ความคิดเห็นที่ 1 ใด ฤๅ บุรุษคล้าย ................. ผายลม กลิ่นตดมิชวนชม...................ชื่นแท้ สำรากถาก:-)ถม...................กวีอื่น หากแต่ตัวเองแม้...................มิซึ้งกลิ่นตน จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 11:56:45 A:203.147.41.190 X:

ความคิดเห็นที่ 2 กลอนกวีมิอาจแบ่ง...ชนชั้น ใยแข่งขันดูเบา...เพื่อนเอ๋ย หนึ่งไพเราะหนึ่งถาก...มิยลจิต..พึงเฮย ร่วมวาดเหวยบทกวี...นี้ทรงคุณ จากคุณ : เวลาและวารี เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 12:40:43 A:61.7.169.229 X:

ความคิดเห็นที่ 3 อคติฉุดครอบทั้ง............ทุกขัง พจน์พล่ามสำเนียงดัง......ด่าเชื้อ เปรียบคนอย่างชิงชัง.......เฉกสัตว์ สาเวย หยันหยาบเกินยากเยื้อ.....หยุดยั้งเลวทราม . . จากคุณ : ploythana เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:17:42 A:118.174.83.199 X:

ความคิดเห็นที่ 4 12.31 น. ๏ ดูกร กวิผู้ ....................... ป่ายปีน ร้อยลิขิต มือตีน ................. ไต่เต้า นมแม่ แต่วัย teen .............. age นั่น โดดเด่น ด้วยมือเท้า ............ สิเจ้ากวีหวาน ๏ จารกวี ที่เจ้าคร่ำ .............. เคร่งเขียน จินตนาการ เวียน ................ ทั่วหล้า โลกฝัน ท่านนั่งเทียน .......... เห็นกระจ่าง โลกแห่งความจริง ฟ้า .......... ลิขิตด้วยเจ้าหรือ ๏ ฤๅ เลือกข้างเลือกแล้ว ...... ผายลม ปากวิจารณ์ ติชม ................ ต่างด้าน ผายลมตดท่าน ดม ............. ดูกลิ่น ต่างฤๅ ต่างตดต่างเหม็น คร้าน ........ เกลียดขี้เหมือนตู ๏ ดูกลอนกาพย์บุรุษ เจ้า ..... จริงใจ ฤๅ บ่เคยขับไข .................. หลอกล้อ ลิงจั๊ก รักจริงไป ................. ทุกเหล่า สตรีฤๅ เท้าถีบหน้า ใครน้อ ............. บุรุษผู้ผายลม ๚ะ๛ (ฮี่ฮี่ ) 13.12 น. คารวะท่าน หนึ่ง [ ๑ ] จอมกวี  ... ดีใจที่เห็นอมยิ้มท่านไม่มอดมลาย กลิ่นผายลมบุรุษใด รมไล่ท่านมาฤๅ จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:23:25 A:119.31.121.69 X:

ความคิดเห็นที่ 5 * ** *** * ชั่วดีมนุษย์สร้าง...............................จิตตน สูงต่ำศักดิ์ล้วนผจญ...........................กิเลสเร้า จากอดีตสู่สากล...............................วัฎจักร สว่างมืดสองด้านเฝ้า..........................โอบล้อมภาพแสดง จะแดงเหลืองโลกล้วน.........................ระคนกัน แตกต่างความคิดยัน...........................รับได้ เหตุผลยกโรมรัน................................อย่างสุภาพ อักษรากวีไซร้...................................เพริศพริ้งเฉิดฉาย ความเห็นต่างไม่มีปัญหา ปัญหามักมาจากคนเขียนชอบเอาตนเองเป็น ศูนย์กลาง!!!จนลืมมารยาทสังคม หวัดดีค่ะ คุณ ๑  หายไปนานมากเลยนะคะ ยินดีที่กลับมาจรรโลงห้องกวีการเมืองให้มีสีสรรค์ ดั่งเช่นก่อนนะคะ * จากคุณ : ยี่หร่า@ เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 13:27:24 A:124.120.222.218 X:

