ความคิดเห็นที่ 1 เป็นกลอน๗ แบบ ๒-๒-๓ ที่บังคับสัมผัสเสียงสระด้วยตรง๒-๓ กับ ๔-๕ และกลุ่มคำแต่ละช่วง(คือ ๒-๒-๓นั้น) ต้องใช้เสียงพยัญชนะเสียงเหมือนกันด้วย จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:34:42 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 2 คนล้มอย่าข้ามจงจำไว้ ไฟไหม้กองฟางอย่าทำตื่น คิดเขียนเพียรสู้อยู่ทั้งคืน ยังยืนฝืนมั่นไม่เปลี่ยนแปร จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:39:43 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ~ดีชั่วอยู่ที่ปากและใจไปด้วยกัน~ ปากดีใจงามคำก็หวาน ส่งสารพานใครใครก็เชื่อ ปากงูผูกไฟไปในเนื้อ ก่อเบื่อเกื้อแท้หนอใจคน จากคุณ : ฟองไฟ เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:50:25 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 5 17.42 น. ๏ คำครู ผุ้พร่ำ นำแนะหนู เรียนรู้  สู่ศัพท์ ขับขานไข ล้มลุก คลุกคลาน ผ่านเพศภัย สว่างไสว ใช่ชั่ว มั่วโมเม ๏ พากเพียร เขียนคัด จัดจารจด ใบ้บท กฎเกณฑ์ เล่นหลายเล่ห์ กลโกง โยงใย ไร้รวนเร ถ่ายเท play เพลิน  learn เล่นเรียน   ๏ คำคม ชมชี้ มีมุขไม้ ถล่มไถล ให้ห่าง พรางพลาดเพี้ยน ไล่ล้ม ข่มคน บ่นเบียดเบียน แนบเนียน เขียนคิด มิตรหมางเมิน ๏ นกน้อย ถ้อยทวน ครวญคิด-ข้อง จิต-จ้อง  ผองเพื่อน เคลื่อนขัดเขิน กลอนกล สนศัพท์ กลับกลอกเกิน ด้นเดิน เหิรหาว เฝ้าไฝ่ฝัน ๏ ดันดี มีไหม ใช่ชั่วช้า เลวลา ท่าที วิวาทหวั่น เรื่องเรา เว้าวอน ตอนตื้นตัน สร้างสรร ปั่นป่วน ล้วนแหลกลาน ๚ะ๛   18.37 น. ----------------------------------------------------------------------------- ขอร่วมจารึกไว้ด้วยขวัญจินตกวี- วิถี 'กลบทดวงเดือนประดับดาว' -ขอคารวะเจ้า 'y@mie' กวีใจ ------- นกผี ---> กวีคำผวน*กวนวะคำผี*กวนหวีคำพระ <--- หนีผก ------ แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 18:46:55 จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 18:42:14 A:119.31.121.87 X:

ความคิดเห็นที่ 6 สิทธิ์เสียง เถียงท่าม ตามติดตื่น คือขื่น ฝืนเฟ้น เกณท์เกลียดเกี่ยว ปลุกป่วน มวลมิตร คิดขบเคี้ยว ทุกเที่ยว เหี่ยวห้อย ผล็อยเพลียพัน จากคุณ : โหม่งฉ่าฉ่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 20:11:30 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 7 . * ไย ยังชังเช่นเน้น ......... เหน็บหนาม ข้าม เข่นเล่นลามปาม ..... ปลิดเป้า คน แค่แย่ยามตาม .......... แต่ตัด ล้ม ลุกสุขเศร้าเคล้า ........ แค่คราว . จากคุณ : หนึ่ง [ ๑ ] เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 21:06:49 A:115.87.5.192 X:

ความคิดเห็นที่ 8 แทนถ้อย ร้อยรู้ อยู่ยั้งหยาบ เพื่อภาพ ทาบท่วง ห่วงเห่อหุ้ม คำควร ทวนท่า คราคิดคุม เนียนนุ่ม กุมกรอบ มอบเมียงมอง จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 21:53:39 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 9 กากี ขี่ไข่ ใคร่ครองครุฑ งงงุด จุดจ้ำ ฉ่ำโฉมฉาย ชื่นชม ดมดื่น ตื่นตาตาย โถมถ่าย ท้ายทาง นางนาฏนั้น บำบวง ปวงปราชญ์ ผาดผ่านผล พึ่งพ้น หม่นมา อย่าหยามหยัน รู้เรียง เลี่ยงลู่ วู่วามวัน สร้างสรรค์ อันอ่า ฮาเฮฮึก ฯ จากคุณ : ศาลายา เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 21:57:17 A:203.130.138.66 X:

ความคิดเห็นที่ 10 ~~ดึกแล้วฝันดีค่ะ พี่ๆทุกคน อิอิ แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 01:50:59 จากคุณ : y@mie เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:46:56 A:124.122.182.41 X:

ความคิดเห็นที่ 11 เธอทำเท่ เตร่ติด ปิดป้ายเปอะ ย่ำเยือนเยอะ เลอะล้วน ส่วนสุ่มเศร้า นึกเหนือนัก ยักยั่ว รัวเล่นเร้า แท้เทินเถ้า เก่าเกี่ยว เหนี่ยวเหนื่อยนาน จากคุณ : ขุนพลน้อยโค่วจง เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 01:54:30 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 12 07.14 น. ๏ ค่ำคืนคอน กร่อนเกลื่อน เดือนดับดาว สุขสร้อยเศร้า เจ้าจ้อง มองหมองหมาง ด้นดึกดื่น ฝืนฝัน หวั่นวายวาง ลืมรุ่งราง สางสุข ทุกทาง-ธรรม ๏ มะ-เหมือนมี กระวีกระวาด พลาดพลั้งเผลอ ทานทำเธอ เรอลุก ปลุกปั่น-ป้ำ เป๋อ-ป่วนปั่น หันหวน ทวนทาง-ทำ งาน-งึมงำ ย่ำแย่ แท้ทุกข์ทน ๏ มากหมางหมอง ผ่องเพี้ยง เสี่ยงเซียมซี ชื่นชีพ-ชี วี-ไหว้ ไม่หมองหม่น สู่สุขสม พรหมผัน กลั่นกลอนกล ผุดผ่องผล บนบาน กานท์กลกรอง ๏ ถ้อยทบทวน ผวนผัน ดั้นดุ่มด้น สางสับสน จนจิต คิดคับข้อง ดูดาวเดือน เคลื่อนคล้อย ลอยละล่อง แสงสูรย์ส่อง ผ่องแผ้ว แล้วเลือนลาง-สว่างไสวในราตรี ทิวาดับ คลับคล้ายไม้ล้มลุก ปลุกคนล้ม ข่มคนลุก แลนาบารนี ๚ะ๛   08.16 น. จากคุณ : นกโก๊ก เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 08:22:07 A:119.31.121.67 X:

ความคิดเห็นที่ 13 สวัสดีค่ะ พี่ๆทุกคน ที่จริงมี่ยังไม่กล้าเหยียบมาบัลลังก์ "กวีการเมือง" เพราะรู้ดีตัวเองยังเด็กๆไม่เข้าขั้นตากรรมการ อิอิ ทว่าไปอ่านกระทู้ พี่บางคน "เน้นเด่นพิเศษ" จนทำให้ "เกิดอารมณ์ต้องไปอาบน้ำชำระขุ่น" แล้วยังไม่หาย จึงเป็นที่มาของกลบทกลอนนี้นะคะ หาได้สวมวิญญาณผู้กล้าสีใดทั้งสิ้น....ยืนยัน ยังเป็นกลางค่ะ! อย่าตกใจ อิอิ แค่บางเวลา "กลาง" ล ลิงอาจหายถ้าเห็นผู้หนึ่งผู้ใด คิดว่า "ตนคือเทพจริงๆ"แค่นั้นแหละค่ะ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:21:24 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 14 2. โหม่งฉ่าฉ่า คนล้มอย่าข้ามจงจำไว้ ไฟไหม้กองฟางอย่าทำตื่น คิดเขียนเพียรสู้อยู่ทั้งคืน ยังยืนฝืนมั่นไม่เปลี่ยนแปร ............................. ขอบคุณกับภาพน่าคิดของพี่นะคะ พี่โหม่งฯ งานนี้คงยังพอ "สวดมนต์หายนะคะ" อิอิ โลกยังสวยงามค่ะ พราะเจ้ายังไม่ได้เปลี่ยนไป๊555 พจน์ลื่น ชวนชน ยลยอมรัก รู้หลัก ภักดิ์พร้อม น้อมพลีแผ่ คนพลาด อาจฟื้น อย่าเมินแล ควรแก้ เกลาคำ ก่อนหวังเลี้ยว จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:27:20 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 15 3.ฟองไฟ ~ดีชั่วอยู่ที่ปากและใจไปด้วยกัน~ ปากดีใจงามคำก็หวาน ส่งสารพานใครใครก็เชื่อ ปากงูผูกไฟไปในเนื้อ ก่อเบื่อเกื้อแท้หนอใจคน .............................. ช่วงนี้มี่พอว่างแล้วค่ะ แล้วพี่ฟองกลับบ้านวันไหนแน่คะ ช่วงนี้คงไม่เหลือขนมไปฝากหลานสิ 5555 มี่กินหมดแล้วค่ะ ปากสีผีผลักทักพาพรั่น ผ่านคืนแลวันพลันฝืดผล ปากใจใคร่คล้อยร้อยกมล ทุกหนล้นรื่นชื่นอุรา จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:31:24 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 16 5. นกโก๊ก 555555 ครูนก ตามมาช่วยลูกศิษย์อย่างมี่อีกแล้ว อิอิ มี่คงไม่ลงกระทู้บ่อย นานๆลงที ยากบอกได้ขึ้น-ลงตรงอารมณ์จริงๆสิ 17.42 น. ๏ คำครู ผุ้พร่ำ นำแนะหนู เรียนรู้  สู่ศัพท์ ขับขานไข ล้มลุก คลุกคลาน ผ่านเพศภัย สว่างไสว ใช่ชั่ว มั่วโมเม ๏ พากเพียร เขียนคัด จัดจารจด ใบ้บท กฎเกณฑ์ เล่นหลายเล่ห์ กลโกง โยงใย ไร้รวนเร ถ่ายเท play เพลิน  learn เล่นเรียน   ๏ คำคม ชมชี้ มีมุขไม้ ถล่มไถล ให้ห่าง พรางพลาดเพี้ยน ไล่ล้ม ข่มคน บ่นเบียดเบียน แนบเนียน เขียนคิด มิตรหมางเมิน ๏ นกน้อย ถ้อยทวน ครวญคิด-ข้อง จิต-จ้อง  ผองเพื่อน เคลื่อนขัดเขิน กลอนกล สนศัพท์ กลับกลอกเกิน ด้นเดิน เหิรหาว เฝ้าไฝ่ฝัน ๏ ดันดี มีไหม ใช่ชั่วช้า เลวลา ท่าที วิวาทหวั่น เรื่องเรา เว้าวอน ตอนตื้นตัน สร้างสรร ปั่นป่วน ล้วนแหลกลาน ๚ะ๛   18.37 น. ----------------------------------------------------------------------------- ขอร่วมจารึกไว้ด้วยขวัญจินตกวี- วิถี 'กลบทดวงเดือนประดับดาว' -ขอคารวะเจ้า 'y@mie' กวีใจ ------- นกผี ---> กวีคำผวน*กวนวะคำผี*กวนหวีคำพระ <--- หนีผก ------ .................................... มี่ต่อจากบทท้ายของพี่แล้วกันนะ หล่อแล้ว แววไว ไกวแกว่งแกล้ง พร่างแผลง แกร่งเกิน เทินทั้งฐาน เหมือนหมาย ส่ายสร้าง ช่างช่ำชาญ สู่สาน หาญเหิม เพิ่มพองพรู หาหับ ขับคิด พิศผองเผลอ มัวเหม่อ เห่อห้วง ล่วงร้ายลู่ ทำถู ดูด้าน รานเลี่ยงรู้ เข้าคู่ อยู่อย่าง ย่างเหยียบยัน ผิดแพ้ แท้ท่าน สานเสริมส่ง รอยลง คงคล้าย ฝ่ายเฝ้าฝัน จริงจิต คิดแข่ง แต่งแต่ตัน เสพสรรค์ ชั้นชั่ว มั่วมุมมอม ส่งสาร ปานปลื้ม ลืมร่ำร่าย แค่คาย ถ่ายทาบ คราบคุมค่อม เหม็นเมือง เคืองแค้น แสนซึ้งซ้อม เห่อห้อม ล้อมเรียน เพียรพล่ามพรู ดูดิบ บีบบท พจน์ผายเพื่อ กรอเกื้อ เอื้ออวด ตรวจตามตู่ ดังดล ยลเยี่ยม เหลี่ยมรั่วรู ใครขู่ หูหา พาพิศเพี้ยน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:38:51 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 17 6. โหม่งฉ่าฉ่า สิทธิ์เสียง เถียงท่าม ตามติดตื่น คือขื่น ฝืนเฟ้น เกณท์เกลียดเกี่ยว ปลุกป่วน มวลมิตร คิดขบเคี้ยว ทุกเที่ยว เหี่ยวห้อย ผล็อยเพลียพัน .......................... ชนช้ำ ย้ำยืน กลืนกลกรวด ศัพท์สวด ดวดด้วย ป่วยปลอมปั่น แค่คลอ รอร่า อย่าหยุดยัน โศกสรรค์ นั้นหน่าย ย้ายยาวเยือน จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:42:53 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 18 7.หนึ่ง [ ๑ ] * ไย ยังชังเช่นเน้น ......... เหน็บหนาม ข้าม เข่นเล่นลามปาม ..... ปลิดเป้า คน แค่แย่ยามตาม .......... แต่ตัด ล้ม ลุกสุขเศร้าเคล้า ........ แค่คราว ........................ 一 (คำจีน)คือ อิ เท่ากับหนึ่ง เหมือนกัน แต่มี่ตั้งใจเรียกเพี้ยน ไม่งั้น เอามาเล่นเรียกยากสิ อิอิ มี่ยังสมองสมบูรณ์ ไม่ได้เรียกชื่อมั่วแน่ๆพี่อิ๊ด 5555 ว่าแต่บทนี้พี่เล่นด้วยกลบทโคลงใด มี่คิดยังไม่ออก เห็นแค่คล้ายกลอักษรรวนสมุทร แต่ก็คล้ายโคลงด้นด้วย มี่เล่นต่อด้วย โคลงดั้นตรีพิพิธพรรณแล้วกันนะ สาว  จริงคงพบเพี้ยน.......เต็มตา จริง  แค่หวังเมารวม.........กลบว้า คง   ยอมตื่นนิทรา...........สักครู่ ยาก  ตื่นหยุดเวียนคว้า.......ส่งหยาม จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 14:50:53 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 19 8.ขุนพลน้อยโค่วจง แทนถ้อย ร้อยรู้ อยู่ยั้งหยาบ เพื่อภาพ ทาบท่วง ห่วงเห่อหุ้ม คำควร ทวนท่า คราคิดคุม เนียนนุ่ม กุมกรอบ มอบเมียงมอง ................... เห็นพี่ขุนบ่นยากไปหมดทุกที แต่เอาจริงก็ได้นี่นา อิอิ คนเคล้า เฝ้าฝัน สรรค์เสพสาบ ผายภาพ นาบเน้น เข็นคล้ายคล่อง ใจจ่อม ปลอมแปร แผลเพิ่มพอง ยากย่อง กองเกลือก เลือกเลียบเริง จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 15:04:31 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 20 9.ศาลายา กากี ขี่ไข่ ใคร่ครองครุฑ งงงุด จุดจ้ำ ฉ่ำโฉมฉาย ชื่นชม ดมดื่น ตื่นตาตาย โถมถ่าย ท้ายทาง นางนาฏนั้น บำบวง ปวงปราชญ์ ผาดผ่านผล พึ่งพ้น หม่นมา อย่าหยามหยัน รู้เรียง เลี่ยงลู่ วู่วามวัน สร้างสรรค์ อันอ่า ฮาเฮฮึก ฯ ...................... โห เจ๋งและเนี๊ยบจัง พี่เล่นกลด้วยการเรียงพยัญชนะ อิอิ มี่ลองเรียงบ้าง การกลั่น ขั้นไข ใคร่ครุ่นคัด ง่ายงัด จัดจ่อ ฉ้อฉากฉาย ชาญแช่ แซ่ซ่าน ด้านเดียวดาย ตราบตาย ถ่ายแถ แท้ทุกข์ทัน ธาตุธรรม นำเน้น เบนบาปบิด ปลดปิด ผิดแผน แม้นไม่มั่น ย้อนยัก ลักลุ้น วุ่นวางวัน หากหัน อั้นอ้า ฮาเฮฮือ จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 15:50:19 A:219.78.162.47 X:

ความคิดเห็นที่ 21 (กาพย์ฉบัง๑๖) ขอบคุณพี่เพื่อนทุกคน.............ที่เวียนแวะยล ขอบคุณ “กิ๊ป”ปันด้วยใจ ไออุ่นคุ้นเคยยังไหว..................ท่ามเศร้าร่ำไร ยังมีเราเคียงคู่กัน ริ้วรอยแห่งหวั่นสุมสรรค์.............เหมือนหล้ารำพัน ท่ามกระแสมนต์มายา อย่าพรั่นภัยลอบเหลียวหา...........สติแลปัญญา จะพาผ่านเพ้อวุ่นวาย อาดูรชั่วคราก่อนหาย..................ขอบฟ้าตรงปลาย แสงรวีกำลังเมียง จากคุณ : ญามี่ (y@mie) เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 16:14:05 A:219.78.162.47 X: