นี่หรือธรรมะขั้นเทพ????....ตอบคุณอดิศร1...และขอแย้งคุณซอนต๊อก..{แตกประเด็นจาก P9664218}

พอคุยเรื่องธรรมะ..ผมต้องขอมีส่วนด้วยไม่มากก็น้อย...
ยิ่งได้รู้ว่า..เป็นธรรมะขั้นเทพ...ยิ่งอยากรู้จักเป็นธรรมดา...
เพราะทุกวันนี้..บางทีก็ไปพบแต่ธรรมะเพี้ยนๆ..จะหาธรรมะที่ถึงแก่นพุทธศาสนานั้น..ยากนัก...
จึงตามคุณ ไทรันโนซอรัส..เข้าไปอ่าน...
โห..โห..ไปพบปัจฉิมโอวาทด้วย...ตามนี้...(ยกมาทั้งหมดเลย..)


หมายเหตุ : ก่อนเสด็จปรินิพพานทรงตรัสเตือนมนุษย์ทุกคนบนโลกว่า
" เธอจงยังประโยชน์ต่อตนเองและผู้อื่นให้ถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด"
หรืออาจแปลได้อีกอย่างว่า
" เธอจงไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ด้วยความมีสติและไม่กระทำการใดๆ ด้วยความประมาท"

โถๆๆ...นี่หรือขั้นเทพ..แค่เริ่มต้นก็ผิดอย่างมหันต์ แถมดัดแปลงขั้นสองอีกต่างหาก...
เพื่อได้รับทั้งอรรถและพยัญชนะผมยกบทสวดมนต์มาเลย.....
ที่องค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรัส...เป็นเช่นนี้ครับ...

หันทะทานิ ภิกขะเว อามันตะยามิ โว  
ดูก่อน..ภิกษุทั้งหลาย..บัดนี้..
เราขอเตือนท่านทั้งหลายว่า....

วะยะธัมมา สังขารา
สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา

อัปปะมาเทนะ สัมปาเทถะ
ท่านทั้งหลาย จงทำความไม่ประมาทให้ถึงพร้อมเถิด

อะยัง ตะถาคะตัสสะ ปัจฉิมา วาจา.
นี่เป็นพระวาจามีในครั้งสุดท้ายของ พระคถาคตเจ้า.
(หนังสือธรรมะสวดมนต์แปล วัดหนองป่าพง หน้า 105)

ผมอ่านกลับไปกลับมาหลายเที่ยว ก็รู้สึกว่า คุณจะหยิบคำพูดใส่พระโอษฐ์...
ดัดแปลงปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า ซึ่งไม่สมควรยิ่ง...

ปกติแล้วเวลาพระท่านจะยกธรรมะข้อนี้มา..จะได้ 2 บรรทัดแค่นี้ครับ...

"สังขารทั้งหลายมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา..ท่านทั้งหลายจงถึงพร้อมด้วยความไม่ประมาทเถิด...."

ผมขอให้คุณ  L&L เข้าใจใหม่ด้วยครับ...ไม่งั้นจะนำไปบอกคนอื่นผิดๆ..จะบาปนะครับ(นรกกินกบาล)...
เรื่องนำธรรมะไปสอนผิดๆหลวงพ่อชาท่านเคยเล่าให้ฟังว่า...

เมื่อครั้งท่านธุดงค์ไปพบพระอาจารย์ชาวกัมพูชาองค์หนึ่ง...
หลังจากเสวนาธรรมกันพอสมควร...หลวงพ่อชาก็ขอตัวแยกขึ้นไปจำวัดบนเขา...
คืนนั้นขณะที่กำลังเดินจงกรมอยู่...ก็ได้ยินเสียงเหมือนคนบุกป่าขึ้นมาหา...
ปรากฏว่า เป็นพระชาวกัมพูชารูปนั้นองค์นั้น...
หลวงพ่อชาตกใจ ถามว่า.."ท่านอาจารย์มีธุระอะไรหรือครับ จึงขึ้นมาหาดึกๆดื่นๆ..???"
พระอาจาย์ชาวกัมพูชาตอบว่า..."ผมบอกวินัยท่านผิดไปข้อหนึ่ง.."
"..ท่านอาจารย์ไม่ควรลำบากขนาดนี้เลย ไฟส่องทางก็ไม่มี เอาไว้พรุ่งนี้ก็บอกผมใหม่ก็ได้ครับ..."หลวงพ่อชากราบเรียนด้วยความเกรงใจ...
"ไม่ได้ๆ เกิดผมตายไปคืนนี้ ท่านนำไปสอนคนอื่นผิดๆอีก เป็นบาปเป็นกรรมเปล่าๆ.."พระอาจารย์ชาวกัมพูชากล่าว...
(จากหนังสือ อุปลมณี หน้า 19)

ส่วนเรื่องที่ท่านถามว่า..มาชุมนุมนั้นอยู่ในบัญญัติข้อไหนของพระพุทธเจ้านั้น...
อยากตอบว่า...การชุมนุมนั้นเป็นเรื่องทางโลก...ซ่ึงพระองค์ไม่ได้สอนให้ยุ่งเกี่ยว..
คำสอนที่เกี่ยวข้องกับทางโลกอยู่บ้าง ก็คือ มรรค8 ...ที่ทรงสอนพุทธมามกะให้ดำเนินชีวิตทางโลกให้ถูกต้อง...
อย่านำธรรมะ มาเที่ยวปรามคนอื่นโดยไม่ได้ดูเนื้อแท้เลย...

ส่วนคำตอบอื่นๆนั้น ผมคิดว่า หลายๆท่าน ได้ตอบไปค่อนข้างชัดเจนแล้ว...


......................................................................................................................................................

ตอบคุณอดิศร1 ครับ...

การทำนามี 2 ขนิดครับ..นาปี กับ นาปรัง..
นาปี อาศัยน้ำฝน(ซึ่งเป็นการทำนาส่วนใหญ่ในประเทศนี้..)..นาปรังอาศัยน้ำจากชลประทาน...

การทำนาปี..ต้องเริ่มไถ เมื่อฝนเริ่มมา และตกกล้าประมาณต้นพฤษภา และไปดำเอาประมาณ มิถุนา หรือ กลางๆกรกฏาคม..
พอปลายๆตุลาหรือ ต้นพฤศจิกา ก็เริ่มเก็บเกี่ยวได้ครับ..
ข้าวนาปีจะมีอายุ 90-120 วัน..แต่อย่างไรก็ตาม ข้าวนาปีเป็นข้าวที่ไวต่อแสง..
นั่นคือจะปลูกเดือนไหนก็ตาม เช่นปีนี้ปลูกปลายสิหาเพราะฝนมาช้า...
พอถึงเดือน พฤศจิกา ข้าวก็จะออกรวงเพราะวันสั้น(เข้าหน้าหนาว)ดังนั้นผลผลิตจึงได้น้อยกว่าปกติ...
ไม่เหมือนข้าวนาปรัง(ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ข้าวเบา)มีอายุ 90 วัน สามารถปลูกได้ปีละ 3 หน...

ผมเล่าตามที่รู้มานะครับ อาจจะคลาดเคลื่อน ต้องขออภัย..(อิอิอิ บอกแล้วว่าเป็น พ่อค้าไม่ใช่ลูกชาวนา..)
รอผู้รู้จริงมาเสริมครับ....

............................................................................................................................................................................

ผมมีเพื่อนเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์...ระยะนี้น่าสงสารอย่างยิ่ง..
กับ ข่าวที่ออกมาไม่ขาดระยะ ของ นายศิริโชค โสภา..ที่ชักจะกลายเป็น อัปโชค ไม่โสภา...
เค้าบอกว่า..อยู่เฉยๆก็ดีแล้ว..ยิ่งพูดยิ่งเข้าเนื้อ เข้าพรรค..และเข้านายก...
ทำไปทำมา..ตอนนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ข่าวไปทั่วโลก..
รัฐบาลไทยก็เลยหาทางออกไม่ได้ว่า..จะส่งนายบูตให้ใครดี...ระหว่าง 2 มหาอำนาจ...
เกิดจากการอยากเอาความผิดให้นายกทักษิณ แท้ๆ...
เลยหากะไดปีนลงไม่ได้....
แต่ที่ผม รู้สึกว่า เพื่อนคนนี้ยังพอคบได้เพราะมีความละอายใจที่มีการบิดเบือนอย่างไม่หยุดยั้งของฝ่ายตน...
จนผมประหลาดใจว่า...คนในห้องนี้ที่..พยายาม แถ..โดยไม่ละอายใจนั้น..
เพราะคิดว่า คนอื่นโง่อย่างยิ่ง..หรือ เพราะความดื้อด้านที่จะเอาชนะเท่านั้น...

......................................................................................................................................................................

มาอ่านกระทู้ของคุณซอนต๊อก ยิ่งงงกับการไม่ยอมรับความจริง...
ถึงกับสรุปว่า..ในยุคนายกทักษิณนั้นจะทำให้ประเทศเหลือแต่กระดูก....
ขอหัวเราะด้วยความเศร้าใจ...
แมัคนคนหูหนวกตาบอดยังรู้ว่า...ยุคนายกทักษิณเป็นยุคที่ไทยเจริญสุดขีด...
อย่างน้อยๆความเจริญในยุคนั้นก็ยังหลงเหลือให้เห็นในวันนี้...
เช่น สนามบินสุวรรณภูมิ..แอร์พอร์ตลิงค์..สะพานลอยฟ้าพระปะแดง..วงแหวนรอบนอก..ฯลฯ
แถมมีเงินคงคลังให้ประเทศไทยจนวันนี้ก้าวมาอันดับ 12 ของโลก..
แตกต่างจากยุคนี้ ที่กู้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย...
โดยไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น นอกจากข่าวทุจริต...แบบโจ๋งครึม
นี่เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผม งง กับคนในห้องนี้...
ว่าหูไม่หนวก ตาไม่บอด แต่ จิตใจมืดบอด โดยแท้......

..........................................................................................................................................................................

ขอส่งข่าวถึงคุณ สุดที่รัด เอ๋ย คุณหญ้าสีเขียว  และคุณ ป.ปาแปง..
ตั้งแต่วันนี้(8)ถึงวันที่ 14 การให้กิ๊ฟเป็นหน้าที่ผมครับ..
และอย่างไรก็ตาม..ขอขอบคุณทุกท่านๆที่ให้กิ๊ฟครับ.....

จากคุณ	: คนอุบล
เขียนเมื่อ	: 8 ก.ย. 53 06:18:36 A:112.142.110.90 X: