เพียงประชาชนคนหนึ่งขอใช้สิทธิในวิจารณญาณ
พิจารณาชี้แจงตอบข้อกล่าวหาที่ทั้งโหมโฆษณาทั้งเผยแพร่กว้างขวางโดยผู้ก่อรัฐประหารและรัฐบาลที่สืบทอดต่อมา
กรุณาอย่าสองมาตรฐานปิดกั้นโดยการไม่ให้โพสหรือลบกระทู้
จากคำกล่าวหาของกระทู้http://www.pantip.com/cafe/rajdumnern/topic/P10006934/P10006934.html
ที่ว่า กรณีคุณทักษิณต้องยอมรับว่า จนถึงเวลานี้ มีหมายศาลอออกมาแล้วรวมได้ 5 หมาย คือ
1. หมายในคดีซื้อขายที่ดินรัชดาภิเษกมูลค่า 772 ล้านบาทเศษ
2. หมายในคดีปล่อยกู้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงค์)
3. หมายในคดีโครงการออกสลากพิเศษเลขท้าย 2 และ 3 ตัว ( หวยบนดิน )
4. หมายในคดีแปลงสัมปทานมือถือ - ดาวเทียม เป็นภาษีสรรพาสามิต
5. หมายจับของศาลอาญา ในข้อกล่าวหาคดีก่อการร้าย
ขอชี้แจงว่าคิดอย่างนี้ (ทั้งหมดต่อไปนี้เป็นข้อมูลจริงและเหตุการณ์จริงหรือไม่ ?)
ในสภาวะอันคลุมเครือ หรือในสภาวะที่มีเหตุผลขัดกัน
ดังเช่น บางรายละเอียดของกฎหมาย ที่ไม่ชัดเจน ไม่ครอบคลุมทั่วถึง
มีช่องว่าง ของความไม่แน่นอน อาจจะผิด อาจจะไม่ผิด ให้อ้าง ใช้ พิจารณา ปฏิบัติ
สมควรจะตีความอย่างแคบไม่เอาผิดไปถึง หรือจะตีความอย่างกว้างขยายไปเอาผิด
จะลงโทษอย่างหนัก หรือจะลงโทษอย่างเบา
หากกรอบความคิด และการยอมรับของสังคม ให้ว่า
เหตุผลสำคัญที่สุดคือ ผลประโยชน์ของประชาชนของประเทศ
ความผิดของทักษิณต่างๆ
จะเป็นความเลวร้าย อันน่ารังเกียจ หรือจะเป็นความดีงาม อันควรพึงประสงค์ ?
แล้วที่สำคัญที่สุดจริงๆ นั้น คือเหตุผลใด ? ของใคร ? สำหรับใคร ?
1.
คดีที่ดินรัชดา
กองทุนฟื้นฟูซื้อมา 107 ล้านบาท ประกาศขายหลายครั้ง ไม่มีใครซื้อ
จนกระทั่งคุณหญิงพจมานสนใจ จึงมีผู้สนใจตาม
โดยได้สอบถามหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องและกฤษฎีกา ได้รับการยืนยันว่าสามารถเข้าประมูลได้
ซึ่งคุณหญิงพจมานประมูลไปในราคาสูงกว่าทุกรายคือ 772 ล้านบาท
กองทุนฟื้นฟูฯ ได้กำไร 665 ล้านบาท
ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจชาติ ไม่เกิดความเสียหายใดต่อประเทศ เปิดเผย โปร่งใส ตรงไปตรงมา
แต่จำคุกสามีผู้ซื้อ 2 ปี ฐานเป็นนายกรัฐมนตรีมีส่วนได้เสียในอำนาจที่กำกับ ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ
โดยที่กองทุนฟื้นฟูฯ อยู่ในอำนาจกำกับ ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ ของธนาคารแห่งประเทศไทย
ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยไม่อยู่ในอำนาจกำกับ ควบคุม ดูแล ตรวจสอบ ของนายกรัฐมนตรี
แต่คดีแอบแจกที่ดินของพรรคที่ไม่สามารถเอ่ยนาม
ให้แก่เศรษฐีหลายๆคน ที่ล้วนใกล้ชิด หรือเป็นคนในพรรคที่ไม่สามารถเอ่ยนาม
แอบแจกไปแต่ละคน หลายสิบไร่ จนถึงเกือบร้อยไร่
กัดกินชาติ เป็นความเสียหายของประเทศ ปิดบังตบตา ไม่โปร่งใส ไม่ตรงไปตรงมา
เมื่อถูกจับได้ เพียงคืนที่ดิน ไม่มีผู้เกี่ยวข้องใดต้องโทษแม้แต่คนเดียว
2.
คดีให้เงินกู้แก่พม่า
ได้ดอกเบี้ยจากพม่า
ประเทศเพื่อนบ้านมีพรมแดนติดกันเป็นมิตรกับไทย
ได้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติของพม่า
ได้กำหนดเงื่อนไขที่พม่าต้องซื้อของจากไทย
(เป็นเงื่อนไขที่ทุกชาติในโลกควรทำแก่ชาติตน แต่อาจต้องยกเว้นประเทศไทย)
และพม่าก็ไม่ได้ซื้อสินค้าจากกลุ่มที่ถูกกล่าวหา เพิ่มจากเดิมที่เคยซื้ออยู่แล้วแต่อย่างใด
3.
คดีหวยบนดิน
การดำเนินนโยบายหวยบนดิน
แก้ปัญหาการขายสลากเกินราคาได้อย่างแยบยล
แก้ปัญหาหวยใต้ดินอย่างได้ผล จนหวยใต้ดินแทบจะสาบสูญ
แก้ปัญหาอิทธิพลมาเฟียและอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับหวยใต้ดินได้อย่างลุล่วง
ก่อรายได้นำไปใช้อุดหนุนการศึกษาแก่ผู้ด้อยโอกาส อันจะงอกเงยผลแก่ประเทศอย่างไม่รู้จบ
ก่อรายได้นำไปใช้แก่สาธารณะประโยชน์
ป้องกันผู้ไม่รักดีลุ่มหลงการพนันให้มีทางระบายออกอย่างยากที่จะหายนะเช่นการพนันอื่น
ให้คนจนได้มีทางผ่อนคลายความทุกข์จากความหวังแม้จะลมๆแล้ง
แต่ก็เป็นความสุขเล็กๆน้อยๆของคนที่ไม่สามารถแสวงหาความสุขใส่ตนได้อย่างผู้มีอันจะกิน
สิ่งดีๆในความเป็นจริงของโลกไม่ใช่ในอุดมคติเช่นนี้ ถูกทำลายลง
เพียงเพื่อทำลายผลงานความสำเร็จงดงามไม่ให้ปรากฏคงอยู่
หรือไม่ ?
4.
4.1
คดีโทรศัพท์มือถือ
เปลี่ยนจากจ่ายรายเดือนเป็นใช้บัตรเติมเงิน และใช้โครงข่ายร่วม
ลดอัตราค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้รัฐลง พร้อมลดราคาค่าใช้โทรศัพท์ลง
ทำให้คนใช้โทรศัพท์เพิ่มขึ้นทันที ในปี 2546 จาก 2 ล้านเลขหมาย เป็น 8 ล้านเลขหมาย
ทำให้รัฐมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะจำนวนคนใช้โทรศัพท์เพิ่มขึ้นหลายเท่า
ทั้งทำให้ประชาชนได้ใช้โทรศัพท์มือถือในราคาถูก
และธุรกิจต่างๆ มีต้นทุนสื่อสารราคาถูก สะดวกมากขึ้น จนธุรกิจต่างๆ เติบโตขยายตัวอย่างมาก
ผลของเหตุการณ์นี้ มีส่วนอย่างสำคัญต่อ GDP ของประเทศ
ที่ซึ่ง GDP ของประเทศขยายตัว 28.85 % สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ในปี 2546
หรือเท่ากับ 6.7 % จากฐานปกติ เป็นอันดับ 31 ของโลก
รายได้ที่รัฐได้จากอัตราเดิม
คืออัตราตอบแทนเดิมคูณจำนวน 2 ล้านราย
รายได้ที่รัฐได้จากอัตราใหม่
คืออัตราตอบแทนใหม่คูณจำนวน 8 ล้านราย
เพราะว่าจำนวนผู้ใช้เพิ่มขึ้นอย่างมาก
แม้อัตราตอบแทนใหม่จะน้อยกว่าอัตราตอบแทนเดิม
แต่รายได้ที่รัฐได้จากอัตราตอบแทนใหม่กลับมากกว่ารายได้ที่รัฐได้จากอัตราตอบแทนเดิม
เป็นอย่างมาก
แต่ คตส. กลับพิจารณา
โดยเอาอัตราตอบแทนเดิมคูณด้วยจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดรวมทั้งที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนเงื่อนไข
เทียบกับอัตราตอบแทนใหม่คูณด้วยจำนวนผู้ใช้ทั้งหมดรวมทั้งที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนเงื่อนไข
แล้วบอกว่ารัฐเสียหาย
ใช่หรือไม่ ?
4.2
คดีดาวเทียม
ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้า มีดาวเทียมใช้ เป็นของตนเอง
รัฐได้ค่าสัมปทาน มีรายได้จากค่าใช้ดาวเทียม ไปจุนเจือประเทศชาติ
ถ้าครอบครัวชินวัตรไม่ทำดาวเทียม
ประเทศเสียโอกาส และก็ไม่ได้อะไร
ถ้าครอบครัวชินวัตรทำดาวเทียม
ประเทศไม่เสียอะไร แต่ได้ค่าสัมปทาน ได้ค่าใช้ดาวเทียม ได้ใช้ดาวเทียม ได้ความเจริญก้าวหน้า
เป็นคุณูปการต่อชาติ หรือไม่ ?
สมควรช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน ให้การช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก
ไม่สมควรขัดขวาง กลั่นแกล้ง กดขี่ เอารัดเอาเปรียบ
ในความเป็นจริง ไม่เพียงขัดขวาง กลั่นแกล้ง กดขี่ เอารัดเอาเปรียบ ยังทำลายล้าง หรือไม่ ?
ทำไม ประเทศไทยจึงเอื้อประโยชน์สารพัดให้ต่างชาติ เพื่อเชื้อเชิญให้เขามาลงทุน ?
ทำไม คนไทยไม่ช่วยคนไทยด้วยกันเอง อย่างที่ช่วยต่างชาติด้วย ?
เป็นที่รู้กันดีว่า
ประเทศญี่ปุ่น เขาสนับสนุน ช่วยเหลือ เอื้อประโยชน์ ให้คนญี่ปุ่นของเขาเอง อย่างยิ่ง
ประเทศญี่ปุ่นจึงเจริญก้าวหน้ายิ่ง
ทำไม ประเทศไทยต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้คนไทย ?
กรณี ปรส. เป็นตัวอย่างอันเจ็บปวด
ที่รัฐบาลของพรรคที่ไม่สามารถเอ่ยนาม ฝากแผลเป็นไว้แก่ประเทศไทย หรือไม่ ?
ที่ประเทศไทยต้องไม่เอื้อประโยชน์ให้คนไทย
ไม่ขายทรัพย์สินของคนไทยให้คนไทย
อ้างเหตุผล ไม่ให้คนไทยเสียนิสัยจากการทำธุรกิจขาดทุนแล้วซื้อคืนได้ในราคาถูก
ทั้งที่ความจริงแล้ว คนไทยไม่ได้ทำขาดทุนเอง แต่ถูกทำให้ขาดทุน
โดยนโยบายผิดพลาดของพรรคการเมืองใด ที่เปิดช่องโหว่ให้โจมตีทางเศรษฐกิจ ?
เป็นการขายสมบัติชาติอย่างแท้จริง ด้วยราคาแสนต่ำ
หรือไม่ ?
ต่างกับกรณีขายสัมปทานระบบโทรศัพท์มือถือให้กลุ่มเทมาเส็กในอดีต
ได้เงินจากต่างชาติเข้าประเทศในราคาสูงลิ่ว ให้มาสร้างความเจริญแก่ประเทศต่อไป
ทั้งต้องบำรุงรักษา ทั้งต้องขยายและพัฒนาระบบสื่อสารให้กว้างขวางและก้าวหน้า
หมดเวลาสัมปทานก็ต้องตกเป็นสมบัติแก่ประเทศ
แต่มีการโฆษณาชวนเชื่อว่าเป็นการขายสมบัติชาติ เพื่อสร้างความเกลียดชัง
(ในสมัยรัฐบาลต่อๆมากลับยอมใช้งบประมาณจำนวนมาก ไปทำโร้ดโชว์เชิญชวนต่างชาติ
มาประมูลสัมปทานระบบโทรศัพท์มือถือ 3 จี)
เป็นอีกตัวอย่างของการหลอกลวง หรือไม่ ?
มีสักคนไหมในพรรคที่ไม่สามารถเอ่ยนาม
ที่ครอบครัวและญาติไม่ทำธุรกิจเลย แม้แต่คนที่โอเลี้ยงแก้วใดก็ไม่ยอมเลี้ยงใคร ?
4.3
คดีเปลี่ยนค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต
รัฐได้เงินไปใช้ทันที ไม่ต้องรอ TOT และ CAT ส่งให้ตอนสิ้นปี
ทั้งได้เงินเต็มเม็ดเต็มหน่วย ไม่ต้องถูกหักเงินเป็นค่าโบนัสและสวัสดิการของ TOT และ CAT
ในสถานการณ์ที่การกล่าวหา การกล่าวโทษ การใส่ร้ายป้ายสี อคติ ฝุ่นตลบ
คงเป็นในอนาคตกาลข้างหน้าอีกยาวไกล ที่ฝุ่นจาง
วิสัยทัศน์ของการเปลี่ยนค่าสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิตจะปรากฏต่อสังคม
ดังเช่น
กรณีประมูลค่าสัมปทานระบบสื่อสาร 3 จี โดยเอกชน
หากเป็นภาษีสรรพสามิต เอกชนดำเนินการได้ทันที ยังคงจ่ายให้รัฐในรูปภาษี
การพัฒนาของประเทศไม่ต้องหยุดชะงักติดขัดอย่างที่กำลังเป็นอยู่
แข่งขันกันอย่างเสรี ไม่ผูกขาด จะทำให้ประชาชนสามารถเลือกใช้ในราคาถูกมีคุณภาพ
ผลประโยชน์ถึงมือประชาชนโดยตรง
ไม่ใช่โดยอ้อมจากค่าสัมปทานที่นักการเมืองจะจัดสรรมาให้ประชาชน
ที่ไม่แน่ว่าจะทั้งถูกบวกเพิ่ม ทั้งถูกเบียดบัง ไปแค่ไหน
หรือไม่ ?
5.
คดีก่อการร้าย
คงได้แต่ขอศาลโลกเป็นที่พึ่ง
แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 53 07:58:06
แก้ไขเมื่อ 12 ธ.ค. 53 07:08:10