"เลขาธิการ กกต.” เผยความเห็นที่ปรึกษา กกต. กรณียุบพรรคการเมือง{แตกประเด็นจาก P9978241}
|
 |
กกต เคยอธิบายแ้ล้วว่า วันที่ 17 ธันวาคม2552 เป็นรายงาน ผลการสอบสวนเบื้องต้นเท่านั้น
--------------------- http://www.ect.go.th/newweb/th/news/detail.php?id=982&SystemModuleKey=cms "เลขาธิการ กกต.” เผยความเห็นที่ปรึกษา กกต. กรณียุบพรรคการเมือง วันพฤหัสบดีที่ 28 มกราคม 2553 เวลา 15.30 น. ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง เปิดเผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการการเลือกตั้งว่า ที่ประชุม กกต.ได้พิจารณาเรื่องการสรุปความเห็นคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของคณะ กรรมการการเลือกตั้ง ในการประชุมครั้งที่ 1/2553 เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2553 สืบเนื่องจากที่ กกต. เสียงข้างมากมีมติให้นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต.ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง เสนอความเห็นกรณีเงินบริจาคพรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 258ล้านบาท ซึ่งได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อศึกษาตรวจสอบกรณีดังกล่าว และได้ส่งปัญหาในประเด็นข้อกฎหมายให้คณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.พิจารณาจำนวนทั้งสิ้น 3ประเด็น ซึ่งคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมาย ของ กกต.ได้พิจารณาข้อหารือปัญหาข้อกฎหมายเกี่ยวกับอำนาจของคณะกรรมการการเลือก ตั้งและนายทะเบียนพรรคการเมือง กรณีการยุบพรรคการเมืองตามที่นายทะเบียนพรรคการเมืองเสนอมาเพื่อพิจารณา ประกอบข้อเท็จจริงที่ได้รับฟังจากการชี้แจงเพิ่มเติมของเจ้าหน้าที่ด้าน กิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ ตามข้อหารือรวม 3 ประเด็นแล้วมีความเห็นโดยสรุปดังนี้
ประเด็นที่ 1 กรณี กกต. มีมติเสียงข้างมาก ในการประชุมครั้งที่ 144/2552 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2552 กรณีพรรคการเมืองกระทำการฝ่าฝืนบทบัญญัติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ส่งเรื่องให้นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณาตามมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ถือว่าได้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนสอบสวน และการวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ.2550 ข้อ 74 ที่กำหนดให้เมื่อ กกต. ได้รับคำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยแล้วให้ กกต.พิจารณาวินิจฉัยชี้ขาดหรือมีความเห็นโดยพลันแล้ว-หรือไม่- และหากถือว่ามิได้ดำเนินการ ตามข้อ 74จำเป็นต้องเสนอคำวินิจฉัยของคณะอนุกรรมการวินิจฉัยให้ กกต.พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิจารณาวินิจฉัย-หรือมีความเห็นก่อนให้-นายทะเบียนพรรคการเมืองพิจารณา ตามมาตรา 95แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 -หรือไม่อย่างไร- คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. พิจารณาแล้วมีความเห็นว่า อำนาจในการยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรคการเมืองกรณีที่ปรากฏ เหตุต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าพรรคการเมืองใดที่ได้รับเงินสนับสนุนของ กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองไปแล้ว ไม่ได้ใช้จ่ายเงินสนับสนุนดังกล่าวให้เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา 82 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 หรือกรณีที่ปรากฏเหตุต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่าพรรคการเมืองใดกระทำการ ฝ่าฝืนบทบัญญัติกรณีการห้ามมิให้พรรคการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการ เมืองรับบริจาคตามมาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 69 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 นั้น
-เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองโดยตรงตามมาตรา 93 วรรคสอง- และมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ดังนั้น กรณีที่มีผู้ยื่นคำร้องต่อนายทะเบียนพรรคการเมืองว่า มีพรรคการเมืองหนึ่งกระทำการฝ่าฝืนกฎหมายอันอาจเป็นเหตุให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งยุบพรรคการเมืองนั้นได้
กรณีนี้ย่อมเป็นอำนาจหน้าที่ของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะต้องดำเนินการ ตรวจสอบและทำความเห็น -ในเบื้องต้นก่อน- แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า กรณีนี้ กกต.ได้มีคำสั่งที่ 92/2552 เรื่องแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อทำการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงในกรณีตามคำร้องดังกล่าว ซึ่งไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดให้เป็นเรื่องที่อยู่ในอำนาจ หน้าที่ของนายทะเบียนที่จะเป็นผู้ดำเนินการ แต่เมื่อคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนได้เสนอรายงานการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวต่อ กกต.เพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งกรณีดังกล่าวมิใช่เป็นเรื่องการวินิจฉัยชี้ขาดที่ต้องดำเนินการตามข้อ 74ของระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนสอบสวนและการวินิจฉัย ชี้ขาด พ.ศ. 2550 เพราะการจะเสนอศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้ยุบพรรค การเมืองหรือไม่นั้น ----------------------------------------------------------------------------------------------------------- --เป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมืองที่จะมีความเห็นก่อนแล้วเสนอ กกต.เพื่อขอความเห็นชอบ --ฉะนั้นในชั้นนี้นายทะเบียนพรรคการเมืองจึงสามารถนำข้อเท็จจริงที่ปรากฏตาม รายงานการสืบสวนสอบสวนของคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนดังกล่าวมาประกอบการดำเนิน การตรวจสอบและมีความเห็นว่าพรรคการเมืองดังกล่าวได้กระทำการฝ่าฝืนกฎหมายอัน มีเหตุที่จะให้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองหรือไม่ ก่อน ------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเด็นที่ 2 กรณีที่ กกต. มีมติให้นายทะเบียนพิจารณาตามมาตรา 95 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 หากนายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าพรรคการเมืองมิได้กระทำการ เข้าข่ายตามมาตรา 94จำเป็นต้องเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือไม่คณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.พิจารณาแล้ว มีความเห็นว่า กรณีที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าพรรคการเมืองใดมิได้กระทำการฝ่าฝืนอันจะเป็นเหตุให้ ต้องยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้มีการยุบพรรคการเมือง ตามบทบัญญัติมาตรา 93 หรือมาตรา 94 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 แล้วแต่กรณี ก็ไม่มีกรณีที่ต้องเสนอขอความเห็นชอบต่อ กกต.แต่ประการใด
ประเด็นที่ 3 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 ถูกยกเลิก โดยพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม 2550 ดังนั้น การกระทำผิดในช่วงที่พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มีผลใช้บังคับจะสามารถที่จะลงโทษตามบทบัญญัติของกฎหมายปัจจุบันได้หรือไม่
คณะ กรรมการที่ปรึกษากฎหมายของ กกต. พิจารณาแล้วมีความเห็นว่าตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่ 19/2550 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2550 เรื่อง นายทะเบียนพรรคการเมืองขอให้คณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบพรรคพลัง ธรรมนั้น ศาลรัฐธรรมนูญได้เคยวินิจฉัยข้อกฎหมายซึ่งมีประเด็นทำนองเดียวกับข้อหารือ นี้ ซึ่งวินิจฉัยว่า “พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 62 และมาตรา 65 เป็นบทบัญญัติที่มีผลบังคับใช้ในขณะที่ผู้ร้องไม่ดำเนินการตามที่กฎหมาย กำหนด ส่วนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2550 มาตรา 82 และมาตรา 93 แม้จะเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในภายหลัง แต่ก็มิได้บัญญัติขึ้นเพื่อให้มีผลแตกต่างจนทำให้ไม่เป็นเหตุให้ยุบพรรคการ เมือง ในเหตุเดียวกันได้ ศาลรัฐธรรมนูญจึงใช้บทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรค การเมือง พ.ศ. 2541 มาตรา 62 และมาตรา 65 พิจารณาวินิจฉัยคำร้องนี้”ดังนั้น กรณีตามข้อหารือในประเด็นนี้สามารถนำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญดังกล่าวมา เทียบเคียงประกอบการดำเนินการได้
ซึ่งคณะที่ปรึกษากฎหมายของ กกต.จะนำเสนอความเห็นดังกล่าวให้แก่ประธาน กกต. เพื่อส่งให้คณะทำงานฯ นัดประชุมในวันศุกร์ที่ 29 มกราคม 2553 ต่อไป
ข่าวฝาก -ข่าวสด- ฉบับวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2553 สดศรีแจงกกต.ยึดคำพิพากษาเดิม http://www.parliament.go.th/news/news_detail.php?prid=277650
แก้ไขเมื่อ 01 ธ.ค. 53 17:04:11
| จากคุณ |
:
ขนมสาคู
|
| เขียนเมื่อ |
:
1 ธ.ค. 53 16:42:52
A:115.87.96.68 X:
|
|
|
|