 |
ธปท.มีผลขาดทุนสะสม 82,096.7 ล้านบาท และทำให้ในปีนี้ ธปท.ยังไม่สามารถส่งเงินเข้ารัฐ ใช้หนี้ กองทุนเพื่อการฟื้นฟู
|
|
อะไรที่แย่เริ่มโผล่ออกมาแล้วครับ
***********************************************
บาทแข็งโป๊ก-ดอกเบี้ยดูดซับสภาพคล่องบาทพุ่ง ทำธปท.อ่วม งบดุลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิปีที่ผ่านมา 7,662 ล้านบาท ส่งผลให้ขาดทุนสะสมพุ่งเป็น 8.2 หมื่นล้านบาท หมดปัญหาส่งเงินใช้หนี้กองทุนฟื้นฟู และนำส่งรายได้เข้ารัฐ..
เมื่อวันที่ 25 มี.ค. นายอรรคบุษย์ ไกรฤกษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายบริหาร ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ธปท.ได้รายงานการดำเนินงาน และงบการเงินประจำปี 2552 ให้คณะกรรมการธปท.รับทราบ โดยระบุว่า ในส่วนงบการเงินในส่วนของฝ่ายกิจการธนาคาร ทุนสำรองเงินตรา และกิจการธนบัตร ในส่วนของฝ่ายกิจการธนาคาร ธปท.มีผลการดำเนินขาดทุนสุทธิ 7,662 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายจ่ายดอกเบี้ยของพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย และหน้าต่างการเงินอื่นๆ ที่ ธปท.เพื่อดูดซับสภาพคล่องในระบบให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสม สูงกว่ารายได้จากดอกเบี้ยและผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งไปลงทุนในพันธบัตร และตราสารหนี้ในต่างประเทศของ ธปท.12,102 ล้านบาท รวมทั้งผลขาดทุนที่เกิดขึ้นจริงแล้วจากการตีราคารายได้จากดอกเบี้ยและผล ตอบแทนการลงทุนจากเงินดอลลาร์เป็นเงินบาท (Realized Loss)
ซึ่งในปีที่ผ่านมานั้น ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 4.7% เมื่อรวมผลขาดทุนในปี 2552 กับผลขาดทุนสะสมที่มีอยู่เดิม 74,434.7 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 2552 ธปท.มีผลขาดทุนสะสม 82,096.7 ล้านบาท และทำให้ในปีนี้ ธปท.ยังไม่สามารถส่งเงินเข้ารัฐเพื่อนำไปใช้หนี้สินเงินต้นในส่วนของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินได้ แต่การหาหนทางในการชำระหนี้เงินต้นของกองทุนเพื่อการฟื้นฟูฯ นี้จะมีวิธีใดเพิ่มเติมหรือไม่นั้น กระทรวงการคลังกำลังหารือกับ ธปท.อยู่ แต่ในส่วนตัวมองว่า หากจะนำเงินสำรองทางการระหว่างประเทศไปใช้อาจจะต้องมีการแก้กฎหมาย พ.ร.บ.ธปท. และ พ.ร.บ.เงินตรา แต่ในขณะนี้ยังต้องพิจารณาทุกด้านอย่างรอบคอบ
นายอรรคบุษย์ กล่าวว่า ในส่วนของการบริหารทุนสำรอง โดยการเอาเงินทุนสำรองไปลงทุนนั้น ดอกเบี้ย และผลตอบแทนในรูปเงินตราต่างประเทศ ธปท.บริหารทุนสำรองมีกำไร แต่จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเฉลี่ยทั้งปี 2552 เทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐฯ 4.7% เทียบกับเงินเยนญี่ปุ่น บาทแข็งค่า 6.8% ขณะที่เทียบกับเงินยูโร บาทแข็งค่าขึ้น 2.1% รวมทั้งเพิ่มขึ้นของทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ ที่เกิดขึ้นจากเงินทุนต่างประเทศไหลเข้า การส่งออกสุทธิ และการเข้าซื้อดอลลาร์เพื่อลดความผันผวนค่าเงินบาทของ ธปท. โดยสิ้นปี 2552 ทุนสำรองทางการระหว่างประเทศ เพิ่มขึ้น 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ทำให้เมื่อตีราคาสินทรัพย์ และหนี้สินของ ธปท. ณ สิ้นปี 2552 แล้ว เกิดผลขาดทุนจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนทั้งที่เกิดขึ้นจริงและยังไม่ เกิดขึ้นจริง (Unrealized Loss) ทั้งสิ้น 67,175 ล้านบาท
ทั้งนี้ ตามวิธีบัญชีใหม่ของ ธปท.นั้น ผลขาดทุนที่เกิดจากการตีราคาอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่มีการขายเงินดอลลาร์ออกไปจริง (Unrealized Loss) จะไม่ไปรวมกับกำไรขาดทุนประจำปี แต่จะไปรับรู้ในส่วนของทุนของ ธปท.ซึ่งผลจากการขาดทุนจากการตีราคาในปีนี้ ทำให้ทุนของ ธปท.ติดลบเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยติดลบทั้งสิ้น 81,758 ล้านบาท โดยผลกำไร และขาดทุนที่เกิดขึ้นจากการตีราคาอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่ได้ขายดอลลาร์ออกไปจริงนั้น จะขึ้นกับค่าเงินบาทที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ผลขาดทุนก็จะมากขึ้น แต่หากดอลลาร์อ่อน ผลขาดทุนจะน้อยลง หรือกลายเป็นกำไรได้ ดังนั้น จึงไม่นำไปรวมไว้ในผลการดำเนินการประจำปี แต่ลงบัญชีทุนเพื่อให้รับรู้การเปลี่ยนแปลงของมูลค่าทุนสำรองที่เกิดขึ้น
ผู้ช่วยผู้ว่าการ ธปท. กล่าวต่อว่า สำหรับบัญชีทุนสำรองทางการะหว่างประเทศ ในส่วนบัญชีทุนสำรองเงินตรา ซึ่งใช้สำหรับหนุนหลังการออกธนบัตร สิ้นปี 2552 มีกำไร 8,567 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผลกำไร จากมูลค่าทองคำที่เพิ่มขึ้น โดยในปี 2552 ราคาทองคำสูงขึ้นถึง 25% จากปีก่อนหน้า นอกจากนั้น ทุนสำรองเงินตรายังไม่มีภาระที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเพื่อดูดซับสภาพคล่องเงิน บาท เพราะรายจ่ายส่วนนี้อยู่ในฝ่ายกิจการธนาคาร ทำให้แม้จะมีผลขาดทุนจากการตีราคา แต่ผลการดำเนินการรวมยังเป็นกำไรสุทธิ ขณะเดียวกัน ในส่วนของฝ่ายกิจการธนบัตร ซึ่งเป็นรายรับจ่ายของการพิมพ์ และออกใช้ธนบัตร มีกำไรสุทธิในปี 2552 อีก 498.7 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ในส่วนของกำไรในส่วนของบัญชีทุนสำรองเงินตรา และฝ่ายกิจการธนบัตรนั้น เป็นกำไรที่จะตามกฎหมายจะต้องนำเข้าไปสะสมในบัญชีทุนสำรองพิเศษ ซึ่งไม่สามารถนำออกมาใช้จ่าย หรือนำส่งรัฐได้ เพราะถือเป็นดอกผลของทุนสำรองเงินตรา ที่ต้องเก็บไว้หนุนหลังการออกธนบัตร ส่วนบัญชีที่จะนำส่งเงินกำไรส่งรัฐ และใช้หนี้กองทุนเพื่อการฟื้นฟูได้คือ บัญชีฝ่ายกิจการธนาคาร ซึ่งปีนี้เราขาดทุนอยู่.
ไทยรัฐออนไลน์ วันศุกร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ.2553
| จากคุณ |
:
AMR DIAB 
|
| เขียนเมื่อ |
:
26 มี.ค. 53 01:44:40
A:115.87.31.36 X:
|
|
|
| |
