หลักฐานหรือจะสู้ความเชื่อ
|
 |
สังคมไทยตอนนี้ล้วนแต่อาศัยความเชื่อมากกว่าหลักฐาน ถ้าเชื่อซะอย่าง หลักฐานอะไรก็ไม่สำคัญ
ก็ดูอย่างคลิปเสียงสิครับ พอนิติวิทยาศาสตร์ออกมาบอกว่าเป็นการตัดต่อ กันตนาก็ออกมาบอกว่าเป็นการตัดต่อ ใช้เวลาไม่กี่วันในการพิสูจน์ สังคมก็เชื่อแล้ว ส่วนหลักฐานจากกรมตำรวจที่ว่าการตัดต่อเป็นเพียงตัดส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาออกไป แล้วนำมาต่อกันใหม่ ทั้งที่ใช้เวลาในการพิสูจน์นานเป็นเดือน แต่สังคมก็เพิกเฉย ก็มันเชื่อไปแล้วนี่ ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว เมื่อมีเหตุผลที่แตกต่างกัน ก็ควรจะพิสูจน์กันใหม่ว่า ของใครถูกต้องมากกว่า ก็เลยยังเป็นที่กังขาของสังคมอีกฝ่ายว่า ตกลงของใครถูก ของใครผิดกันแน่ นี่ก็อีกหนึ่งเรื่องที่คลุมเครือ นี่เกิดจากความเชื่อล้วนๆเลยครับ เชื่อเพราะฝ่ายที่นำมาเปิดเผยเป็นคนไม่ดี ส่วนอีกฝ่ายเป็นคนดีแค่นั้นจริงๆ
คลิปการรับเงินของเหล่ากำนันอันเป็นเหตุให้ยุบพรรคพลังประชาชนก็เช่นกัน มีการถ่ายทำทุกขั้นตอนยังกับการกำกับการแสดงของภาพยนตร์ อีกทั้งกำนันทั้งสิบ มีเพียงหนึ่งคนเท่านั้นที่บอกว่ารับเงินมา และคนๆนี้ก็มีความสัมพันธ์กับนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามเสียด้วย ส่วนที่เหลือบอกไม่รู้เรื่อง แต่ก็เป็นเหตุให้ยุบพรรคการเมืองพรรคหนึ่งที่ได้เสียงข้างมากจากประชาชน ต้องตัดสิทธิทางการเมืองของนักการเมืองระดับกรรมการผู้บริหารอีกหลายสิบคน สังคมก็เชื่ออีกว่า มีการกระทำความผิดจริง เพียงเพราะว่าเป็นพรรคที่ไม่ใช่พรรคคนดีของผู้มีอำนาจ ถึงจะเป็นเสียงส่วนใหญ่ของประชาชนก็ตาม
ส่วนคลิปการเสียชีวิตและบาดเจ็บมากมายของประชาชนที่ออกมาเรียกร้องให้รัฐบาลยุบสภา ทั้งที่หลักฐานการใช้อาวุธของทหารมากมาย มีคลิปของผู้เสียชีวิตมากมาย ก็ยังมีคนสงสัยต้องหาหลักฐานอะไรอีกก็ไม่รู้มายืนยัน ไม่งั้นจะไม่มีวันเชื่อว่าทหารทำร้ายประชาชน ขณะเดียวกันกับเชื่ออย่างสนิทใจกับภาพถ่ายเพียงสี่ห้าคนที่ใส่ชุดดำว่าเป็นผู้ทำร้ายทั้งประชาชนและทหาร ซ้ำร้ายยังกลายเป็นฆ่ากันเองของผู้ก่อการร้ายอีกต่างหาก นี่ก็คือความเชื่อที่ไม่เคยคิดถึงเหตุผล ขอแต่จะเชื่อว่าฝ่ายนี้เป็นคนดี อีกฝ่ายเป็นคนไม่ดีก็เพียงพอแล้ว
ล่าสุดก็คงเป็นคลิปดัง 5 ตอนจบ ทำท่าความเชื่อจะกลายเป็นการจัดฉากอีกแล้ว โดยไม่คำนึงถึงเนื้อหาของคำพูด ดูท่าน่าจะเป็นคนแอบถ่ายและคนปล่อยคลิปจะเป็นคนผิดฝ่ายเดียวเสียแล้ว และกลายเป็นการดิสเครดิตของกระบวนการยุติธรรมไปโน่น
เปรียบไปก็เหมือนอีกฝ่าย มีภาพแค่ไปเคาะประตูเมียชาวบ้าน ก็อาจเจอข้อหาเป็นชู้กับเมียชาวบ้านทันที เพราะเป็นคนไม่ดีในสายตาสังคม
แต่อีกฝ่ายมีภาพที่ออกมาจากห้องของผู้หญิงคนนั้น ทั้งที่ยังแต่งตัวไม่เรียบร้อย อีกทั้งอาวุธที่ไว้กระทำความผิดก็ยังไม่หมดฤทธิ์เลยทีเดียว แต่เพราะคนนี้เป็นคนดี สังคมก็ยังคงไม่เชื่อ ผมว่าจะยังคงต้องให้หาหลักฐานระหว่างกำลังกระทำความผิดเป็นแน่แท้
แต่ที่ผมกลัวยิ่งกว่านั้น เพราะสังคมเชื่อว่าเป็นคนดี ต่อให้ภรรยานำภาพจากวงจรปิดระหว่างกระทำความผิดมาแสดงต่อหน้าสามี สามียังอาจคิดว่าเป็นการ จัดฉาก ของภรรยาก็เป็นได้ เอวัง...กับความยุติธรรมของบ้านเราด้วยประการฉะนี้แล
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
19 ต.ค. 53 10:27:07
A:183.89.243.224 X:
|
|
|
|