ประเทศไทยสงบสันติได้หากคนไทยทุกคนร่วมมือกัน \(^ ^)/\(^ ^)/ : ภาครัฐบาล{แตกประเด็นจาก P9172167}

หลังจากที่วันนี้ได้รับฟังการให้สัมภาษณ์ของบุคคลท่านหนึ่งในสถานีวิทยุแห่งหนึ่ง
บทสรุปของการแก้ปัญหา ที่ได้จากความเห็นในรายการก็คือ
การเจรจา การยุบสภา หรือสลายการชุมนุม ไม่ได้ช่วยอะไรแล้วในขณะนี้
หนทางออกทางเดียวก็เป็นวีธีการที่ทุกคนก็รู้ว่าอะไร

ผมเห็นด้วยกับผู้ให้สัมภาษณ์ที่ว่า เหตุการณ์หลายอย่างมันดำเนินมาจน
การแก้ปัญหาแบบเดิมๆ มันไม่ได้ผลแล้ว เหมือนการลุกลามของโรค
ที่ใช้วิธีการรักษาในเบื้องต้นไม่เหมาะสม และลุกลาม
จนใช้วิธีการเดิมรักษาไม่ได้แล้ว ดังนั้น จึงต้องแสวงหาวิธีการอื่นในการรักษา

แล้ววิธีการใดล่ะ ที่แพทย์จะใช้รักษาผู้ป่วย เมื่อไม่มียา หรือวิธีการอะไร
ที่จะรักษาผู้ป่วยได้อีก  นั้นก็คือรักษาตามอาการเพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเอง
โดยธรรมชาติ หรือเสียชีวิตไปโดยธรรมชาติ

ดังนั้น หากเปรียบปัญหาของประเทศในวันนี้ ผมยังเห็นว่าหนทางที่จะแก้ไข
ปัญหามีอยู่มากมาย ขึ้นอยู่กับว่าจะเลือกทางไหน และหนทางที่เลือกนั้น
จะมีข้อดี ข้อเสีย มากน้อยอย่างไร ทันการหรือไม่ และจะส่งผลอย่างไรต่อไป
ข้อสำคัญ คือ คิดจะตัดสินใจทำและพร้อมจะรับผิดชอบในการกระทำหรือไม่

หนึ่งในหลายหนทางที่ เหลืออยู่ ก็คือ การเริ่มต้นทำความเข้าใจปัญหาที่แท้จริง

เพราะเมื่อใดก็ตามที่เราไม่รู้อย่างแท้จริงว่า อาการป่วยของเราเกิดจากอะไร
แล้วเราจะรักษาอย่างไรจึงจะถูกต้อง อาการเหล่านั้นก็ไม่มีทางหาย

ฉะนั้น สิ่งแรกที่ต้องรู้ก็คือ ตัวปัญหายังไงก็เป็นตัวปัญหา

หากมองสถานการณ์ ตอนนี้ ตัวปัญหา ก็คือ การชุมนุม
ดังนั้น การชุมนุม ย่อมแก้ปัญหา ด้วยการชุมนุมไม่ได้
ตราบใดที่ รัฐยังปล่อยให้ เกิดการชุมนุม ของกลุ่มอื่นเกิดขึ้น
และมีการปะทะกัน แม้ว่าแค่ปะทะด้วยคำพูดก็ตาม ย่อมจะก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น การดูแลและควบคุม ไม่ให้เกิดการชุมนุมซ้ำซ้อน นอกพื้นที่
ไม่ว่า จะด้วยฝ่ายของ นปช. เองในจุดอื่น ๆ หรือจะด้วย ฝ่ายใด ๆ ก็ตาม
ต้องควบคุม ไม่ให้เกิดการขยายตัว ยืดเยื้อยาวนาน และมีการเข้าใกล้จุดที่ชุมนุมหลักอยู่
ในเวลาเดียวกัน ก็ต้องทำการเจรจา กับแกนนำกลุ่มผู้ทีจะออกมาชุมนุมทุกกลุ่ม
อย่างทันท่วงที เพื่อให้คงเหลือเฉพาะ กลุ่มที่ชุมนุมหลักจุดเดียวเท่านั้น

สิ่งสองที่ต้องรู้ก็คือ ปัญหาไม่สามารถแก้ไขตัวเองได้

หากเทียบปัญหานี้ เหมือนเซลมะเร็ง เซลมะเร็งก็จะมีแต่วันขยายตัวขึ้น
และกระจายไปทั่ว จนไม่อาจควบคุม เซลมะเร็งไม่สามารถที่จะแก้ไขตัวมันเองได้

เช่นเดียวกับการชุมนุม ของ นปช. ที่ลุกลามจากผ่านฟ้า ไปราชประสงค์
และกระจายไปยังหลายพื้นที่ จนแกนนำหลักเอง ไม่สามารถที่จะควบคุม
ได้ทั้งหมด อีกต่อไป ยิ่งนับวัน ปัญหา ก็จะยิ่งก่อตัวขึ้น
ดังนั้น การคิดที่จะให้การสลายตัวไปเองของกลุ่มผู้ชุมนุม ด้วยการประชาสัมพันธ์
การออกข่าวโจมตี การกดดัน ด้วยวิธีต่าง ๆ
เพื่อหวังลดกลุ่มผู้ชุมนุมในจุดหลัก คงไม่ใช่วีธีการที่เหมาะสม
เพราะนับวันการกระจายตัวไปยังที่ต่างๆ ก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น และการออกข่าว
โจมตี กดดัน นั้น ก็จะยิ่งก่อมวลชน และสร้างความไม่พอใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมมากขึ้น

สิ่งที่ดีที่สุด ก็คือ การไม่ผลักสถานะผู้ชุมนุม ให้อยู่ในสภาพหลังชนฝา
รวมทั้ง งดการสร้างกระแสความไม่ชอบธรรมแก่กลุ่มที่ชุมนุมหลัก
หันมาจัดการกับกลุ่มย่อย ที่สร้างปัญหาตามที่ต่างๆ อย่างรวดเร็ว เด็ดขาด และต่อเนื่อง
ซึ่ง มีตัวอย่างแล้วว่าสามารถทำได้ ในหลายจุด

สิ่งที่สามที่ต้องรู้ ก็คือ จุดที่เห็นว่าเป็นปัญหา อาจไม่ใช่จุดเดียวที่จะต้องแก้ปัญหา

หากปัญหาเป็นเหมือนมะเร็ง วิธีการแต่ก่อนนั้น ก็คือการกำจัดเซลมะเร็ง
แต่การกำจัดนั้น ยากที่จะกำจัดหมดเพราะเซลมะเร็งไม่ใช่เชื้อโรค ไม่ใช่
สิ่งแปลกปลอมจากนอกร่างกาย แต่เซลมะเร็งคือส่วนหนึ่งของร่างกาย
ดังนั้น การรักษาสมัยใหม่จึงต้องรักษาควบคู่ไปกับการทำให้ร่างกาย
ไม่ก่อเซลมะเร็งใหม่ ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย

นปช. ที่ชุมนุมอยู่นั้น ก็คือคนไทยเหมือนกัน เป็นส่วนหนึ่งของประเทศเหมือนกัน
แต่วันนี้อาจมองได้ว่า การชุมนุมเป็นปัญหาของประเทศ เหมือนกับเซลปรกติในตัวเราที่ก่อตัวเป็นมะเร็ง
ไม่ใช่ผู้ร่วมชุมนุมที่เป็นปัญหา

ดังนั้น การจะให้การชุมนุมยุติลงนั้นเป็นการจบปัญหา ก็จริง แต่มันไม่ใช่การแก้ปัญหาทั้งหมด
เราต้องมองด้วยว่าแท้จริงแล้ว ทำไมการชุมนุมถึงได้เกิดขึ้น และต้องเริ่มลงมือ
แก้ปัญหานั้น ๆ ไปควบคู่กัน ด้วยการศึกษาปัญหาที่แท้จริง ว่ามีอะไรบ้าง
และแก้ไขทุกปัญหาทุกปัญหาไปพร้อม ๆ กัน
อย่ามัวแต่มุ่งประเด็นไปที่ปัญหาใด ปัญหาหนึ่ง
หรือ อุปโลกปัญหาให้ปัญหาหนึ่ง ขึ้นมาเป็นปัญหาหลัก เหมือนทุกวันนี้

เช่น  

- นปช. ต้องการล้มล้างการพระราชอำนาจของสถาบันพระมหากษัตริย์

ซึ่งแน่นอนว่า มีกลุ่มคนที่มีความคิดนั้นๆ อยู่ในกลุ่ม นปช. จริง
แต่ต้องเข้าใจว่า กลุ่มเหล่านี้มีมาก่อนการเกิดของ นปช. ด้วยซ้ำ
การแก้ปัญหา จึงไม่ใช่การผลักให้ นปช. ทั้งหมด เป็นคนไม่รักชาติ
กลับต้องใช้กลยุทธ์เชิงบวก ในการเทิดพระเกียรติ และการประชาสัมพันธ์พระราชกรณียกิจต่าง ๆ ให้ต่อเนื่อง
และดูแลไม่ให้ใคร หรือกลุ่มบุคคลใดมีการนำสถาบันพระมหากษัตริย์ มาใช้ในการเคลือนไหว

การที่กลุ่มซึ่งไม่เห็นด้วย กับผู้ชุมนุมกล่าวว่าทำเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
ไม่ว่าด้วยเจตนาดี หรือไม่ ย่อมไม่เป็นผลดีต่อสถานการณ์ และไม่เป็นผลดี
ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งรัฐบาลควรประชาสัมพันธ์ ในเรื่องนี้
และเน้นให้กระทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่สร้างสรรค์ตามปรกติ ไม่ว่าจะเป็น
การบริจาคโลหิต ปลูกป่า ช่วยเหลือผู้ยากไร้ เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติที่เหมาะสม

- นปช.ทำเพื่อคนคนเดียว นั้นคือ อดีตนายกทักษิณ หรือ ปัญหาที่เกิดขึ้น
เพราะคนเพียงคนเดียว คือ อดีตนายกทักษิณ

แท้จริงแล้ว ปัญหาเดียวที่ อดีตนายกทักษิณ ก่อไว้ ก็คือ สามารถสร้างความนิยม
ในตัวของ อดีตนายกทักษิณ ให้กับคนหมู่มากได้ และผลจากความนิยมนั้นยังส่งผลมาถึงทุกวันนี้
แม้ตัว อดีตนายกทักษิณ แทบจะไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการสร้างนิยมเพิ่มเติมขึ้นอีกเลย
ซ้ำร้าย อาจทำตัวเองให้มีความนิยมลดลงด้วยซ้ำ
ไม่ต้องถกเถียงกันว่าการสร้างความนิยมนั้น จะได้มาด้วยวิธีการที่ถูกต้องหรือไม่ถูกต้อง
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกวันนี้ ความนิยมนั้น ก็ยังคงมีอยู่

ซึ่งการแก้ปัญหานี้ คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับรัฐบาลปัจจุบัน
การสร้างความนิยมที่แท้จริงให้กับตัวนายกอภิสิทธิ์ มากและแข็มแข็งพอเท่านั้น
ซึง ทำได้ยาก

การที่ทำได้ยาก รัฐบาล และคนบางกลุ่ม จึงชอบเลือกวีธีแก้ปัญหาที่  ทำได้ง่ายกว่า
ด้วยการทำทุกวิถีทางเพื่อลดความน่าเชื่อถือ และความนิยมของอดีตนายกทักษิณ
จึงทำให้เกิดความนิยมเฉพาะกิจในตัวนายกอภิสิทธิ์ และรัฐบาล เกิดขึ้น นั้นก็คือ
ความนิยมเพราะ เป็นพวกเดียวกันและคิดเหมือนกัน ซึ่งมันไม่จริง และไม่คงทน

ดังนั้นวันนี้ ยังไม่สายเกินไปที่รัฐบาล และตัวนายกอภิสิทธิ์ จะไตร่ตรอง
และดำเนินวิธีการที่ถูกต้อง ในการจัดการปัญหาของผู้ชุมนุมที่ราชประสงค์
พร้อมกับ ดำเนินนโยบาย การบริหาร การจัดการ ที่สามารถตอบสนอง
ต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง ทำให้ประชาชนสามารถ
ช่วยเหลือตัวเองได้จริง เพื่อสร้างกระแสนิยมที่แท้จริงให้เกิดขึ้น

การแก้ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้ปัญหาจบลงอย่างยั่งยื่น
เพราะปัญหาทั้งหมด มันไม่ได้อยู่ที่ รัฐธรรมนูญ ปี 50, อำมาตย์,
อดีตนายกทักษิณ หรืออะไรก็ตามที่ยกมาอ้างกัน
แต่ปัญหาที่แท้จริง คือ "การไม่สามารถสร้างความนิยมที่แท้จริง
ด้วยการเข้าใจปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในประเทศ และช่วยเหลือ
ประชาชนในประเทศอย่างจริงใจ" เท่านั้นเอง

...อย่าเพียงแต่อยู่ในอำนาจเพื่อทำสิ่งที่คิดว่าดีต่อประชาชน
แต่จงใช้อำนาจที่ประชาชนมอบให้มาทำในสิ่งที่ประชาชนต้องการจริงๆ...

จากคุณ	: ชิวหา
เขียนเมื่อ	: 28 เม.ย. 53 02:10:14 A:58.8.151.155 X: