ความคิดเห็นที่ 1   นอกจากนี้ ว.วชิรเมธี ยังกล่าวด้วยว่า “ความเป็นกลาง” ที่คนส่วนใหญ่ รวมถึง นักวิชาการ สื่อมวชนอ้างถึงนั้นเกิดจากความไม่รู้ “การอยู่เฉยๆ ไม่เรียกว่า การวางตนเป็นกลาง แต่ควรเรียกว่า วางตนเป็น ‘ก้าง’ คือ คอยขวางไม่ให้สิ่งดีๆ เกิดขึ้นในสังคม ... น่าเป็นห่วงมากที่ในสังคมไทยของเราคิดกันตื้นๆ ว่า การวางตนเป็นกลาง คือ การอยู่เฉยๆ และก็คนกลุ่มใหญ่พยายามขยายแนวคิดนี้ออกไปจนทำท่าจะเห็นดีเห็นงามกันทั้งประเทศ” *********************************************** แถมมียุให้แบ่งข้างอีก พระนักปลุกระดมเหมือนกันนะท่าน มาเนียนเลยนะ แก้ไขเมื่อ 16 มี.ค. 53 23:35:19 จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:34:52 A:124.121.188.45 X:

ความคิดเห็นที่ 2   No comment ดีก่า กลัวบาป จากคุณ : arikojang เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:39:06 A:192.168.0.240 X:125.25.160.11

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่ต้องงงค่ะ สองมาตรฐาน เป้นเรื่องปกติในประเทศนี้ "คุณทำอะไรก็ผิด ผมทำอะไรก็ถูก"  ง่ายๆ ค่ะ จากคุณ : manu never die เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:41:18 A:124.120.158.42 X:

ความคิดเห็นที่ 4   เวลาเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน แม้แต่พระก็ยังเปลี่ยน จากคุณ : piras เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:42:02 A:124.120.153.76 X:

ความคิดเห็นที่ 5   พระแบบนี้  ไม่ได้เป็นกลางจริง เตือนสติใครไม่ได้หรอกครับ จากคุณ : ล้าน5 เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:42:13 A:125.24.21.50 X:

ความคิดเห็นที่ 6   ขอโทษนะครับ ผมนับถือพระพุทธเจ้า และผ้าเหลือง แต่โคตรเกลียดพระ ขึ้นวอ องค์นี้จริง ๆ พระนี่เคยไปออก    ASTV  เคยเห็น พระขึ้นวอ จากคุณ : ~Ultra_Jack~ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:42:23 A:192.168.0.240 X:124.120.227.116

ความคิดเห็นที่ 7   พระผู้ดี พระวิชาการ เหมือน นายกผู้ดี นายกวิชาการเลย เหมือนตรง ความจำไม่ค่อยจะดี จากคุณ : SCKP เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:42:37 A:125.24.187.32 X:

ความคิดเห็นที่ 8   ความคิดเห็นที่ 2     No comment ดีก่า กลัวบาป จากคุณ : arikojang   เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:39:06 A:192.168.0.240 X:125.25.160.11   .................................................... ผมไม่กลัวบาป เพราะไม่บาป จริงๆ ไม่อยากแสดงความเห็น ..ขอโทษจริง ฟังมานาน... ที่เรียกว่า "พระ" รูปนี้ ผมรู้กำพืดดีพอสมควร .. ปัจจุบัน "เหลิง"ไปกับการออกทีวี คิดว่า "ดัง"  คิดว่า "เด่น" ว่างๆ จะเล่าให้ฟัง ... จากคุณ : ปลายอ้อกอแขม เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:44:11 A:58.9.154.193 X:

ความคิดเห็นที่ 9   สติไม่มาปัญญาไม่เกิด จากคุณ : bogbean เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:44:32 A:192.168.0.240 X:118.173.89.58

ความคิดเห็นที่ 10   พระดี คุณยังกล้าด่า  สมแล้วที่เป็นเสื้อแดง จากคุณ : Puvarin เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:45:29 A:192.168.0.240 X:183.89.113.220

ความคิดเห็นที่ 11   ไม่เคยชอบเลย ดูก้รู้ว่าแอบเหลือง พระสมปองมันกว่าเยอะ จากคุณ : WhiteBoard เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:47:21 A:61.90.5.180 X:

ความคิดเห็นที่ 12   ความคิดเห็นที่ 10 ตอนหลวงตามหาบัวออกมาไล่ทักษิน ด่าทักษิน เสื้อแดงยังไม่เคย จะโจมตีพระองค์นี้ แต่ทีพระพยอม เสื้อเหลืองด่า โจมตีต่างๆๆนาๆๆ สมแล้วที่เป็นเสื้อเหลือง มิงทำอะใรถูกเสมอ ตุทำอะใรก้ผิด จากคุณ : aerun เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:48:37 A:192.168.0.240 X:58.64.109.59

ความคิดเห็นที่ 13   http://www.serichon.com/board/index.php?topic=28060.0 จากคุณ : คีรีบรรพต เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:48:48 A:58.9.145.215 X:

ความคิดเห็นที่ 14   พระก็พูดถูกแล้วนี่ครับว่าถ่ายทอดธรรมให้นักการเมืองได้ ......ซึ่งไม่ต่างจากที่พูดไว้เดิมนิ จากคุณ : แกงป่าปลาเห็ดโคน เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:48:56 A:192.168.0.240 X:125.25.134.199

ความคิดเห็นที่ 15   โทดทีนะเบอร์ 10 เผอิญว่าไอ้มาตรฐานของคำว่าดีของคุณกับดีของผมมันไม่เหมือนกัน เพราะฉนั้นอย่ามาเหมารวมครับ จากคุณ : piras เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:49:35 A:124.120.153.76 X:

ความคิดเห็นที่ 16   โอโฮ เล่นอย่างนี้เลยหรือครับ ถ้างั้น พระที่เชียงใหม่ เอาเลือดสาดทหารล่ะครับ จากคุณ : Kai&Dr.Mana เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:50:06 A:58.8.64.118 X:

ความคิดเห็นที่ 17   ข้อความแรก.. หลักการของพระสงฆ์ที่เกี่ยวกับการเมืองมี 2 หลักการ คือ 1.พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมือง 2. ถ้าจะเกี่ยวข้องทางการเมืองจริงก็สามารถเกี่ยวได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง หากกระทำเกินกว่านี้ จะถือว่าผิดธรรมวินัย ข้อความที่ 2 คำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้และควรเป็นต้นแบบในการวางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น ******************************** ผมไม่เห็นมันขัดกันตรงไหน ข้อความแรก พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียทางการเมือง ทำได้แค่ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง ข้อความที่ 2 พุทธศาสนา พระสงฆ์ ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้ จากคุณ : เย็นลมเหนือ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:50:55 A:58.11.74.150 X:

ความคิดเห็นที่ 18   ไม่เข้าใจครับ สองข้อความมันขัดกันตรงไหน ก็  ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ เหมือนกัน จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:53:19 A:127.0.0.1 X:58.11.71.190

ความคิดเห็นที่ 19   11 กรกฎาคม 2551 พลังประชาชนเป็นรัฐบาล มีม้อบพันธมิตร พระจึงยุ่งการเมืองได้ 16 มีค. 2553 ประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล มีม้อบเสื้อแดง พระยุ่งการเมืองไม่ได้ ผมยังมีจุดยืนที่มั่นคงและเป็นกลางกว่าพระรูปนี้ ทั้งที่ตนเองอยู่สีแดง ในความเห็นส่วนตัวของผม ผมมองว่าไม่ใช่กิจของสงฆ์ ไม่ว่าม้อบไหน พระก็ไม่ควรมายุ่ง ไม่เหมาะสม แต่ผมก็ไม่มีสิทธิไปห้าม เพราะมันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ก็เข้าใจ พระก็คนเหมือนกัน จะคนจะพระ จะพระก็คน งงไหมเนี่ย ปล.กระทู้นี้สอนให้รู้ว่า พระ(บางรูป)ก็มีแอ๊บเหมือนกัน จากคุณ : สิงห์สนามหลวง เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:53:48 A:58.8.192.129 X:

ความคิดเห็นที่ 20   แดงต่อว่า เหลืองชมเชย ทำไมมันเป็นอย่างนั้น....หลวงพี่ จากคุณ : น่าคิดนะ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:56:11 A:192.168.0.240 X:58.10.234.185

ความคิดเห็นที่ 21   เฉยๆค่ะกับท่านนี้..ดิฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับพระรูปนี้เลย เคยเดินสวนกันด้วยซ้ำ เขาไหว้กันเป็นทางแต่ดิฉันเฉยๆแค่หลบให้ค่ะบอกตรงๆ วัยวุฒิยังน้อยเกินไป โดหลอกใช้จาก astv บ่อยครั้ง พูดสอนให้คนทำนั่นทำนี่ แต่ตัวเอง อีโก้สุดๆ แค่พระรูปนึงในสายตาดิฉันเท่านั้นค่ะ จากคุณ : ตัวแม่ราดรี เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:56:09 A:183.88.120.41 X:

ความคิดเห็นที่ 22   ข้อความสำคัญอยู่ตรงนี้ "การวางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น" พระท่าน มองความเป็นกลาง ไม่เหมือนบางคนมอง.... จากคุณ : เย็นลมเหนือ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:57:41 A:58.11.74.150 X:

ความคิดเห็นที่ 23   เช่นกันครับ มันต่างกันยังไง จากคุณ : ไม่ได้กลัวแต่เกรงใจ เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:58:40 A:124.157.196.56 X:

ความคิดเห็นที่ 24   บาป!!! จากคุณ : prettykai เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:59:25 A:58.64.116.113 X:

ความคิดเห็นที่ 25   ถ้างั้นก็แสดงว่ารัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่มีธรรมะสูงส่งเลิศเลอมากเลยน่ะดิ แหม ช่างเลือกข้างได้เข้ากับยุคสมัยจริงๆเลย พับผ่าดิ จากคุณ : piras เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:01:37 A:124.120.153.76 X:

ความคิดเห็นที่ 26   คห.19 ตีความตามตัวหนังสือ หรือว่าตามใจเสื้อแดงหละครับ ถึงได้สรุปใจความว่าอย่างนั้น จากคุณ : โปรยปราย เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:02:00 A:192.168.0.240 X:127.0.0.1, 58.11.71.190

ความคิดเห็นที่ 27   วันที่ 16 มีนาคม พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวว่า หลักการของพระสงฆ์ที่เกี่ยวกับการเมืองมี 2 หลักการ คือ 1.พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมืองหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมือง  2. ถ้าจะเกี่ยวข้องทางการเมืองจริงก็สามารถเกี่ยวได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง หากกระทำเกินกว่านี้ จะถือว่าผิดธรรมวินัย 11 กรกฎาคม 2551 " ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้และควรเป็นต้นแบบในการวางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น " สาระสำคัญสองข้อคือ พระสงฆ์ ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองได้ (ในด้านการถ่ายทอดธรรมให้กับนักการเมือง) แต่ไม่ควร "เล่น" การเมือง ...ท่านก็ว่าเหมือนเดิมนี่นา... จากคุณ : atihasita เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:03:32 A:192.168.0.240 X:58.64.62.70

ความคิดเห็นที่ 28   จขกท.ไม่ควรเอาประเด็นนี้มาโจมตีท่านครับ เพราะท่้านพูดเหมือนเดิมทุกอย่าง เพียงแต่ผมไม่แน่ใจว่า ท่าน ว.วชิรเมธี เข้าใจคำว่าการเมือง นั้นคืออะไรบ้าง? ถ้าคำว่าเล่นการเมือง  = มาเป็นส.ส. , สว. นายกรัฐมนตรี , รัฐมนตรี , การออกเสียงเลือกตั้ง , การมีตำแหน่งทางการเมือง , การตั้งพรรคการเมือง ถ้าคำว่าเล่นการเมือง เป็นไปตามกรณีนี้ พระสงฆ์บางรูปที่ออกมาในครั้งนี้ ย่อมไม่เข้าข่ายนี้ครับ และในเมื่อท่าน ว. วชิรเมธี บอกเองว่า "สามารถเกี่ยวได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง "   แล้วถ้าหากพระท่านว่ากล่าวตักเตือนนักการเมืองบางคนว่ามาโดยไม่ชอบธรรม ควรยุบสภาเนี่ย จะเข้าข่ายว่ากล่าวตักเตือนนักการเมืองไหมล่ะครับ? แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 53 00:05:12 จากคุณ : chohokun เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:04:04 A:58.9.40.163 X:

ความคิดเห็นที่ 29   ไม่ค่อยใส่ใจนะ ชอบพระสายปฏิบัติมากกว่าสายปราชญ์ พระสายปฏิบัติสิถึงจะเรียกว่า สุปฏิปันโณ ของจริง เฉยๆกับพระที่สื่อชอบดัน  ดูเหมือนน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่ายังงัยไม่รู้ จากคุณ : talokdee เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:04:16 A:61.90.122.227 X:

ความคิดเห็นที่ 30   ไม่มี comment เช่นกันครับ จากคุณ : Alohomola เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:06:12 A:124.121.16.244 X:

ความคิดเห็นที่ 31   ..อาจเป็นเพราะท่านยังอายุ น้อย..และอาจไม่เคยมีประสบการณ์ทางโลกอย่างแท้จริง.. ..การอ่าน ฟัง พูด เขียน คิด..ให้ประสบการณ์แค่ระดับหนึ่งเท่านั้น.. จากคุณ : klab (klab) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:07:14 A:125.26.141.88 X:

ความคิดเห็นที่ 32   ความคิดเห็นที่ 26   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   คห.19 ตีความตามตัวหนังสือ หรือว่าตามใจเสื้อแดงหละครับ ถึง ได้สรุปใจความว่าอย่างนั้น จาก คุณ : โปรยปราย --- ^ ^ ^ ลองไปอ่าน คห. 21 ของคุณ ตัวแม่ราดรี ดูสิครับ คนที่ติดตามการเมือง ทำไมจะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร ใครอยู่ฝ่ายไหน ทั้งทางโลกและทางธรรม จากคุณ : สิงห์สนามหลวง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:08:25 A:58.8.192.129 X:

ความคิดเห็นที่ 33   เสื้อแดงเขา นับถือพระห่มแดง ที่เอาเลือดไล่สาดใส่ทหารวันนี้ไงครับ พระดีๆแบบ พระอาจารย์ ว. เค้าไม่รู้จักหรอก55+ จากคุณ : nt1900 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:10:15 A:61.90.33.191 X:

ความคิดเห็นที่ 34   ก็แค่เสื้อเหลือง ห่มผ้าเหลือง จากคุณ : ตี๋แกงป่า เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:14:17 A:125.25.82.15 X:

ความคิดเห็นที่ 35   ท่าน ว. บอกว่า พระที่จะยุ่งกับการเมืองได้ ก็คือการเทศน์ สอนให้นักการเมืองได้สติ ซึ่งมันไม่ขัดต่อความเป็นสมณะเพศ เพราะสมัยพุทธกาล พระพุทธองค์เอง เมื่อมีเหตุการณ์ บ้านเมืองสมัยนั้น ท่านเองก็ยกขึ้นมาสอน แต่ ไม่ได้หมายความว่า ให้มาปลุกระดมทำคุณไสย แล้ว ท่าน ว. เคยออกมา ปลุกระดม ทำพิธีคุณไสยหรือเปล่าครับ คห.12 แน่ใจน่ะว่า พวกคุณ ไม่เคยด่า หลวงตาท่าน แก้ไขเมื่อ 17 มี.ค. 53 00:16:16 จากคุณ : Angleevil เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:16:07 A:124.121.64.152 X:

ความคิดเห็นที่ 36   อืมมม ไม่อยากวิจารณ์กลัวบาป จากคุณ : เทพเมฆา (เทพเมฆา) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:20:40 A:192.168.0.240 X:124.157.145.183

ความคิดเห็นที่ 37   เคยฟังเขาพูดในรายไรจำไม่ได้ ว่าเรียนจบป.ตรี เคยลองทำธุรกิจ มันเหนื่อย มันยาก ไม่สำเร็จ เลยหันมาทางพระ คุณทำอะไรที่สำเร็จบ้างในชีวิต เคยผ่านการต่อสู้ชีวิตแล้วเหรอ ถึงมีหน้ามาสอนคนอื่น ผมมองว่าแค่จับจุดถูก ว่าคนไทยชอบทำบุญ เชื่อพระ เขียนหนังสือขายได้เยอะแยะ ไม่รู้พระนี่เสียภาษีมั้ย แต่รู้ว่ารวยแน่ๆ เพราะหนังสือขายดีหลายเล่ม ผมเชื่อคนที่พากเพียร ต้อสู้ชิวิตมากกว่า คำพูดเขามันมาจากของจริง ไม่ใช่พวกนักชูคอบนหอคอยงาช้าง แต่ไม่เคยลงมือทำไร ยังมีหน้ามาสอนคนอื่น จากคุณ : อมยิ้มไม่หวาน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:21:28 A:117.47.81.83 X:

ความคิดเห็นที่ 38   บิณทบาตรที่ไหน ผมจะเอามะพร้าวไปใส่ลูกเดียวพอ คงไม่บาปนะครับ จากคุณ : manfa เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:21:32 A:110.49.8.157 X:

ความคิดเห็นที่ 39   1.พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมือง ********************************************* ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ********************************************** การถ่ายทอดธรรมให้เลือกข้าง ตาม คห 1 นี่เท่ากับไปยุ่งเกี่ยวกับการเมืองไหมครับ หรือเป็นการพูดไปเรื่อยเปื่อย คำพูดเดียวกับนักการเมืองใหม่อย่างสนธิเป๊ะ เพียงแต่ต่างกันที่การห่มผ้า เหลืองเท่านั้น เอาตัวหนังสือมาแถ มันไม่ได้ประโยชน์ครับ ถ้ามีวุฒิภาวะจริง ต้องดูทึ่ เจตนามันดูกันไม่ยาก เคยเห็นออกรายการคู่กับนาย เจ้าของ อมตะซิตี้ พูดเชียร์ว่า นายคนนี้ ควรจะไปเป็นรัฐมนตรีนะ แบบนี้นีหัวมุเข้าไปการเมืองไปค่อนหัวแล้วมังครับ คุณเป็นพระ ผมถามจริงๆเถอะ คุณจะออกมามาเที่ยวเร่ร่อนตามรายการ ต่างๆ เช่น ASTV เที่ยวมาพูดสั่งสอนใครๆ หรือไม่ครับ จะมีสักกี่รูป ที่คิดเหมือนคุณ ว คนนี้ ทำไมเขาไม่ทำกัน ผมก็สงสัยนะ หรือนายคนนี้อยากยุ่งทางโลกเลย อ้างคำสอนเพื่อเลื้อยไปตามอารมที่อยากจะทำ จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:24:09 A:124.121.188.45 X:

ความคิดเห็นที่ 40   รึว่ามันจะเป็นทายาทอสูร จากคุณ : สโนไวท์ใส่มินิสเกิร์ต เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:29:16 A:124.157.186.147 X:

ความคิดเห็นที่ 41   ผมอ่านหนังสือของท่านอยู่ .. ไม่เขียนดีกว่า กลัวบาป จากคุณ : ชายสามโบสถ์ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:30:06 A:124.120.44.222 X:

ความคิดเห็นที่ 42   ท่าน ว. บอกว่า พระที่จะยุ่งกับการเมืองได้ ก็คือการเทศน์ สอนให้นักการเมืองได้สติ ********************************************** ผมก็อยากคิดแบบนั้นนะ ที่เห็นกับตาตัวเอง ออก vcd สัมภาษคู่ กับนาย วิกรม กรมดิษฐ์ วิภาควิจารย์การ เมืองกันสนุกปาก แถมยุยงให้ นายวิกรมไป เป็นรัฐมนตรีอีก มันสนควรไหม ถ้าถอดผ้า เหลืองออกไปนั่งคุยการเมืองกัน ผมว่าก็ไม่แปลก แต่นี่อาศัยคราบผ้าเหลือง เที่ยวิภาควิจารย์ชาวบ้าน ว่าคนนั้นเหลือง คนนี้แดง ตกลงมันใช่หน้าที่สงฆ์ หรือครับ ถ้าไม่ใช่ ก็อย่าไปด่าว่า พระที่มาร่วมกับ เสื้อแดงแดงเลยครับ และก็อีกอย่าง ที่อ้างเอาพระธรรม อะไรมาน่ะ ประชาชนทั่วไป ใครก็สำนึกได้ครับ ถ้าอยากจะเทศจริง มาร์คเครับ ควรเทศน์ นายนี่ให้มาก คนเกลี่ยดชังกันจนหนีหัวซุกหัวซุน กิน นอน ที่ไหน ไม่เคยมีสุขเลยมัง ขนาดออยู่ เมืองไทยยังนอนบ้านตัวเองไม่ได้ มันมีควาสุขไหม กับกิเลสตันหากับตำแหน่งนี้ จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:32:29 A:124.121.188.45 X:

ความคิดเห็นที่ 43   No Comment Join RED DEMOCRACY Group http://www.facebook.com/pages/Red-Democracy-prachahipty-ni-thna-khxng-khn-sex-daeng/10150141816510521 จากคุณ : kob4ever เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:33:31 A:124.120.196.92 X:

ความคิดเห็นที่ 44   ทำไมอ่านแล้วก็รู้สึกไม่ขัดกันนะ จากคุณ : ศาลาคนแซ่บ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:37:36 A:118.172.82.233 X:

ความคิดเห็นที่ 45   แสดงว่าพระวอ กำลังเล่นการเมืองอยู่ครับ จากคุณ : compassion เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:45:10 A:118.172.16.238 X:

ความคิดเห็นที่ 46   พาลยันพระ วันนี้ คุณกรีดเลือดแล้วหรือยัง? จากคุณ : อัจฉริยะค้างคืน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:50:20 A:115.67.104.20 X:

ความคิดเห็นที่ 47   โปรดสัตว์ ได้บาป จากคุณ : น้องเบียร์ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 00:55:14 A:139.78.10.172 X:

ความคิดเห็นที่ 48   พระรูปนี้เหมาะ สำหรับคนหลงรูป หลงเสียง... จากคุณ : shinlong เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:01:02 A:58.9.157.185 X:

ความคิดเห็นที่ 49   มันขัดกันตรงไหน อ่านยังไงก็เรื่องเดียวกัน ทิศทางเดียวกัน เสื้อแดงมีปัญหาด้านตรรกศาสตร์จริงๆ จากคุณ : ลามถึงพระ (xiuhong) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:17:09 A:58.9.230.143 X:

ความคิดเห็นที่ 50   ผมว่าข้อความไม่ขัดกันครับลองไปพิจารณาทุกตัวอักษรดูใหม่ ใจความของท่านบอกว่า.. --------------------------------------------- พระสงฆ์เกี่ยวข้องทางการเมืองจริงได้กรณีเดียวคือ การแสดงธรรม / ว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง แต่เล่นการเมืองหรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมืองไม่ได้ พระสงฆ์ควรเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น ------------------------------------------- อ่านหนังสือไม่แตกจะริวิจารณืพระสงฆ์องค์เจ้านั้นไม่เหมาะนะครับ จากคุณ : ตอสระอือ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:46:52 A:61.90.95.237 X:

ความคิดเห็นที่ 51   ผมคิดว่า  ท่านทำตัวเองให้เป็นเหยื่อทางการเมืองโดยไม่รู้ตัว จากคุณ : จดหมายเหตุ เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:49:43 A:192.168.0.240 X:118.174.41.239

ความคิดเห็นที่ 52   พระที่ดีของเสื้อแดงต้ององค์นี้ครับ  หุหุหุ http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9530000037098 หรือพวกไอ้โล้นเถื่อนห่มเหลืองที่ไปไล่ทุบรถนายกที่มหาดไทยปีก่อน จากคุณ : เล็กเซียวหงส์แดง เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:57:50 A:118.173.134.206 X:

ความคิดเห็นที่ 53   พระบ้าองค์นี้ แค่ใส่ผ้าเหลืองเท่านั้น จากคุณ : ส่วนตัว (oulink) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 01:59:28 A:113.53.215.35 X:

ความคิดเห็นที่ 54   วันหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศล ผู้ครองกรุงสาวัตถี ได้เสด็จเข้าสู่นิทรารมย์ในราตรีกาล ครั้นล่วงปัจฉิมยามใกล้รุ่ง ได้ทอดพระเนตรเห็น พระสุบินนิมิตอันใหญ่หลวง ถึง 16 ประการ อันเป็นพระสุบินที่แปลกประหลาด จึงทรงตกพระทัยตื่นบรรทม และครั้นรุ่งเช้า ก็ได้ให้พวกพราหมณ์ปุโรหิตประจำราชสำนักทำนาย พวกพราหมณ์ปุโรหิต ก็พากันทำนายว่าเป็นพระสุบินที่ร้าย และว่าพระองค์จะต้องประสบภัยอันตราย 3 ประการ ไม่เสียราชทรัพย์ ก็จะมีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน หรือไม่ก็ต้องสวรรคต อย่างใดอย่างหนึ่ง และแนะให้พระองค์ทำพิธีบูชายัญสัตว์ เพื่อสะเดาะห์เคราะห์ เมื่อพระนางมัลลิกา พระมเหสีทราบเรื่องเข้า จึงทูลให้ไปขอคำแนะนำจากพระพุทธเจ้า ซึ่งพระพุทธองค์ก็ได้ทรงทำนายว่า เหตุร้ายนั้นจะมีแน่นอน เพียงแต่มิใช่เกิดแก่พระเจ้าปเสนทิโกศล หรือแว่นแคว้นของพระองค์ แต่เหตุร้ายเหล่านี้จะเกิดแก่สัตว์โลกทั่วๆ ไป และแก่พระศาสนาของพระพุทธองค์ในภายภาคหน้า เมื่อล่วงเลยพุทธกาลไปแล้ว 2500 ปี เมื่อศาสนาเสื่อมลง (กล่าวกันว่า อายุของพุทธศาสนาในกัลป์นี้ ยืนยาวเพียง 5,000 ปี หลังจากนั้น ต้องรอยุคของพระศรีอาริยเมตตไตรย์ พระพุทธเจ้าองค์ต่อไปเสด็จมาโปรดสัตว์) ความฝันของพระเจ้าปเสนทิโกศล และคำทำนายของพระพุทธเจ้าทั้ง 16 ประการ ประกอบด้วย 11. ทรงฝันว่าคนนำแก่นจันทน์ที่มีราคาแพง ไปแลกกับเปรียงเน่า ทรงทำนายว่า กาลภายหน้า พระภิกษุอลัชชีเห็นแก่ได้ทั้งหลาย แทนที่จะนำธรรมะ ที่พระพุทธองค์สอน ไปสอนสั่งให้คนหลุดพ้นจากความทุกข์ และละความโลภ กลับใช้เป็นเครื่องมือเพื่อหากิน หาปัจจัยบริจาคเข้าตัวเอง เหมือนเอาแก่นจันทน์ (ธรรมะคำสอนที่ดี) ไปแลกเอาเถาวัลย์เน่า (ลาภอามิสที่ได้รับมา ซึ่งไม่จีรังและไม่ช่วยให้พ้นทุกข์จริงๆ ได้) จากคุณ : Retire Young เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 02:07:23 A:124.121.13.116 X:

ความคิดเห็นที่ 55   มีประชาชนพวกหนึ่ง นำแก่นจันทน์อย่างดี มีราคาสูงเป็นจำนวนมาก เอาไปแลกกับนมเปรี้ยวอย่างเลวๆ ราคาถูก เพียงหม้อเดียวเท่านั้น” พระสุบินและคำที่ทรงพยากรณ์นี้ เกี่ยวกับนักบวชโดยเฉพาะ เป็นนักบวชในพระพุทธศาสนา โดยทรงพยากรณ์ว่า “จักมีสมัยหนึ่ง นักบวชในศาสนานี้ ได้ศึกษาเล่าเรียนธรรมวินัยของตถาคต ซึ่งมีวิมุติเป็นคุณค่าอันล้ำเลิศ แล้วพากันนำเอาไปแลกลาภผลหรือเครื่องสักการบูชา ด้วย เห็นแก่ปาก แก่ท้อง แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ จากคุณ : Retire Young เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 02:14:52 A:192.168.0.240 X:124.121.13.116

ความคิดเห็นที่ 56   ผมอ่านแล้ว ข้อความ ก็สอดคล้องกันดีนี่ครับ แต่ผมก็ไม่แปลกใจนะ เพราะ จขกท ก็บอกว่าตัวเองสับสน อ่านไม่แตกเอง ก็เลยถึงบางอ้อว่า จขกท อ่านไม่เข้าใจ เลยเอามาถามคนในห้องนี้ และหลาย ๆ ท่านก็เชื่อได้เลยว่าอ่านไม่แตก หรือ ไม่อ่านด้วยซ้ำ มัวแต่กล่าววาจาจาบจ้วงดูหมิ่น ระวัง บาป ขบ กบาลนะครับ จากคุณ : Grand Marshal1 เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 03:01:39 A:113.53.97.247 X:

ความคิดเห็นที่ 57   โดยสรุปคือ ท่าน ว. จะบอกว่า พระสงฆ์ยุ่งกับการเมืองได้ ในแนวที่ว่ามาเทศน์ให้นักการเมืองรู้ดีรู้ชั่ว ว่างั้นเถอะ แต่ถามก่อนว่า ถ้าพระจะมายุ่งกับนักการเมืองในระดับนั้น พระเองมีความรู้เท่าทันโลกมากพอหรือยัง ถ้าจะให้พระเทศน์นักการเมืองได้ พระก็ต้องเข้าใจการเมือง แน่นอนหลีกหนีไม่พ้นที่จะต้องมีการเลือกข้าง หรือวิพากษ์วิจารณ์ อย่างพระที่เชียงใหม่ แต่ถ้าจะไม่ยุ่งกับการเมืองเลย พระก็ต้องเรียนแต่พระธรรมอย่างเดียว ปิดตัวเงียบอยู่ในวัดหรือในป่า อะไรทำนองนั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง สำหรับพระกับการเมือง ไม่มีคำตอบที่ถูกที่สุด เพราะการเมืองเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในขณะที่ธรรมะเป็นเรื่องของสัจธรรมที่นิ่งเสมอ แต่อย่างไรก็ตาม ถ้ามองในภาพกว้าง พระกับฆราวาสก็ยังแยกกันไม่ออก ตราบใดที่พระยังต้องพึ่งพาฆราวาส ฆราวาสยังต้องพึ่งพระ ตราบนั้น การจะให้พระนิ่งเฉย ในขณะที่มีวิกฤตในบ้านเมือง คงเป็นเรื่องยาก จากคุณ : bluepebble เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 03:44:39 A:192.168.0.240 X:67.159.44.138

ความคิดเห็นที่ 58   พระ"ว.วชิรเมธี"ระบุพระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง แต่ เคยเขียนไว้เองว่ายุ่งการเมืองได้ ตกลงเอาไงแน่ครับ http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=438125 16 มีค. 2553 22:25 น. จากกรณีที่พระสงฆ์ จำนวนหนึ่งจากทางภาคอีสาน ภาคเหนือ และปริมณฑล ได้เข้าร่วมการชุมนุมกับกลุ่มเสื้อแดง ได้มีหลายฝ่ายวิพากย์วิจารณ์ว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม ผิดวินัยสงฆ์ ขณะที่พระสงฆ์มราร่วมกับกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวอ้างว่าไม่ได้มีเจตนาเข้าร่วมชุมนุม และไม่มีส่วนได้เสียกับกลุ่มผู้ชุมนุมแต่อย่างใด วันที่ 16 มีนาคม พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี กล่าวว่า หลักการของพระสงฆ์ที่เกี่ยวกับการเมืองมี 2 หลักการ คือ 1.พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมือง 2. ถ้าจะเกี่ยวข้องทางการเมืองจริงก็สามารถเกี่ยวได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง หากกระทำเกินกว่านี้ จะถือว่าผิดธรรมวินัย แต่ที่ท่านเขียนไว้เองใน นิตยสารเน ชั่นสุดสัปดาห์ ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 http://www.oknation.net/blog/print.php?id=285874 " ดังนั้นคำกล่าวที่ว่าพระสงฆ์ไม่ควรจะยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยสิ้นเชิงนั้น ว.วชิรเมธี จึงเห็นว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แต่เล่นการเมืองไม่ได้และควรเป็นต้นแบบในการวางตนเป็นกลาง ด้วยการเลือกยืนอยู่ข้างธรรมะ ธรรมะอยู่ที่ไหน พระก็ควรอยู่ที่นั่น " ผมสับสนครับ ลิ้นพันกันแล้วครับ จากคุณ : AMR DIAB เขียนเมื่อ : 16 มี.ค. 53 23:31:34 A:124.121.188.45 X: [แก้ไข] ถูกใจ : พยัคฆ์ภูผา, หมูอ้วนตกรถ --------------------------------------------------------------------- ใครกันเเน่ที่โชว์อะไรในความคิดออกมา...   ในข่าว http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=438125 ข้อ 1 ท่านบอกว่า   1.พระสงฆ์ไม่ควรเล่นการเมือง หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับผลประโยชน์ทางการเมือง และในข่าว http://www.oknation.net/blog/print.php?id=285874 ท่านก็บอกว่า   แต่เล่นการเมืองไม่ได้ แล้วมันตรงกันไหม...!? ส่วนประเด็น การแสดงธรรม ในข่าว http://breakingnews.nationchannel.com/read.php?lang=th&newsid=438125 ท่านก็บอกว่า 2. ถ้าจะเกี่ยวข้องทางการเมืองจริงก็สามารถเกี่ยวได้กรณีเดียวเท่านั้นคือ การแสดงธรรมหรือว่ากล่าวตักเตือนนักการเมือง หากกระทำเกินกว่านี้ จะถือว่าผิดธรรมวินัย และในข่าว http://www.oknation.net/blog/print.php?id=285874 ท่านก็บอกว่า เพราะในความเป็นจริงแล้ว ตามคำสอนของพุทธศาสนา พระสงฆ์ควร ‘ถ่ายทอดธรรม’ ให้กับนักการเมืองได้ แล้วมันตรงกันไหม...!? ดังนั้น เมื่อเเยกประเด็น...  ดั้งนี้ก็จะเห็นว่าจุดยืนของท่าน ก็ยังคงเหมือนเดิม.. แต่กะพวกที่เข้ามาด่าท่าน อ่านภาษาไทยไม่เเตก หรือไม่ออกหรืออย่างไร...!? จากคุณ : An.mkII เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 07:39:17 A:125.27.187.101 X:

ความคิดเห็นที่ 59   ^ ^ ^ อ่านข้อความที่ ท่าน ว ที่คุณ An.mkII และหลายท่านนำมาเปรียบเทียบ ก็ไม่เห็นมีอะไรพลิก  (จริงๆผมอ่านและฟังท่านมาตลอด ก็ไม่เห็นมีไรเปลี่ยน ท่านยืนยันตามที่หลายๆท่านเขียนมาตลอด ) เฮ้อ ลามไปถึงพระแล้วเหรอครับ จากคุณ : JChai_Jane เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 07:48:43 A:124.120.29.32 X:

ความคิดเห็นที่ 60   ส่วนบทความ ที่คุณ คีรีบรรพต ทำลิงค์ให้อ่าน ผมว่า การที่ผู้เขียนตีความตามความคิดตัวเป็นคำๆนั้น ออกจะไม่ยุติธรรมต่อ ท่าน ว ความหมายของ การให้พระ ต้อง เลี้ยงไม่เชื่อง  ท่าน ว ก็ได้อธิบายไปแล้วว่า พระ ต้องไม่เห็นแก่อามิสสินจ้าง หรือ ลาภยศ  ที่ญาติโยมมาถวาย เพราะจะเกิดอาการเกรงใจ หรือทำอะไร ลูบหน้าปะจมูก ผู้เขียน มาตีความว่า ท่าน ว เน้นเรื่อง เลี้ยงไม่เชื่องหมายถึง ให้เป็นคนไม่รู้คุณคนนั้น  ผมว่าอคติเกินไป  เป็นการ หยิบข้อเขียนของคนอื่นมาตีความทีละคำแบบ หัวหมอ หรือ ศรีธนญชัย  (การเขียนข้อ 4 ที่ห้ามเขียนในพันทิป) เข้าข่ายฟังไม่ได้ศัพท์จับมากระเดียด (คุณ  วาทตะวัน สุพรรณเภษัช  น่าจะเอาส่วนขยายความหมายของคำว่าเลี้ยงไม่เชื่อง ที่ท่าน ว อธิบายมาลงด้วยนะ  ไม่ใช่ได้ความแค่นี้ ก็ตีความใหญ่โต  ) จากคุณ : JChai_Jane เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 07:57:06 A:124.120.29.32 X:

ความคิดเห็นที่ 61   ไม่ว่ายุคไหนสมัยไหน พระก็ไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับเรื่องการเมืองหรอก เป็นพระเพื่ออะไรถ้าไม่ตัดเรื่องทางโลก เมื่อบวชแล้วควรจะสำนึกได้ จากคุณ : ไม่ได้ขอบัตรผ่าน เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 07:58:47 A:125.26.141.152 X:

ความคิดเห็นที่ 62   พระองค์นี้ คือหนึ่งใน แกนนำคนเสื้อเหลืองครับ ท่านเป็นพระที่เข้ามายุ่งในระบบการเมืองคนแรกๆเลยที่เดียว มาวิเคราะห์และก็วิจารณ์ ด้านการเมืองครับ เพียงแต่อยู่ในคราบของ พระสงฆ์เท่านั้น หมดความน่าเชื่อถือ จากคุณ : maxoutda เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:21:08 A:192.168.0.240 X:61.47.30.154

ความคิดเห็นที่ 63   ก็ยังไม่เห็นพระเป็นส.ส. หรือนายกเลยนี่ จากคุณ : isazza เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:26:19 A:117.47.234.102 X:

ความคิดเห็นที่ 64   ผมบูชา แต่พระพุทธเจ้า องค์เดียวครับ จากคุณ : Mikeschweiz เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 08:38:35 A:58.10.158.179 X:

ความคิดเห็นที่ 65   พระธิเบต พม่า เป็นตัวอย่าง จากคุณ : NiyomC เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:00:29 A:192.168.0.240 X:61.19.66.4

ความคิดเห็นที่ 66   ผมคนหนึ่ง ละ ไม่ชอบ พระโปรโมท ยุติธรรมจริง    ตอนเสื้อเหลือง เงียบ เป็นเป่า สาก มีปาก  ห้าม แต่ อีกฝั่ง  อีกฝั่ง ไม่ห้าม   คนทั้งประเทศ เขารู้หมด พันธมิตร ปิดสนามบิน ยึดทำเนียบ   แต่ ว   ไม่รู้       คุณ เชื่อ ไหม ว่า  เขาไม่รู้ จากคุณ : ใจสั่งมา เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 09:20:29 A:192.168.0.240 X:124.121.11.94

ความคิดเห็นที่ 67   . ........................เหาะ...ทำตัวลอย...........เรื่องธรรมดา...................... .                                           จากคุณ : jazzcat เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 10:30:33 A:112.142.5.173 X:

ความคิดเห็นที่ 68   ทำไมประเทศเราถึงมีคนประเภทตูทำได้ แต่คนอื่นห้าม สะอิดสะเอียนกับพวกนีัเต็มที จากคุณ : PG (Guin28) เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 10:57:58 A:124.120.92.224 X:

ความคิดเห็นที่ 69   คุณขา.... ควรจะวิเคราะห์ให้เป็นกรณีๆไปอย่าเหมารวมสิคะ   นี่พระออกมาเทศน์ ให้สติ แสดงความเห็นต่างจากความคิดของคุณคุณก็เล่นด่าโยนให้เป็นพระที่ไม่น่านับถือไปเลย    พระที่ไล่ทุบรถ  ไล่ฆ่าคน  หรือนำเลือดไปสาดนู่นนี่  นั่นคือคนห่มผ้าเหลืองค่ะ  ไม่อยู่ในศีล ด่าได้ไม่ผิด   ....  ไม่รู้จักระงับโมหะโทสะ...  พระที่มาเทศน์ให้สติไม่ว่าจะเป็นพระพยอม ที่สอนเสื้อเหลือง  แล้วโดนเสื้อเหลืองด่า  พระหลวงตามหาบัวที่เสื้อแดงต่อว่า  พระว.ที่คุณกำลังด่า หรือว่าไม่น่านับถือนี้....ถือว่า บาปค่ะ..... ทั้งเหลืองทั้งแดง     เหลืองก็บ้าสนธิ...แดงก็บ้าทักษิณ   ชี้นกก็เป็นนก   ชี้ไม้ก็เป็นไม้  สนธิบอกเหลืองให้เอาผ้าอนามัยไปทำลายอาคม..งเหลืองก็เชื่อ  (แต่เชื่อว่าเหลืองที่มีสติเขาก็ถอย  แดง ที่แกนนำ (เบื้องหลังก็คือทักษิณ) บอกให้เอาเลือดมาเทก็บ้าเจาะเลือดมาเทมาสาด    นี่คือตัวอย่างของคนขาดสติ  และปัญญา  .. พอทีเถอะประเทศเละเทะไปหมดแล้ว  .. จากคุณ : ลัดดา เขียนเมื่อ : 17 มี.ค. 53 15:11:49 A:202.149.25.234 X: