 |
ความคิดเห็นที่ 47 |
กลิ่นแก๊สและน้ำตา มองจากมุมคนข่าว
วันที่ 10 เมษายน 2553 ต้องถูกบันทึกไว้อีกครั้ง เพราะเป็นอีกครั้งที่มีการสลายม็อบแล้วเกิดความสูญเสีย มีทั้งคนบาดเจ็บ...ล้มตาย
หลายคนติดตามข่าวสารทางฟรีทีวีในช่วง วันนี้ อาจจะติดตามข่าวได้ไม่ถ้วนทั่ว...
แต่ถ้าเป็นนักท่องเว็บฯ พอจะหาดูบรรยากาศการปะทะได้บ้าง จอไม่ดำมืดเหมือนทีวีดาวเทียม
อย่าง เว็บลิงค์ www.norsorpor.com หัวข้อ "เสื้อแดง" อันดับหนึ่งยอดนิยม คือภาพคลิปวีดิโอ...ถ่ายทอดสดเหตุการณ์ทหารปะทะเสื้อแดงบริเวณสะพานมัฆวาน รังสรรค์
ฮิตรองลงมา...ประมวลภาพจากสื่อเทศ : เสื้อแดงปะทะกับทหาร
กลุ่ม คนเสื้อแดงปะทะกับทหารใกล้กับอาคารรัฐสภาในกรุงเทพฯ สื่อท้องถิ่นรายงานว่า..."ทหารไทยใช้รถฉีดน้ำใส่ผู้ประท้วงต่อต้านรัฐบาลราว 100 คน ที่มาเคลื่อนไหวไปยังบริเวณด้านข้างกองทัพภาคที่ 1 ขณะที่ผู้ประท้วงอีกจำนวนมากปักหลักประท้วงที่สี่แยกราชประสงค์..."
ฮิต อันดับสาม...บีบีซีรายงานคนตายเหตุทหารปะทะเสื้อแดงเพิ่มเป็น 9 บาดเจ็บ 300...แดงบุกแย่งศพใน รพ.แห่
แต่ถ้าอยากจะคลิกไปดูที่เว็บคนเสื้อแดง ตรงๆ อย่าง www.redthai.org หรือเว็บการเมืองร้อนๆอย่าง www.prachatai.com มุม...คนเสื้อแดง ก็กลับเข้าไม่ได้
มีเพียงหน้าจอแจ้งให้รู้ ว่า..."ขออภัยในความไม่สะดวก"
พร้อมอธิบายอีกว่า...เว็บไซต์ที่ท่าน ต้องการเข้าชม ได้ถูกระงับการเผยแพร่ ตามคำสั่งจากกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
บางแง่มุมเล็กๆ ทั้งที่เป็นข่าวไปแล้วและยังไม่เป็นข่าว ผนวกกับความเชื่อมโยงในแต่ละเรื่องราว ในแต่ละช่วงเวลา...การสลายกลุ่มผู้ชุมนุมยังมีหลากหลายประเด็นน่าสนใจ
"จุด เริ่ม น่าจะอยู่ที่เวลาเที่ยงครึ่ง...แกนนำม็อบแดงยกกำลัง 200 คน บุกไป กองทัพภาคที่ 1 เพื่อสกัดไม่ให้ทหารเข้ามาสลายม็อบ กระทั่งเวลาผ่านไปสองชั่วโมง ทหารสวมชุดลายพรางกว่า 300 นาย ก็รวมกำลังบริเวณพระบรมรูปทรงม้า"
วรณ คล้ายพงษ์ ผู้สื่อข่าวสกู๊ปหน้า 1 นสพ.ไทยรัฐ ผู้ที่คลุกคลีอยู่ ในสนามข่าวบอก
ราว 15 นาที...ไม่มีใครคาดคิด ทหารก็หยิบโล่ ไม้กระบอง เดินเรียงแถวหน้ากระดาน เดินตรงเข้าขับไล่ม็อบเสื้อแดง ที่รวมตัวอยู่ห่างกันราว 100 เมตร
"ด้าน หลังแนวทหารแถวแรก มีหน่วยทหารอีกชุดที่ยืนถือปืนสงครามเดินตามหลัง โดยใช้หัวกระสุนยางเตรียมพร้อมยิง..."
