ความคิดเห็นที่ 1 สบายไงไม่ต้องทำงานและก็ไม่มีจะแหลกทุกวันนี้ไง จากคุณ : paoloitem เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:43:19 A:10.0.1.3 X:114.128.119.182

ความคิดเห็นที่ 2 ได้เป็นหนี้ครับ จากคุณ : ลำไผ่ MKII เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:46:33 A:115.67.183.77 X:

ความคิดเห็นที่ 3 ชาวบ้านเค้ามีสลิปเงินเดือนไปทำเรื่องกู้เงินรึเปล่า ? ชาวบ้านเค้ามีเครดิตพอจะยืมเงินกู้จากสถาบันการเงินที่มั่นคงมั้ย ? ... คนเราเกิดมาต้นทุนไม่เท่ากัน ชาวนา ชาวไร้ ใช้ชีวิตในชนบท มีต้นทุนติดตัวตอนเกิดมาต่ำเหลือเกิน จน แต่ไม่ได้ขี้เกียจ เมื่อจะขอยืมทุนเพิ่มกลับไม่มีกำลังมากพอ เพราะไม่มีใครเชื่อว่าจะใช้เงินคืนให้ นี่เป็นเรื่องของระบบ เมื่อมีการพิจารณาในเรื่องนี้ และออกนโยบายเพื่อช่วยเหลือคนกลุ่มนี้ของประเทศ มันก็เป็นเหตุผลง่ายๆ อีก 1 ข้อ ที่ทำให้พวกเค้า "เลือก" ในสิ่งที่เค้าต้องการ จากคุณ : D_AkIrA เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:47:15 A:10.0.2.182 X:58.8.184.177

ความคิดเห็นที่ 4 อภิสิทธิ์ ก็เพิ่มให้มากกว่า 1 ล้านแล้วนิครับ ไม่พอใจเหรอ นักเรียน ก็ช่วยค่าชุดคนล่ะ 360 บาท ช่วยค่าหนังสือ 700 บาท ถามว่า เงินภาษีที่พวกเราจ่ายไปน่ะ กระจายคืนสู่พวกเรามากหรือน้อยกว่ายุคทักษิน บางคนเสียภาษีแต่ละปีไม่กี่บาท แต่ได้คืนขนาดนี้ คิดดีๆ นะ และบางคนก็เขียนกฏหมายให้ตัวเองขายหุ้นแบบไม่ต้องเสียภาษีด้วยก็มี หน้าด้าน แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 18:48:22 จากคุณ : leetaesok เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:47:22 A:112.142.115.156 X:

ความคิดเห็นที่ 5 ไทยเข้มแข็งบ้านผม เค้าเอามาเปลี่ยนป้ายบอกทาง สีเขียวๆ ใหญ่ๆ อ่ะครับ ซึ่งป้ายที่ผมเห็นๆ มันก็ยังดูดีดุชัดอยุ้่เลย กับลอกเอาผิวถนนคอนกรีตที่ดีออก แล้วเอายางมะตอยมาราด แถมตอนนี้ยังมีบางช่วงที่ยังไม่ราดยางมะตอย จะเป็นริ้วๆ เหมือนเอาคราดมากราดไว้ เวลาเปียกๆ จะมีมอเตอร์ไซคืมาคว่ำประจำ เพราะมันลื่นมากๆ เนี่ยล่ะครับวิธีใช้งบไทยเข้มแข้งของแถวบ้านผม พระราม 2 อ้าว! ไม่เกี่ยวกับกองทุนหมุ่บ้านนี่เนอะ เขาให้เอาเงินไปซื้อมอเตอร์ไซค์กะรถกระบะครับ คนที่ผมรุ้จักเขาบอกมาว่างั้น จากคุณ : ศิลปินเปิดหมวก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:48:49 A:118.174.106.216 X:

ความคิดเห็นที่ 6 กองทุนหมู่บ้าน เป็นนโยบายที่ประสบความสำเร็จมากนะของอดีตนายกทักษิณ เพราะ ทำให้หมู่บ้าน จากที่ไม่เคยมีเงินก้อนโตเลย กลายเป็นว่า มีเงินหมุนเวียนภายในหมู่บ้าน ทำให้เศรษฐกิจชุมชน มันเติบโต ทุกวันนี้ รัฐบาลอภิสิทธิ์ ก็ดำเนินนโยบายนี้ของรัฐบาลทักษิณต่อ เพียงแต่เปลี่ยนชื่อโครงการเป็นชุมชนพอเพียง แต่ทำไม่เป็น ทำได้ไม่ดีเท่าสมัยรัฐบาลทักษิณ กลายเป็นว่า โครงการชุมชนพอเพียง เป็นโครงการที่ทุจริต ฉาวโฉ่มากที่สุด ของรัฐบาลอภิสิทธิ์ จากคุณ : ขาจร...ขอแจม เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:48:59 A:58.8.168.189 X:

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นข้ออ้างในการซื้อเสียง โดยที่ตังแม้วไม่กระเด็นเเม้แต่บาทเดียว จากคุณ : หมอหุ้น เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:49:02 A:115.67.69.139 X:

ความคิดเห็นที่ 8 การเข้าถึง แหล่งทุนครับ ชาวบ้านไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนใด้ ก็ต้องกู้เงิน ดอกเบี๊ย ร้อยละ 5 ร้อยละ 10 แย่หน่อยก็ ร้อยละ 20 ครับ ถ้าขนาดนี้ ทำไปแทบตาย ก็ไม่พอใช้หนี้ครับ เป็นทาส ดอกเบี๊ยไม่ใด้พุดใด้เกิดครับ จากคุณ : ภูเขียว เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:49:13 A:119.31.121.90 X:

ความคิดเห็นที่ 9 กู้เงินจากกองทุนหมู่บ้าน 30,000 บาท  ไปทำไร่นาสวนผสม ตอนนี้จ่ายเงินต้นคืนกองทุนหมู่บ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว   และมีเงินฝากสัจจะสะสมไว้ในกองทุนให้สมาชิกคนอื่น ได้กู้ต่อ ไปดูได้เลยว่า มีหมู่บ้านใดบ้างที่เขาประสบความสำเร็จบ้าง  และ อย่าเพิ่งถามว่า แล้วที่ไม่ประสบความสำเร็จล่ะ (ขอให้ไปดูก่อน ตามลิงค์) http://www.villagefund.or.th/index.aspx?pageid=471&parent=433&directory=2227&pagename=content จากคุณ : name is rabbit เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:49:39 A:222.123.12.203 X:

ความคิดเห็นที่ 10 สู้แจกเฉยๆ 2000 ไม่ได้เน๊าะ ไม่ต้องใช้คืนรัฐบาลด้วย จากคุณ : วิดวะอิเลก เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:49:45 A:58.64.104.117 X:203.114.110.186

ความคิดเห็นที่ 11 คือ ขอบคุณผู้แสดงความเห็นทุกท่านครับ  ทั้งฝ่ายดี และ ไม่ดี แต่ขอถ้าใครมีหลักฐาน  หรือข่าว  หรือบทวิเคราะห์ หรือตัวเลขทางสติ เช่นหนี้เสียเท่าไหร่   หรือทำให้ประเทศเป็นหนี้ จากการกู้มาแจกจริง หรือเปล่า รบกวนแนบ ข้อมูลหน่อยครับ   ผมขี้เกียจตอบเพื่อนๆ แล้ว กะว่าจะเอาลิงค์นี้เลย ส่งเมลล์ไปให้ จากคุณ : JakkraSan เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:53:33 A:118.110.88.139 X:

ความคิดเห็นที่ 12 นั่นสิคะคุณข้างบน เป็นเพราะแจกฟรีๆสองพัน เป็นการซื้อเสียงเหมือนกันแบบที่ เงินมาร์คไม่กระเด็นออกจากเป๋า ถ้าจะให้ถูกต้องบอกว่าเงินเทือก จากคุณ : ladyalisia เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 18:53:59 A:58.11.80.137 X:

ความคิดเห็นที่ 13 กองทุนหมู่บ้านนะเหรอ มันเป็นการซื้อเสียง โดยใช้เงินของรัฐ เก่งจริงๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ควรจะสอนให้ทำกิน มากกว่าแจกเงินให้ไปทำ เพราะบางคนได้เงินไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เห็นไปซื้อมือถือใหม่มาอวดกันทั้งหมู่บ้าน จากคุณ : jannypantip เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:01:26 A:125.24.158.27 X:

ความคิดเห็นที่ 14 "แต่มีนโยบายนึง คือกองทุนหมู่บ้าน 1 ล้านบาท  คือที่ผมได้ยินจากคนที่เค้าไม่ชอบทักษิณ  คือนโยบายนี้ เหมือนการแจกเงินให้หมู่บ้านล่ะ หนึ่งล้าน  โดยไม่คำนึงถึงว่าประเทศชาติจะเป็นหนี้" เท่าที่ทราบ กองทุนหมู่บ้านไม่ได้กู้เงินต่างประเทศนะครับ ใช้เงินงบประมาณปกติ จากคุณ : amstaff เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:01:29 A:116.214.112.137 X:

ความคิดเห็นที่ 15 โคราชมันเอามาให้กู้ ครอบครัวละ 20000 บาท แทนที่มันจะเอามาหาวิธีพัฒนาสินค้าในชุมชน เพื่อสร้างรายได้อย่างถาวร แต่วิธีมันทำให้ประชาชนต่างจังหวัด เห็นเงินเต็มๆตา ย้ำว่า เต็มๆตา มันเลยดูค่อนข้างดีสำหรับเขา จากคุณ : Resonate เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:02:42 A:124.122.78.200 X:

ความคิดเห็นที่ 16 มีชาวบ้านหลายคนที่ได้นำเงินที่กู้จำนวน 20,000 -30,000 บาท ไปค้าขาย รวมกลุ่ม กันเปิดร้านค้าชุมชน โรงสีุชุมชน ส่วนที่บอกว่า ชาวบ้านนำไปซื้อมอเตอร์ไซด์ โทรศัพท์มือถือ ไม่เกิดประโยชน์ อยากจะบอกว่า พวกคุณคนกรุงเทพฯ จะไปไหน มาไหนก็สะดวก รถยนต์ รถสองแถว รถแท็กซี่ มีตั้งเยอะแยะ ต่างคนต่างจังหวัด รถมอเตอร์ไซค์ไว้สำหรับเดินทางมันก็สะดวก ประหยัด บางคนก็ไปนำไปขับรับจ้าง ซื้อสินค้ามาขาย หรือมือถือที่พวกชนชั้นกลางบอกว่า ไม่เกิดประโยชน์ ฟุ่มเฟือย ขอถามกลับกัน พวกคุณซื้อ Black Berry กันทำไม ทั้งที่โทรศัพท์มันก็มีไว้แค่โทร ไม่ฟุ่มเฟื่อยกว่าเหรอ โครงการทุกอย่างมันก็มีที่ประสบผลสำเร็จบ้าง ไม่ประสบผลสำเร็จบ้าง เป็นเรื่องปกติ แต่อย่างน้อย ชาวบ้านเขาก็ใช้หนี้ ไม่มีการไม่หนี ไม่มี ไม่จ่าย หรือให้รัฐอุ้มเหมือนคนกรุงหรอกนะ จากคุณ : วัง_เวียง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:04:16 A:202.28.62.245 X:

ความคิดเห็นที่ 17 1.ทำให้ชาวบ้านมีโอกาสเข้าถึงเงินทุน..ไม่ต้องไปพึ่งร้อยละ20 2.ทำให้ความมีสามารถพัฒนาอาชีพได้  เช่น นำเงินของกองทุนนี้ไปทำดังนี้[ตัวอย่างที่เจอบ่อยๆ]   2.1 ทำให้มีศักยภาพในการซื้อของในจำนวนเยอะๆจะได้ราคาถูกลง...และก็ได้กำไรเยอะ   2.2 ซื้อรถมอไซต์ เพื่อที่จะนำผลผลิตไปขายเอง...ก็ได้จะเงินเยอะขึ้น   2.3 ซื้อมือถือ ก็ได้จะได้ติดต่อธุรกิจกันสดวกขึ้น แถมยังได้โทรหาลูกหลานความสัมพันธ์ในครอบครัวก็ดีขึ้นอีก สรุปคือ ทำให้มีเงินทุนและก็จะทำให้มีโอกาสในการเพิ่มรายได้ครอบครัวเพื่อที่ยืินได้ด้วยตนเอง.... แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 19:11:37 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 19:09:59 จากคุณ : เฟืองเหนือ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:07:53 A:124.121.2.139 X:

ความคิดเห็นที่ 18 ได้เป็นหนี้  เอาเงินมาใช้โดยไม่เกิดประโยชน์ ไม่ต้องเขียนโครงการ ก็เอาเงินออกไปใช้ได้ แต่มีกำหนดระยะเวลา พอถึงเวลาจะถึงกำหนดใช้หนี้ ชาวบ้านก็ต้องไปหากู้เงินจากนายทุนนอกระบบ เอามาใช้หนี้กองทุน เพื่อจะได้กู้เงินออกไปอีก และมันก็วนเวียนอยู่อย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น มันก็คึอหาหนี้มาให้ชาวบ้านดีๆ นี่แหละ จากคุณ : นักเดินทางเท้าเปล่า เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:12:38 A:125.25.43.216 X:

ความคิดเห็นที่ 19 ความคิดเห็นที่ 18 มั่วมากๆ.... มันล้มเหลว 100%เลยหรือครับ โครงการนี้คนล้มเหลวกับสำเร็จมันต้องมี เพราะมันคือ การลงทุน.... แต่ขอให้หาตัวเลขเถอะครับ... ว่าส่วนใหญ่เค้าดีึขึ้นกว่าแต่ก่อนหรือไม่... และโครงการนี้ไม่ใช่โครงการที่รัฐจะมาหวังกำไร...มันคือโครงการช่วยประชาชน.. และถ้าประชาชนเข้มแข็งเงินก็จะกลับมาสู่รัฐเองนั่นล่ะ... ทุกวันนี้เป็นไง... กู้ร้อยละ20 เพราะไม่มีทางเลืิอก คนเค้าต้องมีครอบครัวต้องผิดชอบครับ คุณนี่เป็นคนไม่เข้าใจอะไรเลย... มองมุมลบมากๆ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 19:17:33 แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 19:16:08 จากคุณ : เฟืองเหนือ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:13:49 A:124.121.2.139 X:

ความคิดเห็นที่ 20 ใครที่คิดว่า เป็นการซื้อเสียง ก็บอกได้เลยว่าวิสัยทัศน์แคบมาก คือคิดได้ดี อยู๋แค่นี้ คงไม่เหมือนมาร์คละมั่ง ที่อยู่ๆก็แจกเงินคนละ สองพันบาท ทั้งๆที่ไม่ได้ทำมาหากินอะไรเลย  นั้นแหละเรียกว่า เอาเงินรัฐมาซื้อเสียง โครงการกองทุนหมู่บ้าน เราเห็นตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว เพราะพ่อเราเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านเอง เป็นข้าราชการที่เกษียรแล้ว และคนในชุมชนก็เป็นคนเลือกประธาน เลือกคณะกรรมการกันเอง โดยแต่ละคนที่ช่วยทำงาน อาจเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เกษียรแล้ว โดยการทำงาน ไม่เคยได้ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว แต่ทุกคนก็เต็มใจในการทำงาน เราเห็นการเติบโตและอุปสรรคของกองทุนหมู่บ้านตั้งแต่แรก แต่คนทำงานทุกคนก็ช่วยกันจนปัจจุบันนี้การบรืหารงาน ค่อนข้างเป็นรูปแบบและอยู่ตัวมากขึ้น เงินที่ได้มาเป้นกองทุน หมุนเวียนอยู่ในชุมชน คนเดือดร้อนก็สามารถมากู้เงินเป็นทุนในการทำมาค้าขายได้  จนในแต่ละปี สามารถเจียดเงินจำนวนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาให้กับคนลูกหลานในกองทุนปีละหลายพันบาท ส่วนหนี้เสียมีปัญหาเฉพาะในช่วงปีแรกๆๆ ที่คนอาจมีเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ ซึ่งในกองทุนหมู่บ่้านที่พ่อเป็นประธานอยู่ ตั้งแต่ตั้งกองทุนมา มีหนี้เสียไม่ถึงสิบรายเท่านั้น ส่วนหนี้เสียก็ใช้การทวงคืนแบบเพื่อนบ้าน คือเดือนนึงพอมีคืนได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น จากเป้นหนี้ ก็ใช้เงินต้นจนหมด  เพราะก็จะตามถึงที่บ้านได้มีร้อยก็ให้ร่้อย ทุกๆวันนี้ การบริหารงานกองทุน แทบไม่มีผู้กู้ที่เป้นหนี้เสีย เพราะ ว่าแต่ละคนพอได้เงินไปหมุน ก็หาเงินไปคืน พอไม่พอก็กู้ใหม่ ซึ้งก็คือผู้กู้รายเดิมๆ ที่ไม่มีประวัติ เงินเพียงไม่กี่บาทหรอกนะค่ะ แต่สามารถทำให้ คนบางคนมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ มีทุนก้อนเล็กๆใน การทำงาน หรือ ทุนที่จะใช้หมุนเวียนเมื่อเกิดเงินช็อต เพราะทุกคนคงไม่ได้เอาเงินไปค้าขายกันทุกคน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปกู้เจ้าหนี้หน้าเลือด ปัญหาที่ไหนก็มี แต่ก็เมื่อมีปัญหาแล้ว จะมีโอกาสที่ได้ฟื้นตัวอีกไหม ถ้าไม่มีโครงการนี้เกิดขึ้น การให้เงินก้อนเล็กๆ ไปทำทุน ดีกว่าให้เงินเปล่าๆๆ ที่ทำให้คนติดนิสัย ไม่ทำมาหารับประทานก็ได้เงินมาใช้ ฟรีๆๆ รู้จักแต่แบบมือขอเงิน แต่ไม่รู้จักทำงาน จากคุณ : grinny2545 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:22:00 A:115.67.94.191 X:

