เรียนคุณทวด นี่คงเป็นครั้งแรกสินะคะ ที่เราเห็นต่างกัน{แตกประเด็นจาก P9754670}
|
|
เรียนคุณทวด นี่คงเป็นครั้งแรกสินะคะ ที่เราเห็นต่างกัน (แต่ไม่แตกแยกนะคะ )
เรื่องดาราดัง เพื่อให้เขากับรรยากาศการเมือง จริงๆ แล้วตอนได้ข่าวหนูก็เริ่มตามเลยเหมือนกัน เพราะสงสัย เนื่องจากก่อนหน้าที่ฝ่ายหญิงจะให้สัมภาษณ์รายการเรื่องเล่าฯ ทางโทรศัพท์วันแรกเพียงวันเดียว คืนนั้นได้ดื่มกับน้องที่ไม่ได้เจอกันนาน (แบบไม่ตั้งใจ) เขามากับแฟนและแฟนเขาก็มีเพื่อนมาด้วย (แบบว่านัดกันแบบทางผ่าน คือ โทรหาแล้วบอกว่าอยู่แถวนี้จะมาเจอกันไหม)
ก็คุยกันตามประสาหญิงๆ (หนูกับน้อง) และชายๆ (แฟนเขากับเพื่อน) จู่ๆ หูเจ้าปัญหา ก็ดันได้ยินสองหนุ่มเมาท์กันเรื่อง อ. ฟังตอนแรกก็โกรธ ผู้ชายมาพูดแบบนี้ได้ไง กินในที่ลับไขในที่แจ้ง ไม่เชื่อค่ะ ไม่เชื่อ... แต่ก็แอบถามแฟนน้องว่าเขาเป็นใคร ทำไมมาพูดเรื่องนี้กับคนแปลกหน้า... (อย่างหนู)
และพอได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม...ก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่รู้จัก
จนพอรุ่งเช้า หลังจากได้ฟัง อ. ให้สัมภาษณ์ผ่านโทรศัพท์กับรายการเรื่องเล่า... สะดุดตรงประโยคที่ว่า "รักมาก ไม่คิดทำลายใคร..." ชวนให้รู้สึกว่า โอ้แม่เจ้า ทำไมการกระทำมันสวนทางกับคำพูด.... "ไม่คิดทำลาย แต่ไม่ยอมเข้ารับการตรวจสอบทางวิทยาศาสตร์กลับกระเตงลูกออกทีวี"
หนูตามข่าวนี้อยู่เกือบอาทิตย์ จึงได้รู้ว่า... ชื่อของเพื่อนของแฟนเพื่อนที่เพิ่งเจอเมื่อคืนก่อนก็เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัย ชาย 4 มีเอี่ยว ... ทำให้ฉุกคิดและเริ่มตามติดจน ลืม รดน. ไปเลยค่ะ
หลายอย่างดูไม่สมเหตุสมผล หลายอย่างดูสร้างภาพ หลายอย่างดูเหมาะเจาะ หลักฐานครบมือ หลายอย่างดูเรียกคะแนนความสงสาร...จนเกินงาม.....
เอาล่ะค่ะ WM อย่าเพิ่งลบกระทู้นี้นะคะ กำลังเข้าเรื่องแล้ว
หากเปรียบเทียบเหตุการณ์ทางการเมืองกับกรณีนี้ ทั้งสองอย่างถ้ามองให้ดีจะพบว่าดูสลับซับซ้อนกว่าที่เห็น คำนึงที่ถูกดึงมาใช้คือ "กระแสสังคม" และ "อารมณ์ร่วมทางมนุษยธรรม" สองคำนี้ถูกใช้ให้เป็นตัวตัดสินความถูกใจแทนความถูกต้อง
อ. มีหลายจุดที่น่าสงสัย ไม่เคลียร์ ไม่โปร่งใส ไม่สมเหตุสมผล ส่วน ฟ. ทื่อๆ เพราะถือคติ ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย ส่วน ฮฮ. ก็ติดกับวังวนตัวเองที่ย้ำหนักย้ำหนาว่า "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ใครที่ท้าทายกับความจริงไม่ รอดซักราย" ... ซึ่งทั้ง ฟ. และ ฮฮ.คงลืมไปว่า "คนพูดความจริงตายไปแล้วนับไม่ถ้วน" เหมือนกัน
เห็นได้จากกระแสที่ตีกลับ ฮฮ. บางคนถึงขั้นพูดว่า "แค่ผู้หญิงคนนึงต้องการพื้นที่ที่จะยืนได้ในสังคมจึงจำเป็นต้องโกหกเพื่อตัวเองและลูก ทำไมต้องขุดคุ้ยกันด้วย"
หลายท่านอาจมองว่า ฮฮ. และ ส. ช่องสาม มีอำนาจ รังแกเด็ก แต่หนูกลับมองว่า อ. มีอำนาจมากกว่า เพราะสามารถตีบทแตก ขยี้ อารมณ์มนุษยธรรม ของคนดู ได้กระจุย ทำให้ สังคม ลงดาบ ฟ. และ ฮ. ไปแล้ว ทั้งที่ๆ ไม่มีการพิสูจน์อะไรในคำพูดของ อ. เลย
เช่นเดียวกับเหตุการณ์กระชับพื้นที่ แม้ว่าชาวเสื้อแดงหรือคนอื่นๆ จะรู้ว่า คนของตนตายมากน้อยแค่ไหน ต่อให้แกนนำเสื้อแดงมีอิทธิพลต่อมวลชนมากแค่ไหน แต่ก็ยังโดนจับ "ขังลืม" โดยที่ มวลชนไม่สามารถช่วยอะไรพวกเขาได้ หลายคนติดตากับภาพทหารโดนทำร้าย บาดเจ็บเข้าโรงพยาบาล ภาพงานศพ การไว้อาลัยต่อการจากไป... ภาพเหล่านี้ฉายซ้ำ วนไปมา จากการแถลงของ ศอฉ. ผ่านช่องสาธารณ จนบดบังภาพอีกมุมมหนึ่ง ของ 91 ศพ และ บาดเจ็บ อีกกว่า 2000 ซึ่งผู้ชมส่วนหนึ่งเข้าใจไปแล้วว่า....เสื้อแดงใช้ความรุนแรง อ. ไม่ยอมตรวจ DNA เพราะอ้างว่า DNA อยู่บนหน้าลูกแล้ว ฟังแล้วชวนนึกถึง "การเผา" เซนทรัลเวิลด์" ที่ยังไม่มีการจับใคร แต่เพราะเหตุเกิดในพื้นที่การชุมนุมของคนเสื้อแดง ดังนั้น...เสื้อแดงนั่นแหละทำ หรือการขังลืมแกนนำเสื้อแดงโดยไม่สอบสวน เพราะทำผิดประกาศ พรก. ฉุกเฉิน ... ดังนั้นสมเหตุสมผลแล้วที่จะเป็นไปแบบนี้
ยิ่งไปกว่านั้น....วันนี้เห็น อ. ได้งานเพิ่มมากขึ้น ได้ลิขสิทธิ์ตีพิมพ์หนังสือตัวเองแบบทันทีทันควัน คล้ายวางพล็อตไว้แต่แรก ดังเป็นพลุแตก สมใจอยากชั่วข้ามคืน เพียงเพราะกระเตงลูกออกทีวี และบีบน้ำตา.. ทำให้นึกถึง พี่ไก่อู หลังเสร็จงานกระชับพื้นที่ ก็มีสิทธิ์เป็นดาราได้เลย เพราะกระชับออกอากาศบ่อยเสียจนสาวๆ กรี๊ดกร๊าด.. ด้วยอาการ ไก่อูฟีเวอร์
หรือ จ. ที่ออกมาปฏิเสธเสียงแข็งและพูดแนวทางเดียวกับ อ. เล่นตามน้ำของกระแสสังคม เลยได้รับยกย่องให้เป็น "แมนตัวจริง"
คล้ายกับ พีมาร์ค หลังจากกระชับพื้นที่ ก็กลายเป็น ดับเบิ้ลฮีโร่ของชาวกทม. ไปทันที พร้อมแคมเปญ ช็อปช่วยชาติและทำความสะอาดราชประสงค์+บ่อนไก่
โดยในสถานการณ์เดียวกันนี้ ที่ทำให้เกิดคนดัง...แบบนี้ อีกด้านหนึ่ง คนที่ดับคือ ฟ. ผู้ออกมายอมรับความจริง ตามาติดๆ คือ ฮฮ. ที่ดับเครื่องชนด้วยประเด็น "มาลัย 4 ชาย" เช่นเดียวกับคนเสื้อแดง ที่พยายามจะบอกความจริง เรื่อง "อำมาตย์"
เรื่องสื่อก็เหมือนกัน ข่าวของ อ. ยังคงปรากฎทำนอง "องค์กรสิทธ์ฯ เข้าปกป้อง" ให้เลิกมอง เลิกขุดคุ้ย ข่าวของฟิล์ม ไม่มีใครเชิญไปสัมภาษณ์หรือแก้ต่าง แม้กระทั่งกระทู้ที่มีมูลเหตุเชิงสอบสวน สืบสวน ถูกลบทิ้งไปเพียงเพราะบอกว่า "มนุษยธรรมอย่าขุดคุ้ยและรักเด็็ก"
เช่นเดียวกับข่าวของคนเสื้อแดง มาราชประสงค์เป้ฯหมื่น ออกข่าวไม่ถึง 1 นาที จนภาพเหล่านั้น เข้าขั้น "ของหายาก" เข้าไปทุกที
อุทาหรณ์สำหรับ ฟ. และ ฮฮ. หรือ คนเสื้อแดง ก็คือ "ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย" แต่การรู้เวลาที่จะพูดความจริงก็สำคัญไม่น้อยไปกว่าความจริงเสียเอง
======================
ช่วงนี้เครียดกับงานเลยเขียนไม่ค่อยออก คงเรียบเรียงได้ไม่ดี ขออภัยหากจะทำให้เพื่อนๆ เสื้อแดงรู้สึกขัดใจที่เราเปรียบเทียบกับคนที่สังคมตราหน้าว่า "ไม่เป็นลูกผู้ชายอย่าง ฮฮ. และ ฟ."
เราเพียงแค่นึกถึงว่า ถ้ามีน้องชาย หรือพี่ชาย อย่าง ฟ. นอกจากจะตำหนิตัวฟ. เข้าช่วยเหลือแม่และเด็กก่อนคลอดแล้ว... การที่จะให้ ฟ. รับผิดชอบตลอดไป... เราควรจะยืนอยู่ข้าง ฟ. ที่เป็นน้องชายหรือพี่ชายซักหน่อยด้วยไหม? ฟ. ที่ยอมรับสารภาพทุกอย่างเหลือเพียงข้อเดียว ขอให้ อ. สร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้นกับตัวเขา เพื่อตัดสินใจยอมรับอีก 1 ชีวิต ที่เกิดจากความสัมพันธ์แบบไม่ใช่แฟน "ทั้งหมดเป็นความผิดของเขาคนเดียวจริงหรือ?"
เพราะในบางสถานการณ์ ก็อาจจำเป็นต้องเป็นอย่างที่ พจน์ อานนท์พูดเอาไว้หรือไม่?
"ถ้าเขาไม่ตรวจ DNA ก็มาตรวจประวัติเขาดีไหม" งานนี้บอกได้เลยว่า ดูบอบบางแบบนั้น แต่กระดูกไม่บางนะจะบอกให้...
อ. มีคนปกป้อง สมาคมต่างๆ องค์กรหญิง พร้อมขู่ไล่ฟ้องทุกคนที่ทำให้ อ. เสียหาย เช่นเดียวกับรัฐบาล ยังคงมีอำนาจไต่สวนและเดินสายพบปะชาวโลกได้หน้าตาเฉย แบ๊คดีจริงๆ
ส่วนคนเสื้อแดง แค่รวมกลุ่มเกิน 5 คน ก็ผิด ติดคุกได้แล้ว...
ก้ไขครั้งที่ 2 เข้ามาเพิ่มเติม...ประเด็นการปรองดอง หลังจาก ฮฮ. ออกมาหาทางลงให้ตัวเอง กระแสอ่อนๆ ของสังคมเริ่มหันไปมอง อ. อ. ยืนยันอย่างไรก็ไม่ตรวจ DNA แต่ขออยู่สงบๆ เงียบๆ ขอทำมาหากินกับลูก เอ๊ยเลี้ยงลูก วอนขอร้องอย่ารังแก ต่างคนต่างอยู่
เหมือนกับกับ เสธ. หนั่น หรือ กรรมการปรองดอง ที่พยายามกวาดเรื่องเก่าๆ ไว้ใต้พรม สานผลประโยชน์ ไล่บี้เขย่ามือหรือ shake hand กับทุกฝ่าย แล้วบอกว่า เรามาเริ่มต้นกันใหม่ (ลืมมันซะ 91 ศพ)
คนเสื้อแดงคะ....คุณรู้บ้างไหมว่ากำลังสู้อยู่กับใคร?
=================================
ทวดจ๋า....งานนี้ เรื่อง อ. กับ ฟ. เนี่ย เรายืนคนละฟากนะจ้ะ เราแตกต่างแต่ไม่แตกแยกใช่ไหม?? 
น่าแปลกใจ หลายคนรอบข้างหนู ผู้หญิงไม่เข้าข้าง อ. และผู้ชายไม่เข้าข้าง ฟ. หรือว่าจะเป็นอาการที่เขาเรียกว่า "ผีเห็นผี"??? 
ทวดไปดูที่ทู้นี้ อ่านเฉยๆ ไม่ต้องเชื่อนะคะ...เพราะทุกอย่างเป็นเพียงเรื่องเล่า
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9753177/A9753177.html
http://www.pantip.com/cafe/chalermthai/topic/A9749076/A9749076.html (ดูที่ 193) เป็นต้นไป
บอกไว้ก่อนจะเข้าใจผิด หนูไม่ใช่ จขกท. นั้น และคนที่หนูเจอก็ไม่ใช่คนนี้ ดังนั้น ตอนนี้ หนูมีครบทั้ง 4 คนตามที่ ฮฮ. บอก 
======================== เรียนคุณทวด รอบสอง หลังจากเห็นกระทู้คุณทวด
ข้อมูลลับเป็นสิ่งสำคัญที่จะมาประกอบการวางแผนและกลยุทธ์หรือการพิจารณาเหตุการณ์ตรงหน้า
หากไม่มีข้อมูลลับ ก็คงเป็นเช่นทั่วไป ซึ่งคนทั่วไปนี่แหละที่จะเป็นผู้สร้างกระแสสังคม คือ อาศัยความเชื่อและจิตสำนึกของตนเอง หนูถึงได้บอกว่า "อารมณ์มนนุษยธรรม" ไงคะ ซึ่งกระแสสังคมนี่แหละจะเป็นตัวหลักที่ทำให้คนมีอารมณ์ร่วมแล้วบอกว่ามันถูกหรือผิด
สถานการณ์เรื่องนี้ ถ้าเปรียบเทียบการเมืองมันต่างกันที่ ฮฮ. ผ่ากฎยอมด่าผู้หญิง ออกสื่อ เป็นการสวนกระแสสังคมอย่างแรง "รับไม่ได้" ส่วนเสื้อแดงยังไม่ยอมเล่นไม้แข็ง เพราะ "เกรงใจ" แต่หากมองให้ดี จะพบว่า ทั้งเสื้อแดง และ ฮฮ. ต่าง "ให้โอกาส" ใครบางคนแล้ว เพียงแต่ฮฮ. ลงมือไปแล้วเหลือแต่เสื้อแดงนี่ล่ะค่ะ ที่ยังเกรงใจอยู่
ทุกฝ่าย อาศัย "ข้อมูลลับ" ทั้งนั้นค่ะ คุณทวด เพราะหากไม่มีข้อมูลลับ ก็ไม่สามารถประเมินสถานการณ์ที่แท้จริงได้ เพียงแต่ ฮฮ. ประเมินสถานการณ์ผิด ที่ออกมาทำแมนตัดงานลูกชายคนเดียวเพื่อให้ฝ่ายหญิงแสดงความรักต่อฝ่ายชายด้วยการตรวจ DNA กลายเป็นว่า ....กระแสสังคมสนับสนุนไม่ให้ตรวจเพราะถือว่าเป็นการ "ตบหน้าผู้หญิง" อย่างแรง เช่นเดียวกับราชประสงค์ที่ประเมินผิด...เพราะไม่รู้ว่า "เขา" จะยิงจริง เผาจริง
สำหรับอ. ไม่ได้ความว่ารักเขาต้องยอม แต่ต้องเข้าใจสภาพของตัวเองว่า ความสัมพันธ์เป็นแบบใด เช่นเดียวกับคนไทยที่ต้องเข้าใจ "ระบบ" ว่า มันไม่ใช่อย่างที่เห็นเพียวๆ..(อาทิ ระบบยุติธรรม)
แต่ระหว่าง อ. และ ฟ. คำสำคัญอยู่ตรงที่ "คบแต่ไม่ใช่แฟน" ค่ะ คุณทวด เหมือนเสื้อแดงเวลาบอกว่า "ต้องการรัฐไทยใหม่" ทั้งสองอย่างมีนัยยะค่ะ ถ้าคนเข้าใจ ก็เข้าใจแบบทะลุประโปร่ง แต่ถ้าคนไม่เข้าและ"ยึดติด" ก็คิดผิดไปคนละทาง หนูถึงได้บอกว่า "ฟ. ทำดีที่สุดแล้ว (แต่ ฮฮ. นั้น อีกเรื่องค่ะ) เหมือนกับ ณัฐวุฒิทำดีที่สุดแล้ว แต่ อริสมันต์ นั้นอีกเรื่องค่ะ 
หลายคนมองแต่ปลายเหตุ แต่ไม่มองที่ "สาเหตุ" คำถามเดียวสำหรับหัวอกผู้หญิงด้วยกันอย่างหนูคือ "ทำไมจึงไม่ยอมตรวจ DNA" ถ้ารักเขา ถ้าบริสุทธิ์ใจต้องตรวจ ไม่ใช่เพื่อใคร เพื่อลูกของเรานั่นแหละ... เป็นการตบหน้าผู้ชาย ตบหน้า ฮฮ. ตบหน้าคนที่ดูถูกเหยียดหยามเรา...
เพราะถ้าไม่ยอมตรวจ จะต้องไม่ออกสื่อตั้งแต่แรกค่ะ เมื่ออกสื่อ ต้องรู้ว่าตนจะเผชิญกับอะไรบ้าง เช่นกันกับเสื้อแดง...หากจะกลับมาอีกครั้ง ต้อง "กล้าเผชิญ" กับทุกอย่างเช่นกัน
เรื่องผลประโยชน์ หนูเขียนไปแล้วว่าตอนนี้ใครได้ประโยชน์มากที่สุด... เสื้อแดงเปิดไพ่หมดหน้าตัก ยังไม่ได้ไรกลับมาเป็นชิ้นเป็นอัน เช่นเดียวกับ ฮฮ. ที่ไม่รู้ว่าจะได้อะไรกลับมามากแค่ไหนหลังจากคืนงานให้ ฟ. เพราะมันดับไปแล้ว แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้ อ. ได้คนเดียว
คล้ายๆ กับเกมกระชับวงล้อม...นั่นแหละค่ะ ....เบื้องหน้าคือ "การปราบจลาจล" ด้วยวิธีพิเศษ คือใช้ทหารไม่ใช่ตำรวจ เสื้อแดงย่อยยับ รัฐบาลต้องกู้หน้าตัวเองอยู่พักนึง แต่เสือนอนกินเห็นๆ คือ ทหาร...(งาบงบกระจาย ใครจะรู้)
อย่างไรเสียสองเรื่องนี้ จริงๆ แล้ว คนละเรื่งค่ะ เปรียบเทียบกันไม่ได้หรอก ที่เขียนนี่เพื่อเข้ากับบรรยากาศ in trend บ้างอะไรบ้าง การอ่านเกมและการแก้ปัญหา...มันยาก - ง่าย ต่างกัน เพียงแต่ทั้งสองเรื่องสามารถพูดได้ว่า "ตัวละครทั้งหมด" มี "เบื้องหลัง" ค่ะ และ "เบื้องหลัง"นี่แหละค่ะ ที่จำเป็นต้อง "อาศัยข้อมูลลับ" ในการวิเคราะห์ แต่บางอย่างไม่ต้องอาศัยข้อมูลลับ ก็สามารถตัดสินได้....อาศัยข้อมูลทั่วๆ ไป ที่หาได้บนเว็บ อาทิ บอกว่า ท้อง 9 เดือน อุ้มท้องคนเดียว อยู่บ้านคนเดียว มีพัดลมเป็นเพื่อน... แต่ปรากฎว่า ตอนท้องสามเดือน ยังขึ้นเวทีคอนเสริต์ช่องสามสัญจรกับ จ . ที่ต่างจังหวัดอยู่เลย...
ประเด็นเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละค่ะ ที่กลับมาพันตัวเขาเอง
ชีวิตคือละคร หมายความว่า....เขาสร้างละครมาจากชีวิตจริงค่ะ.... และเราเรียนรู้จากละครได้ แต่ไม่ใช่ให้เอาละครมาเป็นเครื่องมือในการ "เปลี่ยนชีวิต" ตัวเองค่ะ
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 10:38:43
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 07:44:24
แก้ไขเมื่อ 02 ต.ค. 53 01:56:20
จากคุณ |
:
SassyKate
|
เขียนเมื่อ |
:
2 ต.ค. 53 01:42:44
A:110.168.35.105 X:
|
|
|
|