ความคิดเห็นที่ 6 ๏ อนิจจาพญานกดิลกฤทธิ์ กายสิทธิ์ยิ่งใหญ่ในโลกสาม วาจาเดือดเชือดเฉือนบิดเบือนความ ปีกที่งามสะบั้นหักเพราะปากนั้น ปากเจ้าไร้เดียงสาพาวิบัติ คิดจะกัดกินไถงหัวใจฝัน จึงถูกเผาด้วยแสงแห่งตะวัน พี่ชายเขลาเข้ากั้นไม่ทันคิด จึงขนร่วงลงสิ้นองค์อินทร์สาป ซ่อนกายบาปในถ้ำระกำจิต รอทหารพระรามองค์ผู้ทรงฤทธิ์ โห่สามราจึงวิจิตรคืนโลมา นกน้องกลับอวดดีวาทีไพร่ หากลัวใครนอกจากนารายณ์หนา องค์อิศวรอีกแหวนนางสีดา จึงจะฆ่าตนตายขยายความ อนิจจาพญานกดิลกฤทธิ์ กายสิทธิ์ยิ่งใหญ่ในโลกสาม วาจาเดือดเชือดเฉือนบิดเบือนความ ปีกที่งามสะบั้นหักเพราะปากนั้น ๚ะ๛ ภาพประกอบ : นกสดายุ (ขอบคุณ วิกิซอร์ส) จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 14:52:07 A:203.130.138.66 X:

ความคิดเห็นที่ 7 จอมกวีกระแทกไส้......................ชาวกวี หนึ่งกระแทกคนอาบปี..................อวดก้อง สองกระแทกใส่เราซี....................แสนอ่อน เจ็บลึกหัวเราะร้อง........................แม่นแล้วฉันอ่อนเขียน   เหอๆ ...................................................................................... คารวะท่าน จขกท. ขอรับ ฉันแค่คนอ่อนเขียน...............ที่วนเวียนเพียรสร้างถ้อย เพราะหัวใจดวงน้อย...............ถูกกดด้วยเผด็จการ มิใช่ศรีกวีใหญ่......................แต่หัวใจพร้อมต้านทาน อ่อนเขียนก็เพียรจาร..............เพื่อหลุดพ้นคนครอบใจ     เสกคาถามิรู้จักลึกซึ้งกับงานร้อยกรองสักเท่าไหร่ เขียนเพียงเพราะใจ  อยากเขียน อยากระบาย ขออภัยท่านกวีผู้รอบรู้แลลึกซึ้ง  ที่เสกคาถาทำให้เสื่อมเสียต่อชาวกวีโดยรวม ทำให้มีผู้เข้ามาดูถูก  ขอรับ จากคุณ : เสกคาถา เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 16:29:43 A:125.24.206.38 X:

ความคิดเห็นที่ 8 เราเองขอสารภาพนะครับว่า  ที่เข้ามาในห้องนี้ก็ด้วยว่าความเห็นของเรามันอยู่นานหน่อย   ไม่เหมือนที่ลงความเห็นในข้อเขียนธรรมดา มันไปรวดเร็วมากจนตามแทบไม่ทัน  เรื่องโคลงกลอนไม่ประสาสักเท่าไหร่ กว่าจะเขียนได้แต่ละบทต้องใช้เวลามาก  แต่เราก็ใช้มือเขียนนะ ก่อนนี้เคยนิยมว่าฝีมือผู้ที่พวกเรากล่าวถึงว่าเขียนได้ดีมีสาระ ยังไม่สายหากได้ควบคุมอารมณ์เสียหน่อยคงจะไปได้ดี         เคยชมชอบชื่อนี้   กวีไทย    ท่านแต่งกลอนสอนใจ    ใฝ่รู้    อารมณ์ขุ่นหรือไง        ก่นด่า    ดูหมิ่นแทบทุกผู้          ฝ่ายสู้  อยู่เสื้อแดง จากคุณ : มุมแดง เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 18:30:15 A:125.26.79.131 X:

