Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ไม่มีวันลืม กับเหตุการณ์ที่วัดปทุมวนาราม ผมอยู่ในเหตุการณ์เต็ม ๆ ของแท้ครับ ขอเล่าให้เสื้อแดงด้วยกันฟังเท่านั้น..  

ช่วงบ่ายวันที่ 19/5/53  ผมฟังข่าวใน TV ทราบว่า ขณะนี้กลุ่มเสื้อแดงได้ประกาศสลายการชุมนุมแล้ว  และมีการจุดไฟเผาห้างเซ็ลทรัลเวิลด์    ใจผมคิดว่าเสื้อแดงสลายแล้ว  ขอไปดูหน่อยดีกว่า  ด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ผมนั่งแท็กซี่ไป  ข้างทางมีแต่ด่านทหาร   สุดทางแค่เกือบถึงนานา  เพราะมีกองไฟอยู่กลางถนน  แท็กซี่บอกไปใกล้กองไฟไม่ได้   ผมเลยลงรถแท็กซี่  โบกมอไซด์รับจ้างต่ออีก   มอไซด์รับจ้างไปได้แค่ตรงใต้ทางด่วนตรงรางรถไฟ   เจอทหารกลุ่มใหญ่หลายคนมาประจำการณ์ตั้งด่าน   ผมลงตรงนั้น  แล้วเดินลัดเลอะไปตามถนน  ทหารเยอะมาก  เขาก็ไม่ได้ห้าม หรือไล่อะไรนะครับ    

ผมเดินลัดเลอะไปตามถนนที่รกร้างเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้ของกลุ่ม นปช  โดยในนั้นมีแต่ทหารที่เดินตรวจตามเต้นต่าง ๆ   ผมเดินดูไปเรื่อย ๆ  เวที นปช ที่ว่างเปล่า  แต่เต็มไปด้วยข้าวของและอุปกรณ์    เจอเสื้อแดงคนสุดท้าย  นั่งถือธงอยู่บนเก้าอี้    ซึ่งภาพนี้เพื่อน ๆ คงได้เห็น   แต่ความจริงในขณะนั้นมีเสื้อแดงอยู่อีกคนหนึ่งที่ไม่ได้ไปไหน  เป็นหญิงวัยกลางคนนั่งกินมาม่าอยู่บนเก้าอี้ใกล้ ๆ กัน  เขาไม่ได้ใส่เสื้อสีแดง  ผมถามเขาว่า  ไม่กลับเหรอ  เธอตอบว่า " ไม่รู้จะไปไหน "    นั่นคือเสื้อแดง 2 สุดท้ายจริง ๆ  


จากนั้นมีเสียงปั๊ว ๆ มาจากตึกเซ็นทรัลเวิลด์ที่กำลังไหม้  คือกระจกละลายแตกครับ  แล้วมีเสียงระเบิดตู๊ม ๆ  ข้างในห้างตลอดเวลา  ไฟโหมไหม้โหมมากและมีแรงระเบิดจากอะไรข้างในตลอดเวลา   จากนั้น  ผมเดินไปเรื่อย ๆ  ถึงวัดปทุมวนาราม   และเกิดการยิงถล่ม  เสียงปืนจากอาวุธสงครามสนั่นหวั่นไหว   ผมไม่หันไปมองอะไรแล้วครับ  ผมรีบหนีเข้าไปในวัดปทุมวนาราม   ไปหลบหมอบอยู่หลังรถกะบะที่จอดอยู่ในเต้นหลังเต้นแพทย์อาสา  มันมีใครยิงกับใครผมก็ไม่รู้จริง ๆ   ด้วยความสัตย์    ผมไม่เห็นจริง  ๆ   ผมหลบหมอบอย่างเดียว   ไม่กล้าโผล่หน้าไปดู

มีผู้ชายถูกยิงนอนเสียชีวิตอยู่ใกล้ ๆ หน้ารถกะบะที่ผมหลบอยู่  และมีพยาบาลถูกยิงนอนเสียชีวิตหน้ารถกะบะ  เขาเสียชีวิตขณะนอนหมอบนะ    เสียงปืนก็ยังยิงถล่มอยู่    ผมชะเง้อมาดูพยาบาลที่นอนเสียชีวิต   เห็นกับตากระสุนมันตกจากที่สูงกระทบพื้นซีเมนต์ดังแป๊ะ ๆ  ๆ  ๆ ตรงพยาบาลที่เสียชีวิต  ( เสียแล้วยังโดนกระสุนอีก  อันนี้ในความคิดผมนะ )  ผมก็หลบหมอมลงอีก   กลัวกระสุนมันกระเด็นจากพื้นซีเมนต์มาใส่ผม

ตอนแรกผมคิดว่า  มันยิงมาจากดาดฟ้าพารากอน   แต่นายคนหนึ่งที่คลานมาจากแถวหน้า  บอกว่า " มันยิงมาจากรางรถไฟฟ้าบีทีเอส "   ยอมรับว่าไม่เห็นกับตา  ไม่กล้ายืนยันตรงนี้    

ใครไม่อยู่กรุงเทพชั้นในไม่รู้หรอกว่า  รถไฟฟ้าบีทีเอสเขาปิด  มีแต่ ทหารที่ขึ้นได้   ดาดฟ้าตึกทุกตึก  มีแต่  ทหารที่ขึ้นได้    

เสียงปืนยิงดังประมาณ 25 นาที  ทุกอย่างก็เงียบ   แต่ทุกคนที่หลบหมอมก็ยังไม่กล้าขยับตัวไปไหน   เพราะกลัวอันตราย  

เวลานั้นค่ำแล้ว  สิ้นเสียงปืนประมาณ 30  กว่านาที  ทุกคนจึงกล้าขยับตัว    มีหลอดไฟนีออนของวัดหลอดหนึ่งเปิดสว่างมากใกล้จุดที่พยาบาลเสียชีวิต   ซึ่งทุกคนกลัวจะเป็นเป้า   เลยต้องดับไฟหลอดนั้นลง    

ผู้คนที่อยู่ตรงนั้น  ช่วยกันเอาศพผู้เสียชีวิตใส่เสื่อ  พากันอุ้มเสื่อที่มีศพเข้ามาในวัด  อุ้มแบบวิ่งหนี    ผมวิ่งมาหลบข้ารถยนต์  มือถือของผู้เสียชีวิตรายหนึ่งดัง  เณรในวัดถือมาแล้วบอกว่า  " เจ้าของเบอร์เขาตายแล้ว  "  แล้วก็วิ่งเข้าไปข้างใน   ผมหยุดชะงักข้างรถเก๋งไม่กล้าวิ่งต่อ  เพราะข้างหน้ามันโล่ง  กลัวเจอสไนเปอร์จากดาดฟ้าพารากอน  ผมพูดออกมาเลยครับ  " โอ้ย..ไม่น่ามาเลย "   แล้วมีตาก้องคนหนึ่งมาหลบข้าง ๆ ผม  เขาก็พูดว่า " นี่แหล่ะ... เกิดอีก 3 ชาติ ก็ไม่เจอเรื่องตื่นเต้นเท่าขนาดนี้ "  ดูพูดเข้า

มันแค่ช่วงแคบ ๆ เอง  ผมชั่งใจตัวเองจริง ๆ   ตัดสินใจวิ่งเลย..

ศพ 6 ศพ  ตั้งเรียงกันที่หน้าศาลาพระราชศรัทธา   เอาเสื่ออีกผืนมาปิดเอาใว้  เพื่อไม่ให้อุจาดตา  

ภายในวัดมีคนเกือบ 4 - 5 พันคน  เต็มทั้งศาลาพระราชศรัทธา เต็มชั้นใต้ดิน   เต็มสวนป่าข้างหลังและด้านข้าง  เต็มศาลาใหม่หลังศาลาพระราชศรัทธา   ล้นออกมานอกบริเวณสวนป่า  ถึงกุฏิที่อยู่ภายนอก

ทุกคนนั่งพูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น   ภายในวัดมีข้าวต้มแจก  บางคนก็ไปอาบน้ำ   ตอน 5 ทุ่มทุกคนเริ่มนอน  ที่นอนก็ไม่มี  พื้นว่าง ๆ ก็แทบไม่มีให้เดิน   ผมไปขอนอนเบียดจากเขา  นอนมองท้องฟ้าที่มีควันคุ้ง  กลางคืนเงียบสงัด  ไม่มีเสียงรถ   ไม่มีเสียงปืน   จิตใจผมว้าวุ่นกับเรื่องที่เกิดขึ้น  ผมนอนไม่หลับ   ผมคิดในใจว่า  "ไม่น่ามาเลย"

แบตมือถือผมก็หมดตั้งแต่ 5  โมงเย็นแล้ว   ถ้าไม่งั้น  ผมจะสอดถ่ายคลิปมาให้ดูแล้ว   จริง ๆ ผมยังนึกเสียใจที่แบตหมดจริง ๆ

ตอนราวตี  4   มีการทำวัตรเช้า  พระอาจารย์ถาวร   ก็มาเทศสด ๆ ในศาลาพระราชศรัทธา  บางคนก็นั่งพนมมือฟัง  บางคนก็นอนหลับ   ผมลุกจากที่นอน  เดินออกมานั่งจับกลุ่มกับคนที่เขานั่งจับกลุ่มคุยกันด้านหน้า   พวกเราก็นั่งคุยโน้นคุยนี่กันไป   ทุกคนหวาดกลัวทหารมากครับ   กลัวทหารยิงปืนสไนเปอร์    ผมก็กลัว   แต่กลัวน้อยกว่าคนอื่น  เพราะตอนเดินมา  ทหารก็ไม่ทำร้ายอะไร  ทหารเขาก็เฉย ๆ ของเขา  ตอนนั่งคุยกันมีคนบอกมีการงัดแงะของในรถที่จอดในวัดด้วย  มันวิ่งหนีออกจากวัดไปแล้ว.. (จะตายอยู่แล้วยังจะงัดรถชาวบ้านอีก)

พอฟ้าสาง...  ราว 05.40 น.  มีชาย 2 คน  เดินเข้ามาในวัด  เพื่อมาแจ้งข่าวถึงการมาช่วยเหลือออกจากวัด   ทราบว่ามาจาก " สืบกลาง"  เขาเหมือนอะไรที่มาช่วยกลุ่มคนที่กำลังมีความทุกข์เลย   เขาบอกตำรวจจะช่วยให้ไปที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติที่อยู่ตรงข้าม   ตรงนั้นเขตตำรวจ  ทหารไม่เข้า  จะมีรถมารับไปส่ง   คือเขาเหมือนมาแจ้งข่าว

จากนั้นเริ่มมีคนกล้าออกจากวัด   เพราะไม่มีเสียงปืนเลย  และมีคนเดินไปมาภายนอกวัดแล้ว   ผมก็เดินออกมา   ลัดเลอะไปหาขึ้นแท็กซี่บนถนนเพชรบุรี    ดูในข่าวทางทีวีตอนค่ำ  ๆ  เห็นตำรวจพาจูงแขนคนเสื้อแดงในวัดออกมา   แบบตัวต่อตัวเลย   อย่าแปลกใจนะว่าทำไมตำรวจพาเดินจูงแขนออกมา   เพราะคนในวัดกลัวถูกยิงจากสไนเปอร์จาก ทหารมาก ๆ  

นั่นเป็นเหตุการณ์ที่ผมจะไม่ลืม

จากคุณ : หลินผิงจือ
เขียนเมื่อ : 16 มิ.ย. 53 00:30:46 A:124.120.230.209 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com