 |
ความคิดเห็นที่ 88 |
|
ไม่เกินไปหน่อยเหรอเปิด BIBF ปี 2535 ตอนเปิดเสรีการเงินใหม่ๆ ในช่วง รัฐบาล ชวน 1 ยังไม่เกิดปัญหาร้ายแรง แต่ชวน 1 ไปก่อนเวลา จึงไม่อาจรู้ได้ว่าเก่งหรือไม่เก่ง สมัยต่อมาตอนปี 38 รัฐบาลบรรหารโดยมี สุรเกียต ณ UN เป็นรมต.คลังไม่ทันเกม ขึ้นดอกเบี้ยในประเทศ โดยไม่ได้สกัดเงินกู้ BIBF แบบ Out-In ดอกเบี้ยในประเทศแพง คนเลยไปกู้นอกดอกเบี้ยถูกกว่ามาใช้แทน หนี้ ตปท ระยะสั้นจึงบานเบิกหลังจากนั้น ถ้าคนคุมเกมเป็นงานไม่ไปใช้คนไม่เข้าท่า เมืองไทยคงจะไม่เละตอนปี 40 สมัยจิ๋ว เข้ามายังไม่เข้าใจสถานะทางเศรษฐกิจ ประกาศจะขยายตัวทางเศรษฐกิจเพิ่มอีกทั้งๆที่วัน ที่เตี้ยเมืองสุพรรณจากไปเมืองไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่องมานาน แถมยังมีหนี้ระยะสั้นมากกว่าทุนสำรองอีก จริงๆต้องชะลอเศรษกิจเพื่อลดการขาดดุลและปรับโครงสร้างหนี้ต่างประเทศ นักเก็งกำไรค่าเงินเห็นความเข้าใจปัญหาของทีมงานจิ๋ว จึงรู้ว่าเมืองไทยรักษาค่าเงินไว้ไม่ได้แน่ ยังไงก็ปิดประตูแพ้ ถึงได้กล้ากู้เงินมาโจมตีประเทศไทย ยังมีอีกคนที่ทำตัวเป็นกูรูคือโอฬาร ณ ม ชินวัตรให้คำแนะนำผิดๆกับเครือปูนซีเมต์ไทยว่าจะไม่มีการลดค่าเงินอย่างเด็ด ขาด ทำให้เครือปูนไม่ได้ป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนไว้เลย(แต่บริษัทของใครครับที่ไปกวาดซื้อเงินต่างประเทศหลังจากการประชุม ที่จริงต้องติดคุกตั้งแต่ตรงนี้แล้ว) จึงเสียหายอย่างยับเยินหลังลอยตัวค่าเงิน สุดท้ายโอฬารก็มาซุกปีกพ่อแม้ว ใครที่เป็น นายกตอนปี 40 (จิ๋ว) ใครที่เป็นรมว คลัง ตอนลดค่าเงิน และ เริ่มกู้เงิน IMF ( ทนง พิทยะ ) ใครที่เป็นรมต สำนักนายก ตอนลดค่าเงิน และเข้าไปนั่งฟังการประชุมก่อนลดค่าเงิน (โภคิน พลกุล) ใครที่เป็นรองนายกด้านเศรษฐกิจตอนเริ่มกู้เงิน IMF (พ่อแม้วไงฮ่ะ) สุดท้ายพูดด้านเดียวที่ไม่เคยให้เครดิตคนอื่นสมกับเป็นเสือแดงคือ ไทยได้วงเงิน จาก IMF มาประมาณ 30,000 ล้าน เหรียญ แต่ใช้สูงสุดแค่ 17,800 ล้านUSD ช่วงสั้นๆ จากนั้นก็ทยอยใช้คืน สมัยปชปก่อนหมด ร.บ. ชวน 2 ได้ใช้คืนเงินกู้ไปเกือบหมดแล้ว เหลือประมาณไม่เกิน 5,000 ล้าน USD ถามแล้วทำไมพ่อแม้วต้องรีบปลดเพราะต้องการถลุงเงินตามนโยบายประชานิยม ถ้าเป็นหนี้ IMF ใครจะย่อมให้ถลุงเงิน
จากคุณ |
:
Nanolove
|
เขียนเมื่อ |
:
16 มี.ค. 53 03:39:33
A:124.121.107.204 X:
|
|
|
|
 |