 |
กรณี "อ๊อฟ พงษ์พัฒน์" การพูดว่า "จงออกไปจากที่นี่" จะไม่ช่วยแก้ปัญหา ให้เราเลย
|
|
"...วิธีแก้ปัญหาของคุณพงษ์พัฒน์คือความเชื่อที่ว่า ถ้าเราไม่ชอบอะไร วิธีแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ก็คือกำจัดมันไปซะ ความคิดแบบนี้คือรากฐานของการเมืองที่ขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรง การเมืองที่กำลังทำลายประเทศของเราอยู่ในขณะนี้..."
แปลจาก Saying good riddance is no answer to our problems โดย สนิทสุดา เอกชัย, แปลโดย สฤณี อาชวานันทกุล May 21st, 2010
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=milansheva&month=22-05-2010&group=5&gblog=85
ถ้าคุณอยู่ในเครือข่ายของคนไทยบนเฟซบุ๊ค คุณก็คงจะได้เห็นคลิปวีดีโอที่มีการส่งต่อกันมากที่สุดในสัปดาห์นี้ บทสุนทรพจน์อันกินใจของนักร้อง พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง ที่แสดงความรักอย่างหวงแหนและลึกล้ำของเขาที่มีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
บทสุนทรพจน์ดังกล่าวกลายเป็นปรากฏการณ์ยอดนิยมในทันที กลายเป็นสิ่งที่ส่งต่อกันบนเครือข่ายโซเชียลมีเดีย เผยแพร่ซ้ำบนโทรทัศน์ และรายงานในหน้าหนังสือพิมพ์ในประเทศแทบทุกฉบับ กว่าคุณพงษ์พัฒน์จะกล่าวคำรับรางวัลนาฏราช สาขานักแสดงชายสมทบยอดเยี่ยมจบ ผู้ชมทั้งห้องก็เต็มไปด้วยน้ำตา ขณะที่ผู้ชมยืนขึ้นปรบมือให้กับคุณพงษ์พัฒน์ ในคืนเดียวกันนั้นเองกรุงเทพฯ ก็ถูกเผาในการจลาจลทางการเมืองที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์เท่าที่เราจำความได้
ในสุนทรพจน์ คุณพงษ์พัฒน์เปรียบเปรยว่าประเทศไทยเปรียบเสมือนบ้าน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเปรียบเสมือนพ่อผู้เจริญรอยตามบรรพบุรุษของท่าน เสียสละให้กับบ้านเมืองด้วยการทุ่มเททำงานเพื่อทุกคนในบ้านอย่างไม่รู้เหน็ดเหนื่อย
ถ้ามีใครสักคนโกรธใครมาก็ไม่รู้ ไม่ได้ดั่งใจเรื่องอะไรมาก็ไม่รู้ แล้วก็พาลมาลงที่พ่อ เกลียดพ่อ ด่าพ่อ คิดจะไล่พ่อออกจากบ้าน ผมจะเดินไปบอกกับคนคนนั้นว่า ถ้าเกลียดพ่อ ไม่รักพ่อแล้ว จงออกไปจากที่นี่ซะ เพราะที่นี่คือบ้านของพ่อ เพราะที่นี่คือแผ่นดินของพ่อ
ผมรักในหลวงครับ
เขาประกาศท่ามกลางเสียงปรบมือดังกระหึ่ม และผมเชื่อว่าทุกคนที่อยู่ในที่นี้รักในหลวงเหมือนกัน พวกเราสีเดียวกันครับ ศีรษะนี้มอบให้พระเจ้าแผ่นดิน! ฉันขอสารภาพว่า สิ่งที่เขาพูดนั้นทำให้ฉันน้ำตาคลอเหมือนกัน
ฉันมีคำสารภาพอีกเรื่องหนึ่ง ถึงแม้ว่าฉันจะคับแค้นใจเหมือนกับคุณพงษ์พัฒน์ที่ในหลวงทรงถูกกล่าวหาอย่างไม่เป็นธรรมจากข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลความจริง รวมทั้งการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพและถ้อยคำที่มีแต่ความเกลียดชัง ฉันก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีแก้ปัญหาแบบ จงออกไปจากที่นี่ ของเขาซึ่งดูเหมือนว่าจะโดนใจผู้คนจำนวนมาก
วิธีแก้ปัญหาของคุณพงษ์พัฒน์คือความเชื่อที่ว่า ถ้าเราไม่ชอบอะไร วิธีแก้ปัญหาแบบง่ายๆ ก็คือกำจัดมันไปซะ ความคิดแบบนี้คือรากฐานของการเมืองที่ขัดแย้งแตกแยกอย่างรุนแรง การเมืองที่กำลังทำลายประเทศของเราอยู่ในขณะนี้
ความรุนแรงไม่มีวันสิ้นสุด ถ้าเราไม่เชื่อว่าความรุนแรง รังแต่จะนำมาซึ่งความรุนแรง
ฉันก็เหมือนกับคนรุ่นเดียวกับฉันส่วนใหญ่ ตรงที่เติบโตมากับความเคารพในหลวงอย่างลึกซึ้ง สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงตรากตรำทำงานตลอดพระชนม์ชีพเพื่อผู้อ่อนแอและผู้ยากไร้ในประเทศนี้ และในการที่ทรงเป็นเสาแห่งทศพิธราชธรรมและความดีงาม ในห้วงยามที่สังคมเราถูกคอร์รัปชั่นบ่อนเซาะ และเราเองก็กำลังจมดิ่งลงไปในปลักความเป็นปัจเจกที่เห็นแก่ตัว
เป็นเรื่องน่าแค้นใจที่เห็นคนที่เรารักถูกโจมตีอย่างโหดร้าย แต่วุฒิภาวะของเรานั้นวัดจากการกระทำของเรา ความอดทนอดกลั้นคือวุฒิภาวะ ความพยายามที่จะทบทวนกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพเพื่อรับประกันว่าเราจะสามารถถกเถียงกันได้อย่างมีเหตุมีผลภายในขอบเขตของความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมนั้นคือวุฒิภาวะ การกำจัดไม่ใช่วุฒิภาวะ
เพราะประเทศนั้นเป็นมากกว่าบ้าน ประเทศประกอบด้วยคนต่างวัฒนธรรม ความเชื่อ และความคับแค้นใจ เมื่อใดที่เกิดความขัดแย้งทางความคิดและอุดมการณ์ เราไม่สามารถทำแค่เตะคนที่เราไม่ชอบออกไปจากบ้าน
ถ้าเราเคารพในหลวงจริงๆ เราก็จะต้องเคารพวิถีทางที่มีไมตรีจิตต่อคนทุกหมู่เหล่าของพระองค์ด้วย
สมัยที่ประเทศนี้ถูกสั่นคลอนด้วยขบวนการคอมมิวนิสต์ในทศวรรษ 2510-2520 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเสด็จพระราชดำเนินไปยังเขตอันตรายเพื่อช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งคนที่คล้อยตามแนวคิดของคอมมิวนิสต์ด้วย
สมัยที่ชาวเขาถูกสังคมประณามว่าเป็นผู้ค้ายาเสพติดและผู้ทำลายป่า ในหลวงทรงแนะนำพวกเขาให้ปลูกพืชทดแทน ส่งเสริมให้พวกเขาได้รับสัญชาติไทย
และตรัสเรื่องสิทธิในที่ดินของบรรพบุรุษ สมัยที่ความรุนแรงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ปะทุขึ้น คำแนะนำของพระองค์คือให้เราหยิบยื่นความเป็นมิตร พยายามเข้าใจความเดือดร้อนของผู้คน และช่วยเหลือพวกเขา
สังคมกระแสหลักมองกลุ่มคนชายขอบเหล่านี้ว่าเป็นคนนอก กระทั่งมองว่าเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของชาติ แต่วิถีทางของในหลวงนั้น เป็นวิถีแห่งไมตรีจิต และความเมตตาเสมอมา...
======================== ข่าวอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ========================
ไขเบื้องหลัง "ออฟ-พงษ์พัฒน์" ขึ้นเวทีลั่น "จงออกไปจากที่นี่" โยงคอนเน็กชั่นลึกพรรค "ประชาธิปัตย์" http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=milansheva&month=05-2010&date=26&group=5&gblog=89
"ดร.สุเมธ"ชี้แจง อ้างอิงพระราชดำรัส The King Can Do No Wrong เกิดขึ้นหลายปีแล้ว..ไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองหรือ สถานการณ์บ้านเมืองในปัจจุบัน ตามที่ 'ออฟ-พงษ์พัฒน์' นำไปอ้าง..แต่อย่างใด http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=milansheva&month=06-2010&date=07&group=5&gblog=92
จากคุณ |
:
Milan Sheva
|
เขียนเมื่อ |
:
24 มิ.ย. 53 16:51:56
A:110.49.13.117 X:
|
|
|
|  |