อยากถามคุณเทพไทจังเลยครับ
|
 |
ที่คุณเทพไทบอกว่า “ การแก้ไขรัฐธรรมนูญจะสำเร็จหรือไม่ ต้องดูปัจจัยหลายอย่าง 1.ดูการอภิปรายว่าสนับสนุนหรือไม่ 2.กรรมาธิการวิสามัญที่จะพิจารณาในวาระที่ 2 มีการสงวนคำแปรญัติติหรือไม่ 3.กระแสสังคมคิดอย่างไรกับการแก้รัฐธรรมนูญ และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของสมาชิกรัฐสภาที่มีองค์ประกอบ 3 ส่วน คือ รัฐบาล ฝ่ายค้าน และวุฒิสภา จะมาโยนความผิดว่าการแก้รัฐธรรมนูญเป็นเรื่องของรัฐบาลโดยตรงก็ไม่ยุติธรรม”
ผมเลยไม่เข้าใจเป็นอย่างยิ่งครับคุณเทพไท เพราะการแก้รัฐธรรมนูญ 2 มาตรานี้ ก็เป็นคณะกรรมการที่ท่านนายกฯตั้งขึ้นด้วยงบประมาณของแผ่นดิน เพื่อความปรองดองและปฏิรูปประเทศไทยไม่ใช่หรือครับ คุณเทพไทคิดว่ายังมีคนส่วนใหญ่ในประเทศไม่อยากให้มีการปรองดองอีกอย่างนั้นหรือครับ และการแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นท่านนายกฯออกมาให้ข่าวว่านี่คือแผนปรองดองเสียด้วย แม้ตัวผมจะมองไม่เห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญในสองมาตราดังกล่าวจะสร้างความปรองดองได้อย่างไร แต่เมื่อเสียเงินจ้างเขามาทำแผนแล้ว ก็ควรทำให้สำเร็จมิใช่หรือครับ ทำไมจึงบอกว่าไม่ยุติธรรม ถ้าจะโยนความผิดให้กับรัฐบาลนี้ถ้าไม่สามารถแก้ไขรัฐธรรมนูญสองมาตรานี้ได้ ก็รัฐบาลอาสาจะสร้างความปรองดอง แล้วการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพียงสองมาตรายังไม่สามารถทำได้ หึหึ อย่างนี้ไม่ให้ประชาชนตำหนิรัฐบาล จะให้ตำหนิคุณทักษิณอย่างนั้นหรือครับคุณเทพไท
คุณเทพไทยังกล่าวอีกว่า “รัฐบาลชุดนี้มาจากนักการเมืองอย่างแท้จริง พรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกจากประชาชน ไม่เคยคดโกงหรือเอาภาษีประชาชนมาใช้ในเชิงธุรกิจเพื่อประโยชน์ของตัวเอง”
ผมเชื่อคุณเทพไทครับว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่ทำแบบนั้นแน่ แต่คนของพรรคล่ะครับ คุณเทพไทคงไม่ปฏิเสธนะครับ อย่างน้อยก็มีคุณอภิรักษ์กำลังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินคดี คุณวิฑูรย์ คุณกอร์ปศักดิ์ คุณวิทยา บุคคลเหล่านี้ต้องออกจากตำแหน่งด้วยเรื่องอะไรเหรอครับคุณเทพไท แล้วยังดองอยู่ใน ปปช.อีกหลายเรื่อง ไม่เว้นแม้แต่ภาษี เอสเอ็มเอสของท่านนายกฯ พูดผิดพูดใหม่ได้นะครับคุณเทพไท
คุณเทพไทยังกล่าวถึงนโยบายของพรรคเพื่อไทยเป็นการแก้ปัญหามักง่าย อย่างเช่น “ดูได้จากกรณีภาคใต้ บอกว่าสามารถแก้ปัญหาให้จบภายใน 3 เดือน ด้วยการอุ้มหัวโจก แต่ปัญหาก็ลุกลามและยึดเยื้อมาจนถึงปัจจุบัน”
ผมก็อยากถามคุณเทพไท ซึ่งก็เรียนกฎหมายมาไม่ใช่หรือครับ ดังนั้นน่าจะรู้ดีว่าการกล่าวหาใครพล่อยๆนี่มันไม่ถูกต้องนะครับ ไม่งั้นก็จะมีการกล่าวหาไปกล่าวหากันมาไม่มีทีสิ้นสุด และตำแหน่งของคุณเทพไทก็เป็นถึงโฆษกคุณอภิสิทธิ์ ก่อนจะพูดอะไรควรมีหลักฐานก่อนไม่ดีกว่าหรือครับ ส่วนเรื่องการแก้ปัญหาภาคใต้ไม่ได้นั้น คุณเทพไทคงลืมไปแล้วสินะครับว่า พรรคท่านก็บอกเช่นกันว่า ถ้าได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ ปัญหาทางภาคใต้ก็จะจบลง ตอนนี้จบแล้วหรือครับ ทั้งๆที่ภาคใต้เป็นฐานเสียงของพวกคุณแท้ๆ น่าจะรับรู้ปัญหาได้ดีกว่า แต่ก็ไม่ได้ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นเลยสักนิด เป็นเพราะอะไรหรือครับคุณเทพไท
คุณเทพไทบอกอีก “การแก้ปัญหาหวยใต้ดิน เมื่อปราบไม่ได้ ก็ยกขึ้นมาเป็นหวยบนดิน และก็เอาเงินที่ได้มาใช้ประโยชน์ทางการเมือง”
คุณเทพไทครับ เม็ดเงินที่ได้จากหวยบนดิน เพื่อนำมาให้กับตำรวจ และนักศึกษาผู้ยากไร้มีโอกาสได้เรียนต่อยังเมืองนอก เป็นการใช้ประโยชน์ทางการเมืองหรือครับ? คุณเทพไทเคยถามพี่น้องตำรวจและเหล่านักศึกษาเหล่านั้นหรือยังครับว่า อยากเสียผลประโยชน์ทางการเมืองแบบนี้หรือเปล่า? หรือว่าการแก้ปัญหาหวยบนดินแบบไม่มักง่ายของรัฐบาลคุณเทพไทก็คือ ยกเลิกหวยออนไลน์ เพื่อไม่ให้ประชาชนหมกมุ่นกับการพนัน แล้วก็มาพิมพ์เพิ่มสลากอีกหลายล้านฉบับ เพื่อไม่ให้สลากขายเกินราคา คุณเทพไทพอจะรู้หรือเปล่าครับว่า เวลานี้สลากกินแบ่งพิมพ์ขึ้นจำนวน 64 ล้านฉบับต่องวด ในขณะที่เรามีประชากรแค่ 63 ล้านกว่าคนเท่านั้น นี่คือวิธีแก้ปัญหาอย่างบูรการใช่หรือเปล่าครับคุณเทพไท และขณะที่ไม่อยากให้คนไทยเล่นการพนัน รัฐบาลก็ไม่เห็นมีนโยบายอะไรที่จะปราบปรามหวยใต้ดิน อย่างนี้จึงเป็นการแก้ปัญหาแบบไม่มักง่ายอย่างนั้นหรือครับคุณเทพไท มิน่าเล่า ใครๆถึงบอกว่า ปชป.ได้เป็นรัฐบาลเมื่อไหร่ หวยใต้ดินมักจะเฟื่องฟู ก็คงไม่ผิดความจริงไปสักเท่าไหร่เลยเนาะคุณเทพไท
คุณเทพไทยังกล่าวต่ออีกว่า “บ่อนการพนันเมื่อปราบไม่ได้ จะให้เปิดบ่อนเสรี”
แล้วคุณเทพไทคิดยังไงหรือครับ อย่าเอาแต่ค่อนขอดโดยไม่แสดงความคิดเห็นสิครับ เมื่อไม่เห็นด้วยแล้วรัฐบาลของคุณเทพไทปราบบ่อนการพนันหมดแล้วหรือยังครับ ถ้ายังไม่สามารถทำได้ ทำไมไม่นำแนวคิดของคนอื่นมาหาเงินเข้ารัฐล่ะครับ อย่าอายไปเลย เพราะนโยบายหลายอย่างที่ทำอยู่ขณะนี้ก็ลอกเขามาอยู่แล้ว ถ้าจะเพิ่มอีกอย่างก็คงไม่ทำให้เหนียมไปมากกว่าที่เป็นอยู่หรอกครับ ข้อสำคัญ คุณเทพไทรู้บ้างหรือเปล่าครับว่า ประเทศที่เจริญๆแล้วทั้งหลาย ส่วนใหญ่ก็มีบ่อนเสรีกันทั้งนั้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกทางหนึ่ง คิดจะนำพาประเทศให้สู่ความเจริญได้ ต้องคิดเป็นด้วยนะครับ คิดเป็นทำเป็น ไม่ใช่พูดเป็นอย่างเดียว ประเทศไม่มีทางเจริญหรอกครับคุณเทพไท
และสุดท้ายคุณเทพไทยังพูดต่ออีกว่า “ซ่องโสเภณีเมื่อกำจัดไม่ได้ ก็จะจดทะเบียนให้ถูกต้อง เรื่องดังกล่าวเป็นนโยบายที่มักง่ายของพรรคเพื่อไทยที่หวังเพียงคะแนนเสียง ไม่มองถึงพื้นฐานของสังคมไทย ไม่ควรยอมรับ”
สำหรับข้อนี้ผมคงไม่ถามคุณเทพไท แต่ผมอยากแนะนำคุณเทพไทมากกว่าครับ ก็คุณเทพไทบอกให้มองถึงพื้นฐานของสังคมไทย ส่วนผมอยากให้คุณเทพไทมองถึงความเป็นจริงของสังคมไทยมากกว่าครับ อยากให้เห็นว่าสังคมไทยตอนนี้มีโสเภณีเท่าไหร่กันแล้ว อายุของการขายบริการทางเพศก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ คุณเทพไทจะรู้หรือเปล่าว่า ทุกๆถนนในเวลานี้ สามารถที่จะหาคนที่ขายบริการได้ทุกเมื่อ แล้วเราจะปล่อยให้สังคมเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆโดยไม่ทำอะไรหรือครับ การจดทะเบียนให้ถูกต้อง ไม่ใช่แค่ได้เงินเข้ารัฐเท่านั้น เรายังสามารถควบคุมได้ในระดับหนึ่ง ป้องกันการแพร่กระจายของโรคร้าย จำกัดการบริการได้ในระดับหนึ่ง ป้องกันการเกิดอาชญากรรมได้อีกระดับหนึ่ง ถ้าเราไม่ใช่พวกมือถือสาก ปากถือศีล ก็จะมองออกว่า การค้าประเวณีมีอยู่ทั่วโลก และทั่วโลกอีกเช่นกันก็มีการจดทะเบียนเหมือนกัน ก็คงเช่นเดียวกับการขึ้นทะเบียนคนต่างด้าวไงครับคุณเทพไท
และสุดท้ายก็อยากจะสอนคุณเทพไท เพราะเห็นว่าเป็นคนรุ่นใหม่อายุก็ยังไม่มาก ควรจะแสดงวิสัยทัศน์ เพื่อพัฒนาประเทศ ดีกว่าคอยจับผิดคำพูดของคู่กรณี แล้วนำมาประดิดประดอยคำพูด เพื่อความสะใจ อย่ามองทุกเรื่องเป็นเรื่องของการเมืองไปหมด ไม่งั้นก็จะแปลงร่างไปเหมือนกับนักการเมืองรุ่นเก่าๆ ที่ถูกกลืนไปกับวัฒนธรรมทางการเมืองของพรรคเก่าแก่พรรคหนึ่ง ที่หลายสิบปี เป็นรัฐบาลก็หลายครั้ง แต่ไม่เคยมีแนวคิดเชิงบวกในการพัฒนาประเทศ เก่งอยู่เรื่องเดียว คือ สำนวนโวหารในทางการเมือง นั่นก็เป็นที่น่าเสียดายอย่างยิ่งครับสำหรับคุณเทพไท
จากคุณ |
:
ทวดเอง
|
เขียนเมื่อ |
:
16 พ.ย. 53 08:58:34
A:183.89.82.223 X:
|
|
|
|