Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ยุทธการ ดับดาวแดง...โห...มันส์จริงๆ  

http://talk.mthai.com/topic/105493
เรื่องมันฟ้อง
      โดย...กรงเล็บ
     
      ในภาวะที่ผู้คนยังคงโศกสลดกับเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน 2553 และกำลังหดหู่หัวใจกับความรู้สึกที่คิดว่า รัฐบาล กองทัพ และคุณงามความดีของสังคมไทยกำลังพ่ายแพ้ต่อโจรกบฏแดง จนเกือบจะอยู่ในสภาพที่สิ้นหวัง เพราะคิดว่ารัฐบาลจัดการอะไรไม่ได้
     
      แต่ยังมีอีกแนวรบหนึ่งที่คนไทยหลงลืมไป นั่นก็คือ ยุทธการล่าดาว ที่รัฐบาลเดินหน้าเป็นด่านแรกหลังจากประกาศ พรก.ฉุกเฉิน ด้วยการทำให้ พีทีวี ซึ่งเป็นหัวใจในการสื่อสารของเสื้อแดงจอดับ
     
      เส้นทางล่าดาวของหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบหมายภารกิจสำคัญนั้น ว่ากันว่าวิบากยิ่ง เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปิดทีวีดาวเทียม เนื่องจากกลไกในการส่งสัญญาณออกอากาศนั้นมีความสลับซับซ้อนทางเทคนิคไม่น้อย
     
      ในระหว่างปฏิบัติการฝ่ายแดงก็มีหน่วยต้านที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านอิเล็กทรอนิคส์ตามแก้ไข และสุดท้ายก็ใช้วิธีอันธพาลบังคับขู่เข็ญให้ไทยคมต้องปล่อยสัญญาณออกอากาศ หลังเหตุการณ์ 10 เมษายน ซึ่งกลไกรัฐโดยเฉพาะกองทัพ และตำรวจ อยู่ในสภาพเป็นอัมพาต เคลื่อนไหวไม่ได้
     
      จน ทักษิณ ย่ามใจประกาศผ่านเอสเอ็มเอสทักษิณไลฟ์ว่า พีทีวีจอสว่างรับชมได้ทุกคลื่นสัญญาณตามเดิม โดยคิดว่า เสื้อแดงชนะในทุกแนวรบ กุมสภาพปั๊มหัวใจให้ พีทีวี กลับมาออกอากาศได้อีกครั้ง
     
      ท่ามกลางความท้อแท้ของสังคมไทย หน่วยปฏิบัติการพิเศษชุดดังกล่าวยังคงทำสงครามดับจอพีทีวีอย่างต่อเนื่อง และประสบความสำเร็จอีกครั้งเมื่อกลางดึกของคืนวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านนี้เอง
     
      ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าพ่อดาวเทียม นช. ทักษิณ ผู้ที่มีประสบการณ์ มีทีมงานที่เชี่ยวชาญ ในการต่อสู้สงครามอิเลคทรอนิคส์ จะแพ้รัฐบาลอานาล็อคอย่างราบคาบ
     
      ในสมัยที่นช. ทักษิณอยู่ในอำนาจ ก็มีความพยายามที่จะปิด เอเอสทีวี ซึ่งออกอากาศทาง เคยูแบนด์ แต่ก็ทำไม่สำเร็จ จนสุดท้ายรัฐบาล นช.ทักษิณก็เป็นฝ่ายเจ๊งไปเอง ก่อนที่จะพลิกความพ่ายแพ้ให้เป็นโอกาสด้วยการนำบทเรียนนี้ มาทำทีวีแดง หรือรู้จักกันในนาม พีเพิลแชแนล
     
      เริ่มต้นจากการออกอากาศเฉพาะในย่านซีแบนด์ เชื่อมต่อสัญญานอัพลิงค์ในประเทศไทยที่ลาดหลุมแก้ว ผ่านดาวเทียมไทยคม และเอา foot print ของซีแบนด์ที่รับได้ในเกาะฮ่องกง มา turn around ขึ้นเชื่อมต่อสัญญาณอัพลิงค์ ขึ้นสู่ดาวเทียม nss6 ทำให้คนที่มีจานเล็กที่ดูเอเอสทีวีได้สามารถรับทีวีแดงได้เหมือนกัน
     
      แต่จุดอ่อนตรงนี้คือ ถ้าปิดสัญญาณซีแบนด์ได้ ก็จะทำให้สัญญาณ เคยูแบนด์ล้มไปด้วย ฉะนั้นเมื่อ รัฐบาลได้ใช้กำลังเข้าไปยึดไทยคม โดยอาศัย พ.ร.ก. ฉุกเฉินในช่วงเมษายนปีที่แล้ว และทำการตัดสัญญาณอัพลิงค์ ที่ลาดหลุมแก้ว ปิดสัญญาณซีแบนด์ ทำให้ระบบเคยูแบนด์ดับไปด้วย
     
      มาคราวนี้ นช. ทักษิณจึงปรับกลยุทธใหม่ นอกจากจะพัฒนาระบบทีวีให้ปิดยากขึ้นแล้ว ยังต่อยอดทำโรงเรียน นปช. ใช้พีทีวี ล้างสมองประชาชนด้วยชุดความคิดที่เป็นอันตรายต่อสถาบันหลักของชาติ
     
      โดยมีการออกแบบระบบการออกอากาศมาอย่างดี มีความรอบคอบ มีระบบสำรอง ด้วยการใช้สองระบบแยกออกจากกันอย่างสิ้นเชิง คือซีแบนด์อัพลิงค์ขึ้นไทยคม 5 ส่วน เคยูแบนด์ผ่านทางอินเตอร์เนต ไปอัพลิงค์สัญญานที่เกาะฮ่องกง ขึ้นสู่ดาวเทียว nss6 ดังนั้นเมื่อปิดซีแบนด์ ก็ยังคงมีเคยูแบนด์เหลืออยู่
     
      นอกจากนี้ นช.ทักษิณยังป้องกันการตัดสัญญาณอัพลิงค์ในเมืองไทย โดยไปจ้างบริษัท rrsat ที่อิสราเอล อัพลิงค์สัญญานขึ้นไทยคม 5 ที่อิสราเอล ทำให้รัฐไม่สามารถที่จะตัดการอัพลิงค์ได้ เนื่องจากไม่ได้อัพลิงค์ในประเทศไทย และถ้ารัฐจะปิดช่องสัญญาณ transponder ก็จะกระทบต่อประเทศอื่นๆ ที่ใช้ช่องสัญญาณเดียวกัน
     
      ส่วนระบบเคยูแบนด์นั้น ก็เป็นการเชื่อมต่อสัญญาณผ่านทางอินเตอร์เนต ลักษณะเดียวกับ เอเอสทีวี ทำให้แทบจะไม่มีโอกาสปิดได้เลย หรือถ้าจะยิงสัญญาณกวนก็จะกระทบกับเอเอสทีวี
     
      พูดง่ายๆคือเอาเอเอสทีวีมาเป็นเกราะกำบัง
     
      นช.ทักษิณจึงเชื่อว่าจะไม่มีใครสามารถปิดทีวีแดงได้ในรอบนี้ เมื่อ รัฐบาลประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน ผู้คนในสังคมก็แปลกใจมาก ว่าทำไม นปช จึงไปล้อมที่ไทยคม จังหวัดนนทบุรี แต่ไม่ไปล้อมที่ลาดหลุมแก้ว กลับปล่อยให้รัฐบาลเข้าไปยึดลาดหลุมแก้วได้ง่ายๆ
     
      คำตอบก็คือ ถ้ารัฐจะปิดช่องสัญญาณ transponder ต้องไปใช้ ระบบ telemitry ที่ไทยคม จังหวัดนนทบุรี และก็คงชอบใจเมื่อเห็นรัฐบาลหลงกลไปที่ลาดหลุมแก้ว
     
      โดยลืมคิดไปว่าทีมปฏิบัติการล่าดาวของ อภิสิทธิ์ ก็ไม่ได้มีหัวไว้แค่คั่นหู แต่มีสมองคิดตลบหลัง นช. ทักษิณ อย่างแยบยล เรียกว่าทำเอาเซียนดาวเทียมหน้าแหกไปตามๆกัน ด้วยการส่งสัญญาณอัพลิงค์ที่ลาดหลุมแก้วด้วยคลื่นความถี่เดียวกันเข้าไปกวน จนสัญญาณล่ม
     
      แต่ที่ทำเอา นช. ทักษิณลมออกหูก็คือหลังจากที่ปิดซีแบนด์ไปแล้ว ปฏิบัติการปิดเคยูแบนด์ก็เดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดยไม่่ส่งผลกระทบต่อลูกค้ารายอื่นแต่อย่างใด แหล่งข่าวในวงการดาวเทียมระบุว่า การที่รัฐบาลประสบความสำเร็จในการปิดเคยูแบนด์นั้น เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก เพราะต้องปิดการเชื่อมต่ออินเตอร์เนตไปฮ่องกงของทีวีแดง
     
      ซึ่งหมายความว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้ในทีวีแดงบอกเบอร์ไอพี หรือรัฐบาลมีแฮกเกอร์ระดับโลกทำงานให้ เพราะสามารถแฮกข้อมูลนี้มาได้ ทำให้ทั้งสองระบบดับลงอย่างสิ้นเชิง
     
      อย่างไรก็ตาม นช. ทักษิณก็ยังไม่ยอมแพ้เรื่องนี้ง่ายๆ ดำเนินการอัพลิงคื์ซีแบนด์ผ่านดาวเทียมดวงใหม่ที่ชื่อ telstar 10 แต่รัฐบาลก็ตอบโต้กลับอย่างรวดเร็วโดยการส่งสัญญาณดาวเทียมด้วยคลื่นความถี่ เดียวกันกวนสัญญาณจนทำให้ซีแบนด์ดับไปอีกหน นช.ทักษิณก็เลยต้องส่งนปชไปยึดลาดหลุมแก้วคืน เพื่อปิดการกวนสัญญาณของรัฐบาลที่ใช้ลาดหลุมแก้วเป็นที่ตั้ง
     
      แต่รัฐบาลก็วางแผนมาอย่างดี เมื่อใช้ลาดหลุมแก้วเป็นฐานที่มั่นหลักไม่ได้ ก็แปรสภาพนักรบล่าดาวมาเป็นจรยุทธล่าดาวแทน ประกอบดาวเทียมในสถานที่ไม่เปิดเผยเพื่อส่งสัญญาณกวนคลื่นความถี่ทำให้ฝ่าย แดงหาจุดกวนสัญญาณไม่เจอ
     
      เมื่อเพลี่ยงพล้ำอีกครั้ง นช.ทักษิณก็หันไปซบอก ฮุน เซนใช้การเชื่อมสัญญาณจากเขมร โดยคราวนี้ขึ้น สามความถี่ ชีแบนด์ สองความถี่ และ เคยูแบนด์หนึ่งความถี่ แต่ปรากฎว่ารัฐบาลก็ยังสามารถสกัดทั้งสามความถี่ได้อีก นช.ทักษิณเลยต้องส่งอริสมันต์ พงษ์เรื่องรองไปหิ้วตัวกรรมการผู้จัดการใหญ่ของแคทเทเลคอม เพราะเข้าใจว่ารัฐบาลใช้แคทเทเลคอมเป็นตัวก่อกวนสัญญาณ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากจอยังดับเหมือนเดิม นช. ทักษิณเลยดิ้นรนกลับไปใช้ เคยูแบนด์ผ่าน nss6 ใหม่ โดยไปใช้เน็ตความเร็วสูงในต่างประเทศแทนที่จะใช้ในเมืองไทย และคงมั่นใจว่าจะชนะสงครามอิเล็กทรอนิคส์ครั้งนี้
     
      แต่ปรากฎว่ารัฐบาลก็ยังสามารถไปตัดสัญญาณได้แบบเหนือความคาดหมาย โดยไปตัดสัญญาณจากปลายทาง ทำให้ทีวีแดงไม่สามารถออกอากาศได้ตั้งแต่กลางดึกของคืนวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา
     
      ปฏิบัติการของหน่วยล่าดาวที่ อภิสิทธิ์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่ง คงเป็นคำตอบให้กับประชาชนได้ว่า เขาไม่คิดถอดใจและยังพยายามปฏิบัติภารกิจในฐานะผู้นำประเทศเพื่อนำบ้านเมือง สู่ความสงบโดยเร็ว แม้กลไกรัฐจะไม่เป็นใจ และมีกรอบข้อจำกัดล้อมรอบตัวเขามากมาย
     
      เขาก็ยังเดินหน้าต่อในภารกิจที่เขาทำได้และไม่เสี่ยงต่อการเกิดความ สูญเสีย แต่เป็นหัวใจสำคัญในการเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดง ซึ่งหวังใช้พีทีวีที่มีผู้ชมหลายล้านคนในปัจจุบัน มาเป็นเครื่องมือในการปลุกระดม เมื่อการบิดเบือนข้อเท็จจริงมิอาจทำได้ในวงกว้าง ความพยายามที่จะแยกประชาชนออกจากผู้ก่อการร้ายก็จะง่ายขึ้น
     
      ภารกิจต่อไปคือ ยกระดับการล่าดาวมาเป็นยึดดาว ต้องซื้อดาวเทียมไทยคมกลับคืนมา ซึ่งจากที่คำนวณก็น่าจะใช้งบประมาณราว 5 พันล้านบาท ซึ่งถือว่าถูกมากแลกกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงของประเทศ และควรนำเงิน 4.6 หมื่นล้านบาทที่ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ไปซื้อดาวเทียไทยคมสมบัติชาติที่ถูก ปล้นไปกลับคืนมา
     
      จากนั้นก็ต้องทำให้สังคมส่วนใหญ่เห็นชัดเจนว่า หากไม่ต้องการให้เกิดความสูญเสียก็ยากที่รัฐจะเข้าปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ บริเวณราชประสงค์ได้ เพราะมีบทเรียนจาก 10 เมษายนมาแล้ว แต่ถ้าเห็นว่ารัฐต้องจัดการกับอันธพาลโจรกบฏก็ต้องรับให้ได้ว่าอาจมีความสูญ เสียเกิดขึ้น
     
      เนื่องจากทหารที่จะกลับเข้าไปคราวนี้ต้องติดอาวุธครบมือ ซึ่งเชื่อว่า อภิสิทธิ์ คงคลายปมการเมืองก่อน เพื่อให้เงื่อนไขของผู้ชุมนุมลดลง ด้วยการประกาศยุบสภาอาจจะภายในเวลา 6 เดือน จากนั้นหากกบฏแดงยังไม่ตอบสนองดึงดันทำตัวเป็นโจรนอกกฎหมาย ก็ถึงเวลาที่ต้องจัดการตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด

...รัฐบาล กับ โจรก่อการร้าย ใครจะแน่กว่ากัน...

 
 

จากคุณ : tvnews
เขียนเมื่อ : 16 เม.ย. 53 19:48:10 A:58.9.124.38 X:




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com