ทว่า...กลุ่มคนเสื้อแดงกว่า 2,000 คนไม่ยอมถอย กลับหยิบไม้ ก้อนหิน ปาเข้าใส่ จนทหารได้รับบาดเจ็บ พร้อมขอกำลังเสริมจากเวที ผ่านฟ้าลีลาศ
กลุ่มคนเสื้อแดงระดม คนมากันมากขึ้น สถานการณ์เริ่มอยู่ในภาวะชุลมุน... ไม่มีใครฟังใคร ปะทะกันด้วยก้อนหิน ก้อนอิฐ ขณะที่ฝ่ายทหารใช้แก๊สน้ำตากว่า 30 ลูก พร้อมยิงปืนหัวกระสุนยาง
เกือบบ่ายสี่โมง เฮลิคอปเตอร์...น่าจะเป็นแบล็กฮอร์ก บินวนไปมาตามถนนราชดำเนินกลาง โปรยใบปลิวหมายจับแกนนำ ใบคำสั่งห้ามบุคคลเข้าชุมนุมหลายพันใบ
"การ โปรยใบปลิว อาจจะเรียกได้ว่า...ขาดประสบการณ์ เพราะปลิวลงมา ไม่ตรงเป้าหมาย ถูกแรงลมพัดไปตกในจุดที่ไม่มีการชุมนุม..."
ผ่านไปถึงห้าโมงเย็น บริเวณ...สี่แยกวิสุทธิกษัตริย์ เชิงสะพานพระราม 8 ทหารกว่า 1,500 นาย เผชิญหน้ากับม็อบแดงกว่า 2,000 คน
"ม็อบแดงต้องการให้ทหารออกถอยห่าง ไปโดยเร็ว มิฉะนั้นจะระดมคนมาเพิ่ม ปรากฏว่า...ตกลงกันไม่ได้ ทหารใช้แก๊สน้ำตาสลายม็อบ แต่ก็ถูกฝ่ายเสื้อแดงตอบโต้ด้วยไม้ ก้อนอิฐ จนได้รับบาดเจ็บกว่า 40 คน"
ช่วงเวลาเดียวกันนี้...ที่เชิงสะพานพระ ปิ่นเกล้า ตรงข้ามวัดดุสิดาราม
รถจี๊ปสงคราม มีเสาวิทยุสื่อสารสูงเด่นติดหลังรถ 2 เสา...ตัวรถมีอักษร สีขาว คำว่า "ร 9 พัน 2" ตรากงจักรสีแดง เลขทะเบียน 89210 ภายในรถมีนายทหารในชุดลายพรางเทาอ่อน 4 นาย...สวมหมวก มองไม่เห็นใบหน้า วิ่งนำขบวนมาจากสะพานพระราม 7
เท่าที่สังเกตเห็น หลังรถจี๊ปมีรถยีเอ็มซี 10 ล้อ...บรรทุกทหาร 20 นาย วิ่งตามมาติดๆ แล้วก็ตามติดมาด้วยรถทหาร 6 ล้อ บรรทุกเสบียงน้ำอาหาร...ตามด้วยรถดับเพลิงทหาร...รถ 6 ล้อ บรรทุกทหารในชุดพรางอีก 10 นาย สองคัน... ปิดท้ายขบวนรถจี๊ปสงคราม
รถ ทหารทั้ง 7 คัน...เลี้ยวซ้าย มุ่งตรงสู่เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ตรงจุดตรวจเชิงสะพาน วรณ บอกว่า บริเวณนี้เดิมเป็นจุดตรวจร่วมระหว่างตำรวจกับทหารมากว่า 2 อาทิตย์อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งจะตรวจเฉพาะเวลากลางคืนเท่านั้น
"ทหารกว่า 40 นาย ลงจากรถมือเปล่า...ท่าทีที่แสดง น่าจะทำเพื่อจะปิดช่องทางเชิงสะพานพระปิ่นเกล้า ที่เป็นทางข้ามไปยังฝั่งพระนคร...ตามที่ได้รับคำสั่ง
คาดว่า...นี่จะ เป็นแผนหนึ่ง เพื่อไม่ต้องการให้เหล่าม็อบเสื้อแดงย่านฝั่งธนบุรี ที่กลับบ้านไปพักผ่อนตั้งแต่ตอนเช้า เดินทางเข้ามาสมทบ...หลังรู้ว่ามีการสลายม็อบที่ผ่านฟ้าฯ"
แต่ แล้ว...ก็ผิดแผน เมื่อมีกลุ่มผู้ชุมนุมกว่า 1,000 คน ที่กลับมาจากการช่วยเหลือ เข้าปิดล้อมทหารทั้งหมด ช่วยกันปล่อยยางล้อรถทุกคัน...เปิดน้ำดับเพลิงทิ้ง ให้ทหารออกนอกตัวรถ
จุด นี้เอง...ที่มีการตรวจค้นพบอาวุธปืนสงครามกว่า 30 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจริง-เทียม และแก๊สน้ำตาอีกกว่า 20 ลูก...กระทั่งกลุ่มผู้ชุมนุมยึดปืน นำตัวทหารไปแถลงข่าวที่สะพานผ่านฟ้าฯ
"หก โมงเกือบครึ่ง...กลุ่มทหารกว่า 2,000 นาย พร้อมรถถัง 4 คัน ไปประจำการในวัดบวรฯ เข้าเคลียร์พื้นที่ด้านถนนดินสอกับถนนข้าวสาร เชื่อมโยงไปถึงสี่แยกคอกวัว"
ณ ตอนนี้...ทหารมีโล่ กระบอง ปืนสงครามใช้หัวกระสุนยาง และกระสุนจริงเพื่อยิงขึ้นฟ้า
วรณ บอกว่า ประเมินด้วยสายตา ผมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทหารจะยึดแยกคอกวัว เพราะม็อบเสื้อแดงนับหมื่นคนมีท่าทีที่พร้อมต่อสู้ทุกรูปแบบ
อาจจะพอ เห็นเป็นข่าวไปบ้าง ที่ว่า...ทหารยิงแก๊สน้ำตาเข้าใส่ฝูงชนนับร้อยๆลูก ควันพิษกระจายไปทั่วทิศ แต่กระแสลมไม่เป็นใจ...พัดหวนกลับไปหาแนวทหารเสียเอง
"ทหารหลายร้อย คน นอกจากจะโดนปาใส่ด้วยก้อนอิฐแล้ว ยังโดนแก๊สน้ำตาเข้าไปอีก...เสียกระบวน ถึงขั้นต้องล่าถอย"
ผ่านไปไม่นานนัก ทหารก็บุกเข้ามาอีกครั้ง เพื่อจะเอาพื้นที่คืนให้จงได้ แต่ก็ถูกฝ่ายม็อบต่อต้านด้วยอาวุธที่จะพอหาได้ และหนึ่งในนั้นคือ ถังแก๊สที่จุดไฟเผา โยนใส่ทหารจนเกิดระเบิดเสียงดังสนั่น...
กระทั่ง ในท้ายที่สุด เหตุการณ์ก็ลุกลามบานปลาย ร้อนระอุเป็นมิคสัญญี มีผู้บาดเจ็บกว่า 500 ชีวิต มีผู้เสียชีวิต 12 คน...
สถานการณ์แยก คอกวัวในค่ำคืนนี้ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้น ห้องราชดำเนิน เว็บพันทิป...สังคมออนไลน์ที่มีผู้คนสนใจแสดงทัศนะเอาไว้มากมาย ชนิดวินาทีต่อวินาที
หลากหลายมุมมองต่างก็คิดเห็นต่างกันออก ไป...ถกเถียงกันไปมา เสียงหนึ่งโพสต์ถึง "วิธีการสลายฝูงชน ตามหลักสากล" พร้อมแนบลิงค์ http://www.humanrightsinitiative.org/programs/aj/police/papers/ standard_procedure_for_crowd_control
เขา บอกว่า...การสลายฝูงชนมีข้อห้ามสำคัญ คือ ห้ามยิงขู่ขึ้นฟ้า หรือยิงข้ามหัวฝูงชน และห้ามยิงจนกว่าจะมีคำสั่งจากหัวหน้า
อีก ทั้ง...การใช้กระบอง คือ การเอากระบองวิ่งทุบไปในส่วนอ่อนของร่างกาย ไม่ใช่ทุบหัว
ประเด็นร้อนที่พูดถึงกันมากคือการใช้กระสุนจริง หลายกระทู้โพสต์ ภาพถ่ายให้เห็นรอยกระสุนที่ปรากฏอยู่บนป้ายแยกคอกวัว...ถ้าดูวิถีกระสุน ก็น่าจะบอกได้ว่ามาจากทางไหน นับรวมไปถึงรูปรูกระสุนอีกหลายจุดตามประตูเหล็ก รถยนต์ ห้างร้าน ฯลฯ
ภาพ เหล่านี้สะท้อนร่องรอยความเสียหาย ทำให้อดพูดถึงมาตรการสลายการชุมนุมจากหนักเป็นเบาไปไม่ได้เลย...
ข้อ สงสัยสำคัญ การยิงกระสุนจริงขึ้นฟ้าเพื่อเป็นการข่มขู่ ปรามผู้ชุมนุมไม่ให้ตอบโต้ด้วยความรุนแรงนั้น...ได้ผลมากน้อยแค่ไหน หรือเป็นการสร้างแรงต้าน จุดชนวนให้เกิดความรุนแรงอื่นๆตามมา
ประเด็น สุดท้าย...ทำไม? ต้องสลายการชุมนุมตอนกลางคืน รู้อยู่แล้วว่า ...ทัศนวิสัยไม่ชัดเจน อาจทำให้พลาดเป้าหมายได้ง่ายๆ และมีความสุ่มเสี่ยงอยู่หลายประการ โดยเฉพาะการสร้างสถานการณ์จากมือที่สาม
คำ ถามสุดท้ายมีว่า เมื่อรอยร้าวจากความรุนแรงเกิดขึ้นแล้ว...แล้วเมื่อไหร่จะประสานกันเป็น เนื้อเดียวได้ดังเดิม?
http://www.thairath.co.th/column/pol/page1scoop/76385
****************
"กำหนด แผนสลายการชุมนุม หรือศัพท์ใหม่เรียกว่า "ปฏิบัติการขอพื้นที่คืน" เป็น 5 ขั้นตอน
1, ตัดสัญญาณพีทีวีของเสื้อแดง 2, ตั้งด่านสกัดกลุ่มเสื้อแดงจากต่างจังหวัดไม่ให้เข้ามาเสริมกำลัง 3, ใช้การกดดันโดยใช้กำลังทหารรุกคืบเข้าใส่เวทีชุมนุมจากทุกทิศทุกทาง 4, ใช้การยิงระเบิดแก๊สน้ำตา เพื่อสลายการชุมนุม 5, ใช้เหตุการณ์ชุลมุนบุกเข้าจับกุม แกนนำ
เมื่อถูกม็อบต่อต้าน ฝ่ายทหารก็ยิ่งลุย ใช้รถน้ำฉีดใส่ ใช้กระสุนยางระดมยิง ใช้ระเบิดแก๊สน้ำตา ระเบิดพริกไทย ใช้กระบองตีแบบไม่บันยะบันยัง
ถึงขนาใช้เฮลิคอปเตอร์ บรรทุกระเบิดแก๊สน้ำตาทิ้งใส่กลางที่ชุมนุม ซึ่งมีทั้งคนแก่คนเฒ่า ลูกเล็กเด็กแดง "
ชัดเจนว่าวันนี้แม้แต่ข่าวของนักข่าวเองก็โดน ปิดกั้น
ประเด็นถูกเปลี่ยนเป็นผู้การร้าย เป็นคนยิงประชาชนและทหาร
จะ เชื่อได้อย่างไรว่าทหารใช้กระสูนจริงขึ้นฟ้าจริง
จากคุณ |
:
หล่ออย่างแรง
|
เขียนเมื่อ |
:
วันเถลิงศก 53 20:31:47
A:183.89.230.251 X:
|
|
|
|
 |