 |
ชนชั้นกลางอย่างพวกผม : โดย วันชัย ตัน
|
|
ชนชั้นกลางอย่างพวกผม Tue, 13/12/2005 - 14:27 — วันชัย ตัน
http://www.onopen.com/node/3573
ผมเป็นชนชั้นกลางชาวสุขุมวิท บ้านอยู่ไม่ไกลจากแถวห้างเอ็มโพเรียม ของตระกูลอัมพุช
แต่ละวันผมแสดงความเห็นแก่ตัว โดยการขับรถยนต์ส่วนตัวแทนที่จะนั่งรถเมล์ ฝ่าดงรถติดไปทำงานเยี่ยงชนชั้นกลางในเมืองหลวงอีกหลายแสนคน
ทุกวันนี้บริเวณถนนสุขุมวิทแถวนั้น ทำสถิติรถติดกันเกือบตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ ยิ่งวันเสาร์-อาทิตย์ติดหนักขึ้นไปอีก ทั้ง ๆที่มีรถไฟฟ้าบีทีเอสลอยอยู่เหนือฟากฟ้าคอยลดความแออัดของการจราจรบนท้องถนน อยู่แล้ว
ผมสังเกตดูว่าแต่ละวันรถที่ติดยาวเหยียดบนท้องถนน ตั้งแต่ซอยทองหล่อขึ้นมา เมื่อผ่านหน้าห้างเอ็มโพเรียมแล้ว จะโล่งขึ้นทันตาเห็น ด้วยสาเหตุสำคัญคือ มีรถเลี้ยวเข้าออกที่จอดรถในห้างเอ็มโพเรียมมากตลอดเวลา และรถแท็กซี่จอดรับผู้โดยสารหน้าห้างฯก็มีอยู่ไม่ขาดสาย ทำให้ช่องทางการจราจรหายไปช่องหนึ่งโดยปริยาย
ผู้ขับขี่รถแถวนี้จึงทราบดีว่า หากผ่านหน้าห้างสุดหรูนี้แล้ว การจราจรจะคล่องตัวขึ้นไป และไปกระจุกตัวอีกทีแถวห้างเซ็นทรัลชิดลม และสยามสแควร์ แต่รถก็ยังพอขับเคลื่อนไปได้
พอเมื่อห้างสยามพารากอน เจ้าของเดียวกับห้างเอ็มโพเรียม ชอปปิ้งมอลล์ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เริ่มทำการก่อสร้างเป็นรูปเป็นร่างและมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา รถได้ติดขัดเพิ่มมากขึ้นอย่างสังเกตได้ชัด เพราะปริมาณรถยนต์ที่เลี้ยวเข้าห้างพารากอนมีอยู่ตลอดเวลา
ห้างพารากอนได้ช่วยทำให้การจราจรบนถนนสุขุมวิทยาวเหยียดมาจนถึงสี่แยก ปทุมวันที่ติดขัดอยู่แล้ว นิ่งสนิทโดยเฉพาะวันเสาร์ อันเป็นวันชอปปิ้งของชนชั้นกลางในเมือง
โชคยังดีที่ห้างเซ็นทรัลเวิร์ด ของตระกูลจิราธิวัฒน์บนถนนเดียวกัน อยู่ถัดออกไปไม่ไกล กำลังอยู่ในระหว่างการปรับปรุงอาคาร ยังไม่ได้เปิดทำการเต็มที่ หากเปิดเมื่อไร ก็นึกไม่ออกว่าการจราจรบนถนนชอปปิ้งสตรีทแห่งนี้จะเป็นอย่างไร
กรุงเทพมหานครของเรามีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่เยอะมาก และเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ทุกวันนี้ประเทศไทยสั่งน้ำมันจากต่างประเทศมาใช้วันละ 8 แสนบาร์เรล เป็นรายจ่ายสำคัญที่สุดที่ทำให้เงินไหลออกนอกประเทศอย่างไม่หยุด แต่ยังไม่มีหน่วยงานไหนออกมาสำรวจว่า แต่ละวันเราเอาน้ำมันมาเผาเล่นบนท้องถนนเพราะการจราจรติดขัดกี่หมื่นกี่แสน บาร์เรล
ที่เล่ามาให้ฟังนี้ เพื่ออยากตั้งข้อสังเกตว่า ห้างสรรพสินค้าเหล่านี้ที่ใช้ปริมาณไฟฟ้ามหาศาลมากกว่าการใช้ไฟฟ้าของหลาย สิบจังหวัดรวมกัน ยอมรับหรือไม่ว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การจราจรบนท้องถนนติดขัดกันไปหมด และห้างเหล่านี้แสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไรบ้าง
