 |
ตั้งกระทู้ถาม Login iamdanai : รายงานเอ็กซ์คลูซีฟจากรอยเตอร์: หลักฐานบ่งชี้ว่าทหารไทยมีส่วนเกี่ยวข้องในความตายของพลเรือน
|
 |
ได้รับฟอร์เวิดร์เมล์มา อยากรบกวนถามคุณ iamdanai ว่า ข่าวนี้มีจริงหรือเปล่าคะ (ไม่เก่งภาษาปะกิดอ่ะค่ะ)
แต่อ่านดูแล้วและตามลิงค์ที่มีไป ก็ดูเข้าท่า... สงสัยที่ไปเมกาคราวนี้ น่าจะมีอะไรดีๆ ...สัญญาณความคืบหน้าเริ่มขึ้นแล้วสินะ... 91 ศพ ไม่ตายฟรีใช่ไหมคะ?
ไม่ได้หมายความว่า อยากให้ทำลายชื่อเสียงของประเทศตัวเอง แต่ในเมื่อบางสิ่งบอกว่า เราไม่สามารถไว้วางใจผู้บริหารประเทศได้ เพราะปล่อยให้มีการฆ่าประชาชนตายตั้งหลายศพ ทั้งๆ ที่ ในพื้นที่นั้นมีทหารเต็มไปหมด เป็นไงเป็นกันค่ะท่าน จะอับอายขายหน้า หรือจะเจ็บปวดทรมานเพราะความจริงแค่ไหน ถึงเวลาแล้วที่เราต้องเริ่มนับหนึ่งแล้วก้าวเดินไปข้างหน้า ไม่ใช่เอาแต่นับศูนย์และเดินถอยหลัง
======================================
รายงานเอ็กซ์คลูซีฟจากรอยเตอร์: หลักฐานบ่งชี้ว่าทหารไทยมีส่วนเกี่ยวข้องในความตายของพลเรือน Sat, 2010-12-11 00:33
ภัค วดี ไม่มีนามสกุล แปลจาก Jason Szep and Ambika Ahuja, “Exclusive: Probe reveals Thai troops' role in civilian deaths,” Reuters; http://www.reuters.com/article/idUSTRE6B90OR20101210?pageNumber=1
กรุงเทพฯ (รอยเตอร์) – รอยเตอร์ได้เห็นเอกสารทางการไทยที่รั่วไหลออกมา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า กองทัพไทยมีส่วนเกี่ยวข้องในการสังหารชีวิตพลเรือนระหว่างเกิดความไม่สงบทาง การเมืองในกรุงเทพฯ เมื่อกลางปีนี้ ถึงแม้รัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐไทยไม่ยอมรับก็ตาม
การสอบสวนเบื้องต้นของรัฐต่อความรุนแรงทางการเมืองที่เกิดขึ้นเมื่อ เดือนเมษายนและพฤษภาคม ได้ข้อสรุปว่า กองกำลังพิเศษของไทย ซึ่งวางกำลังอยู่บนรางรถไฟฟ้ายกระดับ ได้ยิงลงไปในบริเวณวัดที่มีผู้ประท้วงหลายพันคนเข้าไปหลบภัยในวันที่ 19 พฤษภาคม
การสอบสวนนี้พบว่า ประชาชน 3 ใน 6 คนที่ถูกยิงตายในวัดน่าจะเสียชีวิตจากกระสุนของกองทหาร ซึ่งขัดแย้งโดยตรงกับแถลงการณ์ของกองทัพไทย ซึ่งออกมาปฏิเสธว่าทหารไม่มีส่วนรับผิดชอบในการสังหารที่วัด
รายงาน นี้กล่าวว่า ยังไม่มีหลักฐานมากเพียงพอที่จะสรุปว่า ใครคือผู้รับผิดชอบต่อความตายของประชาชนอีกสามคนในวัดนั้น แต่รายงานระบุว่า เหยื่อทั้งหกรายถูกยิงด้วยกระสุนความเร็วสูง
“มีข้อเท็จจริง หลักฐานและปากคำพยานมากเพียงพอที่จะเชื่อได้ว่า การเสียชีวิต (ทั้งสามราย) เป็นผลมาจากปฏิบัติการของกองกำลังด้านความมั่นคงที่กำลังปฏิบัติหน้าที่” ผู้สอบสวนระบุไว้เช่นนี้ โดยแนะนำให้ตำรวจสืบสวนเกี่ยวกับการเสียชีวิตต่อไป
เมื่อรอยเตอร์ตั้งคำถามเกี่ยวกับเอกสารที่รั่วไหลออกมานี้ นายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะไม่ได้ปฏิเสธว่าเอกสารนี้ไม่ใช่เอกสารจริง แต่กล่าวว่า การสอบสวนยังไม่สมบูรณ์และกำลังพยายามเร่งรัดกระบวนการให้รวดเร็วขึ้น
“ขั้นตอนต่อไปจะเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางศาล ดังนั้น เราจึงไม่ควรตื่นตูมไปกับข้อมูลที่ยังไม่สมบูรณ์” เขากล่าว
ผลการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษของไทย (ดีเอสไอ) น่าจะยิ่งกระตุ้นขบวนประท้วงต่อต้านรัฐบาลของ “คนเสื้อแดง” ที่ท้าทายความชอบธรรมของนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งออกมากล่าวโทษเมื่อเดือนมิถุนายนว่า การเสียชีวิตในวัดเกิดจากกลุ่มคนติดอาวุธในหมู่ผู้ประท้วงด้วยกันเอง
วัดปทุมวนาราม ซึ่งเป็นวัดพุทธศาสนา ถูกประกาศให้เป็น “เขตอภัยทาน” สำหรับผู้หญิง เด็ก คนชราและผู้พิการ ประชาชนหลายพันคนหนีเข้าไปหลบในวัดในวันที่ 19 พฤษภาคม เมื่อกองทัพใช้กำลังเข้าสลายผู้ประท้วงที่ยึดพื้นที่ในย่านการค้าใกล้เคียง
จากการสอบสวนของดีเอสไอ พยานหลายคนรายงานถึงสภาพปั่นป่วนนอกวัด เมื่อเสียงปืนดังรัวขึ้นและพลเรือนพากันหนีออกจากย่านช้อปปิ้ง
พยาน คนหนึ่งกล่าวว่า เขาเห็นทหารยิงลงมาจากรางรถไฟฟ้าด้านบน และยิงลงไปในเต๊นท์พยาบาลภายในบริเวณวัด ซึ่งพยาบาลอาสากำลังดูแลพลเรือนที่ได้รับบาดเจ็บ มีพยาบาลอาสาสองคนเสียชีวิต
มีประชาชนถูกฆ่าตาย 91 ราย และมีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 1,800 ราย ระหว่างเกิดความไม่สงบในเดือนเมษายนและพฤษภาคม อาคารกว่า 30 แห่งถูกไฟไหม้ นี่เป็นความรุนแรงทางการเมืองที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ไทยสมัยใหม่
รายงานฉบับนี้ชี้ให้เห็นว่า ช่างภาพของรอยเตอร์น่าจะถูกทหารยิงเสียชีวิต
ดีเอสไอกำลังสอบสวนการตายทั้งหมด 89 รายที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้น แต่รัฐบาลไทยยังไม่ยอมเปิดเผยผลการสอบสวนใด ๆ ต่อสาธารณะ แม้จะมีแรงกดดันจากกลุ่มสิทธิมนุษยชนก็ตาม
ผลการสอบสวนที่ตกมาถึงรอย เตอร์มีอยู่ในรายงานสองฉบับของดีเอสไอ ฉบับหนึ่งเกี่ยวกับการยิงที่วัดและอีกฉบับเกี่ยวกับการตายของช่างภาพรอย เตอร์ นายฮิโระ มุราโมโตะ ในเหตุการณ์วันที่ 10 เมษายน
มุราโมโตะ ชาวญี่ปุ่นวัย 43 ปีผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในโตเกียว ถูกสังหารด้วยกระสุนความเร็วสูงยิงเข้าที่หน้าอก ขณะกำลังทำข่าวการประท้วงในย่านเมืองเก่าของกรุงเทพฯ
รายงานอ้างพยาน คนหนึ่งซึ่งกล่าวว่า มุราโมโตะล้มลงพร้อมกับกระสุนที่ยิงมาจากทิศทางของทหาร รัฐบาลไทยยังไม่ยอมเปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการตายของเขาต่อสาธารณะ ถึงแม้มีแรงกดดันทางการทูตจากญี่ปุ่นอย่างมาก
หัวหน้าบรรณาธิการของรอยเตอร์ นายเดวิด ชเลซิงเงอร์ เรียกร้องให้เผยแพร่รายงานฉบับเต็มต่อสาธารณะทันที
“รัฐบาล ไทยยังติดค้างครอบครัวของฮิโระ รัฐบาลไทยต้องเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมาว่า โศกนาฏกรรมครั้งนี้เกิดขึ้นอย่างไรและใครคือผู้รับผิดชอบ” ชเลซิงเงอร์กล่าวในแถลงการณ์
รายละเอียดของเหตุการณ์ที่ทหารยิงใส่พลเรือนอาจกระพือความโกรธแค้นของ ประชาชน และกระตุ้นกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ซึ่งเคยได้รับเลือกตั้งถึงสองครั้งและปัจจุบันต้องลี้ภัยไปต่างประเทศ ทักษิณ ชินวัตรเรียกร้องให้นานาชาติเข้าไปสอบสวนความรุนแรงในเดือนเมษายน-พฤษภาคม รวมทั้งความตายอันน่ากังขาในวัดด้วย
พยานคนหนึ่ง ซึ่งซ่อนอยู่ใต้รถยนต์ที่วัด ให้การว่า เขาถูกระดมยิงถึง 4 หรือ 5 ครั้งจากกลุ่มชายในชุดลายพราง ซึ่งยืนอยู่บนรางรถไฟฟ้ายกระดับ
เขา ถูกยิงนัดหนึ่งและได้รับความช่วยเหลือจากพระสงฆ์รูปหนึ่ง การชันสูตรพลิกศพพบว่า กระสุนที่พบในศพ 4 รายจาก 6 รายในวัด เป็นลูกกระสุนชนิดเดียวกับที่ทหารบนรางรถไฟฟ้าให้การว่าใช้เป็นอาวุธ มีประชาชนได้รับบาดเจ็บที่วัดเป็นจำนวนที่ไม่ทราบแน่นอน
“ความลับของทางการ”
คำให้การของทหารที่อ้างในรายงานของดีเอสไอ ระบุว่า พวกเขายิงเตือนไปที่วัดและถูกยิงตอบโต้จากกลุ่มชายชุดดำที่อยู่ข้างล่างและ จากผู้มีอาวุธปืนอีกคนหนึ่งในวัด ทหารกล่าวว่า พวกเขายิงคุ้มกันให้กองทหารบนพื้นดิน ซึ่งร้องขอกำลังสนับสนุน
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ดีเอสไอได้สรุปผลการสอบสวนเบื้องต้นและส่งต่อผลการสอบสวนนี้ให้กรมตำรวจ แต่ยังไม่ได้เปิดเผยเนื้อหาต่อสาธารณชน
“รายงานการสอบสวนนี้เป็น ประเด็นที่อ่อนไหวต่อการถกเถียงหรือการยืนยันความถูกต้อง” เขากล่าว “มันเป็นความลับของทางการ การยืนยันความถูกต้องของรายงานที่ส่งไปถึงกรมตำรวจอาจมีผลกระทบต่อสิทธิของ ประชาชนที่มีรายชื่ออยู่ในนั้น”
เขาไม่ยืนยันหรือปฏิเสธความถูกต้องของเอกสารสองฉบับที่ตกมาถึงรอยเตอร์ แต่กล่าวว่า จากนี้ตำรวจจะสอบสวนคดีของประชาชนสามรายที่เชื่อว่าถูกทหารฆ่าตายในวัด รวมทั้งประชาชนคนอื่นอีกสามรายที่มีความเป็นไปได้ว่าถูกทหารยิงเสียชีวิต ซึ่งรวมถึงนายมุราโมโตะด้วย
ผลการสอบสวนของกรมตำรวจจะถูกส่งไปให้ดีเอสไอและสำนักงานอัยการ
ถ้า การสอบสวนพบว่าทหารมีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของพลเรือน ครอบครัวของผู้เสียชีวิตสามารถฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้ แต่รัฐบาลก็สามารถอ้างได้ว่า การยิงนั้นเกิดขึ้นในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่
(รายงานข่าวเพิ่มเติมโดย Andrew Marshall จากสิงคโปร์; บรรณาธิกรณ์โดย Andrew Marshall และ John Chalmers)
แก้ไขเมื่อ 11 ธ.ค. 53 23:49:04
จากคุณ |
:
SassyKate
|
เขียนเมื่อ |
:
11 ธ.ค. 53 23:28:31
A:110.168.39.184 X:
|
|
|
|  |