำ ............. มีชั่ว ดีแล จำเล่า เจ่ารำขี้ ............................... ปากค้านคำครู ๏ เดาสู้ ดูเศร้าเก็บ .......................... ตะวัน ส่องจิต ศิษย์จ้อง ฝัน ....................... โลกกว้าง ที่แคบ แถบขี้มัน ............................ คอย wait 'เว็จขี้'ซี กะลาโหนก กระโหลกหนาอ้าง ........... อู่น้ำลายไหล ๏  ใครรู้ ครูไร้เล่ห์ ......................... กลลวง เท่อ sheet teacher ทวง ................ ค่าให้ เด๊อ talk Doctor ควง ..................... ไมค์ท่อง 'ปาฐกถา'แล ใจสว่าง จ่างไสว ใช้ ....................... สปอร์ตไล้ท์ส่องหรือ ๏ ทื่อดี ที่ดื้อดับ ............................ ตาวัน กะลาอัด กะรัฐอาถรรพ์ ................... มืดตื้อ ปะกาเลิศ เปิดกะลาดัน ................... ขาวเด่น กาหรือ กะลาโปก กระโหลกป๋าพรื้อ ............ พูดด้านค้านซี ๏ วันนี้ we นั้นเปิด ......................... กะลา จากมืด จืดมากมา .......................... รสเข้ม ข้นอยู่ ขู่ย่น พา ............................. ศาลสถิต ยุติธรรมเวย อย่าปั่น หยั่นป๋าเม้ม ........................ ปากสู้'ติณ'ซัด-ตัดสินวันศุกร์ ใช่เสาร์ แทรกทุกข์เศร้าทำไมแน แลนาบารนี ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่) 09.56 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 10:01:17 A:119.31.121.76 X:

ความคิดเห็นที่ 7 คุณนกโก๊ก ดูแต่กี้ ดีแต่กู้ หดหู่นัก ดูไร้หลัก ดักไร้รู ขู่ให้ขรม นโยบาย ณ ยายโบ ราณโง่งม ไปล่มจม ปมล่มใจ ชาติไทยพัง รู้หน้าที่ รี้หน้าทู่ อยู่ตรงหน้า เอาธงมา อาธงเมา ตามเฒ่าสั่ง ยุติธรรม ยำติทุด สุดเวงวัง ไร้ความหวัง หลังความไว้ อาลัยเทอญ จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 26 ก.พ. 53 11:27:35 A:203.144.180.65 X:

ความคิดเห็นที่ 8 แวะมาทักมาทายหมายว่าเทียบ ปานจะเปรียบจะเปรยว่าเย้ยยั่ว แต่ดวงจิตติดตมงมกวนตัว จึงเมามัวมึนมาดมิอาจมอง แวะมาทักท่านกวินท์และ ทุกท่านค่ะ จากคุณ : tiki_ทิกิ เขียนเมื่อ : 27 ก.พ. 53 01:40:55 A:124.121.36.43 X:

ความคิดเห็นที่ 9 สักวันหนึ่งสวรรค์คงมีตา เปิดท้องฟ้าสีทองให้มองเห็น แผ่ร่มโพร่มไทรให้ร่มเย็น ปลอบใจเป็นสุขใจได้ดังเดิม ไม่มีคนผูกจิตริษยา แยกแผ่นดินแผ่นฟ้าให้ห่างเพิ่ม ไม่อ้างยุติธรรมมาซ้ำเติม ไม่จุดเริ่มโหมไฟเผาไหม้เมือง ให้จิดอาฆาตนั้นพลันหลุดพ้น เลิกยั่วยุผู้คนเพื่อหาเรื่อง ให้จิตนั้นสงบได้ไม่แค้นเคือง ยังคงความรุ่งเรืองแม้ร่วงโรย เลิกอยากเด่นอยากดังอย่างผิดผิด รู้ไหมคนไร้มิตรมันโหลยโท่ย เลิกเถิดกลอนสั่วสั่วยั่วแล้วโกย ทำเด่นโดยแกว่งปากเพราะอยากดัง จากคุณ : KAVINT เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 00:24:16 A:203.144.180.65 X: