ถ้า ไม่มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น เรา ควรจะทำอย่างไรกันดี (ผมก็ยังหาคำตอบให้ตนเองไม่เจอเหมือนกัน) แต่ก็จะแสดงว่า เหตุการณ์ต่างๆทั่วโลกพร้อมที่จะแตกหักแล้ว

ถ้า มีการเลือกตั้ง แต่ โกงคะแนนมโหฬาร เรา ควรจะทำอย่างไรกันดี

ทฤษฎี สยาม คือ เสบียง

พี่ ไท...มีความอุดมสมบูรณ์มากๆ...ผลิตอาหารได้ทั้งปี..ไม่มีการหยุดพักแบบประเทศเมืองหนาวสามารถส่งอาหารเลี้ยงคนได้เกือบครึ่งโลก พี่..ไท...เมืองเดียวสามารถเลี้ยง เม่กา ได้ทั้งเมืองแบบชิวชิว(แอบวัยรุ่นหน่อย) อย่าลืมว่าก่อนออกรบแตกหัก เสบียงอาหารต้องพร้อม  พี่ไท...จึงมีความสำคัญมากๆ ต่อ เม่กา ที่จะต้องควบคุมให้ได้ ยิ่งพญามังกร เติบโตแบบกระโดดค้ำถ่อ ยิ่งต้องเชื่อมั่นว่าจะควบคุมพี่..ไท..ได้แบบเด็ดขาดผิดพลาดไม่ได้ เวลารีบเร่งก็เลยทำอะไรได้ไม่เนียน ยิ่งช้า พญามังกรยิ่งติดปีกทยาน ยากจะต่อกร

คนที่คิดว่าโลกนี้สันติสุขมาก สงบ ปลอดภัย นั่นคือ ขังตัวเองอยู่ใต้กรอบแห่งความคิดตน ไม่มองโลกตามความเป็นจริง ถ้าโลกจะสงบสุข ปลอดภัย ไร้กังวล ทุกประเทศจะแข่งกันสะสมอาวุธไปทำไม ทุกประเทศมีแต่เพิ่มการสะสมอาวุธมากขึ้นๆ เรื่อยๆ

พญามังกร มีเขื่อนไตรผาไว้ควบคุม เมือง..ต่างๆใต้เขื่อน พี่ๆ..ทหารไท..ช่วยกันคิดๆๆๆๆๆๆๆหน่อย เราจะควรทำอย่างไร เราสมควรจะปล่อยให้โดนจูงไปสู่จุดอับหรือเปล่า

ทฤษฎี สร้าง-เลี้ยง เหตุการณ์ ขายอาวุธ

รายได้ของ เม่กา 30% มาจากการค้า อาวุธ ถ้าทั่วโลกสงบสุข จะนำอาวุธ ไปขายใคร เม่กา ฉลาดมาก(ยอมรับๆ)ในการเจาะอดีตเลี้ยงอนาคต มามองกันแต่ละคู่ๆไป

เคยได้ยิน สุภาษิต ของพญามังกร ว่า " 10 ปี ล้างแค้นไม่สาย "

พญามังกร กับ บูชิโด ประวัติศาสตร์ บูชิโดสร้างเรื่องไว้กับพญามังกรสุดแสนสาหัสนัก ยิ่งพญามังกรเติบโตแข็งแกร่งมากเท่าไหร่ บูชิโด ยิ่งหวาดหวั่นมากเท่านั้น เป็นเหตุให้ แม้จะฝืนทนขนาดไหน ก็ต้องกลืนเลือดคงฐานทัพ ของ เม่กา ไว้ต่อไป เม่กามีหรือจะไม่รู้ ไม่ฉกฉวยโอกาสก็ คงไม่ใช่เม่กา ถามว่า บูชิโด รู้ไหม ใน ฐานทัพเม่กา มีอาวุธอะไรอยู่บ้าง นักการเมืองบูชิโด ที่เสนอย้ายฐานทัพ เม่กา ตอนหาเสียงนั้น พอได้เป็น รัฐบาลก็ต้องแกล้งลืม พักหลังเม่กาถังแตกจึงบอกบูชิโด ออกๆมาหน่อย เราจึงเห็นทหารบูชิโดเริ่มมีบทบาทมากขึ้น ยิงเข้าล๊อกเม่กาที่จะเพิ่มความหวาดระแวงให้พญามังกร

พญามังกร กับ มังกรน้อย ความจริงแล้วเหมือนพี่น้องกัน แต่เหตุการณ์มาไกลเกินไปกว่าที่จะคุยกันด้วยดี เม่กา รู้ช่องดีว่า มังกรน้อยกลัวพญามังกรขนาดไหนแถมเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม การขายอาวุธให้มังกรน้อย จึงเพิ่มความอิ่มท้องให้ตนเองและเพิ่มพูนความขัดแย้งมากขึ้นๆ มังกรน้อยจึงเป็นแหล่งหากินที่มั่นคง

พญามังกร - หนีเกาเหลือ - ตี๋เกาล้าย

คงจำเหตุการณ์ การปล่อยน้ำจากเขื่อนของ หนีเกาเหลือ กันได้ (พี่ไท...จงดูไว้เป็นบทเรียน ถ้าถูกปล่อยมาจากเขื่อนไตรผา ใครจะมาช่วยเรา พี่ทหารช่วยกันคิดๆๆๆๆๆๆๆๆด้วย)ยิ่งสร้างความหวาดกลัวให้กับ ตี๋เกาล้าย จึงต้องสะสมอาวุธต่างๆไว้ป้องกันตนเอง และต้องพิง เม่กา ไว้ยันกับพญามังกรแบบไม่มีทางเลือก เม่กาก็ขายอาวุธ เพลิน

ในกลุ่ม เมืองทะเลทราย คลุมผ้า ก็คล้ายๆกัน ยิ่งขัดแย้งยิ่งขายอาวุธได้ จุดประเด็นจุดชนวน ไว้ยาวๆ ยิ่ง พี่...อ่านริ...พัฒนานิวเคลียร์.....ยิ่งขายอาวุธได้มากขึ้น แต่ก็ได้สร้างตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้ พี่อ่านริ มีสิทธิ์โดนโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว(ท่านลองคิดว่า เอลสราอิทและเม่กา กล้าทำหรือไม่ ถ้ากล้าทำ ความไม่ไว้วางใจทั่วโลกจะระเบิดออก) และนั่นคือชนวนแห่งสงครามโลกครั้งที่ 3 

ก่อนจบ....ใน 3 จว. ของ พี่ไท..ถ้าเมืองทะเลทรายคลุมผ้า อยากได้จริงๆแล้ว จะยาวนานยืดเยื้อมาขนาดนี้หรือ(เมื่อ พี่ทหา....ของเรายังเลือกซื้ออาวุธได้แบบไม่ตรงจุดประสงค์) และลักษณะของเขาจะเป็น แบบไม่ยุ่งกับใครแต่ใครก็อย่ามาแหย่เขา แล้วทำไม เหตุการณ์ต่างๆจึงมีอยู่อย่างยาวนาน โดยฝ่ายความมั่นคงไม่คิดแก้ไขให้เรียบร้อย ผิดปกติวิสัยกับความเด็ดขาดในการปราบปรามของพวกท่านนะครับ(ขอหน่อย)

ตอนต่อไป "ทฤษฎีเลี้ยงเหตุการณ์...ในสยาม" "ทฤษฎีแบ๊ลคเมลย์...เพื่อชักใย" เขียนไปโดนลบแน่เลย

 เม่กา เอ๋ย เม่กา