ความคิดเห็นที่ 9 นานาจิตผ่านหล้า.............ของคน ปรากฎแปลกปะปน..........หลากร้อย บางคนมักอวดรน............แลกด่า หวังส่งนัยเพียงคล้อย.......แต่ด้านบอกทราม ความใครหมายอวดแม้......อาจม หลงชื่นหวังชนชม.............อาบฟุ้ง หามีจิตประสม.................เนียนนิ่ม หวังแค่คิดกระทุ้ง..............ส่งให้ตนดัง 5555555พี่อิ๊ด ต้องให้รางวัลมี่นา ที่ชวนลองล็อกอินใหม่ดู อิอิ แก้ไขเมื่อ 01 มี.ค. 53 22:49:53 จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 1 มี.ค. 53 22:46:34 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ๑๑๑ บุรุษนั่นสำคัญตน              เป็นรัฐฐะ พอรู้เห็นเป็นโมฆะ                    บุรุษแท้ ลักเพศพิเศษนะฮะ                   ผมลาย รสนิยมยอดแย่                        แพ้ชายชาติอาชาไนย ๒๒๒ สองเพศมาตราฐาน           ปกครอง สองระบอบชอบลำพอง              รัฐประหาร เผด็จการสมใจปอง                   อมาตยา ประชาธิปไตยอาน                    ลานแหลกล่มจมคลอง จากคุณ : Chupong เขียนเมื่อ : 2 มี.ค. 53 06:15:07 A:125.25.2.244 X:

ความคิดเห็นที่ 11 มากลมเกินสกัดกั้น.................มวลกาย จึงเบ่งลมผุดผาย....................กากแกล้ม กลิ่นตนบ่อับอาย....................ตนหรอก หากแต่โทษอื่นแอ้ม...............โธ่เว้ย ! โคตรเหม็น จากคุณ : จังงัง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 15:33:33 A:203.147.41.190 X:

ความคิดเห็นที่ 12 1, 11  คุณจังงัง ขออภัยที่มาตอบช้าครับ บ่นเรื่องกลิ่นทั้งสองบทเลย ... ขอบ่นตามด้วยครับ * กลิ่นตัวเองไป่รู้ ........... รำคาญ แม้เท่าเทียวกลิ่นพาล ..... พล่อยคลุ้ง หากเป็นแต่เกิดนาน ....... นับว่า นิสัยฤๅ เรี่ยราดรายร้ายฟุ้ง .......... เฟื่องให้เสียพงศ์ . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 00:37:02 A:115.87.5.192 X:

ความคิดเห็นที่ 13 2  คุณเวลาและวารี ขอบคุณที่มาฝากกลอน ถ้อยคำไพเราะนุ่มนวลชวนฟัง ไว้ให้ครับ เพียงอ้าเอ่ยออกมาให้ปรากฏ ก็รู้รสแห่งคำที่นำเสนอ ทั้งห้องโน้นห้องนี้วิจัยเธอ จนล้นเอ่อ..อกใครใคร..ไปหมดแล้ว . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:00:02 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 14 3  คุณploythana อ่ะ..มีภาพประกอบชวนให้ใจร่มๆด้วย ขอบคุณครับ * เพียงเหลือบแลย่อมรู้ ..... ไร้ธรรม์ ส่อสัดสัณฐานอัน ............. โอ่อ้าง คำเบียดเสียดสีหยัน ......... เหยียดสัตว์ ฤๅค่าควรนับสร้าง ............. สืบให้ศึกษา จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:09:23 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 15 4  คุณนกโก๊ก คุณท่านนกฯ ทักทายกันแบบเบาๆหน่อยสิครับ  แบบนี้มันหวิวอะครับ จากใจจริง ผมเป็นแค่คนรักและหลงโคลงสี่สุภาพเท่านั้น หลังจากถูกพักบัตรแล้วก็เข้าไม่ได้ 2 ปี เบื่อไปเลย จู่ๆเข้ามาได้ ก็ขอบคุณครับ * ปรมาจารย์ผู้คล่อง ..... โคลงผวน คุณท่านนกบ้านสวน ..... สุดร้าย กำนัลหนึ่งกระบวน ........ ท่าหนัก เทียวนา มิทราบเป็นหน้าซ้าย ...... ฤนั้นหน้าแง . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:35:30 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 16 5  คุณยี่หร่า ด้วยความคิดถึงนะครับ  นึกถึงคำที่่คุณสาละวินใช้เสมอว่า .. ยี่หร่าตาคม ต้องเปลี่ยนใหม่แล้วครับ .. ฟัน ครับ ติดตามอ่านมาตลอด นึกเสมอครับว่า .. คุณยี่หร่าฟันคม  : ) * คำทรามสิรกเรื้อ ......... ระคายหู ใครต่างไตร่ตรองดู ........ ด่ำช้า คำไพเราะเหมาะตรู ........ ตรึงจิต ฤทธิ์ซ่านซึมซาบหน้า ..... หนักแม้นมิหนา . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:51:22 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 17 6  คุณศาลายา ชอบมากเป็นพิเศษครับ ทั้งกลอนและภาพ * กลอนท่านดังเทพเท้า ..... บรรเลง ราวเรื่องเหมาะเจาะเผง ....... พุ่งเป้า อันเขาล่อมาเอง ................. อิ่มอก จะจะจะงอยเข้า .................. จระเข้ฟาดหาง จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:02:05 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 18 7  คุณเสกคาถา สวัสดีครับท่าน  วิญญูชนย่อมรักการถ่อมตัว คงถูกต้องนะครับ * ท่านช่างหนักแน่นคล้าย ..... ขุนเขา อุตส่าห์แบกรับเอา ................ "อ่อน"ไว้ ผิดแผกพวกคนเขลา ............ คอยโอ่ ตนนา หางที่ยกนั่นไซร้ ................... ส่งก้นตนเอง จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:12:51 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 19 8  คุณมุมแดง ขอบคุณครับ  ความคิดเห็นที่่จริงใจและตรงไปตรงมาของท่าน เป็นประโยชน์มากครับ คนที่ความคิดและจิตใจคับแคบ จะเข้าใจได้มากขึ้น * ดีเจ็ดหนจดไว้ ..... ว่าดี ชั่วสักทีเจ็ดปี .......... ไปล้าง อย่าเลยอย่าทำที ..... ท่านัก เลงนา พาบทกวีร้าง ........... รสด้อยเสียดาย . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:28:28 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 20 9  คุณญามี่ (y@mie) หุหุ .. คุณน้องญามี่เอาชื่อแควนคลับที่ไหนมาใส่ให้ครับนี่ ๕๕๕ เรื่องล็อกอินต้องขอบคุณมากๆเลยครับ ของขวัญอะไรดีหละ * ดังโดยด่าแดกด้วย ..... ใดดี ดังดั่งเดินโดยดี ............. เด่นได้ ได้ดังโด่ดีดี ................... โดดด่า โดนด่าดวงดับได้ ........... ดุจดื้อโดนดี . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 02:46:01 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 21 10  คุณChupong ขอบคุณอย่างยิ่งครับ ที่แม้เขียนโคลงสี่สุภาพยังไม่ต้องตามฉันทลักษณ์ แต่ก็ยังเขียนออกมาไว้ ด้วยใจรักการกวี * ชนใดชมชอบด้วย ..... เผด็จการ ย่อมบอกโดยอาการ ..... กักขฬ์กร้าว ไป่เห็นเหตุผลปาน ....... เปรียบอาต มาแฮ แลท่านยังกินข้าว ........ ขี่พื้นเดียวกัน แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 07:57:32 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 07:56:47 A:124.121.57.185 X:

ความคิดเห็นที่ 22 ณ สถานหับห้อง...........หอกวี ราชดำเนินวิถึ............ขุ่นข้น การเมืองวุ่นทั้งปี...........ทั้งชาติ วาทะทะลักล้น............หลากถ้อยถกเถียง เสียงกระหึ่มมากผู้..........อึงอล สองฟากแนวถนน..........กึกก้อง สำแดงแห่งตัวตน...........เอกสิทธิ์ สมัครเล่นร่ำร้อง...........แผกด้านจริตนำ คำใดควรกลั่นก้าง...........กากกรอง สูงต่ำชนทั้งผอง............รับรู้ อักษรเบ่งผยอง............ด่ากราด พฤติกรรมดั่งผู้............ปากอ้าลมผาย เสียดายปากหากใช้.........ผิดทาง ย่อมเสื่อมถึงปีกหาง.........แปดเปื้อน พญานกกายสาง.............กลิ่นสาป ผิวด่างดำกลากเกลื้อน.........แต่ล้วนรอยกรรม สวัสดี ครับทุกๆท่าน และดีใจที่เห็นลอคอินเก่าแก่อีกครั้งครับ ท่านหนึ่ง ผมเองที่สิงอยู่ห้องนี้มานาน เพราะที่นี่ไม่ค่อยร้อนมากเหมือนห้องข้างนอกและ สมาชิกล้วนแต่มีวุฒิภาวะกันทั้งนั้น เป็นมือสมัครเล่น ครับ เขียนเพราะอยากเขียน เมื่อมีแรงบันดาลใจมากระแทก  เพราะไม่เคยคิดจะเอาดีด้านนี้  แค่ชอบบรรยากาศการนำเสนอ เรื่องการบ้านการเมืองผ่านบทกวี เท่านั้น บทกวีชั้นเซียนชั้นเทพ ภาษาหรูหราวิจิตรอลังการ์ ผมก็ไม่มีปํญญาเขียนกับเขาหรอกครับ ปีนบันไดขึ้นไปอ่าน ก็ไม่ค่อยเข้าใจ ในความคิดของผม เหมือนดูชุดแสดงโชว์ตามคาร์บาเร่ย์ สวยแบบขึ้นหิ้ง แต่ไม่มีคนปกติใส่เดินตามถนน เพราะมันโอเวอร์ ชอบอ่านบทกวี ธรรมดา ภาษาง่ายๆ  ไม่ลึกลับซับซ้อนมาก แบบว่าชีวิตนี้ยังมีอะไรที่จะต้องทำอีกเยอะ ในห้องกวีการเมือง ผมให้ความสำคัญกับความคิด มากกว่าความสุนทรีย์ของรสชาติ  แต่ถ้ามีทั้งสองอย่างก็เยี่ยม ไม่เห็นด้วยกับการเหยียบย่ำซ้ำเติม ดูหมิ่นดูแคลน เพียงเพราะเราอยู่คนละฟากฝั่งความคิด ไม่ชอบใจก็ไม่ต้องไปอ่าน  ถ้าจะติเพื่อก่อ คงเป็นประโยชน์ แก่สังคมโดยส่วนรวม ติเพื่อก่อ ผมว่านักกลอนสมัครเล่นคงไม่เสียกำลังใจหรอกครับ  เพราะเรารู้ตัวเองดีอยู่แล้ว แต่การด่ากราด ดูถูก คงไม่ใช่วิสัยของผู้เจริญที่แท้จริง ปล. มาช้าไปหน่อย เพราะถูกพักหนึ่งเดือนข้อหาโพสรูปหลินปิง ได้แต่เข้ามาให้กิ๊ฟ สมาชิก อย่างเดียว  เขียนไว้ตั้งแต่ ตอนได้กลิ่นผายลมใหม่ๆ แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 11:16:08 จากคุณ : ลำน้ำ C เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 11:14:42 A:122.154.18.253 X:

ความคิดเห็นที่ 23 22 . . . . สวัสดีครับ คุณลำน้ำ C และทุกท่าน รู้สึกดีใจที่ได้มาพบกันอีกครับ  ๕๕๕ เพราะรูปหลินปิง ที่คุณลำน้ำ C เล่ามานั้นชัดเจน ในหลายๆแง่มุม ต่างคนต่างมา มีสิ่งเดียวที่เหมือนกัน คือความรักที่จะคิดเขียนในเชิงบทกวี จริงๆแล้วไม่ควรที่ใครจะไปกะเกณฑ์คนอื่น ว่าต้องอย่างนั้นอย่างนี้ เป็นแต่ตนเองต่างหาก จะนำเสนออย่างไรใ้ห้คนอื่นเห็นด้วย และก็ควรเข้าใจว่าถ้าเหตุผลเราดี ก็อาจยังมีคนเถียงทั้งที่ในใจเขาอาจยอมรับอยู่ ... ทำใจกว้างๆครับ : ) * เพียงหนึ่งผู้หากพ้อง ..... เหตุผล คนหมื่นพันจักจน ............ แจกแย้ง พูดจาประสาคน .............. คิดอย่าง ชอบเทอญ ถูกผิดนำทางแจ้ง ............ จึ่งโน้มใจคน . แก้ไขเมื่อ 05 มี.ค. 53 15:15:58 จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 14:49:59 A:124.121.61.238 X:

ความคิดเห็นที่ 24 มาชมโคลงหนึ่งเจ้า ปฐพี ท่านพจน์จอมกวี   เก่งกล้า รำพันผ่านวจี     โคลงตด ตามกลิ่นมิรอช้า   อ่าฮ้าอบอวล คริคริ จากคุณ : virismara เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 22:28:41 A:125.25.138.219 X:

ความคิดเห็นที่ 25 โคลงผายลมพี่นี้      อบอวล ยามอ่านท้องปั่นมวน   ป่วนไส้ อ่านจบอาจลมหวน    ทวนกลิ่น อ้อ..ตดเราเองไซร้   ใช่แล้วลืมตัว 555 จากคุณ : virismara เขียนเมื่อ : 5 มี.ค. 53 22:32:14 A:125.25.138.219 X:

ความคิดเห็นที่ 26 คุณvirismara 24.. อ่านแล้วเท้าเย็นเฉียบเลยครับ แหะๆ อ่อนระทวยไปหมดทั้งกายและใจเลยหละ ก็เป็นโรคกลัวความสูงนะครับ * ยิ่งสูงยิ่งสั่นเนื้อ ....... เหน็บหนาว กระอักกระอ่วนราว ...... ร่วงฟ้า อยู่ดินถิ่นเคยพราว ...... พอสุข แม้แค่นอนซบหน้า ...... แนบพื้นปฐพี 25.. เคยประสบอุบัติเหตุแบบนี้ไหมครับ * ลมนารีผิว์พลั้ง ......... พลั่งผาย ย่อมมิอาจโวยวาย ........ ว่าได้ เพียงกลิ่นอาจสลาย ...... วงแตก ฮือนา แลเมื่อจางแล้วไซร้ ....... สิแกล้งทำเฉย จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 6 มี.ค. 53 18:49:32 A:124.121.59.61 X:

ความคิดเห็นที่ 27 หอมกลิ่นอื่นมากล้วน              สูดหอม เทียบเท่ามวลกลิ่นพยอม          มิ่งไม้ หากมัวแต่ดมดอม                   กลิ่นอื่น ไร้สุขสดชื่นไซร้                     ร่ายร้องเสียเวลา สมัยโน้น เราเคยอยู่ที่นี่  เจอหนึ่งกวีคำหยาบเลยถอยเพราะไม่ได้แตกฉานศัพย์เหล่านั้น สวัสดีเพื่อนๆค่ะ จากคุณ : Susisiri เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 14:25:22 A:58.10.164.223 X: