เรื่องเก่า เรา (ไม่) ลืม
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะวันที่ 24 สิงหาคม 2548
.. ผมต้องลุกขึ้นอภิปราย เพราะพรรคฝ่ายค้านไม่สามารถลงมติอนุมัติพ.ร.ก. ฉบับนี้ได้ เนื่องจาก
1. การตรากฎหมายฉบับนี้ อยู่บนพื้นฐานความคิดที่ไม่สอดคล้องกับสภาพที่แท้จริงของปัญหา และการบังคับใช้กฎหมายบนพื้นฐานของฐานความคิดนี้ ก็มาจากความสุ่มเสี่ยง นอกจากจะแก้ปัญหาไม่ได้แล้ว ยังทำให้ปัญหามีความรุนแรงมากขึ้น
2. กระบวนการตรากฎหมายและบทบัญญัติกฎหมาย สะท้อนถึงความคิดที่สับสน กระทบต่อความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ ที่ดูแลสิทธิของประชาชน และ
3. ช่องว่างที่นำสู่ความผิดพลาดในการใช้กฎหมาย กลับเพิ่มเติมความหวาดระแวงของคน และความแตกแยกที่จะมีขึ้น..
วาทะเด็ดๆ ที่อภิสิทธิ์เคยพ่นไว้..
การเมืองในวิถีประชาธิปไตย ไม่มีที่ไหนในโลกที่ประชาชนถูกทำร้ายจากภาครัฐแล้ว รัฐบาลที่มาจากประชาชน ไม่แสดงความรับผิดชอบ
ผมไม่นึกไม่ฝันว่า เรามีรัฐที่ได้ทำร้ายประชาชนถึงขั้นเสียชีวิต บาดเจ็บสาหัส
แล้วเรายังมีรัฐที่พยายามยัดเยียดความผิดกลับไปให้ประชาชนอีก เป็นพฤติกรรมที่รับไม่ได้ครับ
บัดนี้ เขาสูญเสียไปแล้ว นายกฯ ไปยัดเยียดข้อหาใส่เขาอีก พฤติกรรมอย่างนี้ ไม่มีทางนำมาซึ่งความสมานฉันท์ปรองดอง
มันมีการทำร้ายประชาชน มีการยิงอาวุธใส่ประชาชน ไม่ได้เป็นไปตามที่แถลงก่อนหน้านี้ว่า เป็นการใช้แก้สน้ำตาเท่านั้น
ประชาชนคนไทยนั้น ไม่ใช่ประชาชนที่รุนแรงครับ แต่เป็นผู้ถูกกระทำจากความรุนแรงของภาครัฐ
เป็นคนหรือเปล่า กระทำกับบุคคลถึงขั้นเสียชีวิต แล้วยังยัดเยียดปรักปรำใส่ร้ายเขาอีกว่าเขาพกพาอาวุธ
พันธมิตรฯ ทำถูกทำผิด รัฐบาลก็ไม่มีสิทธิ์ทำผิด ไม่มีสิทธิ์ทำร้ายประชาชน อันนี้คือจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์
เราเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ทำในสิ่งที่เราพอจะทำได้ ถ้าการทิ้งตำแหน่งนั้นทำให้บ้านเมืองสงบ แก้ไขปัญหาได้ เราทำทันที
ผมเห็นอาการท่าน (สมชาย วงศ์สวัสดิ์) ตอนนี้มีแต่ความหวาดกลัว ความหวาดระแวงไปหมดแล้ว ถามท่านว่า ท่านอยู่ไปเพื่ออะไรครับ
ถ้ายุบสภา คืนอำนาจให้ประชาชน ผมก็ไม่ว่านะครับ ก็ดีกว่ารัฐบาลอยู่อย่างนี้ แล้วรัฐบาลพังไปเรื่อยๆ
."วันนี้ในทางการเมืองหมดความชอบ ธรรมไปแล้วเราเรียกร้องความรับผิดชอบจากนายกฯ จะลาออกหรือถ้ากลัวการลาออกและพรรคประชาธิปัตย์ จะมีอำนาจ ท่านจะยุบสภาก็ได้"
"แต่ท่านไม่ควรเพิกเฉย เพราะถ้าไม่ทำอะไร ก็เท่ากับทำร้ายบ้านเมืองและกำลังทำร้ายระบบการเมือง"
"สิ่งที่พูดในวันนี้ รัฐบาลไม่ต้องมากล่าวหายัดเยียดว่าเพราะเราเห็นด้วยกับทุกเรื่องของพันธมิตรฯ"
"เพราะพันธมิตรจะทำผิด แต่รัฐบาลก็ไม่มีสิทธิที่จะทำร้ายประชาชน"
และเมื่อนักข่าวถามว่าทำไมสถานการณ์ในขณะนั้นที่ถือว่าวิกฤติสูงสุดแล้ว นายกรัฐมนตรียังอยู่ได้
คำตอบจากผู้นำฝ่ายค้านที่ชื่ออภิสิทธิ เวชชาชีวะ ตอบสั้น ๆ ชัดเจนว่า
"ผมตอบไม่ได้ ผมก็ไม่เคยเห็นคนแบบนี้ ถ้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ผมรู้จักก็คงไม่เป็นแบบนี้"
แถม
"ขอถามสังคม 3 ข้อ คือ 1.จะให้อาชญากรแก้กฎหมายอาญาหรือไม่ 2.จะให้นักเลือกตั้งแก้ไขการทุจริต ซื้อเสียงหรือไม่ 3.จะให้มิจฉาทิฐิแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่"
นายจรัญ ภักดีธนากุล
ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
(14 กรกฎาคม 2551)
"การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ต้องการให้องค์กรอิสระชุดใหม่อยู่ใต้โอวาทและสั่งได้จะเป็น ชนวนสร้างความแตกแยกและการเผชิญหน้า ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวายรัฐบาล ต้องรับผิดชอบ"
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
19 เมษายน 2551
"การเลือกตั้งทั่วไปครั้งนี้ถือเป็นโอกาสของประเทศ จะชนะหรือแพ้ขอวัดด้วยวาระประชาชน ถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้รับเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง แต่ไม่มีพรรคไหนยอมทำตามนโยบายวาระประชาชน ผมก็จะไม่ขอเป็นรัฐบาลและไม่เป็นนายกรัฐมนตรี"
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
13 ตุลาคม 2550
"เพื่อให้แนวทางฟื้นฟูประชาธิปไตยเดินต่อไปได้ อยากให้ประชาชนเห็นชอบรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ เพื่อเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง เพราะการเลือกตั้งจะช่วยคลี่คลายปัญหาและแก้วิกฤติชาติ"
นายอภิสิทธิ เวชชาชีวะ
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
(8 กรกฏาคม 2550)