[รักคนเสื้อแดง] เพราะรักจึงต้องสะกิด ระเบิดบางบัวทอง ผมมองได้เป็นสองมุม
|
 |
*สิ่งที่จะกล่าวต่อไปนี้เป็นความเชื่อส่วนตัวของจขกท.
ถ้าใครเคยติดตามอ่านงานเขียนกระทู้ของผม จะทราบหลักการหนึ่งของผมดีว่า ผมยึดแนวทางสันติ อหิงสาวิธี ปราศจากอาวุธ ไร้ความรุนแรง มุ่งแก้ไขปัญหาในรัฐสภาโดยมีเป้าหมายไปที่การแก้ไขกฎหมาย ซึ่งผมคิดว่าท้ายที่สุด การเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ได้มาซึ่งประชาธิปไตยของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนอย่างยั่งยืน หากจะได้มาก็ควรที่จะได้มาด้วยการต่อสู้ที่ยึดมั่นในแนวทางที่ถูกต้อง
การต่อสู้เพื่อให้ได้มาไม่จำเป็นต้องมีการเสียสละเลือดเนื้อชีวิตของประชาชนทุกคนทุกฝ่าย การนำคนผิดมาลงโทษสุดท้ายก็ต้องใช้ตัวบทกฎหมายเป็นเครื่องมือตัดสิน ไม่ใช่จับอาวุธเข้าห่ำหั่นใครแพ้ก็บั่นคอนั่นมันเป็นเรื่องของอดีต ไม่ใช่ปัจจุบัน อดีตมีไว้เป็นบทเรียน สิ่งไหนที่ไม่ดีไม่ควรทำก็ไม่ควรลอกเลียนแบบ เกาหลียังใช้เวลาเกือบ 20 ในการนำตัวคนทำรัฐประหารและเคยเป็นประธานาธิบดีมาลงโทษ (อ้างอิง คดีแห่งศตวรรษ ทวีป วรดิลก)
ในวันที่ 25 กันยายน เมื่อผมติดตามรับชมการถ่ายทอดออนไลน์ งานเสวนากระบวนการรับผิด กรณีสลายการชุมนุม เม.ย.-พ.ย. ที่จัดขึ้นที่หอประชุมศรีบูรพา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ผมจึงเริ่มวิตกกังวลเป็นห่วงกับอารมณ์ของมวลชนในการปฏิเสธกระบวนการทางกฎหมาย หรือปฏิเสธระบบกระบวนการต่างๆ ไปเลย ดูได้จากกระทู้ที่ผมตั้ง (จิ้ม) มุมมองแรก
ระเบิดที่เกิดขึ้นที่บางบัวทอง แม้กระบวนการพิสูจน์จะยังไม่ได้ข้อยุติ แต่สำหรับคนเสื้อแดง ผมขอให้ใช้เหตุการณ์นี้ เป็นอุทธาหรณ์เป็นเครื่องเตือนสติเตือนใจว่า การใช้ความรุนแรงไม่ได้ช่วยทำให้มีการแก้ไขปัญหา รังแต่จะทำให้เกิดความสูญเสียในทุกๆ ด้าน ผมเชื่อว่าในกลุ่มคนเสื้อแดงมีพวกฮาร์ดคอร์ที่นิยมความรุนแรงปะปนอยู่ไม่มากแต่ก็ไม่น้อย (เรื่องนี้กลุ่มฮาร์ดคอร์ที่นิยมความรุนแรงนั้นมีอยู่จริง ผมไม่ขอปฏิเสธครับ) คนเสื้อแดงส่วนใหญ่ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องด้วย
ดังนั้นถ้ามีใคร กลุ่มใด มาชักชวนให้ร่วมแนวทางที่นิยมความรุนแรง ผมก็ขอให้คนเสื้อแดงได้โปรดใช้สติและปัญญาใช้วิจารณญานคิดใคร่ครวญไตร่ตรองอย่างละเอียดรอบคอบ "การใช้ความรุนแรงไม่ได้เป็นหลักประกันว่าผลลัพธ์ที่หวังจะได้เป็นผลสำเร็จตามที่ฝ่ายฮาร์ดคอร์เชื่อกัน" ขอให้คนเสื้อแดงบอกปฏิเสธไม่เข้าร่วม ไม่ให้การสนับสนุนทั้งทางตรงและทางอ้อม และถ้าเป็นไปได้ ก็ควรที่จะทำการห้ามปรามการกระทำใดๆ ที่สุ่มเสี่ยงจะทำให้เกิดความรุนแรง
มุมมองที่สอง
ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้นหลังเสียงระเบิดที่มีหลักฐานว่าเป็นคนเสื้อแดง ทำให้ผมเกิดมุมมองที่ขอนำเป็นกระจกไปสะท้อนพวกจริตนิยม ไม่ว่าจะเป็นพวกสื่อ นักวิชาการ นักการเมือง หรือแม้กระทั่งทหารในกองทัพเอง แน่นอนเหตุการณ์ที่ผมจะนำมาเปรียบเทียบเป็นกระจกสะท้อนก็คือเหตุการณ์ในวันที่ 7 ตุลาคม 2551 นั่นเอง หนึ่งในผู้เสียชีวิตหน้าพรรคชาติไทยในวันนั้น (รถจี๊ปเชอโรกีระเบิด) กับระเบิดบางบัวทองในวันนี้ ผู้คนที่ออกมาแสดงความรู้สึกในวันนี้ ผมอยากทราบมุมมองของเขาที่มีต่อเหตุการณ์ในวันนั้นว่ามีความรู้สึกเช่นไรบ้าง ก็เท่านั้น
เท่าที่ผมจำได้ นอกจากจะมีอดีตนายกฯฉายา "ผู้ดีรัตนโกสินทร์" ไปเป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพแล้ว การดำเนินคดีก็ต้องยุติลงเหตุเพราะว่าผู้ครอบครองวัตถุระเบิดได้เสียชีวิตลงแล้ว และเท่าที่ทราบ ก็ไม่มีการดำเนินการขยายผลใดๆ กระแสโจมตีในตอนนั้นกลับพุ่งเป้าไปที่รัฐบาลที่มีนายสมชายเป็นนายกฯ และมีพล.ต.อ.พัชรวาท เป็นผบ.ตร. ทั้งๆ ที่เหตุการณ์วันที่ 7 ตุลาคม เกิดจาก พันธมิตรไปปิดล้อมรัฐสภา ไม่ได้เป็นการชุมนุมโดยสงบตามที่ศาลปกครองตัดสิน
ครับ เกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดที่บางบัวทอง เสียงสะท้อนที่เป็นกระแสสังคมในเวลานี้ โดยเฉพาะเสียงจริตชน ผมก็อยากให้คนเสื้อแดงควรรับฟัง แต่ในขณะเดียวกันผมก็อยากให้จริตชนหวลกลับไปคิดถึงเหตุการณ์รถจี๊ปเชอโรกีระเบิดในวันที่ 7 ตุลา วันนั้นท่านคิดแบบเดียวกับวันนี้หรือไม่ คำถามนี้อาจเป็นคำถามที่ไม่มีคำตอบ (ตอบแบบเสแสร้งไม่นับนะครับ) และแกนนำเสื้อเหลืองมีแนวคิดรุนแรงอย่างไรก็ลองไปติดตามย้อนหลังชมดู (จิ้ม)
ปล. สุดท้าย เรื่องระเบิดอย่ารีบด่วนสรุปนำมาโยงมั่วกับเหตุการณ์การชุมนุม เดี๋ยวจะหน้าแหก ปล.นี้ผมฝากไว้ให้ผู้มีอำนาจรัฐนะครับ ไม่ใช่เพื่อนสมาชิก
จากคุณ |
:
สิงห์สนามหลวง
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ต.ค. 53 00:46:32
A:58.11.68.210 X:
|
|
|
|