Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
Recycle กระทู้ >> ใครลุ้นวันนี้ แนะนำให้ไปนอนกอดพจนานุกรม อย่าลุ้นเลย ถ้ารู้ว่าสู้อยู่กับใคร? ติดต่อทีมงาน

ลดโลกร้อน  ด้วยการ Recycle กระทู้ครับ
ของเก่าถูกลบไปแล้ว 


วันที่ 07 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 20 ฉบับที่ 7252 ข่าวสดรายวัน

จับข้อสงสัย จากคำเบิกความ ของบัญญัติและประดิษฐ์ คดียุบพรรคปชป.29 ล้าน

คอลัมน์ สดจากสนามข่าว

จาก การเข้าเบิกความต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ของนายบัญญัติ บรร ทัดฐาน อดีตหัว หน้าพรรคประชาธิปัตย์และ นายประดิษฐ์ ภัทรประสิทธิ์ อดีตเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ในฐานะพยานของฝ่ายผู้ถูกร้อง ในคดีที่ กกต. ยื่นเรื่องขอให้ศาลพิจารณายุบพรรคประชาธิปัตย์ จากการใช้จ่ายเงินกองทุนเพื่อพัฒนาพรรค การเมือง 29 ล้านบาท ผิดวัตถุประสงค์นั้น

หลังจากที่ข่าวสดนำเสนอคำเบิกความของบุคคลทั้งสองไปแล้ว ได้มีมุม มองอีกด้าน ตั้งข้อสังเกตต่อคำเบิกความดังนี้

1. นายบัณฑิต ศิริพันธ์ ให้ลูกความต่อสู้คดีว่า กกต. เข้าใจผิด ที่มากล่าวหาว่า พรรคประชาธิปัตย์ยังไม่ได้อนุมัติเงินแต่ไปทำป้าย ทั้งที่ในความจริง กกต. อนุมัติตั้งแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 วงเงิน 19 ล้านบาท "ซึ่งนับแต่วินาทีนั้น พรรคประชาธิปัตย์ทำป้ายได้เลย" ข้อต่อสู้ดังกล่าวจะเกิดคำถามกับพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากทำป้ายได้จริง ทำไม กกต. จึงต้องมีหนังสือที่ ลต 0402 / 11812 ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 แจ้งอนุมัติโครงการที่พรรคประชาธิปัตย์ได้รับอนุมัติสนับสนุนเงินกองทุน โดยมีข้อเน้นย้ำในหน้า 3 ของหนังสือว่า "ในการใช้จ่ายเงินตามโครงการและแผนงานของพรรคการเมือง ให้พรรคการเมืองใช้จ่ายให้เป็นไปตามรายการค่าใช้จ่ายที่ได้รับอนุมัติใน โครงการ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องขออนุมัติการเปลี่ยนแปลงจากคณะกรรมการกองทุน" และพรรคประชาธิปัตย์โดยนายบัญญัติ รับทราบจึงเป็นเหตุให้นายบัญญัติต้องทำหนังสือของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ ปชป. 4800020/2548 ลงวันที่ 10 มกราคม 2548 เสนอขอปรับปรุงเปลี่ยนแปลงโครงการและแผนงานที่ได้รับการสนับสนุนจาก กกต.

ดัง นั้น จากหนังสือ กกต. ลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 และหนังสือของพรรคประชาธิปัตย์ลงวันที่ 10 มกราคม 2548 จึงเป็นพยานหลักฐานผูกมัดว่า การที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่มีอำนาจ ทำป้ายก่อนที่จะได้รับอนุมัติจาก กกต. การสู้คดีแบบนั้น จะทำให้เห็นได้ว่า ขัดแย้งกับสิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทำลงไป เพราะในขณะนั้นหากพรรคประชาธิปัตย์คิดว่าทำป้ายได้ ทำไมพรรคประชาธิปัตย์ จึงต้องมาขออนุมัติเปลี่ยนแปลงโครงการตามหนังสือลงวันที่ 10 มกราคม 2548

2. การที่นายบัญญัติอ้างว่าเปลี่ยนแผนทำป้ายไม่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค โดยอ้างว่าเป็นการกระทำของคณะทำงานด้านยุทธศาสตร์การประชา สัมพันธ์ของพรรค ที่มีนายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ รับผิดชอบ เห็นว่ามีข้อพิรุธ เพราะตลอดมาทั้งนายบัญญัติและพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกล่าวอ้างถึงคณะทำงาน คณะชุดนี้ แม้แต่บันทึกถ้อยคำที่นายบัญญัติอ้างส่งต่อศาลก็ไม่ได้กล่าวอ้างข้อเท็จจริง ถึงคณะทำงานชุดนี้แต่อย่างใด อ้างเพียงว่าพรรคประชาธิปัตย์อยู่ในวิสัยที่จะดำเนินการเตรียมการจัดทำป้าย สามารถทำป้ายได้เลยนับแต่วันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 แต่ เมื่อเวลามาเบิกความต่อศาลกลับอ้างข้อเท็จจริงใหม่ว่า เป็นเรื่องคณะทำงานของนายชาญชัย ไม่เกี่ยวกับกรรมการบริหารพรรค อีกทั้งนายบัญญัติก็เป็นคณะกรรมการกองทุนอยู่ด้วยย่อมทราบดีว่า การขอเปลี่ยนแปลงแผนงานต่อ กกต. ไม่ใช่เรื่องที่คณะทำงานด้านยุทธศาสตร์โดยนายชาญชัยจะเป็นผู้ดำเนินการ เพราะการขอเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคเป็นผู้ ตัดสินใจขออนุมัติต่อ กกต. และผู้ที่มีอำนาจอนุมัติคือคณะกรรมการกองทุน มิใช่เจ้าหน้าที่ฝ่ายเลขานุการ  อย่างไรก็ดี พยานหลักฐานเอกสารที่มัดว่านายบัญญัติพูดต่อศาลและสังคมจริงหรือไม่ ให้ตรวจสอบจากหนังสือพรรคประชาธิปัตย์ที่ ปชป. 4800020/ 2548 ลงวันที่ 10 มกราคม 2548 จะเป็นเครื่องชี้ชัดถึงข้อความจริงที่มีอยู่

3. การที่นายบัญญัติชี้ว่า หากไม่ได้รับอนุมัติก็แค่คืนเงิน เห็นว่า เป็นการขัดแย้งกับกฎระเบียบของการใช้จ่ายเงินสนับ สนุน เพราะในเรื่องนี้ กกต. ได้มีหนังสือลงวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 เน้นย้ำต่อพรรคว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องขออนุมัติการเปลี่ยนแปลงจากคณะกรรมการกอง ทุนก่อน นายบัญญัติไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่าหากไม่ได้รับอนุมัติก็แค่คืนเงิน นายบัญญัติในฐานะที่เป็นคณะกรรมการกองทุน ต้องตระหนักถึงกฎระเบียบการใช้จ่ายเงินให้เป็นไปตามรายการค่าใช้จ่ายที่ได้ รับอนุมัติในโครงการ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องขออนุมัติเปลี่ยนแปลงจากคณะกรรมการกองทุน หากความคิดของนายบัญญัติเป็นดังที่อ้างว่า "หากไม่ได้รับอนุมัติก็แค่คืนเงิน" พรรคที่ถูกยุบไปแล้วคงจะต้องมาถามหาความชอบ ธรรมจากนายบัญญัติเป็นแน่

4. นายบัญญัติโจมตี นางสาววาสินี ทองเจือ และ นายประจวบ สังข์ขาว  จาก การสืบพยานนางสาววาสินี ทองเจือ และนายประจวบ สังข์ขาว ยืนยันว่ามีการนำเงินไปให้กับพรรคประชาธิปัตย์มีเส้นทางการเงินซึ่งเป็นธุรก รรมทางการเงินชัดแจ้ง มีใบสำคัญที่คนของพรรคออกให้ ในขณะที่พรรคใช้งานบุคคลทั้งสองอยู่ แต่ขณะนี้เสมือนคำพังเพยที่ว่า เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล เพราะนายบัญญัติและพรรคประชาธิปัตย์ต้องปฏิเสธอย่างแข็งขันและให้ร้ายพยาน บุคคลทั้งสองซึ่งเป็นที่เข้าใจได้ว่า หากศาลรับฟังตามข้อเท็จจริงที่นางสาววาสินีและนายประจวบให้การแล้ว ย่อมหนีไม่พ้นข้อหาที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้รับคือ ทุจริตทางอาญา ยักยอกเงินงบประมาณของแผ่นดิน

เพราะเงินสนับสนุนของกองทุนพัฒนาพรรค การเมืองที่พรรคประชาธิปัตย์ขอรับเงินสนับสนุนถือเป็นเงินงบประมาณของแผ่น ดิน ที่สังคมต้องช่วยกันรักษา

หน้า 2
http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TUROd01ERTJNVEEzTVRBMU13PT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBeE1DMHhNQzB3Tnc9PQ==

ก่อนอื่น ต้องปรบมือให้ทีมงานข่าวสด
อ่านแล้ว บางคนอาจจะเคลิ้มว่า ชนะแน่ ยุบแน่ ตัดสิทธิแน่
แต่ช้าก่อน  ลืมไปแล้วเหรอว่าสู้อยู่กับใคร?
ฝ่ายประชาธิปัตย์  มีทนายที่เก่งมาก  มีอดีตนายกที่สะอาดมากๆ ดีที่สุด ดีจริงๆ

ใครที่ลุ้นว่าจะโดนยุบ   เอาเวลาไปเที่ยวเถอะ เสียเวลาลุ้น

เพิ่มเติม
ศาล รธน.รับวินิจฉัยยุบ'ปชป.'ปม 29 ล้าน ให้เวลา 15 วัน ชี้แจงข้อกล่าวหาเผย'พลังเกษตรกร'เพิ่งเจอยุบพรรค ตัดสิทธิ กก.บห. 5 ปีด้วย

http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=256576


จากคุณ : tonytui
เขียนเมื่อ : 29 พ.ย. 53 07:49:32 A:118.175.13.245 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com