ถ้ารู้ว่าอ่านประวัติศาสตร์แลัวทำให้คิดมากแบบนี้ ยอมเป็นกบในกะลาเหมือนเดิมดีกว่า
|
|
แต่มันสายไปแล้ว หลวมตัวมาขนาดนี้คงถอนตัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ กลับมาบ้านที่อ่างทองจึงถือโอกาสไปรื้อหนังสือเก่าๆมาอ่าน หยิบได้เล่มนี้ "เบื้องหลังกรณีสวรรคตรัชกาลที่ 8" ความรู้สึกที่หยิบมาอ่านครั้งนี้กับครั้งแรกอย่างกันสิ้นเชิง หนังสือเล่มนี้ถ้ามองในแง่ร้าย ก็ต้องบอกว่าเหมาะแก่ผู้ที่หลงเชื่ออะไรง่ายๆโดยไร้ซึ่งตรรกะและเหตุผล เหมือนกับระบบการเรียนการสอนของเราที่สอนให้ตั้งใจและเชื่อฟัง แต่ถ้ามองในแง่ดี ถือว่ามีประโยชน์ในแง่ของการกระตุ้นความสนใจทางประวัติศาสตร์ได้เป็นอย่างดี ถึงเงื่อนงำและความไม่ชอบมาพากลบางประการ ก่อให้เราเกิดความสงสัยและพยายามค้นหาคำตอบเพิ่มเติม สำหรับข้าพเจ้าแล้วหนังสือเล่มนี้ทำให้ข้าพเจ้ารู้จักคนสามคนที่ไม่ว่าตำราเล่มไหนของกระทรวงศึกษาธิการก็จะไม่มีทางเอ่ยเอื้อนชื่อของเขาเหล่านี้ให้เราได้ยิน ได้แก่ "นายเฉลียว ปทุมรศ นายบุศย์ ปัทมศริน และนายชิต สิงหเสนี" ผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียสละชีวิตของตน (ข้าพเจ้าไม่แน่ใจว่าเป็นไปด้วยความเต็มใจหรือไม่ ลองถามตัวท่านดูว่าท่านจะยอม "ตาย" ได้บ้างเพื่อสิ่งใด) เพื่อสังเวยให้แก่อำนาจของชนชั้นปกครอง ความดีอีกอย่างที่หาได้จากหนังสือเล่มนี้ก็คือ มันทำให้ข้าพเจ้าเริ่มสนใจอยากรู้จักรัฐบุรุษอาวุโส บุคคลซึ่งได้รับการยกย่องจากองค์การยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญ ของโลก "นายปรีดี พนมยงค์" ผู้ซึ่งอุทิศตนเพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติอย่างมากมาย แต่สุดท้ายท่านได้รับการตอบแทนโดยการใส่ร้ายว่า "นายปรีดีฆ่าในหลวง" และต้องหลบหนีออกนอกประเทศจากการรัฐประหารอันแสนอัปยศในปี พ.ศ. 2490 เราสูญเสียชีวิตผู้บริสุทธิ์ในเหตุการณ์สวรรคตครั้งนี้ไป 3 ราย แต่นับจากนั้นเราได้ผู้นำสามคนที่มาจากการรัฐประหาร และปกครองประเทศแบบเผด็จการ อันได้แก่ "ป. พิบูลสงคราม ส. ธนรัตน์ และ ถ. กิตติขจร" และเจตนารมณ์แห่งเผด็จการและการกดขี่ ปิดหูปิดตาประชาชนยังคงสืบทอดมาตราบจนทุกวันนี้ ขอรำลึกถึงความเสียสละของ นายเฉลียว ปทุมรศ นายบุศย์ ปัทมศริน และนายชิต สิงหเสนี รวมถึงท่านปรีดี พนมยงค์ และขอไว้อาลัยแด่ประเทศไทยที่เรายังหลอกตัวเองกันมาจนถึงทุกวันนี้ ข้าพเจ้าจะพึงระลึกไว้ว่าทำดีจงอย่าหวังว่าจะได้สิ่งดีตอบแทน แต่ให้ทำดีเพราะเราเป็นคนดีและเราอยากจะทำ
จากคุณ |
:
sunk_t
|
เขียนเมื่อ |
:
วันแม่แห่งชาติ 53 13:04:37
A:115.67.116.1 X:
|
|
|
|