 |
ข้อสังเกตจากการยึดทรัพย์ทักษิณ กระทู้ง่ายขึ้นจากกระทู้ที่แล้ว{แตกประเด็นจาก P8943154}
|
|
ในกระทู้ที่แตกประเด็นมา คำถามของดิฉันคงยากไป
เพราะดูแล้วมีผู้เจริญในธรรมมาเบี่ยงประเด็นและผู้มีความเชื่อในมุมมองเดียวมาแถ มาเสียดสีเสียเป็นส่วนใหญ่ กระทู้นี้จึงขอลำดับความคิดให้ใหม่ เพราะดิฉันก็อยากเห็นมุมมองที่แตกต่าง มาถกกันด้วยเหตุผล เอาข้อกฎหมายมาเป็นหลัก ไม่ใช่เอาความรู้สึกอคติในตัวอดีตนายกมาตอบ
ต่อไปนี้ไม่ใช่ความเชื่อนะคะ แต่เป็นข้อเท็จจริง (ถ้าไม่จริงหาข้อมูลมาแย้งได้)
1. ป.ป.ช.ไม่ฟันธงในการสรุปข้อมูลทั้งหมดของ คตส.ว่าเป็นการทุจริตตามกฎหมาย ปปช.มาตรา 4 เพราะขาดหลักฐานการสั่งการอย่างชัดเจน
2. จากข้อ 2. เมื่อเรื่องถึงอัยการ อัยการจึงไม่ได้สั่งฟ้องท่านทักษิณในข้อหาทุจริตในการปฏิบัติหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157
3. ศาลจึงไม่พิพากษาตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ดังกล่าว แต่ให้ยึดทรัพย์ส่วนต่างตามมูลค่าหุ้นของชินคอร์ปในปี 44 คือเมื่อก่อนการรับตำแหน่งนายก
จากที่กล่าวมา จึงมีคำถามจากสังคมเกี่ยวกับแง่มุมทางกฎหมายว่าเมื่อมีการยึดทรัพย์ดังกล่าว ถ้าไม่ใช่โทษตาม ม.157 คือ โทษปรับ แล้วศาลเอาอะไรมาเป็นฐานของเงิน 4.6 ล้าน ?

ขอคำถามเดียวก่อนค่ะ เดี๋ยวจะเลอะเหมือนกระทู้เดิมอีก บอกตรง ๆ ดิฉันกลัวท่าน L & L เข้ามาพากระทู้ดิฉันออกทะเลอีก สาธุอย่าเข้ามาเลยนะ
ข้อมูลประกอบ
กฎหมาย ปปช.มาตรา 4 ทุจริตต่อหน้าที่ หมายความว่า ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในพฤติการณ์ที่อาจทำให้ผู้อื่นเชื่อว่ามีตำแหน่งหรือหน้าที่ทั้งที่ตน มิได้มีตำแหน่งหรือหน้าที่นั้น หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่ ทั้งนี้ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบสำหรับตนเองหรือผู้อื่น
กฏหมายอาญา มาตรา 157 "ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 บาท ถึง 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ"
แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 03:26:56
จากคุณ |
:
Jampoon
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มี.ค. 53 03:24:42
A:125.27.207.22 X:
|
|
|
|  |