 |
ความคิดเห็นที่ 25 |
|
สมมุติฐาน: การเจรจาไกล่เกลี่ยทำให้ความพึงพอใจ และความสัมพันธ์กลับคืนมา
โดยการให้คู่กรณีมีโอกาสเข้าสู่การเจรจาควบคู่ไปกับการพิจารณาชดเชย โดยมีคนกลางคอยช่วยเหลือจะทำให้เกิดข้อตกลงที่พึงพอใจ และจะได้ความสัมพันธ์ที่ดีกลับคืนมา ใช่หรือไม่
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
แนวคิดที่1 เชื่อว่า คู่พิพาทก่อนที่จะเกิดการพิพาทขึ้น ย่อมต้องมีความสัมพันธ์ทั้งที่ดีและไม่ดีระหว่างกันมาก่อน
เทคนิคที่เหมาะสมที่จะนำไปใช้ภายใต้สมมติฐานดังกล่าวนี้คือ ให้คู่กรณีเล่าเรื่องStory Telling ซึ่งผู้ไกล่เกลี่ยสามารถใช้สร้างบรรยากาศของการสื่อสารที่ดีและเปิดโอกาสให้ระบายออก(ventilate)
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
แนวคิดที่ 2. เมื่อบุคคลต้องเผชิญกับความขัดแย้ง บุคคลจะยึดติดอยู่กับทิฐิ ที่มีมาแต่เริ่มต้น
(Johnson et al, 2000, pp68-69, Janis &Man 1977, pp 22-25, 45)
ดังนั้น การชี้ให้เห็นถึงทิฐิที่เกิดขึ้น ผ่านการเล่าเรื่องราวในมุมมองที่แตกต่างของคู่กรณีที่มีต่อความขัดแย้ง จะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกัน และบอกความต้องการที่แท้จริงของคู่กรณีแต่ละฝ่ายได้ (Roger, 1975, 1980, Fisher & Ury, 1981, Johnson et al, 2000)
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
แนวคิดที่ 3. บุคคลจะมีการให้ความหมายของพฤติกรรม จุดประสงค์ และข้อตกลงต่างๆ ที่เกิดขึ้น เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ตามข้อมูลใหม่ๆ ที่ได้รับมา
ดังนั้นจึงไม่มีคำว่า ความจริง ที่เกิดขึ้นในอดีต
เพราะความจริง คือสิ่งที่เราให้ความหมายกับมัน ความจริงของคนๆ หนึ่งอาจไม่ใช่ความจริงของคนอีกคนหนึ่งได้
จุดประสงค์ของกระบวนการไกล่เกลี่ยจึงไม่ใช่การค้นหาความจริง หาฝ่ายผิด แต่เป็นการค้นหาข้อตกลงในอนาคต
ที่เหมาะสมกับโครงสร้างของสังคมที่คู่กรณีอยู่นั้นเอง
(Gergen, 1985, Deutsch, 1991, p. 28 , Folger et al, 1997, pp. 114-115)
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
แนวคิดที่4.คู่พิพาทเลือกที่จะแสวงหาสันติสุข หรือ ความสมานฉันท์ และหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับความกดดันต่างๆอันเกิดจากความขัดแย้ง(Roger.,1975 , p 5)
ดังนั้น หากบุคคลได้รับกระบวนการแก้ปัญหาที่เหมาะสมแล้ว บุคคลจะใช้ความสามารถของเขาอย่างเต็มศักยภาพ เต็มวุฒิภาวะที่มี นำไปสู่ความสงบสุข และจะรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นในระหว่างกระบวนการและมีแนวโน้มที่จะตกลงกันได้
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
แนวคิดที่ 5. หากบุคคลได้รับประสบการณ์ระหว่างกระบวนการแก้ไขข้อขัดแย้ง ในลักษณะแบบการแข่งขันเอาชนะกัน บุคคลก็จะตอบสนองด้วยการพยายามเอาชนะคู่กรณี แต่หากบุคคลได้รับประสบการณ์ระหว่างกระบวนการแก้ไขข้อขัดแย้งในลักษณะของการร่วมมือกันแก้ปัญหา บุคคลย่อมตอบสนองด้วยการให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาเช่นกัน (Deutsch, 2000, p.29)
ดังนั้นกระบวนการแก้ไขปัญหา (Problem Solving Approach) การเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม (Transformative approach)
จึงเป็นควรกระบวนการที่คนกลางจะช่วยให้ปฏิสัมพันธ์ระหว่างคู่พิพาท ไปในทิศทางของการทำให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาและสร้างความสัมพันธ์
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
นำ5แนวคิดปรับประยุกต์สู่ผลลัทธ์
* ผลลัทธ์ที่1 มุ่งแก้ไขปัญหา
(problem solving mediation approach)
ให้เกิดข้อตกลง ได้สัญญาประนีประนอม
* ผลลัทธ์ที่2 มุ่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม (transformative mediation approach)
ให้เกิดข้อตกลงได้สัญญาประนีประนอม + การขอโทษแสดงความรับผิดชอบ+การปรับปรุง ฟื้นคืนสัมพันธ์ที่ดี
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
Bush & Folger, 1994, pp.141 - 152
ในผลลัทธ์ที่2 การที่มีคนกลางให้คู่กรณีร่วมมือกันในการแก้ปัญหาและเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรม
เชื่อว่าบุคลจะพอใจกับทางเลือกที่ตนเองได้สร้างขึ้นมามากกว่า เมื่อมีข้อสัญญาเขาก็ย่อมรักษาข้อสัญญาที่พวกเขาได้ร่วมสร้างกันขึ้นมาเองและได้ความสัมพันธ์กลับคืน
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
กลยุทธการนำไปปฏิบัติ
* ใช้กระบวนการไกล่เกลี่ยเป็นกลไกสร้างข้อตกลงและฟื้นคืนความสัมพันธ์ * ใช้เทคนิคการสร้างสัมพันธภาพ เชื่อมโยงข้อสมมุติฐาน แนวคิดทฤษฎี และการปฏิบัติ สู่ผลลัทธ์ที่ต้องการ
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
สร้างสัมพันธภาพทั้ง 3 ระยะ
ระยะที่1 ก่อนที่จะเข้าสู่กระบวนการไกล่เกลี่ย
ระยะที่2 ระหว่างกระบวนการไกล่เกลี่ย
ระยะที่3 หลังกระบวนการไกล่เกลี่ยสิ้นสุด
สัมพันธภาพที่เกิดขึ้นระหว่างกระบวนการไกล่เกลี่ยมีความสำคัญ ซึ่งถ้าไม่เกิดขึ้น สัมพันธภาพที่สร้างไว้ในระยะที่1 ก็ไร้ความหมาย
สัมพันธภาพหลังกระบวนการไกล่เกลี่ยสิ้นสุด จะตอกย้ำการฟื้นคืนความสัมพันธ์ให้มีความยั่งยืน
อ.นพ.บรรพต ต้นธีรวงศ์ สมานฉันท์สาธารณสุข
จากคุณ |
:
พลังแผ่นดิน
|
เขียนเมื่อ |
:
25 มี.ค. 53 04:24:29
A:124.120.72.118 X:
|
|
|
|
 |