Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เรียนคุณโบกกรัก ที่จริงผมว่าเราคิดไม่ต่างกันหรอกครับ ติดต่อทีมงาน

 

ก่อนอื่นต้องขอบคุณคุณโบกกรักที่เข้าใจการแสดงความคิดเห็นที่ผมลงไว้ในกระทู้ก่อนครับ ขอขอบคุณจริงๆครับ ผมก็เข้าใจเช่นกันว่าดูเหมือนอาจจะมีความเข้าใจคลาดเคลื่อนไปนิดหน่อยในช่วงแรก เพราะผมไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวว่ารัฐบาลพ้นผิดเพราะผลการเลือกตั้งนะครับ อย่างที่คุณโบกกรักคงจะเห็นนั้นคือ ผมเพียงแต่เห็นในประเด็นอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนว่า จากผลการเลือกตั้งดูเหมือนประชาชนจะยังไม่ได้รู้สึกต่อรัฐบาลว่ารัฐบาลเป็นผู้สังหารผู้บริสุทธิ์ในการชุมนุมพฤษภาคม 2553 เป็นประเด็นเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของประชาชนทั่วไปเท่านั้น ที่อาจจะแตกต่างไปจากคนเสื้อแดงอยู่บ้าง

ความเห็นของประชาชนหรือผลการเลือกตั้งนี้ไม่สามารถจะฟอกความผิดของรัฐบาลได้ครับ หากรัฐบาลได้กระทำผิดในช่วงนั้นไปจริง ความถูกผิดในเรื่องเช่นนี้ ต้องตัดสินโดยกระบวนการยุติธรรม ต่อให้พรรคประชาธิปัตย์ชนะการเลือกตั้ง ศาลก็ยังมีสิทธิเอาผิดเอาตัวผู้เกี่ยวข้องมาลงโทษอยู่ดี เพราะรัฐบาลเองไม่ไดอยู่เหนือกฎหมาย

คุณโบกกรักและเพื่อนๆอาจจะแย้งผมว่า ตราบเท่าที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล คุณและเพื่อนๆเชื่อว่าเรื่องนี้จะไม่ได้รับการตรวจสอบหรือดำเนินไปสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างถูกต้องและความเป็นธรรมจะไม่บังเกิด ก็อาจจะมีส่วนจริงตรงนี้ผมคงไม่กล้าแย้ง เพราะฝ่ายบริหารอาจมีส่วนเข้าไปทำให้ชั้นการสอบสวนหรือการตั้งข้อกล่าวหา ช้าไป หรือไม่ตรงก็เป็นไปได้จริง

แต่คุณต้องทราบธรรมชาติของอำนาจหรือการปกครองที่จะต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปอยู่เสมอ ไม่เคยมีพรรคใดอยู่ค้ำเป็นรัฐบาลไปได้ตลอดหรอกครับ ดังที่เคยมีกวีร่วมสมัยปัจุบันเขียนไว้ในยุค 14 ตุลาคมหรือหลังจากนั้นไม่นานที่ว่า  ”ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน ประชาชนสมบูรณ์นิรันดร์ไป” อายุความการฆ่าผู้อื่นนั้นยาวถึง 20 ปี หากปีหน้าพรรคประชาธิปัตย์เกิดจับมือกับพรรคร่วมปัจจุบันจัดตั้งรัฐบาลได้อีกจริง ก็ใช่ว่าจะทำกันได้เช่นนี้ไปตลอด 20 ปี สักวันหนึ่ง พรรคเพื่อไทยหรืออาจะมีชื่ออื่นในอนาคตก็ต้องได้เป็นรัฐบาลบ้าง มันเป็นธรรมชาติของอำนาจครับ หรือดีไม่ดี พรรคเพื่อไทยก็อาจได้ฟอร์มรัฐบาลหลังการเลือกตั้งทั่วไปที่จะมาถึงในปีหน้าก็เป็นได้

พวกเราในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ก็ใช้สิทธิ์เลือกตั้งคนที่เราพอใจให้เข้ามาเป็นสส. และใช้สิทธิแสดงความคิดเห็นในที่ต่างๆ ร่วมทั้งในบอร์ดการเมืองเช่นราชดำเนินนี้ต่อไป สำหรับผม ไม่ว่าใครจะมาเป็นรัฐบาล ก็พอใจจะใช้สิทธินี้ ตามสภาพเวลาที่ตนมีเป็นระยะๆ ซึ่งอันที่จริง ผมเคยแจ้งกับสมาชิกท่านหนึ่งในกระทู้ที่ P9997474 ว่า “...ผมรู้ตัวดีว่าผมเป็นเสียงข้างน้อย หากเลือกตั้งครั้งหน้าผมก็ไม่คิดว่าประชาธิปัตย์จะชนะการเลือกตั้ง แต่นั้นไม่ได้เป็นข้อจำกัดหรือบังคับว่า ห้ามผมเสนอความคิดเห็นใดๆ..” เพราะสำหรับผม พรรคที่ผมเลือกจะได้จัดตั้งรัฐบาลหรือไม่ ก็ต้องปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการการเมืองตามกติกาที่ประเทศเรามีอยู่ใช้อยู่ และถึงจะได้เป็น ก็ใช่ว่าจะได้เป็นตลอดไป ก็จะต้องมีการหมุนเวียนเปลี่ยนไปเสมอ แต่สิ่งหนึ่งที่มีเสมอตราบเท่าที่เรายังมีระบอบประชาธิปไตย นั้นคือเสรีภาพในการแสดงออกซึ่งความคิด ที่พวกเราอาจมาแสดงกันได้ในที่ต่างๆรวมทั้งในบอร์ดการเมืองเช่นห้องราชดำเนินนี้

ดังนั้น ผมจึงเห็นด้วยกับคุณโบกกรักว่า การเลือกตั้งนั้นไม่ได้ฟอกรัฐบาลให้พ้นผิดไปได้หรอกครับ และรัฐบาลก็ไม่ใช่จะอยู่เป็นรัฐบาลไปได้ตลอด สักวันหนึ่งรัฐบาลทีมาจากพรรคอื่นก็ต้องขึ้นมาอยู่แล้ว และหากมีความไม่ถูกต้องในเหตุการณ์พฤษภาคม 2553 จริง ผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบไปตามความสัมพันธ์ หรือการสั่งการที่มีจริง ภาษิตกฎหมายระบุว่า “ความยุติธรรมที่มาช้า ก็คือความอยุติธรรม"  นั้นคงหมายถึงถ้ามาช้าเกินไปมากเท่านั้นเช่นจนหมดอายุความ 20 ปีอะไรแบบนั้น ซึ่งไม่น่าจะเป็นไปได้ในกรณีนี้ เพียงแต่โดยส่วนตัวสำหรับผม ผมยังเชื่อว่าในเหตุการณ์ พฤษภาคม 2553 นั้น ในระดับสั่งการสูงสุดคือ นายกฯ ก็ดี รองนายกฯก็ดี หรือผบ.เหล่าทัพ ไม่มีใครคิดจะสั่งฆ่าประชาชนหรอกครับ เพียงแต่ กฎแห่งการปะทะหรือ Rule of Engagement ที่ตั้งไว้นั้น ไม่สามารถจะบังคับให้เหล่าหทารที่นำเข้ามา ใช้อย่างถูกต้อง อาจจมีความกกดดันเมื่อต้องเผชิญหน้าฝูงขนที่ก็มีอาวุธ อาจจะเป็นความคะนองหรือลุแก่อำนาจของทหารระดับล่าง ซึ่งความรับผิดชอบตรงนี้ของนายทหารที่ควบคุมหรือผู้บังคับบัญชาระดับสูงขึ้นไปถึงตัวนายกฯในทางกฎหมายนั้น ต้องรอให้กระบวนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนความรับผิดชอบในเรื่องนี้ ในทางการเมืองประชาชนจะต้องเป็นผู้ตัดสินครับ

 

และขอขอบคุณคุณโบกกรักอีกครับที่เข้าใจผมในกระทู้ที่เราถกกันนะครับ

* * * * * * * * *       * * *       * * * * * * * * * *     * * *     * * * * * * * * * *  *

    ขอตอบความเห็น คุณ กาลามะชน ในกระทู้ P10026717

คุณ กาลามะชน โพสต์ไว้ในกระทู้ P10026717 ว่า “จากกระทู้ของคุณ thyrocyte ที่กล่าวว่า ไม่มีใครสั่งฆ่าประชาชน แต่การตายเกิดจาก กฎแห่งการปะทะหรือ Rule of Engagement…” และ  “..โดยสรุปคือความสูญเสียในวันที่ 10 เมษายน อาจจะมองว่าเป็น Rule of Engagement ได้ แต่สำหรับความสูญเสียในเดือนพฤษภาคม ผมมีความเห็นว่าน่าจะถือว่าเป็นอาชญากรรม” ทำให้ผมไม่แน่ใจว่าคุณ กาลามะชน กับผมกำลังพูดตรงถึงเรื่องเดียวกันหรือไม่ เผอิญว่าในครั้งแรกที่โพสต์กระทู้ของผม ผมก็ผิดเองที่ไม่ได้ลงรายละเอียดตรงนี้ ดังนั้นเพื่อป้องกันการเข้าใจผิด ผมขอขยายความเข้าใจของผมในส่วนของ "กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement " ดังนี้ครับ ซึ่งหากผิดพลาดไปในสาระสำคัญใด ก็ทักท้วงได้

1. อันดับแรกเลยครับ  “กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement " ไม่ได้หมายความว่าเจ้าหน้าที่มีสิทธ์ยิงผู้ชุมนุมได้ทันที โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุสภาพแวดล้อม หรือยิงได้โดยไม่มีความผิด เพราะในการประกาศใช้อำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถาการณ์ฉุกเฉินนั้น มาตรา ๑๗ ระบุไว้ว่าเจ้าหน้าที่ เจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่และผู้มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชกำหนดนี้ไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่ง ทางอาญา หรือทางวินัย เนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ในการระงับหรือป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย หากเป็นการกระทำที่สุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และไม่เกินสมควรแก่เหตุหรือไม่เกินกว่ากรณีจำเป็น

จึงต้องมีการจัดทำ “กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement “  เพื่อเป็นหลักปฏิบัติว่าเมื่อใดเจ้าหน้าที่จะสามารถใช้การตอบโต้ต่อฝูงชนได้อย่างไร   ซึ่งต่างไปจากกฎอัยการศึก ซึ่งให้อำนาจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติโดยไม่จำกัด เรียกว่าไม่ต้องมี“กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement “

2. “กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement “ ตามที่ผมทราบ คือหลักที่ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ จากแรงน้อยไปมาก ตามสภาพ เช่น หากฝูงชนอยู่เฉยๆชุมนุมโดยสงบ เจ้าหน้าที่ก็ทำได้แต่เพียงยืนควบคุมพื้นที่ที่ได้รับมอบหมาย หากฝูงชนเริ่มจะบุกรุกเข้ามาในเขตต้องห้าม หรือทางเจ้าหน้าที่จะต้องเข้าไปเคลียร์พื้นที่ ก็ต้องใช้การเตือนด้วยการสื่อสารการกระจายเสียงก่อน หากไม่สำเร็จก็อาจต้องใช้วิธีการอื่นเช่นเครื่องสร้างเสียงขับไล่ ไปจนถึงการยิงปืนขู่ขึ้นฟ้า หากฝูงชนจะเข้าปะทะ ก็ต้องใช้อาวุธที่อันตรายน้อยก่อนเช่น โล่ กระบอง กระสุนยาง หากมีอันตรายจวนตัวเต็มที หากไม่สกัดอาจมีอันตรายต่อเจ้าหน้าที่ จึงสามารถใช้อาวุธปืนยิง และตามกฎให้ยิงจากส่วนที่เป็นอันตรายน้อยก่อนเช่น ขา แขน หากจำเป็นมากจึงยิงลำตัวหรือศีรษะในกรณีที่ผู้ชุมนุมจวนจะถึงตัวและจะเข้าทำร้ายจนเจ้าหน้าที่อาจถึงแก่ชีวิต

3. "กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement " ข้างบนนี้ใช้กับผู้ชุมนุมโดยสงบ กฏเหล่านี้ไม่ได้ใช้กับผู้ที่ถืออาวุธ เพราะโดยสภาพผู้ที่ถืออาวุธย่อมไม่ถือว่าเป็นผู้ชุมนุมโดยสงบ แต่เป็นผู้ละเมิดกฎหมายบ้านเมือง ดังนั้นในกรณีที่ตอบโต้ต่อผู้ถืออาวุธด้วยกัน .“กฎการปะทะ” หรือ “Rule of Engagement” จะเปลี่ยนไปเป็น คือยิงตอบโต้เพื่อสกัดให้หยุดหรือหมดสภาพโดยทันที หากผู้ถืออาวุธยุติการยิงหรือส่งสัญญาญยอมแพ้ เจ้าหน้าที่ก้ต้องหยุดยิงทันทีแล้วเข้าควบคุมตัวหรือปลดอาวุธต่อไป

ในกระทู้ของผมข้างตนผมผมเขียนไว้ในตอนท้ายกรุณาอ่านให้ดีนะครับว่า “เพียงแต่ กฎแห่งการปะทะหรือ Rule of Engagement ที่ตั้งไว้นั้น ไม่สามารถจะบังคับให้เหล่าหทารที่นำเข้ามา ใช้อย่างถูกต้อง อาจจมีความกกดดันเมื่อต้องเผชิญหน้าฝูงขนที่ก็มีอาวุธ อาจจะเป็นความคะนองหรือลุแก่อำนาจของทหารระดับล่าง... ” นั้นคือฝ่ายรัฐบาลอาจจะไม่สามารถควบคุมทหารผู้ปฏิบัติงานให้ปฏิบัติตามกฎการปะทะได้ทั้งหมด เพราะความเครียดความกดดัน เพราะความคะนอง หรือเพราะทหารที่ถือปืนและอยู่ในช่วงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นอาจจะลุแก่อำนาจที่ตนมี ทำให้มีการปฏิบัติการเกินคำสั่ง เกินกฎการปะทะ การตายไม่ใช่เกิดจาก “กฎแห่งการปะทะหรือ Rule of Engagement” อย่างที่คุณ กาลามะชน เข้าใจ แต่เกิดจากการละเมิดคำสั่ง และละเมิดต่อ “กฎแห่งการปะทะหรือ Rule of Engagement” ต่างหากครับ และที่สำคัญ อาจจะมีผู้สร้างสถานการณ์ด้วยการลอบทำร้ายผู้ชุมนุมเพื่อโยนความผิดให้รัฐบาล เพราะรัฐบาลเองไม่ได้ประโยชน์โภคผลอันใดเลยจากการจะยิงผู้ชุมนุมให้เสียชีวิต มีแต่ฝ่ายอืนหรือฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลต่งหาก ที่จะได้ประโยชน์จากการเสียชิวิตของผู้ชุมนุม

แต่เอาละครับ สำหรับกรณีที่หากมีทหารในวันนั้น ละเมิดกฏการปะทะหรือคำสั่งโดยชอบของทหารระดับสูงหรือระดับนโยบายไป ผู้เกี่ยวข้องก็ต้องรับผิดชอบไปตามข้อเท็จจริงซึ่งผมได้โพสต์ไว้แล้วว่า “ในทางกฎหมายนั้น ต้องรอให้กระบวนการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ส่วนความรับผิดชอบในเรื่องนี้ ในทางการเมืองประชาชนจะต้องเป็นผู้ตัดสินครับ”

 

อนึ่ง เรื่องที่คุณกาลามาชน โฑสต์ไว้ว่า  “เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นพ้องกับข่าวลือ พ้องกับข้อมูลที่ปรากฏในสื่อต่างประเทศ รวมทั้งพ้องกับสำนวนสอบสวนที่รั่วไหล ด้วยข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณะในขณะนี้ ผมค่อนข้างจะเชื่อว่ามีการสั่งฆ่าโดยเจตนา เพื่อให้ผู้ประท้วงเกิดความเกรงกลัวและหลบหนี เนื่องจากเป็นการกระทำที่เกิดขึ้นก่อนการปะทะ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อข่มขวัญผู้ประท้วง ไม่ใช่การสูญเสียที่เกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในระหว่างการเข้าปะทะ  การสูญเสียชีวิตของประชาชนในเดือน พค. จึงไม่น่าจะใช่ Rule of Engagement แต่ควรมองว่าเป็นอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ Crimes against humanity”

ความเห็น – คำกล่าวอ้างของคุณว่า “มีการสั่งฆ่าโดยเจตนา เพื่อให้ผู้ประท้วงเกิดความเกรงกลัวและหลบหนี” ฟังดูชอบกล ทำไมรัฐบาลจะต้องลงทุนให้ผู้ชุมนุมเกรงกลัวหลบหนีด้วยครับ ในเมื่อเวลานั้น ตั้งแต่บ่ายของวันที่ 19 พค.2553 แกนนำหนีหายไปแล้ว บางส่วนถูกจับ ผู้ชุมนุมก็สลาย กระจัดกระจายไปจนจับกันไม่ติดแล้ว รัฐบาลไม่ต้องทำอะไรมากแล้วครับ  คำกล่าวอ้างของคุณแบบนี้ฟังได้ยากครับ ไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

หากจะให้ผู้ชุมนุมกลัวแล้วหลบหนีไป ทำไมไม่ทำเสียตั้งแต่แรกๆตอนที่มีผู้ชุมนุมอยู่มากๆ ตอนนี้เหตุที่อ้างว่ามีการเสียชีวิต ส่วนใหญ่เกิดในขณะที่มีการเข้าปะทะกัน และในวัดปทุมวนาราม ซึ่งที่วัดปทุมวนารามนั้นการชุมนุมยุติไปแล้วด้วยซ้ำ ไม่มีการเสียชีวิตอะไรมากมายก่อนการปะทะ หรือก่อนการเข้าสลายการชุมนุมอย่างคุณว่า


อนึ่ง เรื่อง “อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ Crimes against humanity” ผมว่าเป็นเรื่องที่แกนนำเสื้อแดงพยายามเอามาจุดกระแสความรู้สึกปลุกอารมณ์คนเสื้อแดง เพราะลำพังดูจำนวนประชาชนที่เสียชีวิตนี้ ไม่สมเหตุผลกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติเลย หากรัฐบาลมีเจตนาจะก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ มีหวังมีคนตายกันมากมายมากกว่านี้มากครับคงจะตกกันเป็นหลักร้อยหรือหลายร้อย อย่างสมัยคุณทักษิณปราบยาเสพติด หรือกรณีกรือเซอะ หรือตากใบ คนเสียชีวิตก็ไม่น้อยเลย แบบนั้นยังจะเข้าข่ายอาชญากรรมต่อมนุษยชาติมากกว่าอีก

* * * * * * * * *       * * *       * * * * * * * * * *     * * *     * * * * * * * * * *  *

    ขอตอบคุณ LazBue จากกระทู้ P10027145

เนื่องจากมีประเด็นปะปนไว้สะเปะสะปะในกระทู้นั้น ปมจะแยกตอบให้ที่ละประเด็นดังนี้


1 . ที่คุณ LazBueว่า “แต่การที่ศพ ทั้งเสื้อแดง ทั้งชาวบ้านที่ไม่ใช่เสื้อแดง มีแต่ ศพมือเปล่า ปราศจากอาวุธ ถามว่าทหารกดดันอะไรหรือครับถึงต้องยิงคนมือเปล่า? ถ้าจะบอกว่า ทหารไม่ได้ยิง คนอื่นยิง ก็ต้องถามต่อว่า แล้วทหารหลายหมื่น ทำไมไม่ยิงคนมีอาวุธให้ดูซักคน? เบิกกระสุนไปกี่แสนกี่ล้านลูก ยิงออกไปเท่าไหร่ ทำไมไอ้โม่งเสื้อดำที่ว่ามีเป็นร้อยเป็นพันถึงยิงไม่ได้ซักคน? แบบนี้ผมสงสัยได้ไม๊ว่า เสื้อดำไม่มีอยู่จริง? ผมสงสัยได้ไม๊ว่า ที่จริงแล้วก็เสื้อดำก็แค่ตัวละครที่สร้างขึ้นเพื่อใช้เป็นข้ออ้างสร้างความชอบธรรมในการยิงคนมือเปล่า!!!!”

ความเห็น – ผมถึงโพสต์ไว้อย่างไรครับว่า ทหารหรือรัฐบาลมีเหตุผลอะไรที่จะต้องไปยิงประชาชนคนไม่มีอาวุธ หากจะมีเหตุแบบนี้จริงๆ จะเป็นอย่างที่ผมให้ความเห็นไว้นั้นแหละครับว่า


ก. เป็นทหารระดับล่างที่ลุแก่อำนาจ เข้าใจไปว่าหากยิงประชาชนในสถานการณ์เช่นนั้นแล้ว ไม่มีความผิด หรือยิงเพราะความกดดันในกรณีที่ถูกยิงสวน (มีการยิงสวนมาทำให้ ทหาร ตำรวจบาดเจ็บ ไม่ทราบคุณไม่ทราบเรื่องนี้หรือครับ ว่าตนบาดเจ็บเสียชีวิตไม่ได้มีเฉพาะแต่ประชาชน)


หรือ
 ข. เป็นผู้อื่นสวมรอยยิงประชาชนเพื่อป้ายความผิดให้รัฐบาล เพราะอย่างที่ผมให้ความเห็นแล้ว รัฐบาลจะได้ประโยชน์อันใดที่จะไปยิงประชาชนให้เสียชีวิตครับ ? ?

และ

ค. ส่วนหนึ่งอาจจะเสียชีวิตจากการปะทะกัน แม้ทหารจะใช้กฏการปะทะอย่างถูกต้อง ก็ยังต้องมีการสูญเสียอยู่ดี เพราะผู้ชุมนุมจะเข้ามาทำร้าย จึงต้องมีการป้องกันตัวตามกฏ

ข้อความจริงนี้หากคนที่มีการศึกษามากกว่าชั้นประถมก็น่าจะคิดออกได้เองอยู่แล้วนะผมว่า"รัฐบาลจะได้ประโยชน์อันใดที่จะไปยิงประชาชนให้เสียชีวิตครับ "  ส่วนจำนวนทหารที่เข้าปฏิบัติพื้นที่นะเป็นหมื่นคนก็จริง แต่ส่วนที่เข้าไปเพื่อสลายการชุมนุมนะมีแค่หลักพันคนครับ ส่วนที่เหลืออยู่ประจำจุดตรึงพื้นที่ และที่คุณว่าทำไมยิงเสื้อดำไม่ได้ผมตอบแทนลำบากเพราะผมไม่ใช่เสื้อดำ แต่ผมบอกได้ว่าคนร้ายที่ซุ่มอยู่เพื่อลอบโจมตีเจ้าหน้าที่หรือชาวบ้าน ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตามไปจับแน่ และส่วนที่คุณจะสงสัยว่าเสื้อดำไม่มีอยู่จริงหรือเป็นแค่ตัวละครก็เป็นสิทธิของคุณครับหากคุณคิดเช่นั้นแล้วทำให้คุณสบายใจก็คิดเอาเถอะครับ


2. ที่คุณ LazBueว่า “ถ้าบอกว่าไม่มีใครสั่งฆ่าประชาชน ผมก็ว่า เป็นไปได้ครับ ซึ่งความเป็นไปได้นั้น อยู่ในระดับเดียวกับ ที่ สุจินดา ไม่ได้สั่งฆ่า ปชช ตอนพฤษภาปี 35 นั้นแหละครับ”


ความเห็น – นั้นนะสิครับ ผมก็ว่าอย่างนั้นแหละ สุจินดาถึงยังไม่ต้องรับโทษอาญาอะไรอย่างไงละครับ และที่จริงกรณีสุจินดานั้น มีเหตุผลอื่นอีกที่ทำให้ไม่ต้องรับโทษ ลองอ่านดูตอนท้ายจะทราบ


3. คุณ LazBueว่า “ ในอดีตเมื่อมีผู้ประท้วงเสียชีวิต ไม่เคยมีรัฐบาลไหนอยู่ได้ แต่ขนาดว่ามีการเปลี่ยนรัฐบาลแล้ว ก็ยังไม่สามารถดำเนินการเอาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ ถามว่า หากรัฐบาลยังอยู่ในอำนาจเช่นนี้ แล้วจะให้หวังอะไรกับกระบวนการยุติธรรมได้?”


ความเห็น – ผมได้ให้ความเห็นไว้แล้วว่า “อายุความการฆ่าผู้อื่นนั้นยาวถึง 20 ปี หากปีหน้าพรรคประชาธิปัตย์เกิดจับมือกับพรรคร่วมปัจจุบันจัดตั้งรัฐบาลได้อีกจริง ก็ใช่ว่าจะทำกันได้เช่นนี้ไปตลอด 20 ปี สักวันหนึ่ง พรรคเพื่อไทยหรืออาจะมีชื่ออื่นในอนาคตก็ต้องได้เป็นรัฐบาลบ้าง” กรุณากลับไปอ่านอีกทีครับ

คุณจะไม่หวังกับกระบวนการยุติธรรม ผมก็คงห้ามคุณไม่ได้ แต่กระบวนการนี้เป็นช่องทางเดียวตามสังคมศิวิไลซ์ที่จะดำเนินการต่อคนที่คุณสงสัยว่าจะทำผิดได้ อีกช่องทางคือการตั้งสานเตี้ย ผมไม่นิยม แต่หากคุณจะนิยมก็ตามแต่ใจคุณ ครับ


4. คุณ LazBue “บอกว่าให้รอรัฐบาลนี้หมดอำนาจก่อน ในความเห็นผม นั้นคือเวลาอีกอย่างน้อย 4-5 ปี คือ จนกว่าจะยุบสภาครั้งหน้า(ไม่ใช่ครั้งนี้) เพราะจะอย่างไรเสีย ผมเชื่อว่า ต่อให้ ปชป ไม่ชนะเลือกตั้ง ก็ต้องได้เป็นรัฐบาลแน่ๆ ซึ่งความเชื่อนี้มีพื้นฐานเดียวกับความเชื่อว่า ปชป จะไม่ถูกยุบ ในคดีที่เพิ่งผ่านพ้นไป กว่าจะถึงตอนนั้น ต่อให้รัฐบาลผิดจริง หลักฐานหนาแน่นแค่ไหน ก็คง ได้รับการจัดการเรียบร้อยไปหมดแล้ว ใช่ไหมครับ”


ความเห็น- ข้อความนี้คุณคิดเองเออเองครับ หลักฐานมันคงอยู่ เป็นคดีให้สืบค้นได้ หากต้องการสืบค้น ขอย้ำครับว่าหากมีคนต้องการสืบค้น

5.คุณ LazBue “บอกว่าให้รอกระบวนการยุติธรรม ผมไม่รู้ว่า ว่าคุณ ใสซื่อบริสุทธิ์จริง แบบว่าไปโตอยู่ในต่างประเทศหรือต่างดาว หรือเปล่า ถึงไม่ได้รู้ประวัติศาสตร์ประเทศไทย ที่ผ่านมาเมื่อทหารออกมายิงประชาชนตายแล้ว มีครั้งใดบ้างที่ต้องรับผิดชอบ? มีครั้งใดบ้างที่มีการสอบสวนจนถึงนำไปสู่การลงโทษจริง”

ความเห็น- อืมม์ ผมว่าอาจจะกลายเป็นคุณเองนั้นแหละครับที่ใสซื่อบริสุทธิ์จริง แบบว่าไปโตอยู่ในต่างประเทศหรือต่างดาว เพราะคุณไม่ได้รู้ประวัติศาสตร์ประเทศไทยเลย คุณไม่ทราบเลยหรือว่า ในเหตุการปะทะหรือปราบปรามประชาชนที่ผ่านมาในประเทศไทยนั้น มีการประกาศกฏหมายพิเศษที่ทำให้เอาผิดเจ้าหน้าที่ไม่ได้ทั้งหมดหรือมีการออกพรบ.นิรโทษกรรมออกมา ทำให้ไม่สมารถตามเอาผิดได้ ไม่ใช่รัฐบาลหรือเจ้าหน้าที่เขาแสร้งนิ่งเฉยหรอกครับ แต่กฏหมายบังคับไว้

 หากคุณไม่ทราบจริงๆ ผมจะอธิบายให้ดังนี้ คือ


ประกาศใช้กฏอัยการศึก พย.2514
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2514/A/124/3.PDF
เกิดเหตุ 14 ตุลาคม 2516
ประกาศยกเลิกการใช้กฏอัยการศึก 2517
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2517/A/050/39.PDF

ประกาศใช้กฏอัยการศึก 6 ตค.2519 ในเหตุการณ์ตุลาคม 2516
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2519/A/120/6.PDF
มาประกาศเลิกใช้กฏอัยการศึก เขตกรุงเทพ 5 สค 2527
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2527/A/104/1.PDF

ตามาด้วย พรบ.นิรโทษกรรมผู้กระทำการปฏิรูป 6 ตค.2519
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2519/A/156/42.PDF
และพรบ.นิรโทษกรรมให้แก่ผู้ที่กระทำผิดในเหตุการณ์ 6 ตค.2519
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2521/A/097/1.PDF


ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน(ตามกฎหมายเก่า) 18 พค.2535 00.00 น ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/059/1.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/059/2.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/059/3.PDF
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/059/4.PDF
ประกาศยกเลิกสถานการณ์ฉุกเฉิน 29 พค.2535
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/064/2.PDF

 

มีในครั้ง พค .2535 นี้แหละครับที่เกิดเหตุในขณะที่ประกาศสถานกาณ์ฉุกแน(ตามกฎหมายเก่า) ซึ่งอาจจะสามารถเอาผิดกันได้ แต่ที่ไม่เอาผิดกัน เพราะต่อมามีพรบ.นิรโทษกรรมครับ ลองอ่านดูครับอยู่นี้
http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2535/A/063/1.PDF

ผมไม่ทราบว่าคุณเพิ่งกลับมาจากต่างประเทศหรือครับถึงไม่ทราบเรื่องนี้ ?  ที่นี้ในกรณีเหตุการณ์ พฤษภาคม 2553 นี้

ต่อไปจะมีการออกพรบ.นิรโทษกรรม อย่างที่เคยทำมากันหรือไม่ จะขึ้นกับรัฐสภาครับ หากรัฐสภาที่มีสส.อันเป็นตัวแทนที่พวกคุณและผมเลือกขึ้นไป เขาบอกว่าไม่ต้องออก พรบ.นี้ ก็จะสามารถเอาคนผิดทั้งเจ้าหน้าที่และไอ้โม่งมาขึ้นสู่กระบวนการยุติธรรมได้

แต่หากรัฐสภาจะออกพรบ. นิรโทษกรรม แล้วคุณไม่เห็นด้วยเพราะคุณยังแค้นฝั่งใจ คุณก็ต้องไปโวยวายกับสส.ที่คุณเลือกเขาไปครับ กรุณาเข้าใจให้ถูกด้วยครับ ว่าที่ผ่านมามันเอาผิดกันไม่ได้เพราะอะไร

* * * * * * * * *       * * *       * * * * * * * * * *     * * *     * * * * * * * * * *  *

    ขอตอบคุณ นพนครพิงค์ จากกระทู้ P10029105

นับว่าเป็นโชคดีของผม เพราะกำลังจะใกล้ออฟไลน์แล้ว มาได้เห็นคำถามคุณนพนครพิงค์เสียก่อนจึงขอตอบดังนี้ก่อนออฟไลน์

ถาม-เอาไงแน่เรื่องคนเจ็บคนตาย เจ็บตายเพราะกฎแห่งการปะทะจริงหรือ ?

ตอบ-ผมไม่ทราบข้อเท็จจริงแบบร้อยเปอร์เซนต์หรอกครับ แต่อย่างที่ได้ให้ความเห็นไว้ข้างบน กรุณากลับไปอ่านให้ดีๆครับ ผมว่า

หนึ่ง มาจากการปะทะกันตามกกแห่งการปะทะ ทั้งกฏที่ใช้กับผู้ชุมุนุมที่จะรุมเข้ามาทำร้าย และกฏแห่งการปะทะกับผู้ถืออาวุธ

สอง มาจากการที่ทหารระดับล่างไม่ปฏิบัติตามกฏแห่งการปะทะครับ คือทำเกินกฏไป ไม่ว่าจะด้วยเหตุใดก็ตาม จากความเครีบดที่ต้องเผชิญ หรือจากการลุแก่อำนาจที่มีอยู่ก็ตาม

สาม มาจากการผู้สวมรอยทำร้ายประชาชน หรือที่คุณเรียกว่าไอ้โม่งดำนั้นแหละครับ

ถาม-ถ้าอย่างนั้น ไอ้โม่งชุดดำหายไปไหน ผู้ก่อการร้ายไม่มีสิ และที่สำคัญ คนตายน่ะ มีภาพ มีคลิป มีพยานเป็นหมื่น ๆ เห็นชัดว่าโดนยิงโดยที่พวกเขาไม่มีอาวุธ ตายมือเปล่าทั้งนั้น และที่สำคัญถ้าตายเพราะกฎแห่งการปะทะ แล้วไอ้ที่ตายเพราะโดนส่องด้วยสไนท์เปอร์ ตายเพราะโดนกระสุนความเร็วสูงที่ยิงมาจากระยะไกล แบบนี้มันปะทะกันตรงไหน

ตอบ-ผู้ก่อการร้ายหรือไอ้โม่งน่าจะมีสิครับ มีพยานเห็นพวกนี้อยู่มิใช่หรือ ไอ้ที่ตายเพราะโดนส่องด้วยสไนท์เปอร์ ตายเพราะโดนกระสุนความเร็วสูงที่ยิงมาจากระยะไกล ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากพวกนี้แหละครับ เป็นความพยายามจะใส่ร้ายรัฐบาลเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง คุณคิดง่ายๆครับ หากรัฐบาลเขาคิดจะฆ่าประชาชนจริงๆละก้อ ประชาชนคงเสียชีวิตมากกว่านี้มากแล้วครับคุณ

ถาม-ให้ความเห็นยังกะคนรบกันด้วยดาบ หรือต่างฝ่ายต่างมีอาวุธสู้กันในสมรภูมิ ช่างสรรหาข้ออ้างจริงนะ

ตอบ-ในความเป็นจริง วันนั้นก็เกือบเหมือนสมรภูมิกลายแล้วครับ ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งมีอาวุธจริงๆนะครับ คุณดูจากข้อเท็จจริงหรือข่าวต่างๆได้ ไม่เช่นนั้นทำไมวันที่ ๑๙ พค จึงมีทหารถูกยิงบาดเจ็บและเสียชีวิตละครับ คุณจะเห็นใช่ไหมครับว่าตั้งแต่เช้าวันที่ ๑๙ พค แม้ทางรัฐบาลมีทหารจำนวนมากพร้อมรถหุ้มเกราะ หากฝ่ายผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธปืน ทหารคงไม่บาดเจ็บหรอกครับ และการสลายการชุมนุมจะทำเสร็จภายในไม่ถึงชั่วโมง เพราะทหารจะสามารถลุยเข้าไปได้ทันทีหากไม่คำนึงถึงการสูญเสีย แต่ในความเป็นจริงผู้ชุมนุมใช้อาวุธยิงต่อต้านตลอด ทางฝ่ายทหารคงพยายามใช้กฏการปะทะอย่างเหมาะสมและคำนึงหลีกเลี่ยงการสูญเสีย เขาก็พยายามไม่ให้เกิดการสูญเสียแก่ทั้งสองฝ่าย จึงจำต้องถอยบ้างบุกบ้างใช้เวลาเป็นนานกว่าจะเข้าไปถึงแยกราชประสงค์

 

หากรัฐบาลไม่กังวลใจว่าประชาชนจะเสียชีวิตมากแค่ไหน เขาส่่งทหารลุยเข้าไป ลำพังรถเกราะพร้อมทหารติดอาวุธที่เห็นนะครับ ไม่ถึงชั่วโมงก็ยึดราชประสงค์ได้แล้วครับ แต่นี้เป็นเพราะเขาไม่อยากให้มีการสูญเสีัยนะสิครับ เขาจึงไม่ลุยเข้าไป พเราะเขายังคิดถึงประชาชนที่อาจจะต้องบาดเจ็บหรือล้มตาย

กรุณาอ่านให้ดีๆครับ อย่ารีบร้อน เพราะเห็นสมาชิกหลายคนรีบร้อนเข้าใจความหมายที่ผมให้ไว้ผิดๆ อ่านให้ดีๆครับ คำตอบอยู่ข้างบนเป็นส่วนใหญ่แล้ว

ถาม-ปล. เพิ่มเติมอีกนิ๊ดดดดดดนะจ๊ะ..13-19 พ.ค. 7 วันเต็ม ๆ ตายประมาณเจ็ดสิบ บาดเจ็บพันกว่า มันเข้ากฎแห่งการปะทะตรงไหน ? มันไม่ใช่กฎ แต่มันคือ "กด" จำได้ไหม คดี 7 ต.ค. เหตุเกิดวันเดียว ตายกี่คน เจ็บกี่คน ปปช.ชี้มูลว่าไง

ตอบ-หากผู้ชุมนุมไม่ต้อสู้ด้วยอาวุธ การสูญเสียก็จะไม่มีครับ และหากมหารเขาไม่ใช้กฏแห่งการปะทะ ผมว่ายอดผู้เสียชีวิตนะจะเป็นหลายร้อยเป็นหลายพันนะครับ คุณคิดถึงความจริงสิครับ ทหารที่ปฏิบัติการณ์ในวันนั้นนะมีเป็นพันนาย ลำพังหนึ่งนายหากไปยิงผู้ชุมุนมแบบไม่มีเหตุผลไม่ยึดกฏการปะทะนายละหนึ่งถึงสองคน ปานนี้ยอดผู้ชุมนุมจะมากมายมหาศาล อาจเป็นหลักพัน สองพันหรือมากกว่านั้นนะครับ

ส่วนคดี 7 ตค ก็ว่กันไปครับ ตอนนั้นเท่าที่ผมจำได้ ไม่มีการประกาศใช้พรก.สถานการณ์ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ก็ต้องรับผิดมากหน่อย เพราะไม่มีกฏหมายรองรับ แต่อย่างที่ว่า การประกาศพรก.ฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ก็ยังต้องปฏิบัติด้วยความเหมาะสมครับ ต้องมีกฏแห่งการปะทะ ซึ่งเขาประกาศให้ประชาชนทราบล่วงหน้าแล้วนะ หากผมจำไม่ผิด

กลับมาแก้ไขเพิ่มเติมและตอบความเห็นที่เพิ่มเข้ามาใหม่อีกนิดครับ ไปก่อนละครับ

 

        

 

.

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 23:58:47

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 22:04:49

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 16:51:38

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 14:27:42

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 14:21:41

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 11:41:12

แก้ไขเมื่อ 15 ธ.ค. 53 10:56:45

จากคุณ : thyrocyte
เขียนเมื่อ : 15 ธ.ค. 53 08:13:46 A:58.136.4.236 X:



ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com