ครั้งแรกคดียุบพรรคไทยรักไทย (อ้างอิงข้อมูลด้านล่างข้อที่ 1 และ 2) พล.อ.ธรรมรักษ์ถูกเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่กระทรวงกลาโหมมาเปิดเผยบอกว่ามีหัวหน้าพรรคเล็กไปรับเงินจากห้องพล.อ.ธรรมรักษ์ และผูกมัดจนนำไปสู่การยุบพรรคไทยรักไทย แต่ต่อมาหัวหน้าพรรคเล็กสองคนนั้นได้ออกมาเปิดเผยว่านายสุเทพเป็นคนจ้างมา แบบนี้ก็แสดงว่าพรรค ปชป. โดยนายสุเทพ มีการจัดฉากใช่หรือไม่ครับ
และที่ตลกร้ายที่สุดก็คือ ศาลออกมาบอกว่าคดีได้สิ้นสุดไปแล้วไม่สามารถทำอะไรได้
.. แล้วแบบนี้คนที่เสียหายจากการที่ศาลตัดสินผิดไปเชื่อพยานผิด พรรคไทยรักไทยต้องถูกยุบล่มสลาย, สมาชิกพรรคไทยรักไทยเป็นสิบล้านคนต้องพ้นสภาพ, 111 คนถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี แบบนี้มีใครรับผิดชอบครับ
..
ครั้งที่สองคดียุบพรรคพลังประชาชน (อ้างอิงข้อมูลด้านล่างข้อที่ 3) ตำรวจสันติบาลแอบถ่ายขั้นตอนการรับเงินของกำนันตั้งแต่สนามบินจนถึงที่ทำการพรรคมีตัวละครเป็นกำนัน 10 คน มีกำนัน 1 คนจาก 10 คนรับว่าได้รับเงิน อีก 9 คนบอกไม่มีการรับเงิน แต่ศาลเชื่อ 1 คน, ซึ่งใน VCD ก็ไม่ปรากฏว่ามีภาพการรับเงินหรือซองแต่อย่าได และจากการตรวจสอบก็พบว่ามีการจัดทำ VCD ก่อนเกิดเหตุ ในที่สุดศาลก็ตัดสินยุบพรรคพลังประชาชนอีก แบบนี้เรียกจัดฉากโดยตำรวจหรือไม่ครับ
แต่คลิปในครั้งนี้ประเด็นไม่ได้อยู่ที่ว่าจัดฉากหรือไม่แต่มันอยู่ที่สาระของการพูดคุยกันมากกว่า
ที่สำคัญที่สุด จากคลิปที่ 3- 5 ศาลได้พูดทำนองว่าพวกเรา-พวกเขา แสดงได้ชัดเจนว่าศาลได้แบ่งฝ่ายเรียบร้อยแล้ว แบบนี้ศาลจึงไม่เป็นกลาง แล้วจะตัดสินอย่างยุติธรรมได้อย่างไรครับ
.
1. วันนี้(30พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ออกมาเปิดเผยภาพจากล้องวงจรปิดภายในกระทรวงกลาโหมในวันที่ 29 พ.ค. ที่มีภาพของสมาชิกพรรคการเมืองขนาดเล็ก เดินเข้าออกภายในกระทรวงกลาโหม โดยเฉพาะหน้าห้องของรัฐมนตรี จากนั้น พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยังไม่ยอมให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่างถึงข้อเท็จจริงเรื่องนี้แต่ประการใด
2. โดยนายสุข สันต์ ได้เปิดเผยรายละเอียดการรับเงินจากนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ว่าเริ่มได้รับเงินค่าจ้างครั้งแรกเมื่อวั นที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2549 เป็นเงินสามแสนบาท หลังจากนั้น นายสุเทพก็จะจ่ายเพิ่มมาให้เรื่อย ๆ โดยผ่านทางนางพรเพ็ญ เลขาส่วนตัวของนายสุเทพ ซึ่งเงินที่ได้รับทั้งหมดเป็นจำนวนเงิน 5,869,362 บาท ซึ่งตนมีหลักฐานการรับและโอนเงินไปยังบัญช ีต่าง ๆ อย่างครบถ้วน
ส่วน สาเหตุที่ต้องออกมาแถลงข่าวในครั้งนี้ เนื่องจากก่อนหน้าที่จะเป็นพยานในคดียุบพรรคไทยรักไทยนั้น นายสุเทพ ได้สัญญากับตนไว้ว่าจะจ่ายเงินค่าจ้างให้เ ป็นเงิน 15 ล้านบาทพร้อมช่วยเหลือด้านคดีในคดีที่ตนปล อมแปลงบัญชีรายชื่อสมาชิกพรรค พัฒนาชาติไทย อีกทั้งยังสัญญาว่าหากพรรคประชาธิปัตย์ได้ เป็นรัฐบาล จะมอบตำแหน่งเลขารัฐมนตรีให้ แต่นายสุเทพไม่ทำตามสัญญา ตนจึงเกิดความเจ็บแค้นจึงตัดสินใจออกมาเปิ ดเผยเรื่องทั้งหมด อีกประการหนึ่งตนได้สำนึกผิดที่ได้ให้การ ใส่ร้ายพรรคไทยรักไทยจนถูกยุบพรรคจึงยอมเป ิดเผยเรื่องนี้ให้สังคมได้รับรู้ ว่าใครมีพฤติกรรมเป็นอย่างไร โดยการแถลงข่าวในครั้งนี้ตนขอยืนยันว่าไม่ มีผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์หรือ พรรคเพื่อไทยมีส่วนร่วมในการแถลงข่าวครั้ง นี้แต่อย่างใด
3. นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ด้านกิจการพรรคการเมือง ระบุว่า ที่ประชุม กกต.วันนี้จำเป็นต้องเลื่อนการลงมติในการพิจารณาสำนวนทุจริตเลือกตั้งของนายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน กลุ่ม 1 พรรคพลังประชาชน(พปช.)ออกไปก่อน เนื่องจาก กกต.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นใหม่เพื่อพิจารณาเฉพาะกรณีของนายยงยุทธ อันเป็นการเปิดโอกาสให้ทั้งสองฝ่ายได้ต่อสู้คดีกันอย่างเต็มที่ พร้อมกันนี้ จะเปิดโอกาสให้นายยงยุทธ ได้ดู VCD ตามที่ขอไว้ ก่อนจะชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา ซึ่งทางตำรวจสันติบาลจะนำ VCD ดังกล่าวมามอบให้ที่ กกต.ในวันนี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (15 ม.ค.) หลังจากใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมงในการดูวีซีดีหลักฐานที่ระบุว่าตัวเองกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ปรากฏว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช ว่าที่ ส.ส.ระบบสัดส่วน พรรคพลังประชาชน มีสีหน้าสดชื่นขึ้น โดยมั่นใจว่าวีซีดีดังกล่าวเป็นการจัดทำขึ้นเพื่อใส่ร้ายตน และทำเป็นขบวนการ ทำให้มั่นใจว่ากระบวนการสอบสวนของสันติบาลไม่บริสุทธิ์ยุติธรรมตั้งแต่ต้น
นายยงยุทธ กล่าวว่า เมื่อดูจากภาพในวีซีดีแล้ว พบว่าจัดทำขึ้นในวันที่ 25 ต.ค. 2550 ก่อนที่จะมีการแจ้งความกล่าวหาตนในวันที่ 28 ต.ค. กระบวนการสอบสวนที่ปรากฏในวีซีดี ก็มีการข่มขู่ชาวบ้านให้ลงชื่อคัดค้าน ซึ่งถือเป็นบทเรียนราคาแพงของสังคม อย่างไรก็ตาม จะปรึกษาฝ่ายกฎหมายเพื่อฟ้องร้องดำเนินคดีกับสันติบาลต่อไป
แก้ไขเมื่อ 19 ต.ค. 53 10:22:48