ตังกระทู้เชิญท่านผู้บริหารระดับสูง คุณ เลอคูฯ{แตกประเด็นจาก P9810440}

ท่านผู้บริหารระดับสูง ตั้งแต่วัยไม่ถึง 25 อย่างคุณเลอคูฯ ได้ตั้งกระทู้ที่เข้าใจว่าตอบดิฉัน ในกระทู้

ใครใคร่ค้าช้างค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า___พ่อขุนรามคำแหงมหาราช!
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9810440/P9810440.html

 

ดิฉันแสดงวิสัยทัศน์ไว้ว่า “เงินไหลเข้า ไม่ไหลออก” ดันบอก ดีแล้ว
http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9810102/P9810102.html
และบ่นเรื่องเงินเข้ามากองในประเทศที่ทู้นี้ http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P9804906/P9804906.html


ส่วนคุณเลอคูฯ เขียนว่า
“เงินนอกไหลเข้า เพราะตัวเลขที่วัดเศรษฐกิจของเรามันดีเลิศ
แต่คุณกลับโจมตีมันว่า ตัวเลขไม่นับ ไม่สะท้อนความเป็นจริง!!”

 
ดิฉันอ่านแล้วได้แต่ถอนหายใจ เฮือก....
นั่นแสดงว่าคำที่หลายๆ คนบอกว่า “คนพวกนี้เขาไม่รู้เรื่องอะไรเลย” นั้น เป็นความจริง
อยากจะถามนักว่า แล้วตัวเลขเศรษฐกิจของเรามันดีเลิศนั้น สะท้อนความจริงตรงไหนบ้างเหรอคะ?

คือไม่แน่ใจว่าคุณเลอคูฯ เข้าใจและมีความรู้เรื่องสถานการณ์ เงินไหลเข้า ไม่ไหลออกมากแค่ไหน
คำถามคือ
เงินไหลเข้าจำนวนมากและส่งผลให้ “ตัวเลขเศรษฐกิจมันดีเลิศ” อย่างคุณว่าน่ะ
แล้วมันยังไงต่อคะคุณเลอคูฯ? แล้วไงเหรอ (So What????)

ในเมื่อตอนนี้หรือไตรมาสนี้ เนี่ย ....ส่งออกและท่องเที่ยวกำลังจะตาย....
เงินจำนวนมากที่กองอยู่ในประเทศตอนนี้ มันช่วยอะไรได้บ้างไหม?
รัฐบาลจะแก้ปัญหายังไง? จะเอาตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีเลิศที่ว่านั้นน่ะ มาช่วยยังไงได้บ้าง?

วันๆ นั่งมองหุ้นได้ราคา กวาดตังเข้ากระเป๋าตัวเอง ปรบมือเชียร์รัฐบาล
แล้วก็ลุกขึ้นยืนบอกว่า "ใครใคร่ค้าช้างค้า ใครใคร่ค้าม้าค้า"
มันไม่ "ใจจืด ใจดำ" เกินไปหน่อยเหรอคะ???

เอางี้แล้วกันค่ะคุณเลอคูฯ
ดิฉันมันพวกความรู้น้อย เรื่องหุ้นเรื่องค่าเงิน ดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่อง 
ไม่สามารถอธิบายให้ระดับผู้บริหารอย่างคุณเข้าใจได้
งั้นคุณลองแย้ง ความคิดของผู้ชายคนนี้ ให้ฟังหน่อยสิคะ
อยากรู้ว่าวิสัยทัศน์คนระดับคุณ...จะแย้งวิสัยทัศน์ของเขาได้อย่างไร

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล กรรมการและเลขานุการมูลนิธิอาจารย์ป๋วย

"ขอออกตัวก่อนว่า การออกมาพูดครั้งนี้ เป็นเพราะไม่อยากเกิดความสับสน และข้อถกเถียงถึงการแข็งค่าของเงินบาท เพราะขณะนี้ผู้ส่งออกและนักเศรษฐศาสตร์ กับ ธปท.เห็นผลกระทบต่างกันมาก ซึ่งถ้าได้เห็นตัวเลขที่เป็นข้อเท็จจริง รัฐบาล และ ธปท.จะรู้ว่าควรจะแก้ไขวิกฤติค่าเงินบาทในขณะนี้อย่างไร

 
ข้อมูล ของ ธปท. ในขณะนี้ ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่าขึ้นในระดับใกล้เคียงกับค่าเงินในภูมิภาค ทำให้มองว่าประเทศไทยและผู้ส่งออกไม่ได้ เสียเปรียบด้านการแข่งขันกับประเทศคู่แข่งมากนักผมลองไปตรวจสอบข้อมูลจาก สถิติดูความสามารถการแข่งขันจากค่าเงินตามปกติที่ใช้กันย้อนหลัง 3 ปี เริ่มจากเดือน มิ.ย.ปี 50 ถึง 8 ต.ค.53 ค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่า 12% ดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่า 14% เงินริงกิต มาเลเซียแข็งค่า 9-10% ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่า 13% ดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่า 4-5% เปโซฟิลิปปินส์ 7-8% ขณะที่เงินเยนญี่ปุ่นแข็งค่า 33%

 

"ถ้าดูตัวเลขนี้ ค่าเงินบาทอยู่ในช่วงกลางของภูมิภาค เหมือน ธปท.จะถูก แต่แปลกที่คราวนี้ผู้ส่งออกร้องมากเหลือเกิน หลายรายเล่าว่า ไม่ใช่การขาดทุนกำไรแต่เป็นขาดทุนจริง และที่สำคัญ เมื่อกำหนดราคาขายสินค้าลอตใหม่ไป ไม่มีใครซื้อเพราะต่างจากคู่แข่งมาก ทำให้ต้องเจาะลงไปดูตัวเลขละเอียดกว่านั้น "พบว่ามีตัวเลขฐานบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง เพราะในช่วงประมาณ 1 ปีครึ่งแรกของเวลา 3 ปี (มิ.ย. 50 -ธ.ค.51) เป็นช่วงวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ ซึ่งค่าเงินทั่วโลกผันผวนรุนแรงมาก ช่วงนี้จึงไม่น่าจะใช้เป็นฐานได้ การเปรียบเทียบควรทำในช่วงที่ค่าเงินกลับมานิ่ง คือในช่วงปลายปี 51 ถึงปัจจุบัน ประมาณ 21 เดือน ซึ่งพบว่าค่าเงินบาทในช่วง 17 เดือนแรก หรือถึงสิ้นเดือน พ.ค.ปีนี้ แข็งค่าขึ้น 6.55% ขณะที่ 4 เดือนหลัง คือ ก.ค.-8 ต.ค. แข็งขึ้นอีกประมาณ 7.56% รวม 21 เดือนค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น 13% กว่า"

 

เวลาเดียวกันย้อนไป 21 เดือน ค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นแค่ 2% กว่า ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์แข็งค่า 8% เงินริงกิต มาเลเซียแข็งค่า 10% ดอลลาร์ไต้หวันแข็งค่าขึ้น 5% เปโซฟิลิปปินส์แข็งค่า 7% เงินเยนแข็งค่าเพียง 9% เงินรูเปียะห์ อินโดนิเซียแข็งค่า 4% ค่าเงินด่อง เวียดนามไม่คิดเพราะลดค่าเงินเมื่อเห็นอย่างนี้ ชัดเจนว่า 21 เดือนที่ผ่านมา ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างมาก โดยเฉพาะคู่แข่งอย่างจีน และไต้หวัน เหตุนี้ผู้ส่งออกถึงจะตายกันหมด!!!

 

"ยิ่งหากพิจารณาเงินที่ไหลเข้ามา น่าตกใจมากเพราะตัว เลขเงินไหลเข้า 4 เดือนหลัง ถ้าดูจากทุนสำรองทางการฯที่เพิ่มขึ้น พบว่า ธปท.ซื้อเงินดอลลาร์เก็บเพื่อแทรกแซงค่าเงินบาทประมาณ 20,000 ล้านเหรียญฯ หรือ 600,000 ล้านบาท (30 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ) แต่ค่าบาทยังแข็งขึ้นประมาณ 2 บาท แปลว่า ยังมีเงินที่ไหลเข้ามาแล้ว ธปท. เก็บไม่หมด ประมาณได้ว่าเงินทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในช่วง 4 เดือน อยู่ที่ 30,000 ล้านเหรียญฯ หรือ 900,000 ล้านบาท ซึ่งไม่มีทางแทรกแซงไหว"นอกจากนั้น นโยบายการอัดเงินเข้าตลาดเงินของสหรัฐฯเพิ่มขึ้น จะทำให้ดอกเบี้ยสหรัฐฯลดลงอีกในช่วงต่อไป ในขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ครั้งนี้คงยังไม่ถึงขั้นลดดอกเบี้ยลง แต่อาจจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ เมื่อเทียบกับโลกไม่ได้ช่วยอะไรอยู่ดี เพราะดอกเบี้ยในตลาดโลกลดลง

 

เงินที่จะทะลักเข้าในช่วงต่อไป จึงใกล้เคียงกับช่วงก่อนคือ 30,000 ล้านเหรียญฯใน 4 เดือน ทำให้ค่าบาทแข็งค่าขึ้น 7% หรือ 2 บาท ถ้าปล่อยไว้ภายใน 6 เดือน-1 ปี ผู้ส่งออกไทยก็ตายหมด กระทบภาคแรงงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นลูกโซ่

 

"ถ้าบาทแข็งค่าไปกับภูมิภาคจริง อาจไม่ต้องทำอะไรมาก แต่เทียบ 10 ประเทศ เราแข็งกว่าไป 8 ประเทศ รัฐบาลและ ธปท. จำเป็นต้องตัดสินใจเพิ่มมาตรการดูแลค่าบาท และการสกัดเงินไหลเข้าอย่างเร่งด่วน เพราะน้ำได้ไหลบ่าเข้ามาจนท่วมแล้ว และยังจะยังไหลบ่าเข้ามาอีก เราต้องปกป้องตัวเองให้เร็วที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจมาตรการใดๆ เป็นอำนาจ รมว.คลัง และผู้ว่าการ ธปท.ซึ่งเห็นตัวเลขเหล่านี้แล้วน่าจะตัดสินใจได้ ไม่ว่าจะลดดอกเบี้ยนโยบายให้เร็วขึ้น หรือการเก็บภาษีจากเงินทุนไหลเข้าในอัตราใกล้เคียงกับส่วนต่างดอกเบี้ย

 "เราต้องรักษาเศรษฐกิจไว้ เพราะความเผอเรอหรืออะไรในช่วง 21 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เงินบาทเป็นวิกฤติที่รุนแรงกว่าที่คิด"

 

ที่มา: เปิดทรรศนะ 4 อดีตรมว.คลัง หนทางรอดพ้นวิกฤติ "ค่าเงินบาท" http://www.thairath.co.th/column/eco/ecoscoop/119492

---

เนื่องจากเห็นว่าหลายคนชิงชัง ดร. โกร่ง เลยไม่เอามาให้อ่านตรงนี้ และดูท่าแล้วท่านผู้บริหารอย่างคุณ เลอคูฯ ก็คงรู้สึกเช่นเดียวกัน

แต่่ถ้าใครอยากอ่าน เชิญไปตามลิงค์ข้างบนได้เลยค่ะ บอกได้คำเดียวว่า “แร๊งงงงงง”

 

---

เข้ามาเพิ่มเติม...

คุณเลอคูฯ จะไปลาก วิสัยทัศน์ ของ รมต. คลัง คนปัจจุบัน ที่ได้รางวัล คลังโลกดีเด่ มาแสดงด้วยก็ได้นะคะ

จะได้เห็นกันจะจะ อีกซักรอบ...หวังว่าคงไม่จะไม่ได้ยินว่า
มันเ็ป็นปัญหาของอเมริกา....นะคะ

เพิ่มเติมรอบที่สอง
อ้าว ทำไมทู้คุณเลอคูฯ หายไปแล้วอ่ะ ก็ตอนตั้งทู้นี้แตกประเด็นมายังอยู่ดีนี่นา แล้วทำไมหายไปอ่ะ ทู้นั้นก็ตั้งมาตั้งสองวันแล้วด้วย รบกวนคุณเลอคูฯ แจ้งเว็บมาสเตอร์กู้กลับมาด้วยนะคะ ท่านอื่นๆ จะได้อ่านทั้งสองกระทู้ และมีประเด็นต่อเนื่อง ได้คุยกัน.. ทู้นั้นก็ไม่เห็นมีอะไรเสียหายนี่ค่ะ เพราะมันอยู่อย่างงั้นมาตั้งสองวันแล้วอ่ะ
 

เรื่องกระทู้คุณเลอคูฯ ยังอยู่ดีนะคะ ดิฉันก๊อปลิงค์ใส่ตรงโค๊ดไม่หมด มันเลยไม่ลิงค์ไปน่ะค่ะ

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 53 09:33:50

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 53 01:02:24

แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 53 00:50:26

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 20:53:29

แก้ไขเมื่อ 18 ต.ค. 53 20:44:29

จากคุณ	: SassyKate
เขียนเมื่อ	: 18 ต.ค. 53 20:22:13 A:124.122.5.88 X: