มีคนเปรยกับผมว่า ทำไมคุณทักษิณจึงมีคนรักมากและเกลียดเยอะ?

ผมก็เลยถือโอกาสนี้ ขอพูดถึงเรื่องนี้ในความคิดของผม ซึ่งเป็นความคิดส่วนตัวจริงๆ ไม่มีหลักฐานอ้างอิง ดังนั้นอาจจะถูกหรือผิดก็ได้ ก็แล้วแต่พิจารณากันเองก็แล้วกันนะครับ

ผมขอพูดถึงคนที่รักคุณทักษิณก่อนนะครับ แน่นอนครับ ย่อมเป็นผลงานที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม ไม่ว่ากรณีทำให้คนยากจนได้ลืมตาอ้าปาก จัดระเบียบผู้มีอิทธิพล ปราบปรามยาเสพติดอย่างเข้มข้น ลดปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด รักษามิตรภาพระหว่างประเทศเป็นอย่างดี ลดการระบาดของหวยใต้ดิน เพิ่มรายได้ให้กับประชาชน แน่นอนครับ นั่นก็เป็นการเพิ่มรายได้ให้กับรัฐตามไปด้วย เปลี่ยนแปลงระบบราชการ ที่เคยเช้าชามเย็นชามในอดีต กลายเป็นการทำงานเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ยังมีอื่นๆอีกมากมาย ที่เพื่อนๆสมาชิกก็ได้โพสท์มาแล้ว ซึ่งคงไม่ยากถ้าจะเสิร์ชหาจากในราชดำเนินแห่งนี้ ข้อสำคัญที่ลืมเสียไม่ได้ก็คือ ท่านเป็นคนแรกที่เล่นการเมืองตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ จริงอยู่มีทั้งสำเร็จและล้มเหลวคะเคล้ากันไป แต่ก็เป็นจุดเปลี่ยนของการเมืองไทย ที่การหาเสียงทุกวันนี้ต้องใช้นโยบายในการหาเสียง และต้องเป็นนโยบายที่จับต้องได้เป็นรูปธรรมเสียด้วย จะหาเสียงด้วยการโจมตีพรรคอื่น หรือแค่ซื้อเสียงคงไม่พอแล้วครับ

โดยส่วนตัวของผม ที่ผ่านนายกฯมาเป็นสิบๆคน ยังไม่เคยเห็นนายกฯคนไหนที่ทำงานมากมาย สร้างสีสันให้กับวงการเมืองไทยได้มากมายเท่า และผมยังคิดว่า ต่อให้นายกฯหลายๆท่านรวมกันก็ยังไม่มีผลงานเทียบเท่ากับท่านได้ ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่มีคนรักท่านมากมาย มีคนศรัทธาท่านมากกว่านายกฯที่ผ่านๆมา

แต่คนที่เกลียดท่านนี่สิ จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัย เพราะการแสดงถึงความเกลียด ไม่ใช่แค่การเกลียดเฉยๆ แต่เป็นเกลียดมากเกลียดมาย เกลียดถึงขั้นอยากให้ท่านตายก็มี เกลียดอย่างที่ไม่เคยเกลียดนายกฯคนใดๆมาก่อน แม้แต่นายกฯที่สั่งฆ่านักศึกษาในอดีต ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ผมคิดแล้วคิดอีก จนได้ข้อสรุปมาอย่างนี้ครับ

ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น ล้วนมาจากการโฆษณาชวนเชื่อทั้งหมด มีการกล่าวร้ายคุณทักษิณทุกๆวัน โดยทำกันเป็นขบวนการ ยังจำได้ว่า ช่วงนั้นไม่ว่า นักการเมืองฝ่ายค้านก็ดี สื่อฯที่สูญเสียผลประโยชน์ก็ดี นักวิชาการที่หวังผลในเรื่องลาภยศสรรเสริญก็ดี รวมทั้งเหล่าผู้ดีศรีสังคมทั้งหลาย พยายามปลุกปั่นให้เกิดกระแสความเกลียดชัง พยายามฝืนเสียงส่วนใหญ่ของประเทศ แล้วพร้อมใจกันตัดสินว่าคุณทักษิณเป็นคนเลว เป็นอสูรร้ายของประเทศ และเพราะการกระทำโดยไม่รับผิดชอบกับผลที่จะตามมาในภายหลัง นั่นแหละครับ ประเทศจึงต้องพบกับสถานการณ์อย่างที่เป็นอยู่

ทำไมผมจึงคิดอย่างนั้น ก็เพราะว่า หลังจากผ่านมาถึงวันนี้แล้ว ทุกอย่างก็แจ่มแจ้งในสายตาของผม ผมจะแสดงความคิดเห็นตามเวลาอันจำกัด และสมองอันอ่อนล้าเท่าที่คิดได้นะครับ

เรื่องทุจริต คอรัปชั่น ตอนนั้นมีคนยอมรับไม่ได้ จะเป็นจะตายก็เพราะเรื่องนี้ แต่ถามว่าในอดีตมีคนทุจริต มีการคอรัปชั่นหรือไม่ มันก็มีมาทุกยุคทุกสมัย ทำไมคนจึงไม่เกลียดเท่าคุณทักษิณ แม้กระทั่งปัจจุบัน ยิ่งมีการทุจริต คออย่างมโหฬาร มีการคอรัปชั่นอย่างโจ๋งครึ่มที่สุดตั้งแต่มีรัฐไทยมา มีการซื้อขายตำแหน่งกันเป็นหลักสิบล้าน ร้อยล้าน แต่สังคมก็อย่างอยู่เฉย นั่นแสดงให้เห็นว่า การเกลียดทักษิณมากมายนั้น ย่อมมาจากการปลุกเร้า การสร้างความเกลียดชังอย่างแท้จริง
เรื่องการแทรกแซงองค์กรต่างๆ การโยกย้ายญาติสนิทมิตรสหายเข้ารับตำแหน่งสำคัญ ที่ทำให้คนเกลียดทักษิณอย่างมาก ก็ไม่น่าใช่สาเหตุอีกต่อไป เพราะในขณะนี้ สิ่งต่างๆกำลังย้อนกลับมา และยังน่าเกลียดน่าชังยิ่งกว่าสมัยคุณทักษิณเสียด้วยซ้ำ เอากันแค่ ผบ.ทบ.ก็แล้วกัน ถ้าตอนนั้นคุณทักษิณไม่ตั้งคุณสนธิ คุณสนธิจะได้ทำรัฐประหารหรือไม่ หรือบางทีคนอาจคิดว่านั่นอาจเป็นตัวเร่งให้มีการทำรัฐประหารเร็วขึ้น แต่ก็คงไม่ง่ายนัก ถ้าคนของคุณทักษิณเป็นฝ่ายคุมกำลัง แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะ ขนาดไม่ได้ ผบ.ตร.ตามใจต้องการ ก็เลยปล่อยให้ ผบ.ตร.ว่างกันเป็นปี อย่างนี้ไม่ใช่เกิดจากลัทธิสร้างความเกลียดชังแล้วจะเกิดจากอะไร ใช่มั๊ยครับ

เรื่องการแทรกแซงสื่อฯ ที่ทุกคนออกมาประณามกันยกใหญ่ หาว่าเป็นการใช้อำนาจบาตรใหญ่กระทำอันขัดกับรัฐธรรมนูญ แล้วเดี๋ยวนี้ล่ะ ไม่เพียงแค่แทรกแซงสื่อ ยังกระทำอันขัดกับรัฐธรรมนูญอย่างชัดเจน ไม่ว่าการปิดสื่อฯที่มีความคิดเห็นต่างไปมากมาย ยังมีการปิดสื่อฯพร้อมทั้งยึดแท่นพิมพ์ ที่แม้แต่รัฐบาลที่เกิดจากการรัฐประหารยังไม่ทำกัน เว้นแต่รัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์เท่านั้น อย่างนี้ทำไมสังคมกลับยังเฉยเมย ที่น่าขำคือเรามีสมาคมสื่อฯที่ทำตัวเป็นหัวตอ ไม่รู้ร้อนรู้หนาว แล้วจะมีไปทำไมครับกับสมาคมสื่อฯ

แล้วก็มาถึงเรื่องหมิ่นสถาบัน เรื่องนี้คงไม่ต้องพูดอะไรมากนะครับ เพราะคนกล่าวหาก็ถูกตัดสินให้จำคุกไปแล้วหลายคน เพียงแต่ศาลยังปราณีให้แค่รอลงอาญา เพียงแต่ผมแปลกในเหลือเกินครับ อาจเป็นเพราะผมไม่เชี่ยวในเรื่องกฎบัตรกฎหมายก็เป็นได้ว่า ในเมื่อผิดไปหลายคดีเหลือเกิน ทำไมโทษยังเป็นแค่รอลงอาญา นี่ไม่ใช่การก้าวล่วงต่อศาลนะครับ เพียงแต่ไม่รู้จริงๆ พอมีใครทีรู้จริงอธิบายให้ความกระจ่างได้มั๊ยครับ

ส่วนอีกเรื่องที่ผมยังจำได้ ในตอนนี้เห็นพูดกันจังว่า คนขายก๋วยเตี๋ยวยังเสียภาษี แล้วนายกฯทำไมไม่เสียภาษี เรื่องนี้แหละเกือบเป็นจุดตายของคุณทักษิณ เพราะการบิดเบือนอย่างเป็นระบบ ไม่ผิดเพี้ยนกับสมัยมีคนไปตะโกนในโรงหนังใส่ร้ายท่านปรีดี และสังคมก็พูดกันวงกว้าง แม้กระทั่งพี่สาวผมเอง ยังมาพูดเลยครับ (ตอนนั้นพี่สาวผมทั้งบ้านเป็นเหลืองกันหมดครับ เพราะดูเคเบิ้ลทีวีช่องหนึ่งที่ใส่ร้ายคุณทักษิณเป็นรายวัน โดยไม่ผิดกฎหมาย) ผมก็เลยตอบพี่สาวไปอย่างง่ายๆ (ลืมบอกไปพี่สาวผมก็ขายก๋วยเตี๋ยวพอดี) “ลื้ออย่าไปเชื่อมากนักเลย อั๊วถามลื้อจริงๆเหอะ ลื้อขายก๋วยเตี๋ยวมาเป็นสิบๆปี เลยเคยเสียภาษีหรือเปล่า แล้วเพื่อนๆลื้อที่ขายของไม่ว่าจะเป็นข้าวแกง ผัก ผลไม้ ที่ขายกันเต็มซอย มีใครเคยเสียภาษีบ้างเหอ” พี่สาวผมอ้าปากหวอ เถียงต่อไปไม่ได้ หลังจากนั้น ก็คุยกันถึงเรื่องการเมืองอยู่บ่อยครั้ง และก็เป็นโชคดีของผม เพราะทุกวันนี้พี่สาวผมทั้งบ้านหูตาสว่างไสวกันหมดแล้ว ถึงแม้จะไม่ใช่เสื้อแดง แต่เลือกตั้งที่ผ่านมาก็เลือกแต่พรรคที่คิดว่าเป็นของคุณทักษิณ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมภูมิใจที่สุดเรื่องหนึ่งเชียวล่ะ

จากหลายเรื่องที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า การเกลียดคุณทักษิณไม่ได้เกลียดไปตามธรรมชาติ แต่เป็นการเกลียดจากการใส่ร้าย กระตุ้นยุยงทุกๆวัน ทำให้กระแสความเกลียดค่อยๆซึมซับเข้าสู่จิตใจ จากเริ่มเกลียดน้อยๆ กลายมาเป็นเกลียดมาก และสุดท้ายก็กลายเป็นเกลียดถึงขั้นไม่อยากอยู่ร่วมโลกกันเลย แน่นอนครับ คนที่เป็นกองเชียร์ของฝ่ายตรงข้ามคุณทักษิณก็มีอยู่ไม่น้อย คนกลุ่มนี้พร้อมจะทำตามอยู่แล้ว แต่คนอีกพวกสิครับ คนที่ไม่เคยสนใจกับการเมือง เมื่อได้ฟังทุกๆวันตามลัทธิการโฆษณาชวนเชื่อ ก็เลยหลงไปกับคำพูดที่กรอกใส่หูทุกวัน ไม่ต้องอื่นไกลเลยครับ ใครจะเชื่อว่า คุณไก่อูที่เพียงแค่ออกทีวีทุกวัน ทำตามหน้าที่ที่เจ้านายสั่งมา ยังเกิดกระแส ฮอตฮิตได้เพียงนี้ แล้วมีหรือที่คุณทักษิณจะไม่กลับกลายเป็นอสูรกาย เมื่อมีการกรอกใส่หูทุกวันๆแบบนั้น

แต่อย่างไรก็ตาม ผมก็ยังคงเชื่อของผมอยู่ดีว่า สักวันหนึ่ง เมื่อฟ้าใส สังคมกลับสู่ความปกติ ภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาเลือนหายไป เมื่อนั้นแหละครับ คนที่เคยเกลียดคุณทักษิณอาจต้องมารำพึงในใจว่า “เอ๊ ตอนนั้นเราทำไมจึงได้จงเกลียดจงชังนายกฯที่ทำงานเพื่อประเทศได้มากมายถึงเพียงนี้”

จากคุณ	: ทวดเอง
เขียนเมื่อ	: 15 ก.ย. 53 14:51:30 A:183.89.248.182 X: