ความคิดเห็นที่ 1   กระทู้นี้เป็นข้อคิดเห็นสืบเนื่องต่อมาจาก ตัวอย่างหนึ่งของการหลอกลวงในการพิพากษาทักษิณ หรือไม่ ? http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9022424/P9022424.html วิเคราะห์การพิพากษาทักษิณ การขาดแหว่งพร่องไปของการพิจารณาและร่องรอยของพิรุธ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9019820/P9019820.html วาทกรรมนี้ถูกผลิตขึ้นจากนักการเมืองเพื่อกีดกัน ทิ่มแทง บุคคลปกติทั่วไป ไม่ให้เข้ามามีส่วนในอำนาจการเมือง http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9012444/P9012444.html จากคุณ : วษณ เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 05:56:15 A:192.168.0.240 X:58.8.142.222

ความคิดเห็นที่ 2   ตกลง คตส.ตัดสิน หรือ ศาลตัดสิน เค้าชั่งน้ำหนักพยานกันที่ศาลครับ คตส+อัยการ ก็ยื่นไป ฝ่าย ผู้ถูกกล่าวหา ก็เอาหลักฐานมาหักล้าง ...ศาลท่านมีหน้าที่ชั่งน้ำหนักว่าใครน่าเชื่อถือมากกว่ากัน... จากคุณ : tvnews เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:15:42 A:58.9.128.135 X:

ความคิดเห็นที่ 3   ไม่รู้ว่าเป็นพวกปัญญาดีหรือปัญญาอ่อนที่พิจารณาเรื่องนี้   ในโลกนี้ไม่มีอำะไรจะไำด้มาโดยไม่เสียไป ไม่มี  เมื่อมีไำด้ก็มีเสีย  ทีนี้ ก็ต้องเอาเรื่องที่ไำด้และำเสียมาพิจารณาว่าอย่างไหนจะมีมากกว่ากัน  ชั่งน้ำหนักดู   แต่ในกรณีนี้เห็นว่าพวกสมองกลวงบางคนหรืออาจจะหลาย ๆ คน พิจารณาแต่ด้านเสียด้านเดียวแล้วก็หยิบยกออกมาโฆษณาประชขาสัมพันธ์เพื่อลงโทษหรือจับผิดท่านทักษิณ ฯ  ซึ่งไม่เป็นธรรมกับท่าน   ผลจึงออกมาอย่างที่เห็น จากคุณ : มุมแดง เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:19:56 A:125.26.78.166 X:

ความคิดเห็นที่ 5   ผู้หลงอำนาจที่มีอำนาจอยู่ในมือ ถ้าจะตั้งธงจะเอาผิดใครก็สามารถใช้ช่องโหว่ของกฎหมายได้ทั้งนั้น ต่อให้มันผู้นั้นไม่ได้ทำผิดก็มีโอกาสพลาสได้ ในการบริหารประเทศของแต่ละรัฐบาลก็สมารถพิสูจน์ได้เป็นภาพรวมว่าในเวลานั้นประชาชนใครได้รับประโยชน์มากกว่ากัน จากคุณ : kunchai129 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 06:55:20 A:124.120.16.223 X:

ความคิดเห็นที่ 6   ประเด็นคือในปี 2545 ทักษิณต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับธุรกิจแล้ว เมื่อสามารถพิสูจน์โยงได้ว่าทักษิณเป็นผู้มีสิทธิ์ในมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มก็คือถูกยึด จขกท หลงประเด็นอยู่ สำหรับประเด็นความเสียหาย ยังต้องมีการพิจารณาต่อไป จากคุณ : Darth Prin เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 08:09:25 A:10.0.2.255 X:119.42.96.55

ความคิดเห็นที่ 7   ความเห็นที่6 ครับ สิ่งที่พิสูจน์ว่าหุ้นเป็นของทักษิณจริงๆมันไม่มีนะครับ ในทางกฎหมายมันโอนให้คนอื่นหมดแล้ว ในทางปฏิบัติทักษิณอาจเข้าไปช่วยบริหาร แต่นั่นมันก็ต้องเป็นการยกประโยชน์ให้ครับ เขาครอบครัวเดียวกัน แล้วสิ่งที่คตส.คิดมันแง่คณิตศาสตร์ครับ แต่สิ่งที่ทำได้จริงมันคือเศรษฐศาสตร์ การทำธุรกิจ คุณจะตั้งราคาเริ่มต้นที่เท่าไรก็ได้ แพงแค่ไหนก็ได้ถ้าคุณเป็นผู้ผูกขาดรายเดียว  แต่ถึงจะเป็นผู้ผูกขาดรายเดียว ตั้งราคาสูงเกินไป คนทั่วไปอาจเห็นเป็นสิ่งไม่จำเป็น  คนทำธุรกิจจึงคิดที่หลักเศรษฐศาสตร์ครับคือจุดสมดุล ไม่ใช่จุดที่ได้กำไรสูงสุด ถ้าคตส.คิดในจุดสมดุล คดีนี้รัฐไม่เสียหายเลยได้กำไรด้วยซ้ำ แต่นี่คตส.คิดแบบระบบเจ้าขุนมูลนายไงครับ คือยิ่งมากยิ่งดี รัฐอยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร เก็บส่วยอย่างเดียว   แต่ถ้าคิดว่าเป็นผู้ร่วมทุน ลดรายได้ต่อหน่วยลงแล้วได้จำนวนหน่วยมากขึ้นมันก็ดีกว่านะครับ จากคุณ : arthure21 เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 09:34:58 A:192.168.1.24 X:124.121.22.137