Normal 0 false false false MicrosoftInternetExplorer4 /* Style Definitions */ table.MsoNormalTable {mso-style-name:ตารางปกติ; mso-tstyle-rowband-size:0; mso-tstyle-colband-size:0; mso-style-noshow:yes; mso-style-parent:""; mso-padding-alt:0cm 5.4pt 0cm 5.4pt; mso-para-margin:0cm; mso-para-margin-bottom:.0001pt; mso-pagination:widow-orphan; font-size:10.0pt; font-family:"Times New Roman"; mso-bidi-font-family:"Times New Roman"; mso-ansi-language:#0400; mso-fareast-language:#0400; mso-bidi-language:#0400;} สมัคร สุนทรเวชในความทรงจำของผม
ในปี พ.ศ.2520 ผมเพิ่งเรียนจบได้เพียง 2 ปีกว่า จำได้ว่าอยู่ในช่วงหน้าฝน แต่จำเดือนไม่ได้แล้ว ตอนนั้นผมยังไม่สนใจการเมืองเลย ผมมีธุระต้องไปทำที่กรมช่างอากาศ ที่สะพานแดง พอเสร็จงานของผม ก็ประมาณเที่ยง ก็เลยแวะทานข้าวที่สโมสรกรมช่างอากาศ จำได้แม่นว่าวันนั้นเป็นวันพุธ เพราะ ทุกวันพูธบ่ายทหารเขามีการเล่นกีฬา แต่เนื่องจากเป็นหน้าฝนไม่สะดวกที่จะเล่นกีฬา ในวันนั้นทหารเขาเชิญ รัฐมนตรีมหาดไทยในตอนนั้นให้ไปพูดให้ทหารฟัง ห้องที่จัดงานนี้ก็คือห้องประชุมของกรม ซึ่งอยู่ในสโมสรที่ผมไปนั่งทานข้าวอยู่นั่นละครับ
ผมไม่ได้เข้าไปฟังท่านสมัคร พูดในวันนั้นหรอกครับ เพราะบอกแล้วว่าไม่สนใจการเมืองเลย แต่นั่งอยู่นอกห้องสาเหตุหลักก็เพราะไปเจอเพื่อนที่เป็นนายตำรวจติดตามท่านสมัคร และที่สำคัญมากก็เพราะเพื่อนบอกผมว่าหลังจากพูดเสร็จท่านไม่มีกำหนดการอะไรต่อ นั้นก็หมายความว่าท่านคงจะกลับบ้านที่หมู่บ้านโอฬาร ตอนนี้ละครับที่ทำให้ผมนั่งคุยกับเพื่อนรอให้ท่านพูดเสร็จ เพราะบ้านผมอยู่ห่างจากบ้านท่านแค่กิโลเดียว ผมจะได้ถือโอกาสเกาะรถตำรวจติดตามกลับบ้านด้วย
พองานของท่านเสร็จ ท่านก็ออกมาขึ้นรถนำออกไป รถที่ผมนั่งกับเพื่อนก็วิ่งตามโดยไม่มีรถตำรวจ หรือมอเตอร์ไซด์นำขบวนแต่อย่างใด พอรถของท่านผ่านหมู่บ้านชินเขตก็เลี้ยวเข้าไปในหมู่บ้านนั้นทันที เพื่อนผมที่เป็นตำรวจติดตามพูดออกมาเบาๆว่าท่านมาทำไมที่นี่ ไม่เห็นมีการแจ้งล่วงหน้าเลย
รถท่านวิ่งไปช้าๆ เหมือนจะหาอะไรอยู่ สักพักหลังจากเลี้ยวไปเลี้ยวมาอยู่ครู่ใหญ่ๆ ก็มาจอดหน้าบ้านหลังหนึ่ง จำได้ว่าเป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น ขนาดเนื้อที่ประมาณ 100-150 ตรว.ท่านสมัครก็ลงจากรถ พร้อมกับเพื่อนผมก็ตามลงไปด้วย ผมก็เลยตามลงไปบ้าง ยังจำได้แม่นเลยว่าพอท่านหันมาเห็นผมเข้าก็ถามว่าไปไงมาไงกันละ เพื่อนผมก็ตอบแทนผมไปว่าเป็นเพื่อนกันจะอาศัยรถกลับบ้านด้วย ท่านก็พะงักหน้ารับ แล้วก็ไม่พูดอะไรอีก ตอนนั้นเองผมเห็นท่านเอาซองจดหมายที่ถืออยู่มาเปิดเอาจดหมายออกมา อ่านอะไรในจดหมายอยู่สักพักก็เงยหน้าดูเลขที่บ้านหลังนั้น แล้วท่านก็เดินไปกดออดหน้าบ้านนั้นทันที
สักพักก็มีชายวัยกลางคนมาเปิดประตู พอเห็นท่านก็ยกมือไหว้ ท่านก็ถามว่าคุณเขียนจดหมายฉบับนี้ใช่ไหม ว่าพลางก็ส่งจดหมายที่ถืออยู่ให้ดู ครับผมเขียนเอง ชายคนนั้นตอบ งั้นพาผมไปดูหน่อยซิ ชายเจ้าของบ้านรีบเปิดประตูพร้อมกับเชิญท่านให้เข้ามาในบริเวณบ้าน
พอเข้ามากันหมดเจ้าของบ้านก็เดินนำอ้อมตัวบ้านไปจนถึงแนวรั้วหลังบ้านที่เป็นกำแพงสูงสัก 2 เมตรเห็นจะได้ พอไปถึงก็ชี้มือบอกว่า หลังกำแพงนี่ละครับ ชอบทำงานกลางคืนด้วยหนวกหูมา ลูกเด็กเล็กเด็กแดงไม่ได้นอนกันเลย ท่านสมัครเหลียวซ้ายแลขวาอยู่สักพักก็บอกเจ้าของบ้านว่าช่วยหาอะไรมาต่อขาผมหน่อย ผมมองไม่เห็นเลยกำแพงบังหมด เจ้าของบ้านหายไปสักพักก็ไดเก้าอี้มาตัวหนึ่งจัดแจงวางให้ชิดกำแพง แล้วท่านก็ขึ้นไปยืนบนเก้าอี้มองไปด้านหลังกำแพง สักครู่ท่านก็ปีนขึ้นไปนั่งบนขอบกำแพงทั้งๆที่ยังแต่งสูทรอยู่ แล้วก็ตะโกนเรียกคนฝั่งโน้นมาพูดกัน ตรงนี้ผมได้ยินไม่ถนัดนัก แต่ก็พอจับใจความได้ว่า ท่านถามว่าโรงงานนี้ทำอะไร ได้อนุญาตถูกต้องหรือไม่ ทำนองนี้ สักพักท่านก็กลับลงมา คราวนี้ควักปากกาออกมาเขียนอะไรบนจดหมายที่ยังอยู่ในมือ แล้วก็หันมาบอกเจ้าของบ้านว่า ผมตรวจสอบแล้วเป็นจริงตามที่คุณร้องเรียนมา เดี๋ยวจะส่งเรื่องให้นายอำเภอจัดการให้ *ขณะนั้นยังไม่มี ผอ.เขตนะครับ
หลังจากนั้นท่านก็เดินทางกลับบ้านท่าน ผมก็อาศัยรถตำรวจกลับบ้านผม
นับจากวันนั้นมาถึงวันนี้ก็ 31 ปีแล้ว ผมไม่เคยลืมเหตุการณ์เลย ผมไม่เคยเขียนกระทู้ยาวๆเช่นนี้มาเลยในชีวิต ขอมอบกระทู้นี้แด่ ท่านสมัคร สุนทรเวช ในวันที่ท่านได้รับพระราชทานเพลิง ผมอาลัยท่านมาก นายกในใจผมมีอยู่แค่ 3 ท่านเท่านั้น ท่านก็เป็นหนึ่งในนั้น