Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
[รักคนเสื้อแดง] ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่เทป แต่มันอยู่ที่เนื้อหาว่าไปจริงและมีการพูดโยงถึงทักษิณจริง  

ตั้งแต่ที่มีข่าวว่ามีเทปบันทึกการสนทนาอยู่ที่ภรรยานายบูท ตัวผมเองยังไม่เชื่อว่ามีเทปนั้นอยู่จริง จากการวิเคราะห์ข่าวส่วนตัว ผมเชื่อว่า การเข้าพบกันสองต่อสองระหว่างนายบูทและศิริโชค โดยมีเจ้าหน้าที่คนอื่นยืนอยู่ด้วย จะมีการบันทึกที่เกิดจากนายบูทมีความเป็นไปไม่ได้เลย มันเป็นการยากมากที่นักโทษจะมีและใช้หรือแอบพกซ่อนเครื่องบันทึกเสียงติดตัว และสามารถทำการบันทึกเสียงนั้น แถมยังนำเทปออกมาให้บุคคลภายนอกซึ่งเป็นภรรยาได้ โดยที่เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไม่รู้ ถ้าจะเกิดขึ้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้แค่ในหนังกับนวนิยาย ในทางกลับกันฝ่ายที่จะสามารถมีและใช้หรือแอบพกซ่อนเครื่องบันทึกเสียงคือฝ่ายนายศิริโชค แต่ก็เป็นไปไม่ได้อีกเช่นกันที่นายศิริโชคบันทึกเสียงการสนทนาแล้วจะนำเทปไปมอบให้นายบูทหรือภรรยาซึ่งเป็นบุคคลที่สามที่ไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ในวันนั้น

กรณีการให้ข่าวว่ามีเทปซึ่งน่าจะเป็นความผิดพลาดที่เกิดจากอุปสรรคของการสื่อสาร[1][2] ผู้ส่งสาร ผู้รับสาร สาร สื่อ ภาษา เวลาและสภาพแวดล้อม ที่ผู้รับสารเช่นนายจตุพรผู้ซึ่งออกมาให้ข่าวอาจจะไม่รู้ว่าเทปมีจริงหรือไม่ ซึ่งเรื่องเทปผมถือเป็นประเด็นรอง ถ้าความสำคัญของเนื้อหาที่เป็นประเด็นหลักยังคงอยู่ครบถ้วน แต่กรณีการอ้างว่ามีเทปที่เป็นประเด็นรองนี้กลับกลายเป็นประโยชน์ส่งเสริมประเด็นหลัก กลายเป็นเทคนิคโดยปริยายที่ใช้เป็นเหยื่อล่อให้คู่กรณีตกหลุมพรางออกมางับยอมรับว่าไปจริง  เพราะคู่กรณีย่อมรู้ดีตามข้อวิเคราะห์ของผมข้างบนด้วยเหตุผลที่ว่า ตนเองเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์และเป็นไปไม่ได้เลยที่นายบูทจะมีและใช้หรือพกแอบซ่อนเครื่องบันทึกเสียงติดตัว จึงร้อนตัวออกมารับคำท้า ซึ่งถือเป็นอาการกินปูนร้อนท้องออกมาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาผ่านโทรทัศน์ ยืนยันน้ำหนักของเนื้อหาที่ถูกเปิดโปงไปโดยไม่รู้ตัว

ประเด็นสาระสำคัญของ "สาร" ที่นายจตุพรนำมาพูดเชิงถามหาความจริงน่าจะอยู่ที่ว่า
1. มีการพบกันระหว่างนายบูทและนายศิริโชคซึ่งเป็นคนใกล้ชิดนายกในเรือนจำจริงหรือไม่
2. บทสนทนามีเนื้อหาที่เกี่ยวโยงอดีตนายกฯทักษิณจริงหรือไม่

ผลสุดท้ายจะเป็นอย่างไร ทุกคนก็คงได้รับทราบจากการออกมาแถลงของภรรยานายบูทเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นสังคมก็จะเป็นตัวตัดสินเองว่าใคร พูดจริง พูดเท็จอย่างไร ใครโกหก ใครไม่ยอมรับ ใครเบี่ยงเบนก็ว่าตามไปพื้นฐานทางความคิดที่แต่ละคนมีอยู่



แต่ที่ผมสนใจคือประโยคเชิงคำถามที่เพื่อนสมาชิกท่านหนึ่งเอ่ยถามขึ้นมาว่า เรื่องมันเกิดมานานแล้ว ทำไมจตุพรเพิ่งมาพูดเอาตอนนี้  สำหรับคำตอบของผม ผมคิดว่าเราต้องไปดูเงื่อนไขของเวลาและสถานการณ์ในช่วงนั้น รวมถึงบทบาทของนายจตุพรครับว่ามีอะไรเกิดขึ้น ใคร ทำอะไร ที่ไหน อย่างไร ซึ่งผมจะขอยกมาประกอบสั้นๆ เท่าที่จำเป็นดังนี้

14 เมษายน
  • คนเสื้อแดงประกาศยุบเวทีผ่านฟ้าเหลือเวทีราชประสงค์ที่เดียวและประกาศล้มเลิกบุกราบ 11
15 เมษายน
  • ศอฉ.ออกคำสั่งเรียกนักการเมืองนักธุรกิจครึ่งร้อยเข้ารายงานตัวรอบแรก
16 เมษายน
  • เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังปิดล้อมเอสซีปาร์ค บุกรวบอริสมันต์แต่คว้าน้ำเหลว
  • อภิสิทธิ์แถลงยกสถานการณ์เป็นก่อการร้าย ตั้งอนุพงษ์เป็นผู้รับผิดชอบคุมกำลังแทน
สองสามวันให้หลังๆ
  • ศอฉ.เริ่มส่งเจ้าหน้าที่ขึ้นไปประจำบนตึกสูง // เสื้อแดงติดแสลนหน้าเวที
  • พันธมิตรออกมาขู่ถ้ารัฐไม่สามารถจัดการกับคนเสื้อแดงภายใน 7 วัน พันธมิตรจะออกมาจัดการเอง
  • จนกระทั่งที่ชุมนุมกลุ่มคนเสื้อหลากสีถูกยิงระเบิดM79 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน และตึกจุฬาก็เป็นสถานที่หนึ่งที่ต้องสงสัยว่าเป็นที่ใช้ยิงM79

เกริ่นนำ

10 เมษา 53 ถือเป็นปฐมบทแรกของโศกนาฎกรรมทางการเมืองใน ทั้งก่อนและหลังที่จะเกิดเหตุการณ์นองเลือดที่แยกคอกวัวและถนนดินสอหน้าโรงเรียนสตรีวิทย์ แก๊งไอติมได้เปลี่ยนกรมทหารราบที่ 11 ทำเป็นที่ทั้งที่ตั้งในการทำงานของศูนย์ไอติมเฉพาะกิจ(ศอฉ.) และเป็นที่นอนหลับพักผ่อนของสมาชิกในแก๊งไอติม ในสถานการณ์ที่คับขันที่แก๊งไอติมได้เป็นผู้ร่วมก่อให้เกิดโศกนาฎกรรมทางการเมือง มันเป็นการไม่ปรกติที่หนึ่งในสมาชิกแก๊งไอติมดูโอคู่หูท่านนาย(ก)อภิสิทธิ์ จะใช้วิชาไร้เงา แยกร่างปลีกกายออกจากศูนย์ไอติมทิ้งท่านาย(ก)อภิสิทธิ์เผชิญวิกฤตคนเสื้อแดงอยู่ในศูนย์ไอติมตามลำพัง เพื่อกระทำการส่วนตัวปฏิบัติภารกิจสส.เข้าคุกเพื่อชาติ ทำหน้าที่ฝ่ายค้านพร้อมกับสวมวิญญานสก็อตแลนยาร์ดไปหานายบูทตามล่าหาความจริง โดยที่สมาชิกแก๊งไอติมแม้กระทั่งหัวหน้าแก๊งที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันในศูนย์ไอติมเฉพาะกิจ ก็ไม่อาจล่วงรู้ระแคระคายได้เลยทั้งที่ทั้งหมดไปร่วมทุกข์ร่วมสุขกันที่นั่น

เข้าเรื่องตอบคำถาม

เมื่อพลิกดูปฏิทินวันเวลาอย่างย่อในช่วงเวลาดังกล่าว ในระหว่างที่คนเสื้อแดงกำลังตกอยู่ในความเศร้า ความเคลื่อนไหวของศูนย์ไอติมเฉพาะกิจเองที่มีใช้มาตรการเชิงรุกเพื่อกดดันในทุกด้าน มีการเรียกผู้ต้องสงสัยว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมเข้ารายงานตัว จนไปถึงภารกิจบุกจับอริสมันต์ เราจะเห็นได้ว่าทางศอฉ.แบ่งงานกันทำได้อย่างแยบยล หน่วยคุมกำลังทำหน้าที่ปราบ หน่วยโฆษณาชวนเชื่อก็เริ่มทำงานโดยใช้หัวข้อเรื่องการก่อการร้ายมาทำการชวนเชื่อสร้างภาพจุดให้ติด สร้างภาพลบให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมกลายเป็นกองกำลังติดอาวุธ และท้ายที่สำคัญที่สุดของศูนย์ไอติมคือการล็อคเป้าไปที่อดีตนายกฯทักษิณ ทำอย่างไรที่จะดึงอดีตนายกฯทักษิณให้เข้ามาเกี่ยวข้องในฐานะเป็นผู้สั่งการและบงการสูงสุด

สำหรับความเคลื่อนไหวของคนเสื้อแดงในขณะที่เกิดความระส่ำระส่ายขวัญเสียเพราะต้องสูญเสียพี่น้องมวลชนคนเสื้อแดง ข่าวที่บอกจะบุกราบ 11 ก็ไม่กล้าไป เพราะเกรงจะโดยสอย ข่าวที่บอกจะบุกไปสีลมก็ไม่กล้าเคลื่อน เพราะทหารเล่นขึ้นไปยืนบนสะพานตั้งท่าเล็งปืนพร้อมที่จะยิงอย่างขึงขัง มีการส่งเจ้าหน้าที่ติดอาวุธขึ้นไปประจำบนตึกสูง จนแกนนำต้องติดแสลนยักษ์(ตาข่าย)บริเวณหน้าเวทีเพื่อป้องกันการลอบยิงจากหน่วย sniper พอมีการเคลื่อนไหวมวลชนที่ใดก็จะถูกม้าเร็วของทหารเข้าจัดการอย่างเฉียบขาด อาทิ ปทุมธานีโมเดล และอนุสรณ์สถานโมเดล

ยิ่งเมื่อได้เห็นภาพ sniper พร้อมพลชี้เป้าบนสะพานลอยและรถ GMC ทหาร แกนนำก็หนาวไปถึงทรวง บางคนพรางตัวใส่วิก ใส่หมวกก็ว่ากันไป ความตายไม่เข้าใครออกใคร ตอนนั้นแค่คิดว่าจะออกมาตรวจตราพื้นที่โดยรอบ แกนนำหลักยังไม่กล้าโผล่หัวออกมา จะมีบ้างก็ส่งแกนนำตัวรองและตัวเล็กมาประจำการเป็นบางครั้ง

อีกทั้งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลังวันที่ 15 เมษา ก็ได้พัฒนาอย่างรวดเร็วปานจรวด ไม่ว่าจะเป็นการบุกจับอริสมันต์ ทหารส่งกองกำลังคุมพื้นที่สีลมและสวนลุม มีหน่วยม้าเร็วไล่จับคนเสื้อแดงที่จะเดินทางมาสมทบการชุมนุม มีพวกพันธมิตรออกมาขู่ฟอดๆ ว่าจะเคลื่อนพลออกมา มีกลุ่มคนหลากสีออกมาเกาะกลุ่มป่วนกันถึงขอบสนามจนมีลูกระเบิดลง ทหารยิงกันเองตายที่อนุสรณ์สถานในขณะที่ขวัญชัยเผ่นหนีตายกลับราชประสงค์ ไล่ไปจนมีการบุกตรวจค้นโรงพยาบาลเพราะมีคนเห็นทหารอยู่ในนั้น จนบานปลายเปลี่ยนจากหนังสงครามกลายมาเป็นหนังดราม่าปรับอารมณ์กันแทบไม่ทัน ผลเสื้อแดงเละเป็นโจ๊ก

นี่ยังไม่นับรวมเหตุการณ์เดือนพฤษภาคมสังหารโหด นี่ผมไม่ได้อยากออกมาแก้ตัวให้จตุพรหรอกครับ แต่มันเป็นความจริงว่าแกนนำตอนนั้นจะรู้สึกอย่างไร ถูกบีบถูกกดดัน ถูกตัดเสบียง พี่น้องก็ต้องมาตายรายวัน ถ้าคุณเป็นจตุพรคุณจะมีเวลาไปทำอะไร สามารถไปทำตัวว่างเกาะติดความเคลื่อนไหวฝ่ายตรงข้ามได้เป็นรายคน

ที่สำคัญที่สุดจตุพรก็ไม่ได้เป็นเทวดาหรือทศกัณฑ์ที่จะมีอิทธิฤทธ์มีหูมีตานับสิบนับร้อยลอยไปลอยมา มีญานวิเศษหยั่งรู้ไปหมดทุกเรื่องใครทำอะไรที่ไหน เอาแค่เช้าวันที่ 16 หลังศิริโชคเข้าพบนายบูทวันที่ 15 จตุพรยังต้องมาลุ้นผ่านจอเอาใจช่วยคนเสื้อแดงให้ช่วยอริสมันต์ให้รอดเลย ดังนั้นการที่จตุพรรู้เรื่องบางสิ่งก็เพราะว่ามีคนมาบอกให้จตุพรรู้ ส่วนคนที่มาบอกจะบอกเวลาไหน ตอนไหน บอกช้า บอกเร็ว มันเป็นเรื่องของเขา จตุพรก็คงไม่สามารถจะไปรับรู้หรือเร่งให้เขามาบอกได้

คนเรามันมีสองมุม มีทั้งมุมถูกและมีมุมผิดควบคู่กันเสมอ สำหรับจตุพรต้นทุนอาจจะไม่มี เครดิตอาจจะเสียบ้างจากข้อมูลบางเรื่องที่ไม่จริงในอดีต แต่ข้อมูลหลายเรื่องเมื่อได้รับการพิสูจน์และยืนยันว่าเป็นจริงก็มีอยู่เยอะ การที่ไม่ปักใจเชื่อคุณจตุพรตั้งแต่ทีแรกถือเป็นสิ่งถูกต้องผมเห็นด้วย เราไม่ควรเชื่ออะไรในทันที แต่เมื่อมีการพิสูจน์และได้รับข้อมูลครบถ้วนจากทุกด้านแล้ว ถ้าใครก็ตามที่ยังปิดหูปิดตาตัวเอง เชียร์พวกเดียวกันเองแบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่มองความเป็นจริง ยึดมั่นถือมั่น นั่นเขาเรียกว่าคนมีอคติบังตา โดยเฉพาะพวกประเภทเสนอหน้าออกตัวล้อฟรีตั้งตัวเป็นองครักษ์พิทักษ์แก๊งไอติม รีบปกป้องกันเกินเหตุ ถูกจับได้ปากแข็งก็ยังไม่รับ พอจำนนด้วยหลักฐานก็พูดความจริงครึ่งเดียว หลังจากนั้นก็ตีกรรเชียงเบี่ยงประเด็นดราม่าไปเรื่องอื่นตามฟอร์ม

อีกจำพวกก็พวกเอออวยยกยอปอปั้นกันเกินงามยกย่องหัวหน้าแก๊งไอติมแสดงวิสัยทัศน์เป็นผู้นำระดับโลกด้วยผลงานมาสเตอร์พีซตบหน้าผู้นำมหาอำนาจอย่างรัสเซียและสหรัฐ ผมอ่านแล้วก็ขำกลิ้ง ตอนพณฯท่านเป็นประธานอาเซียนยังแทบเอาตัวไม่รอด คนมาร่วมประชุมยังร้องไห้อกสั่นขวัญแขวน ยิ่งนึกภาพนายกษิตถูกแบกลงทะเลยิ่งฮา แถมผู้นำระดับโลกก็ถูกประชาชนชาวไทยแสดงความรักซะจนบ้านถูกปาขี้ทำแฮตทริก

พอถึงเดือนเมษาก็ต้องย้ายบ้านหนีไปอยู่ในค่ายทหาร ใช้ฮอมากกว่าใช้รถ จะทำข่าว ทำรายการ แถลงอะไรก็ต้องยกกองถ่ายไปที่ศูนย์ไอติม จะเดินทางไปไหนต้องยกทหารทั้งกองพลตำรวจหลายกองร้อยไปคุ้มกัน ประเทศไทยพื้นที่กว่าค่อนประเทศตอนนี้ยังไม่กล้าไปเหยียบ คิดจะใช้ชีวิตแบบปุถุชนคนธรรมดาเดินตลาดเดินห้างตามลำพังแบบอดีตนายกฯสมัครและอดีตนายกฯทักษิณในตอนที่มีการประท้วงเหมือนกัน ผู้นำระดับโลกคนนี้ยังทำไม่ได้เลย สุดท้ายไม่อยากจะนึกภาพ เมื่อถึงวันนั้นวันที่ผู้นำระดับโลกคนนี้จะต้องก้าวลงจากอำนาจโดยปราศจากคนที่จะดันให้เป็นต่อ ผู้นำระดับโลกคนนี้จะใช้ชีวิตได้เหมือนคนสามัญธรรมดาเดินดินได้เยี่ยงไร

แก้ไขเมื่อ 28 ส.ค. 53 23:05:43

จากคุณ : สิงห์สนามหลวง
เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 53 22:56:12 A:58.8.183.64 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com