 |
"ตู่"...ผู้เคยบงการเข้าสลาย...ไฉนจึงกลับกลาย...กลัวการสลายการชุมนุม
|
|
ลองอ่านกันดู ไม่อยากให้เชื่อ แต่ควรไตร่ตรอง...นี่แหละมนุษย์...ถ้าไม่ขุดก็ไม่เจอ!!!
บันทึกทมิฬ 14-15 ตุลา 46 สลายชาวบ้านเครือข่ายปฎิรูปที่ดินเพื่อคนจน โดย : เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน(21/10/2003 08:41 AM) บันทึกเหตุการณ์ วันที่ 14-15 ตุลาคม 46 โดย ฝ่ายข้อมูล เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน
13 ต.ค.46 เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเพื่อคนจน เข้าชุมนุมในที่ดินของบริษัทไทยร่วมพัฒนาปาล์มจำกัด พื้นที่ หมู่ 4 ต.เขาเขน อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ด้วยเหตุผลที่ว่า ครบ 15 วันที่รัฐบาลขอเวลาตรวจสอบพื้นที่ แต่ ณ วันนั้น เวลาล่วงเลยมาถึง 25 วันแล้ว ผลการตรวจสอบที่ทาง จังหวัดรายงานว่า ตรวจสอบ เรียบร้อย 100 เปอร์เซ็น นั้น เจ้าหน้าที่รัฐที่รับผิดชอบ ตอบไม่ได้ ว่า แต่ละพื้นที่ที่ตรวจสอบ มีจำนวนเนื้อที่เท่าไหร่ เป็นที่ประเภทไหน บริษัทเข้าครอบครองด้วยสิทธิ์ใด วันที่เกิดการเจรจาและพี่น้องเครือข่ายฯถอยออกจากพื้นที่ที่เข้าตรวจสอบ คำพูดที่ว่า ?ถอยออกมาก่อน รอ15 วัน ถ้ารัฐแก้ไขปัญหาไม่ได้ พวกคุณจะเข้าไปยึดอีกครั้ง ก็ไม่มีใครว่า แต่ขอให้ถอยออกมาก่อน ? เป็นแรงจูงใจอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้พี่น้องเข้าชุมนุม ในพื้นที่อีกครั้ง
ต่อคำถามที่ว่า ทำไมต้องยึด ทำไมไม่ตรวจสอบกันก่อน ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านได้พยายาม ชี้เป้า ว่ามีที่ดินแปลงใดบางที่ภาครัฐควรเข้าตรวจสอบ เนื่องจากชาวบ้านอยู่ในพื้นที่มานับ 30-40 ปี เข้ารู้ว่าที่ตรงนี้เคยเป็นป่าสมบูรณ์มาก่อน ก็บอกเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เจ้าหน้าที่ก็ไม่ยอมเข้าตรวจสอบ อ้างแต่เพียงว่า คำสั่งให้ตรวจสอบแค่ 14 แปลง ที่มีชื่ออยู่ในเอกสารการอนุญาตของกรมป่าไม้ จึงเกิดคำถามกลับไปว่า พวกนายทุนที่บุกรุก มีชื่ออยู่ในเอกสารนั้นหรือไม่ คำตอบคือไม่มี เมื่อไม่มีชื่อ รัฐก็ไม่ตรวจสอบ เมื่อรัฐไม่ตรวจสอบ ชาวบ้านจึงต้องเข้าตรวจสอบเอง เนื่องจากที่ดินที่ถูกบุกรุกมีมากกว่าที่ขออนุญาต
แปลงที่เกิดเหตุ เป็นแปลงของ บ.ไทยร่วมพัฒนาปาล์ม จำกัดมี ชาวบ้านบอกว่า เป็นที่นิคมสหกรณ์ปลายพระยา ที่นายทุนมีสิทธิ์ โดยให้ลูกน้องถือสิทธิ์ตามกฎหมาย แต่พฤติกรรมเป็นของนายทุนอย่างชัดเจน นอกจากนั้น ยังเชื่อได้ว่า บริษัทดังกล่าว บุกรุกที่ป่า 20 เปอร์เซ็นของนิคมสหกรณ์ด้วย (ตามกฎหมาย ต้องมีพื้นที่ป่า 20 เปอร์เซ็น) แค่ขอให้ภาครัฐตรวจสอบ ทุกๆแปลงที่ต้องสงสัยว่ามีพฤติกรรมบุกรุก รัฐก็ปฏิเสธ และเข้าตรวจสอบ เฉพาะแปลงที่ชาวบ้านเคยเข้ายึด และแปลงที่ป่าไม้อนุญาตเท่านั้น แต่แปลงอื่นๆ กลับเพิก
วันประชาธิปไตย ที่ สภ.อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ได้มีการเรียกกำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ จากทุกสถานี อส.เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ตำรวจ ตชด. หน่วยปฏิบัติการพิเศษ(นปพ.) จำนวนประมาณ 1500 นายเข้ารายงานตัว และเตรียมการสลายการชุมุนมของพี่น้อง โดยวางแผนให้ชุดโล่ และกระบอง เดินแถวหน้ากระดานเข้าถึงผู้ชุมนุม และมีชุดจับกุมแกนนำ และผู้ที่มีหมายศาลอยู่ก่อนแล้ว เวลาประมาณ เที่ยงกว่า ๆ เ เจ้าหน้าที่ทุกคน กินอาหารกลางวัน (ซึ่งได้รับอภินันทนาการจากนายทุน 100,000 บาท) ก่อนเคลื่อนย้ายกำลังเข้าประจันหน้ากับพี่น้องที่ชุมนุม ตอน ประมาณ 14.00 น. กลุ่มผู้ชุมนุม นั่งรอการเข้าสลายของเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการโต้ตอบใดๆ มีเพียงพระบรมฉายาลักษณ์ของ พระเจ้าอยู่หัว และการร้องเพลงชาติ สวดมนต์อ่อนวอน และละหมาด เพื่อขอให้เจ้าหน้าที่นำกำลังกลับไป โดยไม่มีความรุนแรง การประจันกว่า 2 ชั่วโมง ท่ามกลางสายฝน สร้างความตึงเครียด ให้ทั้ง 2 ฝ่าย ไม่น้อย นายจาตุพร พรหมพันธ์ และนายทองหล่อ พลโคตร เดินเข้าไปเจรจากับผู้ชุมนุม และยื่นคำขาด ว่าให้เวลา 15 นาที ไปคุยกับแกนนำแล้วมาเจรจากันอีกครั้ง การที่พวกคุณทำอย่างนี้ รัฐบาลยอมไม่ได้ อย่างนึกว่ามาประท่วงช่วง เอเปก แล้วรัฐบาลจะไม่กล้าทำอะไร หลังจากนั้นต่างคนต่างประจันหน้า โดยไม่มีการขยับใดๆ จนถึงแวลาประมาณ19.00 น.เจ้าหน้าที่ทั้งหมด ก็ถอนกำลังกลับไป ซึ่งฝ่ายชาวบ้านก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมจึงมีคำสั่งถอนกำลัง ออกไป
ขณะเดียวกัน ที่หน้าศาลากลาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พี่น้องในเครือข่ายปฏิรูปที่ดิน ที่อยู่ที่แค้มป์กลางสุราษฎร์ธานี ประมาณ 2,000 คน ได้เดินทางเข้าล้อมศาลากลางจังหวัด เรียกร้องให้ถอนกำลังออกจากการปิดล้อมผู้ชุมนุมที่ จ.กระบี่ โดยไม่มีเงื่อนไข ?ทันที่ที่ได้รับแจ้งจาก พี่น้องที่ถูกปิดล้อมอยู่ ที่กระบี่ ว่าเจ้าหน้าที่ถอนกำลัง ออกจากแปลงไทยร่วมฯ พี่น้องที่ศาลากลาง สุราษฎร์ก็จะถอยกลับแค้มป์กลางทันที่ แต่ถ้า ได้รับแจ้งว่า มีการเข้าลุยสลายพี่น้องที่ กระบี่ พี่น้อง 2000 คนที่ สุราษฎร์ก็พร้อมเข้ายึดศาลากลางสุราษฎร์เช่นกัน เหตุการณ์ มีแนวโน้มจะบานปลาย เมื่อพี่น้อง ที่ศาลากลาง จังหวัดสุราษฎร์ ได้เตรียมมีด พร้า จอมเสียบ เข้ามาด้วย สร้างความตึงเครียดอย่างหนัก จึงเป็นไปได้ว่า ถ้าพี่น้องที่กระบี่ถูกกระทำ ศาลากลาง จ.สุราษฎร์ก็จะเกิดจราจลทันที และอาจมีการบาดเจ็บ สูญเสีย
19.00 น. ฝ่ายรัฐสั่งถอนกำลัง 1500 นาย ออกจาก เขาเขน เข้าสู่ สภ.อ.ปลายพระยา เตรียมการสลายในวันรุ่งขึ้น โดยรอชุดปราบจราจล และคอมมาโด จาก กทม.
วัน 15 ต.ค.46 07.00 น ชุดปฏิบัติการสนธิกำลัง 2000 นายพร้อมเดินทางเข้าพื้นที่ พร้อมแผนปฏิบัติการขั้น เด็ดขาด รถพยาบาล รถกู้ภัย รถดับเพลิง รถบรรทุกนักโทษ รถตำรวจสนับร้อยคัน รถยนต์นายทุนนับ 10 คัน เคลื่อนออกจาก สภ.อ.ปลายพระยา เข้าสู่เขาเขน แบ่งกำลังเป็น 2 ชุด ขุดแรก เข้าทางป้อมเขาเขน ชุดที่ 2 เข้าทาง อ.พนม ซึ่งเป็นการตีล้อมเข้าทางด้านหลัง 13.00 น. เกิดการเผชิญหน้า ขมขู่ และเข้าประชิดตัวผู้ชุมนุม โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลาเพียง 30 นาที ก็สามารถจับกุมแกนนำใสกุญแจมือ และ ควบคุมตัว ผู้ชุมนุมไว้ได้ทุกคน โดยแยกหญิงชาย ควบคุมตัว และถอนเสื้อ ทุกคนต้องเอามือไพล่หลัง ผู้ชายทุกคน ถูกถอนเสื้อและเข็มขัด ทรัพย์สินที่ดินตัว ถูกรื้อค้น บัตรต่างๆ เงินทอง โทรศัพท์มือถือ ถูกยึด ทุกคนเหลือเพียงกางเกงตัวเดียว หลังจากถูกบันทึกประวัติ ก็จะถูกควบคุมตัวออกจากพื้นที่ไป ทรัพย์สิน หม้อข้าว เสื้อผ้า และ ของใช้จำเป็นในชีวิตประจำวัน ถูกทิ้งไว้ ณ ที่เกิดเหตุ รถยนต์ทุกคัน ถูกรื้อค้น และปล่อยล้มออก รถจักรยานยนต์ทุกคัน ถูกแทงล้อทั้ง 2 ด้วยมีดปลายปืน พี่น้องหลายสิบคน ถูกกระทำ กระทืบ ตบตี ด้วยอารมณ์ และความไร้สติของเจ้าหน้าที่ แม้ไม่ถึงขั้นนองเลือด แต่ความรู้สึกคับแคนใจ จุกแน่นอยู่ในอก หลายคนกลับมาที่แค้มปกลาง ด้วยความรู้สึกสลดหดหู่ เจ็บปวด และเสียใจ และที่เจ็บปวดที่สุดคือ คนที่สั่งสลายชาวบ้าน คือ นายจตุพร พรหมพันธ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรี ประพัฒน์ หรือ ไอ้ก้านยาว เมื่อ 30 ปีที่แล้ว
จากคุณ |
:
lomoniceguy
|
เขียนเมื่อ |
:
26 เม.ย. 53 11:56:07
A:125.27.50.181 X:
|
|
|
|  |