ที่ผ่านมาทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รับผิดชอบการจราจรในเมืองหลวง ได้ออกมาสรุปกับสังคมว่า สาเหตุที่ทำให้การจราจรติดขัดบนท้องถนนอันดับแรกคือ ผู้ขับขี่รถยนต์ไม่ทำตามกฎจราจร และปริมาณรถในท้องถนนมีมากเกินไป แต่ไม่ยอมระบุเลยว่า สาเหตุสำคัญอีกประการหนึ่งมาจากห้างสรรพสินค้าที่เปิดกันโครม ๆ ในปัจจุบัน
หรือเกรงใจบารมีของบรรดาเจ้าของกิจการเหล่านี้ที่ล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงใน สังคมทั้งสิ้น
ผมขับรถฝ่าการจราจรติดขัดบนถนนสุขุมวิทออกมา ผู้ใช้รถใช้ถนนอย่างผมต่างก้มหน้าก้มตารับชะตากรรม ไม่มีใครออกมาบ่นดัง ๆ พูดผ่านวิทยุ หรือเขียนด่าในเว็บไซต์เลยว่า ห้างเหล่านี้เป็นตัวการที่ทำให้รถติดทุกวัน
เมื่อผมขับรถผ่านไปแถวทำเนียบรัฐบาล หรือถนนราชดำเนิน ซึ่งปรกติรถไม่ค่อยติด แต่หากวันไหนเกิดการจราจรติดขัด เพราะม็อบเกษตรกร ม็อบครู หรือม็อบของผู้ได้รับความเดือดร้อนจากนโยบายของรัฐ คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่เป็นชาวชนบทเดินทางมาร้องทุกข์ถึงในเมืองหลวง เท่านั้นแหละครับ บรรดาผู้ใช้รถใช้ถนนผู้ไม่เคยมีปากเสียง มักจะส่งเสียงดังด่าทอคนเหล่านี้ ด้วยภาษาเถื่อน ๆผ่านทางวิทยุและเว็บไซต์ ที่มาสร้างความเดือดร้อนให้กับคนใช้รถใช้ถนนอย่างพวกเขา โดยไม่สนใจว่าจุดประสงค์ของคนเหล่านี้คืออะไรกัน
ผมสังเกตมานานแล้วว่า หากคนเล็ก ๆ เหล่านี้รวมตัวกันเดินทางมาเรียกร้องและ ทำให้รถติดบ้างในบางโอกาส ชนชั้นกลางอย่างพวกผมจะรีบลุกขึ้นมาตะโกนโหวกเหวกในบัดดล เพื่อทวงสิทธิ์ในการใช้รถใช้ถนน
พวกผมสามารถพูดได้อย่างสวยหรูและเป็นเหตุเป็นผลว่า "การประท้วงเป็นสิทธิ์อันชอบธรรมในระบอบประชาธิปไตย แต่ต้องไม่สร้างความเดือดร้อนหรือกระทบกระเทือนสิทธิของคนอื่นในการใช้รถใช้ ถนน โดยทำให้รถติด"
แต่กับบรรดาเจ้าของห้างสรรพสินค้า นามสกุลใหญ่ ๆทั้งหลายที่มีส่วนทำให้รถติดตลอดเวลา ชนชั้นกลางที่ขับรถอย่างพวกผมกลับนิ่งเฉย ไม่ลุกขึ้นมาทวงสิทธิ์อันใด และแสดงความอดกลั้น อดทนได้ดีเป็นพิเศษ ไม่ปริปากบ่นสักคำว่า ห้างสรรพสินค้ามีส่วนทำให้รถติดอย่างสาหัสในกรุงเทพฯ เพียงใด
"กับคนตัวเล็ก เรามักข่มเหง กับคนตัวใหญ่ เรามักเกรงใจ" คือนิสัยของชนชั้นกลางอย่างพวกผมที่ขอสารภาพไว้ ณ ที่นี้
=====================================
เอามาให้อ่านกัน ... เพื่อที่ทั้งสองฝ่ายอาจจะเข้าอกเข้าใจกันมากขึ้น เพราะ มันมีอีกมุม ... ที่เราไม่เคยพิจารณา
| จากคุณ |
:
KinkyVans
|
| เขียนเมื่อ |
:
7 เม.ย. 53 10:17:52
A:58.9.45.144 X:
|
|
|
|  |