ว่าด้วยบทความของคุณหนุ่มเมืองจันท์ในกระทู้คุณตระกองขวัญ{แตกประเด็นจาก P9965620}

เรื่องกงกำกงเกวียน

บทความเริ่มด้วยประโยคที่ว่า
"ใครจะไปนึกว่าวันหนึ่ง "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" จะอยู่ในชะตากรรมเดียวกับ "ทักษิณ ชินวัตร""
แค่ประโยคแรกก็โดนใจแล้ว
เพราะในวันนั้น มีเราคนหนึ่งที่คิดว่า หากคุณอภิสิทธิ์กระโดดเข้ามาร่วมวงแล้ว วันหนึ่งคงมีชะตากรรมเช่นเดียวกับนักการเมืองผู้เป็น "เหยื่อ" ในครั้งนั้น

ในสายตาของเรา นับจากการรัฐประหาร การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ การยึดสนามบินเพื่อกดดันนายกฯสมชายให้ลาออก และการยุบพรรคการเมือง ล้วนเป็นกระบวนการทำลายล้างฝ่ายการเมืองฝ่ายหนึ่งให้สิ้นซาก จากนอกระบบเข้ามา เป็นการใช้ปัจจัยภายนอกเข้ามาเปลี่ยนแปลงระบบ

ในวันที่พลังประชาชนถูกตัดสินยุบพรรค ซึ่งช่างเหมาะเจาะที่จะให้ผู้ยึดสนามบินทั้งหลายได้ประกาศชัยชนะ และกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวทันวันสำคัญของช่วงนั้น
ตัวเราเป็นหนึ่งคนที่คอยดูท่าทีคุณอภิสิทธิ์ด้วยใจที่หวังว่า เค้าเพียงคนเดียวเท่านั้นที่จะเป็น "ยอดมนุษย์" ตัดวงจรรัฐประหารอุบาทว์ ที่บั่นทอนการเจริญเติบโตของระบอบประชาธิปไตยไทยได้
เพราะเราคิดว่าในฐานะผู้มีอาชีพเป็น "นักการเมือง" การสานต่อใดๆจากกระบวนการนอกระบบ เป็นสิ่งที่ผู้มีจรรยาบรรณของนักการเมือง ไม่ควรทำอย่างยิ่ง

ช่วงนั้นเราคอยติดตามโดยหวังว่า

1. เค้าคงไม่พยายามคุยกับพรรคอื่นเพื่อเปลี่ยนขั้วหรอกน่า...แต่เปล่า
2. งั้นพอเค้าเปลี่ยนขั้วได้ เดี๋ยวเค้าคงรีบยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ...
จนบัดนี้ เมื่อพรรคของตนเริ่มไม่มั่นคง ถึงเริ่มมีวี่แวว

เค้าไม่ได้ผิดที่ทำให้เราผิดหวัง แต่เราสงสัยว่า หลักการและเหตุผลของเค้าคืออะไร
แต่ที่สุด เหล่านี้เป็นสิ่งที่เค้าเลือกแล้ว และเป็นการเลือกที่ส่งผลถึงประเทศด้วย

ความคิดของเรานึกถึง ต้นไม้พิษ พวกเล่นกับไฟ หมองูตายเพราะงู
สิ่งที่ใช้ทำลายคนอื่นที่คุณสมบัติเหมือนตน มันซื่อสัตย์ต่ออานุภาพการทำลายจนย้อนมายังผู้ใช้มัน
คุณอภิสิทธิ์เลือกข้างพันธมิตร ข้างทหาร
เดินแยกทางจากนักการเมืองด้วยกันแม้เป็นฝ่ายตรงข้าม

ในวันนี้ จึงเป็นอีกหนึ่งบทพิสูจน์ว่า

กฎแห่งกรรมเป็นสุดยอดของความจีรังสำหรับทุกชีวิตบนโลกนี้

(เพียงแต่พันธมิตร/ทหารไม่ใช่พระเจ้า ที่ตัดสินกรรมของใครๆได้ โดยละเว้นตนเอง
...หรือพวกท่านคิดว่าพวกท่านใช่????)

ส่วนเงื่อนไขในการทำรัฐประหารของพลเอกสนธิ ในวันนี้มีทั้งครบทั้งชัด
ยังมองไม่เห็น ยังไม่ออกมา เราว่านั่นมันแค่เงื่อนไข "ลวงโลก"
เลือกปฏิบัติ อนาถประเทศไทย ขนาดรัฐประหารยังสองมาตรฐาน
(แต่ถ้าเกิดอีก ใจเราคงแหลก รู้สึกเหมือนเราไหมคะ ที่ความเป็นคนถูกย่ำยีด้วยคนชุดเขียวที่มาพร้อม
ปืนเหน็บดอกกุหลาบและตีนตะขาบของรถถัง
ทั้งที่ครั้งนั้นเราเลือกประชาธิปปัตย์ เรายังรู้สึกว่าเสียงของคนอื่นถูกย่ำยี)

สุดยอดยิ่งกว่านั้น ผู้ทำรัฐประหารก่อตั้งพรรคการเมือง!!!!
ด้วยความเคารพ (หนูโกหกค่ะ) ไม่อยากให้ท่านเหยียบสภาผู้แทนราษฎรด้วยซ้ำ!!!!!

ทุกวันนี้มีประโยชน์อะไรที่เราจะมีนายกที่ดูเป็นคนดี เชื่อมั่นแต่เรื่องดีๆ
แต่รอบข้างเละเทะ
เป็นเพราะคุณไม่มีอำนาจ หรือเป็นเพราะคุณ "ดี" ไม่จริง
ขออย่าให้คุณมีค่านิยมที่ไม่สนสิ่งรอบข้าง
แต่นิยมให้ภาพพจน์คนดีอยู่ติดกับตนเองคนเดียวตลอดไป --- เพราะนั่นมันอันตรายต่อประเทศ

สิ่งต่างๆที่เกิดเพราะมีคนใช้ ความดี-ความชั่ว แถมความรู้ เข้ามาตัดสิน
ยุคนี้เราจึง "เอียน" กับคำว่า คนดี-ความดี

ประเด็นที่แตกออกมาคือ เรื่อง "คนดี-ความดี"

หากมีพรเพียงข้อเดียวที่จะให้เราขอได้
คงจะขอให้คนเราเลิก "บ้าดี" หันกลับมามีเหตุผล
ไม่มีใครดีหมดจด ไม่มีใครเลวทั้งหมด
เวลาพิจารณาอย่าเหมารวม แต่ดูเป็นเรื่องๆไป
เพราะทุกอย่างมีสองด้าน เลือกโดยใช้หลักการและเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมเป็นสำคัญ

ดูคนจากการกระทำ ทำดีเป็นเรื่องปกติธรรมดา ไม่ยกย่องคนดีจนบ้าดี
เพราะมีผู้ไม่ประสงค์ดี ใช้คนบ้าดีเป็นเครื่องมือได้
บางคนก็แกล้งดี เพราะรู้ว่าคนนิยม
บางพวกก็หลงดี ตัดสินคนอื่น จนลืมไปว่า

ถ้าเราไม่มีบทบาทหน้าที่ตัดสิน เราก็ไม่มีสิทธิ์ตัดสินใคร...

สวัสดีค่ะ

ปล.
คิดถึงเพื่อนๆผู้เสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมเสมอ 
ชีวิตที่มีเพียงหนเดียว
ถูกดับ
ทั้งความหวัง
ความฝัน
โอกาสที่จะสุขจะทุกข์ จะดีจะเลว
รักและอาลัยและเสียใจ

จากมะเลม่อน

(ไม่เคยพิมพ์กระทู้ใน Richtext Mode ขออภัยในความผิดพลาดที่มี ไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ)

จากคุณ	: มะเลม่อน
เขียนเมื่อ	: 28 พ.ย. 53 15:06:20 A:125.24.237.75 X: