ไม่ว่าใครจะรักหรือจะเกลียดห้องราชดำเนินแห่งนี้ แต่อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่าบอร์ดสนทนาแห่งนี้เป็นที่สนใจของสังคม
บอร์ดราชดำเนินสร้างชื่อจากการเป็นที่แลกเปลี่ยนทัศนะทางการเมืองของบุคคลทั่วไปเป็นแห่งแรก ๆ และมีชื่อเสียงเป็นที่ปรากฏมากว่าสิบปี
เกิดปรากฏทางการเมืองใหม่ ๆ มากมายจากห้องสนทนานี้
จากอดีตที่ความคิดเห็นทางการเมืองจะต้องถูกชี้นำจากสื่อหรือผู้มีอิทธิพลในสังคมเพียงฝ่ายเดียว (และนักการเมืองก็ครอบงำสื่ออีกที) เราก็ได้เห็นความคิดหลากหลายจากประชาชนทั่วไปและหลายความคิดก็เปล่งประกายฉายฉานอย่างน่าชื่นชม ถือได้ว่าเป็นเวทีหนึ่งของจอมยุทธ์
กติกาและกฏเกณฑ์ที่เป็นธรรมของราชดำเนินในอดีตก็เป็นจุดแข็งหนึ่ง มีการโอดครวญจากสมาชิกตลอดมาถึงความเข้มงวดไม่ว่าจะเป็นการถูกแบนหรือถูกยึดล๊อกอินกันเป็นใบไม้ร่วงโดยไม่เลือกข้างและไม่สนใจด้วยว่าจะเป็นล๊อกอินระดับแม่เหล็กขนาดไหน จนมีชาวราชดำเนินแตกพ่ายไปตั้งเวปใหม่อีกมากมาย แต่ระบบการจัดการที่ผู้เล่นมีตัวตนสามารถตรวจสอบได้ การเปิดกว้างสำหรับทุกฝ่าย มีการโต้ตอบ คห.ในกระทู้ได้โดยมีกรอบและการจัดการที่ชัดเจน กลับเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดของราชดำเนิน
ส่งผลให้ราชดำเนินเป็นช่องทางการสื่อสารหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อสังคมโดยมีตัวชี้วัดหลายกรณีอาทิ การที่มีสื่อหลาย ๆ แขนงนำความคิดเห็นในห้องราชดำเนินไปอ้างอิงหลายครั้ง (เพราะสื่อเองก็ต้องการฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนเช่นกัน) หรือการถูกรุกราน ควบคุม โดยเผด็จการทหารและ เผด็จการนุ่งเอี๊ยม ก็เป็นสิ่งสะท้อนได้เป็นอย่างดี
แต่ 4-5 ปีหลังมานี้ห้องราชดำเนินมักถูกกล่าวหาและโจมตี (โดยเฉพาะจากผู้ไม่เห็นด้วย) ว่าด้อยคุณภาพสมควรถูกตัดตอนหรือไม่ควรมีอยู่อีกต่อไป
แต่หากจะมองในแง่ของความเป็นจริงจะเห็นได้ว่า
ความคิดเห็นทางการเมืองของบอร์ดแห่งนี้ย่อมสัมพันธ์โดยตรงกับเหตุการณ์การเมืองในโลกของความเป็นจริง
การรัฐประหาร การปิดช่องทางสื่อสารที่เห็นต่าง การปิดหูปิดตาประชาชน ความอยุติธรรมสองมาตรฐานที่เด่นชัด ตลอดจนความเห็นแตกต่างอย่างเข้มข้นของคนในสังคม สิ่งเหล่านี้ล้วนสะท้อนออกมาเป็นตัวหนังสือ ก็ในเมื่อสังคมจริง ๆ เป็นอย่างนั้นแล้วจะให้ราชดำเนินเป็นยูโทเปียอยู่ได้อย่างไร
ผมยังไม่เคยเห็นการแลกเปลี่ยน คห.ทางการเมืองที่เปิดกว้างที่ไหนไม่มีการโต้แย้งหรือคิดต่างเลย ดีกรีความร้อนแรงของห้องราชดำเนินก็คือความเป็นจริงในสังคมนั่นเอง จะพิเศษก็ตรงที่ว่าราชดำเนินมีกฏเกณฑ์ที่ชัดเจนจึงไม่รุนแรงและเลอะเทอะเกินไป
และพิเศษอีกอย่างตรงที่ ในสถานการณ์ที่คนจำนวนมหาศาลถูกปิดปาก ปิดหู ปิดตา ถูกไล่ล่าถูกต้อนจนไม่มีที่ยืน ไม่มีแม้ที่ที่ได้ระบายหรือแสดงความคิดเห็น ราชดำเนินกลับเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ให้คนเหล่านั้นได้หายใจ โดยมิได้ทิ้งหลักการที่เปิดกว้างให้กับทุกฝ่ายมิใช่แต่เฉพาะฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ดังนั้นไม่ว่าราชดำเนินจะอยู่สถาการณ์ใด ที่แห่งนี้ก็มีคุณค่าในตัวของตัวเอง
ไม่ว่าจะผ่านการโดนปิด โดนขัง โดนอุบายนานาประการจากผู้มีอำนาจก็ยังสามารถยืนหยัดผ่านคลื่นลมมาได้
จนกระทั่งมาถึงสภาพการถูกตอนในปัจจุบันที่ทำให้น่าหวั่นใจว่าราชดำเนินคงเหี่ยวแห้งไปและถึงกาลอวสานเพราะขาดเสห่ห์และคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นและตัวตนของบอร์ดแห่งนี้
เข้าใจเหลือเกินว่าทีมงานพันทิปเป็นคนทำเวปไซด์ตัวเล็ก ๆ หากต้องเทียบและเผชิญกับจิ้งจอกการเมืองแปดเหลื่ยมสิบสองคมที่ทำทุกอย่างได้โดยไม่เลือกวิธีใช้
ขอบคุณเหลือเกินที่ตลอดมาได้ให้พื้นที่ที่มีคุณค่าแห่งนี้ แม้จะเป็นพื้นที่อันน้อยนิดในประเทศไทยที่กว้างใหญ่ไพศาลนี้
แต่สิ่งหนึ่งที่อยากจะข้อร้องถ้าเป็นไปได้
หากราชดำเนินจะเสื่อมความนิยมไปเพราะหลักไตรลักษณ์คือการ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป หรืออาจจะเสื่อมความนิยมไปเพราะคนไม่อยากเล่นเห็นที่อื่นดีกว่ามีช่องทางการสื่อสารหรือเทคโนโลยีอื่นที่เวิร์คกว่าก็ขอให้เหตุการณ์นั้นเป็นไปอย่างธรรมชาติที่ควรจะเป็นได้หรือไม่
มิได้เกิดจากเจตนาที่จะตอนให้เหี่ยวแห้งเช่นในปัจจุบันและไม่ได้เกิดจากความกลัวอิทธิพลมืดที่ครอบงำอยู่ได้หรือไม่
ขอเสน่ห์และจุดเด่นของราชดำเนินกลับคืนมาดังเดิมได้หรือไม่
หากราชดำเนินจะเป็นอีกหนึ่งตำนานของการเมืองไทย ก็ขอให้ตำนานนี้ดำเนินไปและหากจะจบลงก็ขอให้จบลงด้วยตัวของมันเองได้หรือไม่
ด้วยความคารวะ ศรัทธา และชื่นชม
แก้ไขเมื่อ 09 ม.ค. 54 10:13:03