 |
วันเบาๆกับตอบกระทู้เบาๆ ขอตอบ คุณSoPoomSan จากกระทู้ P10006179
|
 |
ที่จริงวันนี้ตื่นเช้ามาเห็นกระทู้คุณ masatha ก็รีบให้กิฟต์ก่อนเลยเพราะปกติเป็นคนสนใจเก็บสะสมคำวินิฉัยของศาลในคดีดังๆเพื่อเอาไว้ค้นคว้าอ้างอิงต่อไป เห็นคุณ masatha แจ้งข่าวไว้แต่เมื่อคืนเลยขอกดให้กิฟต์กันหน่อยครับ แล้วก็ไม่คิดว่าวันนี้จะตั้งกระทู้อะไรอีก วัน เพราะนึกไม่ออกว่าจะมีประเด็นน่าสนใจอะไร และในใจก็อยากจะทำให้ได้อย่างที่เคยตั้งใจว่าจะงดตั้งกระทู้ในห้องราชดำเนินบ้าง ไม่อยากตั้งกระทู้ไปเสียทุกวัน แต่พอดีตอนเที่ยงผ่านมาเห็นคุณ SoPoomSan ตั้งกระทู้พาดพิงกระทู้เดิมที่ผมตั้งเมื่อวานตอนเย็น อ่านดูแล้วเห็นได้ชัดว่าคุณ SoPoomSan เข้าใจผิดไป เดิมทีก็ว่าจะปล่อยผ่านไปเพราะอยากงดตั้งกระทู้ แต่ช่วงบ่ายวันนี้ก็ว่าง และก็ไหนๆก็ไหนๆ อุตสาห์ตั้งเป็นกระทู้ถามขึ้นมา หากไม่ตอบก็จะต่อว่ากันได้ เลยขอตอบแล้วกันนะครับ ดังนี้
เรื่องที่คุณ SoPoomSan ว่าตนเองไม่ใช่นักกฎหมายนี่นา ก็ไม่เป็นไรหรอกครับ ทีจริงกระทู้ผมนะเขียนให้บุคคลทั่วไปอ่านครับ เพียงแต่ว่าหากค่อยๆอ่านให้ดีๆ ก็จะไม่มีกรณีเอาชื่อคุณวิคเตอร์ มาชนกับชื่อคุณทักษิณ ก็จะไม่เกิดความเข้าใจที่ผิดไปได้แบบนี้ครับ เพราะที่จริงแล้วในกระทู้เดิมของผมนั้น ไม่มีตอนใดเลยที่ผมไปกล่าวหาว่าคุณทักษิณกระทำความผิดในข้อหาเดียวหรือข้อหาที่คล้ายกับวิคเตอร์ บูท แถมในกระทู้ชื่อทั้งสองคนนั้น อยู่ในหมวดหัวข้อที่ผมแยกเป็นประเด็นๆไว้เสียด้วยซ้ำไปนะครับ เพียงแต่ทั้งสองคนนี้นะเหมือนกันตรงที่ ต่างก็ถือพาสปอร์ตของประเทศที่สาม คือไม่ใช่ทั้งพาสปอร์ตไทย และไม่ใช่พาสปอร์ตสหรัฐ แต่ก็ยอมรับว่าบางท่านอาจจะเข้าใจคลาดเคลื่อนไป เพราะในกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนนี้หากไม่เข้าไปอ่านในตัวกฏหมายเอาเอง คนทั่วไปมักเข้าใจผิดๆไปอีกทางหนึ่งได้ ซึ่งอาจจะเหมือนกับที่คุณ SoPoomSan เข้าใจผิด ตีความในกระทู้ผมผิดไปอยู่ก็เป็นได้
อนึ่ง ผมได้ยกตัวอย่างในข้อ (3) เพื่อให้ง่ายแก่การทำความเข้าใจเกี่ยวกับสนธิสัญญาส่งผ้ายข้ามแดน ซึ่งในสนธิสัญญาไม่ได้จำกัดว่าการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจะต้องเป็นคนในสองสัญชาตินี้นะครับ ใครก็ตามไม่ว่าจะสัญชาติใดก็ตามกระทำความผิดที่ผิดต่อกฎหมายไทย แล้วความผิดนั้นเป็นความผิดที่คล้ายกับของกฎหมายสหรัฐ ล้วนตกอยู่ภายใต้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนทั้งสิ้น สรุปคือเลียงไปถือสัญชาติใดก็ไม้พ้นผิด การที่ผมนำกรณีวิคเตอร์ บูท มาเทียบกับทักษิณ จึงจำเป็นและถูกต้องด้วยประการทั้งปวงครับ เพื่อแสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ไม่เกี่ยวกับสัญชาติของผู้คน แต่เกี่ยวผู้คนคนนั้นกระทำการที่ผิดต่อกฎหมายไทยและในสหรัฐก็มีกฎหมายในทำนองเดียวกันด้วยหรือไม่ ดังจะอธิบายต่อไปนี้.....
ผู้คนทั่วไปมักนึกว่าสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนใช้บังคับเฉพาะแต่คนในสัญชาติของประเทศคู่สัญญา อย่างกรณีไทย สหรัฐ คนทั่วไปก็มักนึกว่าสนธิสัญญานี้จะส่งข้ามแดนเฉพาะคนสัญชาติไทย กับสัญชาติสหรัฐ ความเข้าใจผิดนี้จะว่ากันก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องที่ดูเผินๆเหมือนจะเป็นเช่นนั้น แต่ในข้อเท็จจริงมันไม่ได้เป็นอย่างนั้นครับ ดังจะอธิบายให้ฟังต่อไปนี้คือ
- หลักของสนธิสัญญานั้น ต้องการให้นำผู้ที่กระทำผิดต่อกฎหมายไทย ที่หนีไปอยู่นอกประเทศกลับมารับการพิจารณาคดีในประเทศไทย เช่นเดียวกับที่ สหรัฐอเมริกาลงนามในสนธิสัญญานี้ก็เพื่อต้องการนำผู้ที่กระทำความผิดต่อกฎหมายสหรัฐกลับไปดำเนินคดีในสหรัฐ
- คำถามคือ ผู้ที่กระทำผิดต่อกฎหมายไทยก็ดี หรือกระทำผิดต่อกฎหมายสหรัฐก็ดี จำเป็นด้วยหรือที่จะต้องเป็นคนเฉพาะสัญชาติของตน ตรงนี้แหละครับที่คนทั่วไปมักเข้าใจผิดกันว่าเป็นเฉพาะคนในสัญชาตินั้น ซึ่งเป็นคำตอบที่ผิดครับ การกระทำความผิดต่อกฎหมายไทยก็ดีหรือกฎหมายสหรัฐก็ดีไม่จำกัดว่าเป็นสัญชาติใด ก็ผิดได้ทั้งนั้นหากกระทำความผิดในประเทศนั้น หรือกระทำผิดนอกประเทศนั้น แต่กฏหมายกำหนดให้ถือเป็นความผิดในประเทศนั้น
ขอยกตัวอย่างง่ายๆ
- นักท่องเที่ยวมิส น.สัญชาติออสเตรเลียเข้ามาเที่ยวในไทย แล้วปล้นเพชรในร้านเพชรในประเทศไทย เช่นนี้ถือว่ากระทำผิดต่อกฏหมายไทย เมื่อนักท่องเที่ยวมิส น. ท่านนี้ เดินทางไปทำมาหากินต่อในสหรัฐอเมริกา ไทยสามารถใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ตามนักท่องเที่ยวมิส น.รายนี้กลับมารับหารพิจารณาคดีและรับโทษในประเทศไทย เพราะลักษณะการปล้นนี้ในสหรัฐก็ถือว่าเป็นความผิด จึงเป็นลักษณะความผิดที่ต้องกันของทั้งสองประเทศ ตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน
- มิสเตอร์ ฮ. สัญชาติจีน ลอบพิมพ์ธนบัตรไทยปลอมในฮ่องกง แล้วขายธนบัตรไทยปลอมในฮ่องกง เมื่อร่ำรวยจากการขายธนบัตรไทยปลอม ก็เดินทางไปพำนักอาศัยอยู่อย่างหรูหราในสหรัฐ แต่ตามกฎหมายไทย การพิมพ์และขายธนบัตรไทยปลอมแม้กระทำนอกราชอาณาจักร ก็ถือเป็นความผิดที่ต้องมารับโทษในราชอาณาจักร ไทยสามารถใช้สนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ขอตัวนาย ฮ กลับมารับการพิจารณาคดีและรับโทษในประเทศไทย และตามกฏหมายสหรัฐการพิมพ์ธนบัตรสหรัฐปลอมก็ถือเป็นความผิด จึงเป็นความผิดที่มีลักษณะต้องกัน
- กรณี วิคเตอร์ บูท สัญชาติรัสเซีย กระทำผิดกฏหมายสหรัฐในข้อหา 1.ร่วมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าผู้อื่น 2. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการฆ่าเจ้าพนักงานและเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา 3. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการจัดหาและใช้อาวุธสงครามต่อต้านอากาศยาน และ 4. ข้อหาร่วมสมรู้ร่วมคิดในการสนับสนุนอย่างมีสาระสำคัญให้กับองค์การก่อการร้ายต่างประเทศ ซึ่งละเมิดกฎหมายสหรัฐอเมริกา การกระทำบางส่วนแม้กระทำนอกสหรัฐ แต่กฎหมายสหรัฐถือว่าต้องกลับมารับโทษในสหรัฐ จึงติดต่อไทยตามสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดน ทางศาลไทยพิจารณาแล้วเห็นว่า ข้อกล่าวความผิดที่มีการกล่าวหานายวิคเตอร์ ตามคำร้องอัยการโจทก์ เทียบได้กับความผิดตามประมวลกฎหมายอาญาของไทย มาตรา 135/1-3 ซึ่งเข้าตามข้อบังคับในพรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน จึงอนุมัติให้ส่งนายวิคเตอร์ บูทไปดำเนินคดีในสหรัฐต่อไป
ดังนั้น ขอย้ำครับว่า หลักของการส่งผู้ร้ายข้ามแดนนั้น ไม่ได้เกี่ยวกับสัญชาติของคนผู้นั้นเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะถือสัญชาติอะไรก็ตาม หากเคยทำผิดต่อกฎหมายของประเทศใดประเทศหนึ่งไว้ และมาตราความผิดนั้นเป็นที่ถือว่าเป็นความผิดในทั้งอสงประเทศ คนผู้นั้นจะถูกส่งตัวข้ามแดนกลับไปรับโทษในประเทศที่ขอ โดยไม่เกี่ยวข้องว่า ณ เวลานั้นเขามีสัญชาติอะไรอยู่ครับ
ส่วนที่คุณว่า “การกระทำผิดของวิคเตอร์ บูท ถือเป็นการทำผิดในฐานะการก่อการร้ายนานาชาติ เป็นการค้าอาวุธข้ามดินแดน เช่น มีองค์กรหนึ่งผลิตอาวุธให้แก่รัสเซีย แต่ก็แอบลักลอบขายอาวุธให้กับนานาประชาชาติในโลก อย่างนี้ไม่ได้ถือว่าเป็นความผิดภายในซะหน่อย ต้องถือว่าเป็นการก่อการร้ายข้ามชาติ ต่างกับกรณีทักษิณ ที่เป็นเรื่องคาบลูก คาบดอกเรื่องการเมือง แถมการเมืองภายในประเทศอีกต่างหาก ซึ่งกรณีการส่งผู้ร้ายข้ามแดน เค้าไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอยู่แล้ว” นั้น
แสดงว่าคุณคงอ่านกระทู้ผมไม่จบจริงๆแล้วแหละ เพราะในกระทู้ผมได้ระบุเกี่ยวกับข้อกล่าวหาคุณทักษิณไว้ชัดเจนใน ข้อ (5.) ว่า"สำหรับกรณีคุณทักษิณต้องยอมรับว่าจนถึงเวลานี้ มีหมายศาลอออกมาแล้วรวมได้ 5 หมาย" คุณลองกลับไปอ่านให้ดีๆนะครับ ในข้อนี้ไม่มีพูดถึงวิคเตอร์ บูทครับ ที่พูดถึงวิคเตอร์ บูทนั้นอยุ่ในข้อ (3.) ที่่ว่า "การที่มีพาสปอร์ตประเทศที่สามไม่เป็นเครื่องการันตีว่าจะไม่ถูกจับ เพราะความผิดที่ติดอยู่กับตัว ไม่ได้หายไปเมื่อถือพาสปอร์ตสัญชาติอื่นหรือเปลี่ยนไปถือสัญชาติอื่น"
เรื่องความผิดที่จะส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ ก็มักจะมีความเข้าใจผิดกันเสมอๆว่า จะต้องเป็นความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้าย ซึ่งไม่ใช่ครับ เป็นความผิดใดๆก็ได้ทั้งนั้นครับที่มีเงื่อนไขดังต่อไปนี้คือ
1. ทั้งสองประเทศต่างมีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำแบบนั้นเป็นความผิด เช่น การลักทรัพย์ การพิมพ์ขายธนบัตรปลอม คดีฆาตกรรม คดีทุจริตฉ้อโกง เป็นต้น ไม่ไดจำกัดเฉพาะเรื่องผู้ก่อการร้ายข้ามชาติ อย่างที่คนท่วไปอาจเข้าใจกัน
2. คดีนั้นมีบทลงโทษอย่างน้อยจำคุก 1 ปีขึ้นไป คือมีความหนักของคดีพอสมควร ไม่ใช่คดีมโนสาเร่
กรณีคุณทักษิณ ผมวิเคราะห์ให้ไว้แล้วในข้อ (5.) โดยผมลงไว้ว่า “...สำหรับกรณีคุณทักษิณต้องยอมรับว่าจนถึงเวลานี้ มีหมายศาลอออกมาแล้วรวมได้ 5 หมาย คือ
1.หมายของศาลฏีกาฯในคดีทุจริตซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาทเศษ 2.หมายในคดีทุจริตปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์) 3.หมายในคดีทุจริตโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน ) 4.หมายในคดีทุจริตแปลงสัมปทานมือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพาสามิต 5. หมายจับของศาลอาญา ในข้อกล่าวหาคดีก่อการร้าย
ผมแจ้งไว้แล้วว่า "ความผิดตามหมายใน 4 คดีแรกนั้น ยังเป็นปัญหาว่าจะหากฎหมายในสหรัฐ ที่มีบทบัญญัติว่าเป็นการกระทำความผิดเทียบเคียงได้หรือไม่ เพราะหากในสหรัฐการกระทำในลักษณะดังกล่าวไม่ถือว่าเป็นความผิด ข้อหาทั้ง 4 ในหมายทั้ง 4 ก็ไม่เข้าตามสนธิสัญญาตาม ARTICLE 2 Extraditable Offenses ในข้อ (1)…..
แต่ความผิดในหมายที่ 5 คือหมายจับของศาลอาญา ในข้อกล่าวหาคดีก่อการร้าย น่าจะเป็นข้อความผิดที่สหรัฐมีกฎมายบัญญัติไว้เช่นกัน..”
ซึ่งก้ได้วิเคราะห์ไว้ให้ข้อกฎหมายที่ทราบ อนึ่ง หมายตามสนธิสัญญานี้นั้น ไม่จำเป็นจะต้องเป็นหมายที่ออกโดยศาลที่พิพากษาความผิดแล้ว แต่เป็นหมายที่นับรวมทั้งหมดที่ใช้ในกระบวนการยุติธรรม และการส่งบุคคลข้ามแดนตามข้อกำหนดในสนธิสัญญา นั้นรวมได้ทั้งหมดทั้งบุคคลที่กำลังอยู่ในระว่างการไต่สวนสอบสวน(who have been proceeded against for), บุคคลที่ถูกตั้งข้อกล่าวหาแล้ว (have been charged with ), บุคคลที่ถูกพิพากษาว่ามีความผิดแล้ว(have been found guilty of ), หรือถูกตามตัวเพื่อรับโทษ (wanted for the enforcement of a judicially pronounced penalty )
ลองกลับไปอ่านกระทู้ผมอีกทีให้ดีๆเถอะครับ และผมทิ้งลิงค์กกหมายที่เกี่ยวข้องไว้ให้ด้วยแล้ว ดังนั้นท่อนท้านสุดที่คุณโพสต์ว่า “ทักษิณมี คดีภายในประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อกับการเมือง ย้ำนะครับภายในประเทศ ภายในประเทศไทย แต่ถ้าน้ำ พาสสปอร์ตของประเทศอื่น ไม่รู้ล่ะจะประเทศอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งถือว่าเป็นพลเมืองของประเทศนั้น ไม่มีหมายจับของประเทศนั้นๆ จะส่งตัวไปให้ไทยได้อย่างไร ในเมื่อไม่ได้ใช้พาสปอร์ตไทย”
ก็ขอตอบย้ำซ้ำอีกทีครับว่า - ถือพาสปอร์ตของประเทศใดไม่สำคัญหคับ แม้ประเทศเจ้าของพาสปอร์ตจะไม่ออกหมายจับ แต่หากคุณทักษิณมีหมายจับของทางการไทยอยู่ ก็สามารถขอส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ครับ เหมือนกรณี มิส น. สัญชาติออสเตรเลียที่มาลักทรัพย์ในไทย หรือมิสเตอร์ ฮ. สัญชาติจีน ที่พิมพ์ธนบัตรไทยปลอม โดยที่ไม่ต้องรอให้ทางการออสเตรเลียหรือทางการจีนออกหมายจับครับ หรือกรณีวิคเตอร์ บูท สัญชาติรัสเซีย ก็ไม่ต้องรอให้รัสเซียออกหมายจับครับ ดังนั้นกรณีที่คุณว่าต้องรอให้ประเทศเ้จ้าของพาสปอร์ตออกหมายจับก่อน จึงเป็นความเข้าใจผิดครับ ตัวกฏมายไทยหรือสนธิสัญญาก็ไม่มีระบุตรงนี้ครับ
- และที่คุณว่า “ทักษิณมี คดีภายในประเทศ ซึ่งเชื่อมต่อกับการเมือง ย้ำนะครับภายในประเทศ” ครับ เรื่องข้อกล่าวหาทั้ง 5 ที่สรุปไว้ให้ข้างบนนั้น ต้องรอให้ทางหสรัฐพิจารณาครับว่าเกี่ยวกับการเมืองมากน้อยแค่ไหน แต่ความเห้นผมที่ให้ไว้ในกระทู้เดิมก็แจ้งแล้วว่า ดูเหมือนจะมีข้อหาที่ 5 เท่านั้น ที่อาจจะดำเนินการตามข้อกำหนดในสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนได้ชัดเจน อีก 4 ข้อต้องรอดูผลครับ
เอาเป็นว่าจบนะครับ ที่เหลือลองอ่านในกระทู้เก่าดูอีกทีจะดีกว่าครับ และตามไปอ่านในตัวสนธิสัญญาและพรบ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดน 2551 ดีกว่าคุณจะเข้าใจได้เองแหละครับ
รายละเอียดในกฎหมายที่เกี่ยวข้องดูเพิ่มเติมได้จาก http://www.thailawforum.com/database1/Siam-and-United-of-America.html http://www.oja.go.th/law/Lists/law2/Attachments/300/jrd_crime_law_criminal_2551.pdf
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 53 14:38:41
แก้ไขเมื่อ 09 ธ.ค. 53 14:17:37
จากคุณ |
:
thyrocyte
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ธ.ค. 53 14:13:50
A:58.137.0.146 X:
|
|
|
|  |