ความคิดเห็นที่ 21 ใครที่คิดว่า เป็นการซื้อเสียง ก็บอกได้เลยว่าวิสัยทัศน์แคบมาก คือคิดได้ดี อยู๋แค่นี้ คงไม่เหมือนมาร์คละมั่ง ที่อยู่ๆก็แจกเงินคนละ สองพันบาท ทั้งๆที่ไม่ได้ทำมาหากินอะไรเลย  นั้นแหละเรียกว่า เอาเงินรัฐมาซื้อเสียง โครงการกองทุนหมู่บ้าน เราเห็นตั้งแต่เริ่มแรกแล้ว เพราะพ่อเราเป็นประธานกองทุนหมู่บ้านเอง เป็นข้าราชการที่เกษียรแล้ว และคนในชุมชนก็เป็นคนเลือกประธาน เลือกคณะกรรมการกันเอง โดยแต่ละคนที่ช่วยทำงาน อาจเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ที่เกษียรแล้ว โดยการทำงาน ไม่เคยได้ค่าแรงแม้แต่บาทเดียว แต่ทุกคนก็เต็มใจในการทำงาน เราเห็นการเติบโตและอุปสรรคของกองทุนหมู่บ้านตั้งแต่แรก แต่คนทำงานทุกคนก็ช่วยกันจนปัจจุบันนี้การบรืหารงาน ค่อนข้างเป็นรูปแบบและอยู่ตัวมากขึ้น เงินที่ได้มาเป้นกองทุน หมุนเวียนอยู่ในชุมชน คนเดือดร้อนก็สามารถมากู้เงินเป็นทุนในการทำมาค้าขายได้  จนในแต่ละปี สามารถเจียดเงินจำนวนหนึ่งเป็นทุนการศึกษาให้กับคนลูกหลานในกองทุนปีละหลายพันบาท ส่วนหนี้เสียมีปัญหาเฉพาะในช่วงปีแรกๆๆ ที่คนอาจมีเงินมาใช้หนี้ไม่ได้ ซึ่งในกองทุนหมู่บ่้านที่พ่อเป็นประธานอยู่ ตั้งแต่ตั้งกองทุนมา มีหนี้เสียไม่ถึงสิบรายเท่านั้น ส่วนหนี้เสียก็ใช้การทวงคืนแบบเพื่อนบ้าน คือเดือนนึงพอมีคืนได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น จากเป้นหนี้ ก็ใช้เงินต้นจนหมด  เพราะก็จะตามถึงที่บ้านได้มีร้อยก็ให้ร่้อย ทุกๆวันนี้ การบริหารงานกองทุน แทบไม่มีผู้กู้ที่เป้นหนี้เสีย เพราะ ว่าแต่ละคนพอได้เงินไปหมุน ก็หาเงินไปคืน พอไม่พอก็กู้ใหม่ ซึ้งก็คือผู้กู้รายเดิมๆ ที่ไม่มีประวัติ เงินเพียงไม่กี่บาทหรอกนะค่ะ แต่สามารถทำให้ คนบางคนมีโอกาสลืมตาอ้าปากได้ มีทุนก้อนเล็กๆใน การทำงาน หรือ ทุนที่จะใช้หมุนเวียนเมื่อเกิดเงินช็อต เพราะทุกคนคงไม่ได้เอาเงินไปค้าขายกันทุกคน แต่อย่างน้อยก็ไม่ต้องไปกู้เจ้าหนี้หน้าเลือด ปัญหาที่ไหนก็มี แต่ก็เมื่อมีปัญหาแล้ว จะมีโอกาสที่ได้ฟื้นตัวอีกไหม ถ้าไม่มีโครงการนี้เกิดขึ้น การให้เงินก้อนเล็กๆ ไปทำทุน ดีกว่าให้เงินเปล่าๆๆ ที่ทำให้คนติดนิสัย ไม่ทำมาหารับประทานก็ได้เงินมาใช้ ฟรีๆๆ รู้จักแต่แบบมือขอเงิน แต่ไม่รู้จักทำงาน จากคุณ : grinny2545 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:22:36 A:115.67.94.191 X:

ความคิดเห็นที่ 22 คนไม่เข้าใจมักจะถูกหลอกง่าย ไม่ศึกษาจึงนึกว่าเป็นนโยบายเงินที่ให้ฟรีๆ เงินต้องจ่ายคืน จากคุณ : guyver เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:25:23 A:68.50.174.11 X:

ความคิดเห็นที่ 23 ลดการเอารัดเอาเปรียบ จากกลุ่มทุนผูกขาดทีคอยเอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน จากคุณ : Ryu_jin_maru เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:28:39 A:125.25.5.222 X:

ความคิดเห็นที่ 24 คิดว่าไอเดียดี ก็ชอบอยู่นะ แต่ประสิทธิภาพการบริหารจัดการยังไม่ดีครับ ปล่อยให้เงินใช้ผิดทางไปวะเยอะ สุดท้ายกลายเป็นหนี้เน่า แบบไม่มี ไม่หนี ไม่จ่ายรัฐ แต่อันนี้ผมไม่ว่ารัฐบาลทักษิณนะกลับเห็นด้วยนะ จริงๆนโยบายทักษิณนี่ผมชอบเยอะมาก ครั้งแรกก็เลือกไทยรักไทยไป เป็นหนึ่งในสิบสี่ล้านเสียงที่มันอ้างหน่ะแหละ จิงๆก็แอบหลับตาข้างนึง รู้ทั้งรู้แหละว่าทักษิณทำไม่ถูกเรื่องซุกหุ้นแต่ก็คงคิดว่าเป็นนักธุรกิจมาก่อนคงไปซิกแซกอะไรมา พอช่วงหลังนี่มาเป็นรัฐบาลก็ยังโอเคอยู่นะ ตอนแป๊ะลิ้มมาแรกๆก็ยังเฉยๆอยู่ไม่รู้จะเชื่อดีหรือปล่าว แต่พอทักษิณขายหุ้นซิกแซกเข้าตลาดเนี่ยแหละ ออกไปฟังแป๊ะเลย รู้สึกว่าถูกเอาเปรียบ คนที่เป็นนายกแทนที่จะอุดช่องโหว่กฎหมาย เพราะเป็นหน้าที่เลยแหละ แต่กลับอาศัยช่องโหว่ของกฎหมายทำเสียเองเนี่ย รับไม่ได้อย่างแรง หลังจากนั้นเลยทำให้คิดว่าไอ้เนี่ยมีโอกาสโกงแน่ เพราะแค่ขนาดนี้ยังเลี่ยงเลย แล้วเรื่องอื่นแม่มไม่กินเละเข้าเป๋าตัวเองและพวกพ้องเลยหรอ แล้วก็ชัดเจนหลายอย่าง ผมกลั่นกรองหลายรอบแล้วครับ ไม่ได้เชื่อแป๊ะลิ้มหมดหรอก เราก็อยู่ในวงการหุ้นและธุรกิจมา รู้ดีครับว่าอะไรถูกผิด อะไรควรไม่ควร จากคุณ : miroslav เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:31:28 A:125.27.255.99 X:

ความคิดเห็นที่ 25 ความคิด เห็นที่ 13   [ถูกใจ]  [แจ้งลบ]   กองทุนหมู่บ้านนะเหรอ มันเป็นการซื้อเสียง โดยใช้เงินของรัฐ เก่งจริงๆ ไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ควรจะสอนให้ทำกิน มากกว่าแจกเงินให้ไปทำ เพราะบางคนได้เงินไปก็ไม่รู้จะทำอะไร เห็นไปซื้อมือถือใหม่มาอวดกันทั้งหมู่บ้าน จาก คุณ : jannypantip [Bloggang] เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:01:26 A:125.24.158.27 X: [แก้ไข] ^ ^ ^ เกรียนจัง ไม่รู้แล้วดูถูกชาวบ้าน กองทุนหมู่บ้าน นอกจากจะให้กู้กับชาวบ้านที่ไม่มีหลักประกัน ไม่มีเครดิสแล้ว มันมีกรรมการหมู่บ้าน เป็นผู้ดูแล ไม่ใช่แจกเงินโง่ๆแบบที่พวกเกรียนบางพวกเข้าใจ ต้องมีโครงการ ต้องบอกว่าจะทำอะไร กรรมการจะไปพิจารณา เป็นรูปแบบการกระจายการบริหารงบประมาณจากส่วนกลางวิธีหนึ่ง โครงร่างแบบเบื้องต้น ก็มาจาก ธนาคารชุมชน มีคนซื้อมือถือใหม่กันซักกี่คน เขากู้ไปซื้อ หรือ เขาเอาไปประกอบอาชีพจนลืมตาอ้าปากได้ เลยมีเงินรายได้พอซื้อ อ้อ................................................ เรื่องรถกระบะ เรื่องมอเตอร์ไซด์เหมือนกัน คนกรุงเทพที่เดินทางสดวก ไม่มีทางเข้าใจชาวชนบท ที่ต้องอาศัยสองแถววันละสี่รอบ สองรอบหรอก เด็กเดินไปรร. วันละสองชม. กลับสองชม.อีก(คนปรกติ เดินที่3-5กม.ต่อชม.) ไปกลับก็อ๊วกล่ะ ไหนจะพ่อแม่ ไปตลาด เอาผลผลิตไปขาย รอสองแถวเรอะ พวกใกล้เมือง เอาไปกินหมดล่ะ รถก็เป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง ไม่ใช่ว่าจะต้องคิดแบบพวกงี่เง่า ให้เขาเอาไปซื้อปุ๋ยซื้อยา ซื้อคราดซื้อจอบ แต่ให้เขาเดินแถกกระจาดเอาของไปขาย ตอนเช้าไปส่งลูก ตอนเย็น ไปรับ ไปกลับสี่ชม. เหลือยี่สิบนาที เวลาทำงานเพิ่มขึ้น ลูกมีเวลาช่วยงานมากขึ้น อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้า ห่างไกลยาเสพติด ความอบอุ่น พอเพียง ข้อดีมีตั้งเยอะ ไม่เคยเห็น ได้ผลดีกว่าทำป้ายงี่เง่า  ครอบครัวห่างไกลยา กีฬาต้านยาเยอะ มานั่งแถกโง่ๆ เอาพวกซื้อมอเตอร์ไซด์ซิ่งไม่กี่คันเป็นเกณท์ มานั่งชี้หน้าด่าว่านโยบายเขาไม่ดี แต่ข้อดีมีมากมายหลายครอบครัว หลายรายเอาไปใช้งานจริง มองไม่เห็น ต้องเจี๊ยที่ส่วนกลาง เอาปลากระป๋องไปแจก ก่อให้เกิดรายได้จากการเอาปลาเน่าไปทำปุ๋ย เอากระป๋องไปขายอย่างเดียว ถึงชอบชิมิ ไม่เคยมองเห็นสิ่งดีๆ ที่ได้รับ เพราะอยู่ในเมือง ที่การคมนาคมสดวก ไม่รู้จัก สิ่งที่มีค่าอย่างเวลาและครอบครัว จากคุณ : ดีไม่ห่างเหิน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:31:59 A:192.168.20.12 X:58.136.81.152

ความคิดเห็นที่ 26 ได้ประโยชน์ค่ะ เพราะคนรับเงินได้ถอยรถป้ายแดงมาฟรีๆ จากคุณ : ~~MaRs~~ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:32:16 A:117.47.163.152 X:

ความคิดเห็นที่ 27 แล้วนายทุนหน้าเลือดก็มาเป็นเสื้อเหลืองเพราะเสียผลประโยชน์ เอวัง จากคุณ : ความลับสวรรค์ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:32:37 A:192.168.0.103 X:124.120.0.147

ความคิดเห็นที่ 28 แถวบ้านผม สส.ไปแอบบอกชาวบ้าน ว่าทักษิณแจก กู้มาไม่จ่าย โดน ผจก.กองทุนไล่ฟ้อง แถวอื่น กู้มาค้าขาย ดีกว่าไปกู้พวก ร้อยละ 20 ได้เงินก็เอาไปจ่ายคืนกองทุน จนพอมีพอกิน จากคุณ : น้ำเค็ม เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:32:52 A:192.168.16.52 X:112.142.241.178

ความคิดเห็นที่ 29 คนจนได้กู้เงินดอกเบี้ยถูกที่สุดตั้งแต่เคยกู้มา มันจะไม่ดีตรงใหน อ้อไม่ดีสำหรับนายทุนในหมู่บ้านไง เสียลูกค้าไปหลายคน จากคุณ : arku เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:40:19 A:125.25.198.79 X:

ความคิดเห็นที่ 30 ผมอธิบายง่าย ๆนะครับ กองทุนหมู่บ้านเป็นเงินที่รัฐบาลให้หมู่บ้านไปจัดการกันเองโดยกรรมการหมู่บ้านจะให้ลูกบ้านกู้ยืมไปทำทุน แล้วผ่อนคืน สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ 1. เป็นการให้โอกาสสมาชิกในหมู่บ้านเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่าย โดยผู้ที่เป็นผู้พิจารณาให้กู้ยืมเป็นคนในหมู่บ้านกันเอง จึงรู้ว่าใครเอาเงินไปทำประโยชน์จริงหรือไม่ (ถ้ากู้จากธนาคารต้องมีหลักทรัพย์ กู้มาแล้วเอาไปทำอะไรก็ไม่มีใครรู้ แทนที่นำไปทำให้เกิดรายได้ กลายเป็นสร้างภาระหนี้) 2.เนื่องจากกองทุนหมู่บ้านมีจำนวนจำกัดดังนั้น เมื่อคนอื่นที่ต้องการกู้ยืมบ้างจะต้องรอเงินจากคนที่ยืมไปมาคืน ดังนั้นทุกคนในหมู่บ้านจะดูแลและติดตามทวงหนี้จากผู้ยืมกันเองโดยอัตโนมัติ 3.เนื่องจากเป็นการกู้ยืมโดยทั่วไป สมาชิกจะกู้ยืมเพื่อไปสร้างรายได้ (เช่นต้นทุนทางเกษตรกรรม) ทำให้เกิดการพัฒนาอาชีพในชุมชนซึ่งเป็นการสร้าความยั่งยืนในสังคม 4.การลงทุนทางเกษตรกรรมที่ใช้เงินลงทุนสูง (ปกติอยู่ในมือนายทุน) มีโอกาสที่จะเกิดได้ภายในหมู่บ้านเช่นสร้างโรงสีชุมชนเพื่อสีข้าวให้และเก็บเงินค่าสีข้าวคืนกองทุน ทำให้ชุมชนได้โรงสีข้าวในราคายุติธรรม นอกจากโรงสีแล้วยังมี รถไถ, รถเกี่ยว ระบบประปาหมู่บ้าน เป็นต้น 5.ยังมีอีกเยอะ ครับ ... ขออธิบายแค่นี้คงพอเห็นภาพนะครับ ส่วนที่ลอก ๆ มาแจกเงินไม่ประสพผลสำเร็จเพราะ 1.เป็นเรื่องการแจกเช่นเรียนฟรี ให้เงินพัฒนาหมู่บ้านหรืออื่น ๆ เหมือนเงินที่ได้มาฟรี ๆๆ ครับ ใครไม่ได้ก็บอกลำเอียง ใครไม่ต้องการก็ต้องแจก จึงไม่ได้สร้างคุณค่าโดยรวม 2.เป็นการคิดจากบนลงล่าง (แต่พยายามทำให้เหมือน จากชุมชนคิดขึ้นมาเอง) โดยให้ชุมชนเขียนโครงการขึ้นมาว่าจะทำอะไรแล้วจะพิจารณาให้เงิน (เหมือนระบบข้าราชการทั่วไป) ดังนั้นใครเขียน หรือเล่าโครงการไม่เป็นก็ไม่มีโอกาสได้ ดังนั้นจึงมีนายหน้ามาเป็นคนกลางอย่างที่เป็นข่าว 3.ยังมีอีกเยอะ ครับ ... แต่ขออธิบายแค่พอเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะครับไม่ได้ตั้งใจว่ากระทบ แต่เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหา ... ผมพิมพ์ไม่เก่งเลยอธิบายมากไม่ได้ แต่ยินดีอย่างมากที่เห็นคนไทยมองปัญหา ลึกลงไปที่เหตุผล มากกว่าอารมภ์เช่นคุณ ... ขอบคุณมากครับที่ตั้งกระทู้นี้ ... จากคุณ : นายวอน เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:41:27 A:115.87.80.65 X:

ความคิดเห็นที่ 31 เรื่องกองทุนหมู่บ้าน ขอประนามพวกที่ดุถูกคนจนด้วยการบอกว่ามันกู้เอาไปใช้แบบไร้ประโยชน์ แล้วพวกคุณรูดบัตรเครดิตนะ มันต่างกันหรือ บางคนก็รูดเพราะความจำเป็นจริงๆ บางคนรูดไปถอยกระเป๋า ต่างกันตรงไหน ต่างกันตรงที่พวกคุณเข้าถึงแหล่งทุนได้โดยไม่มีสิ่งกีดขวาง แล้วคนรากหญ้าละ จะทำกิจการเล็กๆก็ต้องลงทุนครับ :-)ตัวไหนบอกว่าไม่เกิดประโยชน์ให้มันลองขับรถไปตามต่างจังหวัด แถวๆนอกเมือง หมู่บ้านต่างๆ จะมีกิจการเล็กๆของชาวบ้านหลากหลายกิจการ ซึ่งบางส่วนก็เกิดขึ้นมาในรัฐบาลนี้จากกองทุนหมู่บ้าน(เดิม) ถ้าเห็นว่ามันไม่ดีอย่างที่เคยพูดไว้ตอนเป็นฝ่ายค้าน มันจะสนับสนุนต่อหรือ? หรือคิดแค่ว่าซื้อเสียง จากคุณ : KiKaBot เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:41:30 A:125.26.247.40 X:

ความคิดเห็นที่ 32 ห้าๆๆ ขำๆๆ คนได้เงินกู้ไปถอยรถป้ายแดงนี้นะ โครงการแต่ละโครงการ การกู้แต่ละครั้ง ไม่เกินสองหมื่้่นบาทหรอกค่ะ ถึงแม้ถ้าเค้าเอาไปออกป้ายแดงจริงๆ คงได้ซาเล้งกับมอเตอร์ไซ แบบดาว มาคันหนึ่ง แล้วถ้าเค้าถอยรถมอเตอร์ไซไหม่ เพื่อจะได้ทำงานเป็นวินมอเตอร์ไซ ทำไมเงินที่กู้นั้นจะไม่มีประโยชน์ค่ะ ในเมื่อ เค้าเอาไปทำให้เงินนั้นมีผลงอกเงย ถ้าคิดได้แค่นี้นะ ว่าเอาเงินกุ้ไปซื้อของใหม่ของใหม่แล้วไม่ทำหารับประทานอย่างอื่นล่ะก้อ ขอให้คุณเจริญๆๆลงนะค่ะ จากคุณ : grinny2545 เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:44:05 A:115.67.94.191 X:

ความคิดเห็นที่ 33 คนที่เค้าไม่เคยต้องกู้ ไม่เคยรู้หรอกค่ะ ความลำบากของการไม่มีเครดิตที่จะกู้ได้ นี่มันโหดร้ายต่อชีวิตขนาดไหนสำหรับคนจน แล้วคนจนก็รู้คุณค่าของเงินมากกว่าที่คุณคิดนะคะ เพราะกว่าจะหามาได้มันเลือดตาแทบกระเด็น เมื่อมีโอกาสมาหยิบยื่นให้ ใครจะไม่อยากลืมตาอ้าปากได้ ไม่ได้อยากจนไปตลอดหรอกค่ะ จากคุณ : หนูน้อยหมวกส้ม เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 19:56:14 A:58.8.63.239 X:

ความคิดเห็นที่ 34 "นโยบายกองทุนให้กู้ยืม หมู่บ้านละล้าน" เปรียบเทียบกับ... รัฐบาลสมัยก่อน ที่จัดงบประมาณเป็นเสมือนไอติมที่ดูดคนละที (จากส่วนกลางกว่าจะไปถึงท้องถิ่น ก็จะเหลือแค่แท่งไม้ไอติม) จากคุณ : nwinto เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:00:07 A:125.27.139.122 X:

ความคิดเห็นที่ 35 คนที่ไม่เห็นคุณค่าของโครงการนี้  คือพวกที่คิดแต่ในมุมของตนเองไม่เคยมองความเดือนร้อนของคนอื่น  มีบัตรเครดิตมีสลิปอยู่ในมือ  เดือดร้อนเมื่อไหร่รูดปื๊ด รูดปื๊ด   แต่คนจน เงินเดือนไม่  เครดิตไม่   ต้องพึ่งเงินกู้นอกระบบ  แล้วไม่มีปัญญาจ่ายดอกเบี้ย เค้ากู้มาก็ต้องคืน  ไม่ใช้ได้ฟรีๆๆๆ   โครงการทุกโครงการมีส่วนได้ส่วนเสียมีคนดีและไม่ดี  ถ้ามัวมองแต่ผลเสีย  โดยไม่วิเคราะห์ว่าผลดีกับผลเสีย อันไหนมากกว่ากัน  ประเทศจะเดินหน้าได้อย่างไร  ถ้ามัวแต่คิด้านเดียว จากคุณ : oranut_nannn เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:02:35 A:222.123.90.54 X:

ความคิดเห็นที่ 36 กองทุนหมูบ้านคือโครงการ หนึ่ง ของรัฐบาลคุณ ทักษิณ ที่มีต่อประโยชน์ ต่อชุมชนที่ แท้จริง ถ้าไม่ดีจริงๆๆ คุณอภิสิทธิ์  คงไม่เพิ่ม ทุนให้หรอกครับ ตอนนี้ทุกหมู่บ้าน ได้รับทุนเพิ่ม ทุกหมูบ้าน ตั้งแต่ 2แสน ถึง6แสน บาท ครับ แล้วแต่ จำนวน สมาชิก สำหรับหมู่บ้านผม ทุกปีถ้าถึงหน้าทำนา ต้องไปกู้เงิน นายทุนโดยเสียดอกเบี้ย เงินต้น 1 พันบาท ต้องใช้คืนเป็นข้าวเปลือก 3กระสอบ(ประมาณ300กิโล) ตั้งแต่มีเงินกองทุนหมู่บ้าน ทำให้ชาวบ้านมีชีวิต ดีขึ้น ถ้าอยากทราบรายละเอียดก็หลังไมค์ได้ครับ ผมก็เป็นกรรมการ กองทุนหมู่บ้าน สามารถให้รายละเอียดได้พอสมควรครับ จากคุณ : คนหนองกี่ เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:05:34 A:111.84.36.100 X:

ความคิดเห็นที่ 37 เท่าที่ผมทราบนะครับ เพราะพ่อผมเป็นคณะกรรมการกองทุนอยู่ 1. กองทุนหมู่บ้านใช้หลักการปล่อยกู้ คล้าย ๆ กับการกู้ยืมจาก ธกส. คือ ให้สมาชิกที่ต้องการจะขอกู้ หากลุ่มสมาชิก 3 - 5 คน และให้สมาชิกในกลุ่มค้ำประกันเงินกู้กันในกลุ่มสมาชิก เพื่อป้องกันการไม่ชำระหนี้คืน และเพื่อให้กลุ่มสมาชิกช่วยกันติดตามมวงถามหนี้คืนเมื่อถึงกำหนดชำระคืน หากคนใดคนหนึ่งในกลุ่มสมาชิกไม่ชำระเงินกู้คืน สมาชิกคนอื่น ๆ จะกู้ต่อไม่ได้ 2. วงเงินปล่อยกู้ ให้แต่ละคนนั้น จะมีการกำหนดวงเงินประมาณ 10,000 - 30,000 บาท โดยสมาชิกปีแรกจะให้กู้น้อย ๆ ก่อน และดูประวัติการชำระคืนในปีต่อ ๆ ไป 3. การพิจารณาวงเงินให้กู้ จะมีคณะกรรมการร่วมพิจารณา ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็น นายกอบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมา (ชาวบ้านเลือกมาเอง) โดยการพิจารณาวงเงิน จะดูจากวัตถุประสงค์ของการนำเงินกู้ไปใช้ ความสามารถของการจ่ายชำระคืน 4. อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ คณะกรรมการจะพิจารณากันเอง โดยปกติจะคิดประมาณ ร้อยละ 1 - 2 ต่อปี 5. ผู้กู้ส่วนใหญ่จะนำเงินไปลงทุนประกอบอาชีพภายในครัวเรือน เป็นอาชีพเสริมรายได้จากการทำนา ทำสวน ทำไร่ หรือบางคนทำอาชีพหลักเลย (สมัยนั้น สินค้า OTOP ดังมาก และสร้างรายได้ให้กับชุมชนได้ดี) 6. ในแต่ละปีเมื่อถึงกำหนดการชำระคืนเงินกู้ กลุ่มสมาชิกทุกคนจะแจ้งเตือนสมาชิกในกลุ่มเพื่อนำเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยมาชำระคืน กองทุน ฯ และทางกองทุนจะทำการสรุปยอดเงินคงเหลือของกองทุน ว่าหลังจากสมาชิกชำระเงินคืนทั้งหมดแล้ว มีเงินเหลือเท่าไหร่ แล้วจะพิจารณาจัดสรรปล่อยกู้ในรอบถัดไป ซึ่งส่วนใหญ่เงินกองทุนจะเพิ่มขึ้นจากดอกเบี้ยที่ได้รับมาในแต่ละปี กรณีสมาชิกคนใดไม่ชำระ จะพิจารณาไม่ปล่อยเงินกู้ให้กับสมาชิกในกลุ่มที่ค้ำประกันกันทั้งหมด และให้สมาชิกในกลุ่มเฉลี่ยกันชำระคืนเงินกู้พร้อมดอกเบี้ยแทนด้วย ทำให้เงินกองทุน ฯ ไม่เป็นหนี้สูญ 7. ในกาประชุมของคณะกรรมการกองทุน ฯ ในการพิจารณาปล่อยเงินกู้ครั้งต่อไป จะมีการพิจารณาถึงการนำเงินกู้ไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่น ขอกู้ไปเพื่อเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว แต่นำเงินไปซื้อรถมอเตอร์ไซค์ แล้วไม่เปิดร้านขายจริง ๆ ซึ่งผู้กู้เป็นคนในหมู่บ้านอยู่แล้ว ก็พอจะทราบกันเองอยู่แล้วว่า ผู้กู้นำเงินที่ขอกู้ไปใช้ทำอะไรบ้าง 8. ผู้ขอกู้ส่วนใหญ่คือชาวบ้านที่ไม่มีเครดิต ไม่มีเงินเดือนประจำ ไม่มีหลักทรัพย์ที่จะนำมาค้ำประกัน แต่อยากนำเงินไปลงทุนอื่น ๆ เพื่อสร้างอาชีพเสริมให้แก่ครอบครัว หากไปขอกู้จากธนาคารหมดสิทธิ์ แม้จะกับ SME ก็เถอะนะ... ที่กล่าวมาผมไม่รู้ว่าที่อื่นมีโครงการและนโยบายอย่างไร แต่ที่ผมและพ่อทำโครงการไว้ให้กับหมู่บ้านเป็นแบบนี้... ใครได้ประโยชน์ และเสียประโยชน์ จากโครงการนี้บ้าง..มีกันทุกโครงการ เงินภาษีของผู้เสียภาษีทุกคนหรือเปล่า..ใช่ครับ แต่เมื่อเป็นนโยบายของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ยากจนให้มีโอกาสสร้างตัวเองได้บ้าง เผื่อจะลืมตาอ้าปากกับเขาได้บ้าง เผื่อจะขยับขึ้นมาเป็นคนชั้นกลาง ชั้นสูงได้บ้าง... ผมว่าเงินภาษีที่นำมาตั้งเป็นกองทุนหมู่บ้าน ให้ชาวบ้านได้มีโอกาสทางสังคมบ้าง ก็คงไม่เสียหายไปเสียทีเดียว เพราะเงินภาษีของทุกคน รัฐก็นำไปสร้างสาธารณะประโยชน์ สร้างถนน สะพาน ขุดคูคลอง สร้างอาคาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนอยู่แล้ว จะเป็นการทำประชานิยมของรัฐบาลหรือเปล่า ผมว่ามองได้ทุกมุมมอง แล้วแต่จะมองจากมุมใหนของจิตใจเราเอง ส่วนตัวผมเอง ผมเห็นว่ากองทุนหมู่บ้าน สร้างประโยขน์ให้แก่ชาวบ้านที่ยากจนได้มากกว่าที่จะเป็นผลเสีย จากการนำเงินภาษีไปไล่แจกชาวบ้าน.. ข้อเสีย 1.จะเป็นการสร้างความเกียจคร้านให้กับชาวบ้านจริงหรือเปล่า? 2.จะเป็นการสร้างนิสัยที่ไม่ดีให้กับชาวบ้านจริงหรือเปล่า? 3.จะเป็นการสร้างหนี้ให้แก่ชาวบ้านจริงหรือเปล่า? 4.จะเป็นการสร้างนิสัยความฟุ่มเฟือยให้กับชาวบ้านจริงหรือเปล่า? 5. อื่น ๆ ต้องลงไปรับรู้ความเป็นจริงจากชาวบ้านที่ยากจนเอง แล้วลองเปรียบเทียบข้อดี ข้อเสียเอานะครับ จากคุณ : หม่าเด่น เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:22:48 A:124.120.150.225 X:

ความคิดเห็นที่ 38 พอกันอะครับ ทุกรัฐบาลที่ทำ โดยหลักการดีครับ เป็นการให้เงินกับหมู่บ้านทีี่มีศักยภาพในการทำงาน หรือสร้างรายได้เข้าหมู่บ้าน โดยใช้เงินรัฐบาลไปดำเนินการ แล้วคืนเงินกลับให้รัฐบาล แต่ทางปฏิบัติ เป็นการจ่ายเงินให้หัวคะแนน โดยไม่ผิดกฏหมาย หรือหัวหน้าหมู่บ้านเก็บเอาไปใช้ก่อน (อันนี้มีการยืนยันจากเพื่อนที่อยู่ ตจว ว่ามีการเอาไปซื้อโทรศํพท์มือถือหรือมอเตอร์ไซด์ ก็มี) อาจจะมีการให้กับ โครงการที่ดูดี ๆ บ้าง เพื่อให้มีรายงานกลับไปส่ง ที่เหลือบางหมู่บ้านก็มีการเอาไปปล่อยเงินกู้แทน ดังนั้นประชาชนจึงเห็น บางโครงการมีเงินเอามาให้ แบบนี้ดีไม่เสียดอกเบี้ย ไม่มีการทวงด้วย 555 ถ้าระบบมีการตรวจสอบที่ดี ผมว่า เป็นโครงการที่ดีครับ แต่ดันกลายเป็นโครงการสนับสนุนการหาเสียงไปซะงั้น เฮ้อ จากคุณ : ฺBlueWind (มากับสายลม) เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:46:40 A:124.121.36.164 X:

ความคิดเห็นที่ 39 ขอบคุณครับ สำหรับทุกคนที่ตอบ  คิดว่าตอนนี้ผมเข้าใจวัตถุประสงค์ ของโครงการระดับนึง   แล้วคิดว่ามีคนไม่น้อย ที่ไม่เข้าใจโครงการนี้   โดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ  นักศึกษาที่เรียนในกรุงเทพฯ  ลูกคนมีเงิน คือไม่เดือดร้อน ไม่ต้องก้องเกี่ยวกับเงินตรงนี้   ผมคิดว่าคนจำนวนนี้ มีมากเลยทีเดียว  แล้วอีก อย่างพวก Fw Mail ช่วงนี้ผมได้เมลล์เกรียนๆ เยอะมาก  แต่มันก็ไม่ใช่หน้าที่ผม ที่ผมจะต้องไปอธิบาย หรือแก้ตัวให้ใคร         เช่น รูปการ์ดชุดดำ จมูกโต  ถือปืน สองหรือหลายกระบอก                คลิป เสียงของคุณดารุณี เป็นต้น  ซึ่งผมฟังแล้ว  เห็นว่าเสียงไม่เหมือน คิดว่าตัดต่อ  เพราะคนหลังเสียง   แหบกว่าคนแรก (อันนี้ก็ไม่ค่อยแน่ใจ ว่าปลอมจริงป่าว แต่คิดว่า)      คือผมยังอายุไม่มาก เท่าไหร่ครับ  แล้วก็ไม่ได้รอบรู้ทุกเรื่อง  แต่มีหลายเรื่องที่ผม คิดว่าผมไม่รู้(กฏหมาย   การเงิน เป็นต้น)  ผมมักจะมาหาข้อมูล ในพันทิป       พักนี้ ผมโดน ถามเยอะมาก ประมาณว่า  ทักษิณ เลวนะ  เสื้อแดงใช้ความรุนแรงนะ  หมิ่น  โง่  เป็นต้น  ส่วนใหญ่ เป็นนักศึกษา เรียนมหาลัยดีๆ ทั้งนั้น  แล้วก็คนจบใหม่ๆ อายุประมาณผม คือ ต่ำกว่า 30 ปี         แล้วผมก็เหมือนจะโดนด่า ว่า “โง่” ทางอ้อม เป็นประจำ     แต่ผมก็เข้าใจว่า ยุคนี้ มันยุคของการสื่อสาร ใครมีสื่อ เช่นทีวี ได้เปรียบ  แล้วจากประสบการณ์ เวลา ผมโดนถามแล้วผมตอบ ไม่ได้  ผมจะแนะนำว่า  “ไปลองตั้งกระทู้  ในพันทิป สิ”   แต่ผมก็มักจะได้ยินคนเหล่านั้นพูดว่า  เค้าหาข้อมูลจาก youtube  ซึ่งมันก็เป็นสื่อแบบหนึ่ง   ซึ่งผมเห็นมันมีคลิปตัดต่อ  ที่สื่อความด้านเดียวเยอะ(ผมไม่ได้หาเองหรอก  พวกหวังดีทั้งหลาย อยากให้ผมฉลาดขึ้นเลย    ส่งลิงค์มาให้ผมดู) จากคุณ : JakkraSan เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:56:24 A:118.110.88.139 X:

ความคิดเห็นที่ 40 ทักษิณเป็นนายกไม่ใช่ว่าไม่มีเรื่องดีเลยนะครับ เพียงแต่ว่ามันต้องเอาเรื่องดีกับไม่ดีมาชั่งถ่วงกัน อันไหนหนักกว่ามันก็ตกใส่หัวชาติ เมื่อผลประโยชน์ไม่เข้าใครออกใคร เลยแตกแยกกันอย่างทุกวันนี้ จากคุณ : พันธุ์ทางหางเทา เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:56:35 A:10.0.3.210 X:124.120.227.225

ความคิดเห็นที่ 41 แล้วขอนอกเรื่องอีกนิด   คนกลุ่มนี้ มักคาดหวังความสมบูรณ์แบบ  เช่น เหมือนข้อดีมีเยอะ  ข้อเสีย มีนิดเดียว  ก็ไม่ยอมมองข้อดี  เช่นหวยบนดิน  (ผมโกรธมาร์ค เรื่องนี้มากที่สุด    เพราะผมถือว่ารัฐบาล(ไม่ว่าพรรคไหน)  มีหน้าที่รักษา ผลประโยชน์ประเทศชาติ และประชาชน)   ที่ยกเลิก หรือชะลอ หวยบนดิน   เพราะผมถือว่าข้อดีมีมากกว่าข้อเสียเยอะ  น่าทำต่อไป  ถ้าทำแล้วไม่ดี กลับมาแก้ไขก็ได้     แต่คนที่ผมคุยด้วย  เค้าบอกว่า  “แล้วเรื่องคนเล่นหวย แล้วเป็นหนี้สิน ต้องไปก่อนอาชญกรรม มาใช้หนี้ล่ะ จะทำยังไง”   ผมก็บอกว่า  “มันเป็นเรื่องส่วนตัว  บางคนเล่นแล้วไม่เป็นหนี้ ก็มีนะ  เพราะต้องจ่ายเงินก่อน ถึงซื้อหวยได้ ไม่เหมือนหวยได้ดิน แทงงวดนึง  สี่พันห้าพัน   แล้วจ่ายเงินทีหลัง”    ก็โดนแย้งมาอีกว่า  แล้วข้อเสียล่ะ ไม่คิดจะแก้ใช่มั๊ย  จะปล่อยให้มีปัญหาสังคมใช่มั๊ย”    ผมก็งงๆ  แล้วอะไร มันจะสมบูรณ์ไปหมดได้ไง  เหมือนนักเรียน เรียนในห้อง  ครูคนเดียวกัน  ยังเก่งไม่เท่ากัน      คนที่คุยกับผมส่วนใหญ่ เป็นนักศึกษา หรือจบจากมหาวิทยาลัย อันดับต้นๆ ของประเทศ ทั้งนั้น  บางทีผมก็ เสียความมั่นใจ เหมือนกัน  ว่า สงสัย  เราจะ “โง่”  จริงๆ   ผมไม่ได้บอกว่าผม “โง่” หรือ “ฉลาด”  หรือคนเล่น พันทิป  “โง่” หรือ “ฉลาด”   เพียงแต่รู้สึกว่าในนี้ มีข้อมูลดีๆ เยอะ  แล้วที่สำคัญ  มีหลักฐานด้วย   เช่น  รูปถ่าย  คำวิเคราะห์  ลิงค์ที่มา  ซึ่งผมคิดว่าอ้างอิงง่าย กว่าข่าวจากหนังสือพิมพ์  ยิ่งคนไม่มีความรู้ อ่านไปก็อาจไม่เข้าใจ  เ สรุป  จากผม จขกท.   โครงการ หมู่บ้านละ  1 ล้านบาท   1. ไม่ใช่  กู้เงินมาแจก หมุ่บ้านล่ะ 1 ล้าน 2. มีคณะกรรมการกองทุน 3. ต้องบอกว่าจะกู้ไปทำอะไร  มีกำหนดใช้เงินคืน   มีคนรอกู้เงินต่อด้วย 4. วัตถุประสงค์ช่วยคนจน  ที่ไม่มีหลักทรัพย์ ไปกู้ธนาคาร สำหรับผม  อ่านแล้วโดยรวมดี(ไอเดีย)  ถือว่าเป็นวิธีการทำงานที่สร้างสรรค์ ของรัฐบาล แก้ปัญหาได้ตรงจุด  คือการเข้าถึงแหล่งทุน ของคนจน   ส่วนคนที่เข้ามาอ่านแล้ว  จะเห็นยังไง  ก็สุดแล้วแต่   เพราะมันมีทั้งหมู่บ้านที่ประสบความสำเร็จ และไม่ประสบความสำเร็จ          ยาวไปนิด  ขอโทษทีครับ  ขอบคุณทุกความเห็น  โดยเฉพาะ  9 , 20 , 25 , 28 จากคุณ : JakkraSan เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 20:58:06 A:118.110.88.139 X:

ความคิดเห็นที่ 42 กองทุนหมู่บ้าน เป็น แหล่งเงินทุนสุดท้าย ที่ ชาวบ้านจะมีได้ ทุกคนในหมู่บ้านจะดูแลกัน จึงมียอด NPL น้อยมาก จากคุณ : สงสัยจัง เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 21:05:24 A:58.9.62.10 X:

ความคิดเห็นที่ 43 เป็นกระทู้ที่ดีมากครับ ขอออก ค.ห แบบไม่เกี่ยวกะการเมืองหน่อยนะคับ อ่านแล้วได้ความรู้ดีครับ ผมในฐานะเป็นคนกรุงเทพหลายชั่วคนมีชีวิต เป็น คนชั้นกลาง ธรรมดาๆ ไม่ถึงกะลำบากอะไร    บอกตรงๆตอน ไทยรักไทยเป็นรัฐบาลอยู่ผมยังเลือกพรรคอื่นเลย แบบอยาก ได้ฝ่ายค้านดีๆมาคอยตรวจสอบ พออ่านกระทู้นี้แล้ว พอจะเริ่มเห็น รางๆว่า ทำไม คนต่างจังหวัดถึงชอบทักษิณ อ่านแล้วรู้สึกเห็นใจคนต่างจังหวัด มากจริงๆ เคยคุยกับคน ตจว บางคนที่สู้ชีวิตจริงๆ แล้วสงสารเค้าแพ้เรา ตรงโอกาสนี่เอง เห็นบางคนทำงานหนักจนผมรู้สึกว่าตัวเอง ช่างโชคดี เหลือเกิน ต้นทุนชีวิตต่างกันมากมาย เราเปิดเหล้าขวดนึง บางทีเท่ากับ ค่ากับข้าวของบางครอบครัว ทั้งเดือน ลูกน้องผมเล่าให้ฟังว่า ขนาดหมา บ้านเค้ายังกินข้าวเหนียวเปล่าๆเลย                ขอเป็นแรงใจให้ทุกคน อยากให้พยายามเข้าใจกันและกันให้ มากๆเข้าไว้นะครับ ไงก็คนไทยด้วยกัน ผมเองบางทีเข้าไปอ่านกระทู้ บาง กระทู้ความเห็นไม่ตรงกะเรา บางทีก็ขึ้นเหมือนกัน  แต่หลังจากอ่านกระทู้ นี้แล้ว คงไม่สนใจเรื่องการเมืองแล้วล่ะ อ่านเพื่อรับทราบข้อมูลก็ พอแล้ว ส่วนเรื่องของความแตกต่างทางสังคม อย่าให้ถึงขนาดอยาก ฆ่าแกงกัน เลยนะครับ เอาใจเขามาใส่ใจเราบ้าง ผมว่าในหลวงท่านทรงเห็นมามาก กว่าพวกเรา ท่านคงเข้าใจคนลำบากจริงๆ ผมว่าถ้ารักท่าน รักประเทศมาก กันเหลือเกิน น่าจะลองช่วยกันคิดทำอะไรๆ จากคนเมืองสู่คนชนบท บ้าง ก็ไม่เลวนะครับ                                        สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกคน เกลียดชังกันและกัน                               ให้ น้อยลง...น้อยลง...  และรักกันให้มากๆนะครับ จากคุณ : ชอบดูอะไรในความมืด เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 21:16:20 A:183.89.6.231 X:

ความคิดเห็นที่ 44 นโยบายดีค่ะ แต่ไม่มีการควบคุมการใช้จ่ายเงิน ถ้าหมู่บ้านไหนเอามาพัฒนามันจะเป็นประโยชน์ แต่ก็มีหลายหมู่บ้านเอาไปใช้จ่ายสิ้นเปลือง ลูกบ้านบางคนใช้ไม่ตรงวัตถุประสงค์ ถ้าลองไปศึกษาในท้องถิ่นจริงๆ โดยเฉพาะแถวอีสาน เราคงต้องยอมรับความจริงว่า ผู้คนติดการพนัน กินเหล้า เล่นหวยกันเยอะมาก แทบจะเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเลย ยกตัวอย่างบ้านญาติเราก็ได้ ได้เงินมาเท่าไหร่ก็หมดไปกับเรื่องพวกนี้ เราว่าก่อนจะแจกเงินคงต้องสร้างความคิดและจิตสำนึกให้คนในชุมชนก่อน อีกอย่างแถมให้โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคก็มีปัญหา คือถ้ามันช่วยชีวิตคนจนจริงๆ เราว่าก็ดี แต่ไม่มีการเตรียมพร้อมกันเลย ปัญหามันก็เลยตามมา เพื่อนเราเป็นหมอตอนอยู่อีสาน ตรวจคนไข้ 200 คนต่อวัน แค่ถามอาการโรคเวลาก็ไม่พอแล้ว ไม่ต้องได้ตรวจว่าเป็นโรคอะไรด้วยซ้ำ บางวันคนมาเยอะมาก จนเพื่อนเราเคยเป็นลมเพราะไม่ได้กินข้าว หมอยังสุขภาพไม่ดีจะให้ดูแลคนไข้ได้ไง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะทุกคนต่างมาใช้สิทธิของตนโดยไม่จำเป็นมากเกินไป บางคนมาแค่ขอยาแก้ปวดเฉยๆ คนที่เค้าป่วยจริงๆ ก็ไม่ได้รับการตรวจที่ดีพอ สุดท้ายปัญหาก็ตามคือหมอสั่งยาแพงไม่ได้ ต้องสั่งยาจำกัด เพราะยาแพงงบโรงพยาบาลเลยติดลบมาก แล้วอย่างนี้จะรักษาโรคได้ไง สรุปหมอโดนคนไข้ด่าและขู่จะฟ้องอีก ปัญหาเหล่านี้ทางแก้นะมี แต่ปัญหาใหญ่ก็คือการแปรรูปไฟฟ้ากับ ปตท. การแปรรูปมีข้อดีคือประสิทธิภาพการทำงานจะดีขึ้นเพราะกลายเป็นเอกชน ส่วนข้อเสียคือความเป็นเจ้าของ(ภาครัฐ)ก็จะน้อยลงไปด้วย หุ้นจะสามารถไปซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ ก็จะตกเป็นของนายทุน เงินปันผลแทนที่จะไปเข้ารัฐเกือบทั้งหมด ก็จะเข้าคนถือหุ้นแทน แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ คืองบประมาณรัฐที่ได้ลงไปจะกลายเป็นส่วนของเอกชนไปด้วย อย่างเขื่อนที่ใช้ปั่นไฟ มีการเขียนสัญญาให้การไฟฟ้าเช่าทั้งปี แค่ 1,000 บาท ทั้งเขื่อนนะ ไม่ใช่เสาเขื่อน บอกเพื่อลดต้นทุนการผลิต ถ้าปล่อยให้ทำสมบัติของประเทศต่อไปอาจจะไปอยู่ในมือนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ แก้ไขเมื่อ 24 เม.ย. 53 22:49:49 จากคุณ : kakanoky เขียนเมื่อ : 24 เม.ย. 53 22:46:14 A:125.25.225.102 X:

ความคิดเห็นที่ 45 สำหรับท่านที่ยังไม่เข้าใจ ไม่ได้มีไว้ให้กู้อย่างเดียวครับ กองทุนหมู่บ้านที่จริงแล้วเป็นดังนี้ครับ 1. ทุกคนที่จะกู้ได้ต้องเป็นสมาชิกก่อนครับ และต้องออมเงินเรียกว่าสัจจะ ขั้นต่ำ 100 บาท ทุกเดือน คล้าย ๆ สหกรณ์ออมทรัพย์ 2. กว่าจะกู้ได้ต้องเป็นสมาชิกแล้ว ระยะเวลาหนึ่ง (ผมจำตัวเลขไม่ได้) 3. ก่อนจะกู้ต้องมีผู้ค้ำที่เป็นสมาชิก 2 คน หรือกรรมการกองทุนซึ่งเลือกโดยประชาชนในชุมชนนั้นๆ 4. เป็นสมาชิกแล้วจ่ายสัจจะทุกเดือน ไม่เดือดร้อนไม่ต้องกู้ก็ได้ ก็เป็นการออมเงินไป ครบรอบกองทุนมีการประชุมสามัญ จ่ายปันผลให้กับผู้ฝากเงินสัจจะด้วย 5. ชาวบ้านไม่มีหลักทรัพย์ เดือดร้อนหรือต้องการเงินลงทุนค้าขาย กู้เงินจากแหล่งอื่นๆ ไม่ได้ ก็ต้องกู้เงินนอกระบบ ร้อยละ 10-20 แต่กองทุนหมู่บ้านร้อยละ 1 6. เงินทั้งหมดฝากธนาคารออมสินดูแลครับ ดอกเบี้ยจากเงินที่ปล่อยกู้ ก็กลับมาปันผลให้กับผู้ฝากสัจจะ และไว้ให้กับผู้กู้รายต่อไป 7. ใครกู้ไปซื้อโทรศัพท์ หรือซื้อมอเตอร์ไซค์ ก็แล้วแต่ความจำเป็นครับ แต่ถ้าไม่จ่ายก็หมดสิทธิ์กู้ต่อ และผู้ค้ำก็เดือดร้อนด้วย สุดท้ายเดือดร้อนจริงๆ ก็หมดหนทางช่วยเหลือ เพื่อนก็ไม่กล้าค้ำให้ กองทุนไม่ให้กู้ต่อ ชาวบ้านเขาเลยไม่กล้าเบี้ยวไงครับ ใครคิดว่าหนี้สูญก็ลองคิดใหม่มีแต่ไม่เยอะครับ ถูกยึดเงินสัจจะด้วยนะ 8. ใครไม่จ่ายสัจจะ ก็กู้ไม่ได้นะ (บังคับออมเงิน) เหมือนสหกรณ์ถอนไม่ได้ จนกว่าจะยกเลิกสมาชิก 9. กรรมการกองทุน ถ้าบริหารไม่ดี โกงชาวบ้านก็อยู่ไม่ได้ครับ ชาวบ้านมีสิทธิ์เลือกคนอื่นมาทำหน้าที่แทนได้ ที่สำคัญธนาคารออมสินดูแล กองทุนต้องทำบัญชีส่งธนาคาร 10. หมู่บ้านไหนบริหารดีๆ กองทุนที่ให้ 1 ล้าน ไม่หายไปไหนครับ กับมีดอกผลเพิ่มพูน บางที่มีหมุนเวียน 3-4 ล้าน จากที่เริ่มต้นจากรัฐให้ 1 ล้าน สรุปคือโครงการดีครับ ชาวบ้านได้บริหารจัดการกันเอง รู้จักออมเงิน กู้เงินไปใช้จ่ายดอกเบี้ยต่ำ เงินรัฐไม่หายไปไหน เพราะให้กู้ครับ เขาไม่ได้แจก อ้อลืมบอกไปกู้ทีได้ไม่เกิน 20,000 บาทครับ (ไม่รู้ว่าเหมือนกันทุกหมู่บ้านหรือเปล่า) แต่ทั้งหมดที่บอกมานี้ กรรมการกองทุนที่บริหารแทนชาวบ้านสามารถเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขได้ครับ และต้องขอมติจากสมาชิกในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีด้วย ผมนึกได้เท่านี้ ตอนแรกไม่เข้าใจก็ไม่เห็นด้วยแต่จากการสัมผัสใกล้ชิดผมว่าดีครับ เพราะผมลองเป็นสมาชิกเล่นๆ ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินกู้ครับ จ่ายสัจจะเดือนละ 100 บาท ผ่านมา 5 ปี ตอนนี้ก็มีเงินออมหลายพันบาทแล้วครับ จากคุณ : Foto-X เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 02:17:48 A:124.122.155.31 X:

ความคิดเห็นที่ 46 ใช่ค่ะ มีเงินออมค่าสัจจะด้วย เดือนละหนึ่งร้อยบาท เมื่อก่อน ห้าสิบบาท และเงินพวกนี้ก็จะมีคณะกรรมการหมู่บ้าน ดูแลกันเอง ไม่มีใครสามารถตุกติกได้หรอกค่ะ เพราะเซ็นฝากเซ้นเบิก ต้องมีคนเซ็นอย่างน้อยสองสามคน เงินที่กองทุนหมูบ้านที่พ่อทำอยู่ ตอนนี้ทุกๆปี สามารถเจียดเงินไปสร้าง ห้องสมุดเล็กๆให้กับชุมชน มีบางส่วนบริจาคให้กับผู้เสียชีวิตที่เป็นสมาชิกในกองทุน มีเงินแบ่งไว้ ให้ทุนการศึกษากับเด็กๆในชุมชนในแต่ละปี ในปีแรกๆที่ได้เงินมา ที่ชุมชนจะแบ่ง เงินไปซื้อสลากออมสินไว้จำนวนหนึ่ง และนำเงินสัจจะไปฝากซื้อสลากออมสินแบบพิเศษจำนวนหนึ่ง และตั้งแต่เริ่มซื้อมา ก็จะถูกสลากทุกๆเดือน มากน้อยบ้าง บางปีได้เงินที่ถูกสลากเป็นหมื่น เงินจำนวนที่ถูกก็จะ มีบัญชีแยกฝากไว้ต่างหาก เป็นกำไรของกองทุนอีก เมื่อสิ้นปีเงินจำนวนนั้น ก็จะถูกแบ่งในการคืนให้กับสมาชิกทุกคน ในรูปของกำไรหุ้นประจำปี และอีกจำนวนก็แบ่งไว้ใช้จ่ายในชุมชน ค่าทำศพบ้าง บริจาค รวมถึง ทุนการศึกษา และเมื่อสองปีที่แล้ว สามารถสร้างห้องสมุดให้กับชุมชนได้ เงินเก่าก็ไม่หาย มีแต่จะเพิ่มขึ้น ลูกหนี้ ก็เข้าใจระบบในการทำงานมากขึ้น กู้มาได้ก็จ่ายหนี้ตามกำหนด คณะกรรมการจะมีการประชุมทุกๆอาทิตย์ค่ะ ชาวบ้านทุกๆคนที่เดือดร้อนสามารถไปหาคณะกรรมการ ได้ตลอดเวลา นอกจากมีประชุมกลุ่มย่อยๆ ทางการก็ยังมีประชุมในทุกๆเดือนของจังหวัด เงินไม่มีทางสูญเปล่าได้ คนที่คิดแค่ว่า เอาเงินไปซื้อของที่ไม่จำเป็น แล้วเคยเห็นการบริหารงานจริงๆหรือเปล่าค่ะ ใครอยากไปเยี่ยมห้องสมุดเล็กๆ ที่เกิดจากเงินกู้เงินล้าน ก็หลังไมค์ได้ จากคุณ : grinny2545 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 09:53:28 A:115.67.90.215 X:

ความคิดเห็นที่ 47 คุณ Grinny2545 อธิบายได้ชัดเจนดีแล้วครับ ที่หมู่บ้านของแม่ยายผมก็เป็นแบบนี้ และผมก็ใช้สิทธิของแม่ยายกู้มาค้าขายปีละ 50000 บาท สิ้นปีก็ไปจ่ายคืนพร้อม ดอกเบี้ยอีกร้อยละ 5  จนถึงตอนนี้มีเงินเพิ่มขึ้นมาอีกร่วม 3 แสนบาทแล้วล่ะครับ อ้อ...ที่หมู่บ้านไม่มีหนี้สูญเลยครับ จากคุณ : เอี้ยนเฟย07 เขียนเมื่อ : 25 เม.ย. 53 11:38:02 A:118.172.109.142 X: