เรื่องธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
|
|
ในความคิดของผม ประเทศไทยกำลังเผชิญกับปัญหาภายใน การแตกแยกของคนในชาติ ความไร้ประสิทธิภาพในการบริหารบ้านเมืองของผู้นำประเทศคนปัจจุบัน และ ปัญหาที่เกิดจากความเหลื่อมล้ำระหว่างประชาชน คือสิ่งที่นำพาประเทศเรามาถึงจุดทุกวันนี้ ...
คนเราบางคน ก็มองแค่ความเดือดร้อนของตัวเองเป็นที่ตั้ง ... ในเมื่ออยู่ประเทศเดียวกัน ความเดือดร้อนที่ว่านี้ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกันหมด จะมากจะน้อยเท่านั้น ... การรวมตัวชุมนุมเรียกร้องสิทธิของคนบางกลุ่มที่ยึดพื้นที่สาธารณะในการชุมนุม ย่อมสร้างความยุ่งยากวุ่นวายให้กับสังคม อย่างม๊อบเสื้อแดง (หลายสี) ก็เป็นเรื่องเฉพาะหน้าที่สร้างความดือดร้อนเกี่ยวกับความไม่สะดวกในการเดินทางและการทำมาหากินของใครหลายคน ... แต่หากมองให้ลึกไปถึงก้นบึ้งของปัญหาแล้ว การเปลี่ยนแปลงและความขัดแย้งทางความคิดครั้งนี้ นับเป็นก้าวแรกของจุดเปลี่ยนประเทศเรา ... จุดเปลี่ยนที่ว่าก็คือ ทัศนะคติของประชาชนที่มีต่อสังคมและการเมืองของตัวเอง
หากเราจะมองย้อนถึงรากเหง้าของปัญหาทั้งหลายทั้งมวลที่สั่งสมหมักหมมมาหลายชั่วอายุคน และถ้าไม่โกหกตัวเองเพื่อมองข้ามไปละก็ เราจะเห็นได้ว่า การไหลบ่าของวัฒนธรรมต่างชาติ โดยเฉพาะเรื่อง การเปลี่ยนการปกครองมาเป็นระบอบประชาธิปไตย จากนั้นสิ่งต่างๆ ที่ถาโถมเข้ามาให้คนไทยได้รับรู้เรียนรู้และพยายามจะเลียนแบบตลอดช่วงศตวรรษที่ 19-20 ความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มันได้ค่อยๆ ซึมซับเข้าสู่สามัญสำนึกของคนไทยรุ่นสู่รุ่น
ความเหลื่อมล้ำในสังคมไทยมีอยู่มาก เพียงแต่ที่ผ่านมา คนยากไร้ส่วนใหญ่พยายามก้มหน้ายอมรับสถานะของตัวเอง ในขณะที่กลุ่มคนในสังคมอีกชนชัน ได้ช่วงชิงตักตวงผลประโยชน์ของประเทศอันอุดมสมบูรณ์และมั่งคั่งแห่งนี้ จนสามารถสร้างตัวเป็นมหาเศรษฐีไปหลายตระกูล ไม่ว่าจะเป็นครอบครัวของเหล่าคหเสนาบดีที่เป็นข้าหลวงใกล้ชิดสถาบัน และ บรรดาพ่อค้าเร่ร่อนที่ล่องเรือสำเภาจากจีนแผ่นดินใหญ่มาตั้งรกรากหากิน สร้างเนื้อสร้างตัวจนร่ำรวย ให้ลูกหลานคนรุ่นหลังได้รับอานิสงค์ต่อๆ กันมา
คนไทยที่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศจริงๆ ทำอาสัมมาชีพเป็นเกษตรกร ปลูกข้าวปลูกผักเลี้ยงผู้คนในทุกชนชั้นนั้นถูกมองข้าม ซ้ำยังโดนดูถูกเหยียดหยามว่าเป็นคนบ้านนอกไร้การศึกษา ... ในสายตาชนชั้นที่สูงกว่ามักจะมองคนไทยเหล่านี้ว่า ยากจนน่าสงสารเวทนา ในขณะเดียวกัน หลายคนที่คิดว่าตัวเองอยู่ในชนชั้นที่สูงกว่าก็มองว่า คนบ้านนอกเหล่านี้เป็นคนชั้นล่างที่ต้องรองรับและสนองความต้องการของพวกตนเองในเกือบจะทุกเรื่อง
สิ่งที่พร่ำพูดกันจนกลายเป็นเหมือนการท่องจำไปแล้วว่า สังคมประชาธิปไตย เป็นแค่ฉากบังตาหลอกกันเอง ... แม้การเมืองไทยจะประกาศตัวเองไปอย่างนั้น แต่ในความเป็นจริงที่ทุกคนต้องยอมรับก็คือ สิทธิของประชาชนยังอยู่เบียดบัง ทั้งจากคนระดับเดียวกัน และคนต่างชนชั้น ... โอกาสทางสังคมที่แตกต่างกันอย่างมาก เป็นตัวชี้วัดว่า ประเทศไทยยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา และยังอยู่อีกห่างไกลกับคำว่า ประเทศที่พัฒนาแล้ว ... เพราะ ในเมื่อประชาชนกว่า 70% ยังกินไม่ดี อยู่ไม่ดี แถมยังมีการแข่งขันแก่งแย่งที่ไร้ความยุติธรรมแบบนี้ จะเรียกตัวเองว่าพัฒนาแล้วได้อย่างไร
. . . . .
จากคุณ |
:
คนไทยใจกว้าง
|
เขียนเมื่อ |
:
27 เม.ย. 53 10:27:19
A:210.246.192.12 X:
|
|
|
|